บทที่ 763 – การต่อสู้ที่ดุเดือด
 
 
 
“เจ้ายังกล้าพูดเรื่องน่าขันเช่นนี้อีกรึ !! ในวันนั้น ถ้าเจ้าไม่ได้รับพลังบางอย่างจากอารามผู้สืบทอด เจ้าคิดว่าจะรับมือข้าได้เช่นนั้นรึ !!” “อย่าบอกว่าเจ้าไม่ได้รับพลังมา ถ้าไม่เช่นนั้น ตอนนี้เจ้ามีพลังเพียงระดับสอง ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นเจ้ามีพลังถึงระดับสาม !!”
 
 
 
ฉาน เฟิง กล่าวออกมาอย่างรุนแรง “ใช่ !! ข้าได้รับพลังบางอย่างจากอารามผู้สืบทอด แต่มันก็เป็นพลังที่คงอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น มันจึงทำให้พลังของข้าเพิ่มขึ้นเป็นระดับสาม หากเจ้าคิดว่าข้าเอาชนะเจ้าได้เพียงเพราะข้าได้รับพลังภายนอกช่วยเหลือ เจ้าก็คิดผิดแล้ว !!”
 
 
 
ชูเฟิง ยอมรับในทันที เพราะมันถึงอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญระดับสาม สามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญระดับห้าได้ มันก็ไม่เรื่องที่น่าอับอายแต่อย่างใด “เจ้ามันไร้ยางอาย อีกทั้งยังเจ้าเลห์ !!””แต่มันไม่สำคัญ เพราะในวันนี้ ต่อหน้าทุกๆ คน ข้าจะแสดงให้พวกเขารู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าเป็นอัจฉริยะ หรือไม่ใช่กันแน่ !!”
 
 
 
***** ตูม ***** 
 
 
 
ในขณะนั้น ฉาน เฟิง ผสานฝ่ามือของเขาด้วยกัน มันเป็นการใช้ทักษะอำนาจพลังวิญญาณของเขา ในเวลาเดียวกันนั้น รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณก็ปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว 
 
 
 
รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว พลันออร่าพลังสีม่วงก็ทะลักออกมาจากรูปอำนาจพลังวิญญาณนั้น พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกลับคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าใส่ ชูเฟิง 
 
 
 
ชูเฟิง เข้าใจการกระทำด้วยความเย้ยหยันของ ฉานเฟิง ได้ดี ไม่เพียงเขาต้องการจะเอาชนะ ชูเฟิง เท่านั้น ในตอนนี้ ข่าวของ หวู่ฉิง ที่มีความแข็งแกร่งด้านรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณได้แพร่กระจายออกไปจนทั่น นั่นจึงทำให้ ฉาน เฟิง ใช้รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณออกมา เพื่อจะฉีกหน้าของ ชูเฟิง ต่อหน้าทุกๆ คน 
 
 
 
ในความเป็นจริงนั้น หากต่อสู้กันด้วยการบ่มเพาะพลัง ชูเฟิง ย่อมไม่สามารถเอาชนะ ฉาน เฟิง ได้ เพราะพลังของพวกเขาต่างกันถึงสามระดับ อีกทั้งความสามารถด้านการต่อสู้ของ ฉาน เฟิง ยังเหนือกว่าทั้ง หวาง หลง และ ฉิน ยู่ อย่างมาก ภายในรุ่นเดียวกันนั้น ฉาน เฟิง นับว่าเป็นยอดอัจฉริยะ 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม หากต่อสู้กันด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณนั้น ชูเฟิง ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย เพราะรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่งกว่า ฉาน เฟิง อย่างมาก 
 
 
 
จะต้องรู้ก่อนว่า ชูเฟิง ได้ครอบครองสมบัติล้ำค่า นั่นคือ ขวานอสูรฟ้า 
 
 
 
แม้ว่าในด้านการต่อสู้นั้น ขวานอสูรฟ้าจะไร้ประโยชน์ แต่มันก็ยังเป็นถึงจ้าวแห่งยอดยุทธภัณฑ์ 
 
 
 
คุณสมบัติพิเศษของขวานอสูรฟ้านั้น มันสามารถช่วยเพิ่มพลังของอำนาจพลังวิญญาณได้ และในตอนนี้ ขวานอสูรฟ้าได้หลอมรวมกับเขาเป็นหนึ่งเดียว มันทำให้เขาสามารถควบคุมมันได้อย่างง่ายดาย 
 
 
 
แม้ว่า ชูเฟิง จะไม่ได้ฝึกฝนมันมากนัก แต่ขวานอสูรฟ้าก็ได้หลอมรวมกับเขามาเป็นเวลานาน มันจึงส่งผลให้อำนาจพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่าการบ่มเพาะพลังวิญญาณ “ศิษย์พี่ ชุน หวู ถอยไป !!”
 
 
 
อันดับแรกนั้น ชูเฟิง ได้ผลัก ชุน หวู ถอยออกมา แบะเขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นทไม่มีทีท่าว่าจะหลบหลีกแต่อย่างใด เขารีบผสานฝ่ามือของเขาในทันที 
 
 
 
เพียงพริบตาเดียวนั้น รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ชูเฟิง ก็ปรากฏออกมา และเข้าปะทะกับคลื่นพลังของ ฉาน เฟิง จนเกิดเสียงดันสนั่น 
 
 
 
ไม่เพียงแต่รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ชูเฟิง จะสามารถต้านทานการโจมตีของ ฉาน เฟิง ได้ แต่คลื่นพลังจากการปะทะยังพุ่งเข้าใส่ ฉาน เฟิง อีกด้วย “เจ้า !!” 
 
 
 
แม้ว่า ฉาน เฟิง จะมีความมั่นใจในก่อนหน้านี้อย่างมาก แต่เขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะเขาไม่คิดว่ารูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ชูเฟิง จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะมีพลังเพียงน้อยนิดก็ตาม 
 
 
 
แต่มันก็สายเกินไป ในขณะนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของ ฉาน เฟิง เขาไม่สามารถสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณออกมาได้ในทันที เขาจึงไม่มีทางเลือก นอกจากกระโดดถอยออกไป เพื่อหลบคลื่นพลังที่ส่งออกมา 
 
 
 
***** วูบ ***** 
 
 
 
ในท้ายที่สุดรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณรูปแบบใหม่ก็ปรากฏออกมา มันเป็นผนังที่มีพื้นผิวแปลกประหลาด มันถูกสร้างขึ้นมาอย่างซับซ้อนเพื่อต้านรับคลื่นพลังที่กระจายออกมา 
 
 
 
แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามคาดของ ชูเฟิง เขารู้ว่าคลื่นพลังนั้นไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ต่อ ฉาน เฟิง ได้ ดังนั้นเขาจึงสร้างการโจมตีใหม่ที่รุนแรงมากกว่าเดิมออกมา 
 
 
 
***** วู้วววว ***** 
 
 
 
ในเวลานั้น ชูเฟิง ก็ประสานฝ่ามืออีกครั้งในการสร้างรูปแบบอำนายพลังวิญญาณขึ้นมาใหม่ อำนาจพลังวิญญาณมหาศาลได้พวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง และหลอมรวมกลายเป็นมังกรปรากฏออกมาสูงขึ้นไปน้องฟ้าหลายเมตร 
 
 
 
เสียงคำรามของมังกรนั้นทำให้พื้นแผ่นดินสั่นสะเทือน เพียงแค่สะบัดหางออกมาเพียงครั้งเดียว รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ฉาน เฟิง ก็แตกสลาย 
 
 
 
เช่นเดียวกับการต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะนั้น เหล่าผู้คนที่เฝ้าดูอยู่ ต่างตกตะลึงกับความสามารถของทั้งสองคน หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้าน ในขณะที่พวกเขาถอนหายใจออกมาด้วยความชมเชย 
 
 
 
ทั้ง ชูเฟิง และ ฉาน เฟิง มีความเข้าในรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณเป็นอย่างดี พวกเขาสามารถควบคุมอำนาจพลังวิญญาณได้อย่างใจนึก และนี่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างมองเห็น และมันทำให้พวกเขายอมรับว่า ทั้งสองคนคืออัจฉริยะ “ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นข่าวจริง อย่างน้อย หวู่ฉิง ก็มีความสามารถด้านรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง !!””ใช่ !! พวกเขามีการบ่มเพาะพลังต่างกันถึงสามระดับ แต่ในด้านรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ หวู่ฉิง กลับใช้มันออกมาได้สูสีกับ ฉาน เฟิง โดยที่ไม่อ่อนด้อยกว่ากันแม้แต่น้อย อาจจะกล่าวได้ว่าความสามารถด้านรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเขานั้นเหนือกว่าใครๆ ทั้งหมด ในอนาคต เขาจะต้องเป็นอัจฉริยะในด้านรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณแน่นอน !!”
 
 
 
หลายๆ คนพากันสนับสนุน ชูเฟิง ในทันที พวกเขาไม่ได้ตาบอด พวกเขาสามารถเห็นได้ชัดเจนว่า ฉาน เฟิง โจมตี ชูเฟิง ออกมาก่อน แต่ ชูเฟิง ก็สามารถโต้กลับได้อย่างยอดเยี่ยม 
 
 
 
และเมื่อพวกเขาคิดถึงการบ่มเพาะพลังของ ชูเฟิง แบะเทียบกับอายุนั้น มันก็ทำให้พวกเขาชมเชยออกมา “ข้าไม่เชื่อว่ารูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของข้าจะอ่อนแอกว่าของเจ้า !!”
 
 
 
ในเวลานั้น ฉาน เฟิง ได้ยินการสนทนาของทุกๆ คนรอบๆ เขา แม้ว่าจะต่อสู้กับ ชูเฟิง ด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ เขาก็ยังคงฟังข้องสังเกตของคนรอบข้าง 
 
 
 
หลังจากได้ฟังการสนทนาของผู้คน และรับรู้ว่าพวกเขาต่างเข้าข้าง ชูเฟิง มันทำให้เขารู้สึกโกรธอย่างมาก เขากัดฟันแน่น และตัดสินใจที่จะสู้กับ ชูเฟิง ด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณให้ถึงที่สุด 
 
 
 
***** โฮกกกก ***** 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ ฉาน เฟิง เตรียมจะสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณขึ้นมาใหม่เพื่อรับการโจมตีของ ชูเฟิง นั้น เขาก็ได้ยินเสียงคำรามดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา “โอ้วว….นี่มันเป็นไปได้ยังไง !!”
 
 
 
เมื่อ ฉาน เฟิง หันกลับมามองนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด เพราะที่ด้านหลังของเขานั้น มีสัตว์อสูรวิญญาณที่น่าเกลียดน่ากลัวปรากฏตัวออกมา 
 
 
 
ไม่เพียงแต่จะมีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว แต่การโจมตีของมันก็กำลังใกล้เขาเข้ามาทุกขณะ มันปิดกั้นทางหนีของเขาในทันที และในเวลานี้นเขาก็ไม่สามารถที่จะป้องกันได้ทันแม้แต่น้อย 
 
 
 
แต่ส่วนสำคัญนั้นคือ พลังวิญญาณที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวของมันนั้น มันทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่า มันถูกสร้างขึ้นมาโดย ชูเฟิง 
 
 
 
มันทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก เพราะเขาไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ชูเฟิง ได้สร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณขึ้นมาที่ด้านหลังของเขา จนทำให้เขาต้องจนตรอกขนาดนี้ และมันก็ยังทำให้เขายอมรับว่าในด้านรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณนั้น เขายังไม่สามารถเทียบ ชูเฟิง ได้ “ตาย !!”
 
 
 
***** ตูม ***** 
 
 
 
ในเวลานั้น เสียงตะโกนของ ฉาน เฟิง ก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างกายของเขากำลังสั่นไหว ในขณะที่ออร่าพลังมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมา 
 
 
 
ออร่าพลังนี้รุนแรงอย่างมาก มันเป็นหลักฐานความแข็งแกร่งของ ฉาน เฟิง พลังของเขาสามารถทำลายรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ชูเฟิง ได้ภายในพริบตา 
 
 
 
แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่า ฉาน เฟิง สามารถเอาชนะได้ แต่เขาไม่ใช้พลังของรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ แต่เขากลับใช้พลังของการบ่มเพาะแทน 
 
 
 
มันเป็นผลทำให้ทุกๆ คนต่างรู้ว่า ฉาน เฟิง พ่ายแพ้ในการต่อสู้ด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
A : เอาล่ะสิ!!! ตายไม่ตาย ?!!! 
 
 
 
B : น่าจะไม่รอดนะ คนหมู่เกาะประหาร ชูเฟิง ไม่น่าจะเอาใครไว้ 
 
 
 
A : งั้นคงต้องบอกลา ฉาน เฟิงแล้วอ่ะดิ!!! 
 
 
 
C : ไม่รู้ มู่หรง ซุนจะโผล่มาช่วยอ่ะป่าวนี้อ่ะดิ!!! 
 
 
 
A : อัดแม่งไปด้วยเลย!!! 
 
 
 
B : ตอนนี้พี่เฟิงยังสู้ไม่ไหว มันอยู่ในระดับ 8 จ้าวแห่งสงคราม ระดับยังต่างกันมาก แต่ถ้าชูเฟิงเปิดประตูอสูรวิญญาณที่ถูกผนึก จะเอาชนะได้อย่างง่ายดาย ขนาดที่ว่าปลอกกล้วยเข้าปาก แต่ทะเลตะวันออกจะไม่เหลือซาก จริงๆแค่คิดจะฆ่าพี่เฟิงก็ผิดมหันต์ล่ะ เพราะหากพี่เฟิงตายไปจริงๆ ไม่ใช่แค่หมู่เกาะประหาร แต่เป็นทั้งทะเลตะวันออก ถึงเสี่ยว ยู่ จะไม่ได้ลงมือ พ่อพี่เฟิงคงไม่เอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้เราไม่ได้สปอยนะ เชื่อว่าทุกท่านก็คงคิดเหมือนเราเช่นกัน 
 
 
 
A : เออว่ะ ให้พี่เฟิง แกล้งตายเลยเป็นไง!!! 
 
 
 
C : นั้นสมองหรอ!!!