บทที่ 937 – ผู้สืบทอด
 
 
 
“แสดงความยินดี !? ผู้อาวุโส ท่านหมายความยังไง !?”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวถามด้วยความสับสน “เจ้าโชคดีมาก!! เจ้ามีโอกาสที่จะได้เป็นผู้สืบทอดของ ชิง ซวนเทียน !! ข้าจึงต้องแสดงความยินดีกับเจ้า !!”
 
 
 
วิหคเพลิง กล่าว “โอกาส !?”
 
 
 
ชูเฟิง ยังคงสับสน “หือ !? เจ้าไม่เห็นประตูจักรพรรดิหรือ !? หากเจ้าได้รับยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิที่อยู่ในนั้นมา เจ้าจะได้รับมรดกอีกครึ่งหนึ่งของ ชิง ซวนเทียน !! มันเป็นยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิคู่กายของเขา และเป็นยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิที่แข็งแกร่งอย่างมาก !!”
 
 
 
วิหคเพลิง กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจ 
 
 
 
ชูเฟิง เข้าใจในทันทีว่า ยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิที่อยู่หลังประตูจักรพรรดินั้น คืออาวุธคู่กายของ ชิง ซวนเทียน และมันคือสิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้ให้ 
 
 
 
สำหรับ โอกาส ที่ วิหคเพลิง กล่าวนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขา ที่จะสามารถครอบครองยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิชิ้นนั้นหรือไม่ “ผู้อาวุโส ยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดินั้นแข็งแกร่งมาก แต่ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงบอกว่า มันเป็นมรดกเพียงครึ่งหนึ่งของผู้อาวุโส ชิง ซวนเทียน แล้วอีกครึ่งหนึ่งคือสิ่งใด !?”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวถาม “โอ้ !! เจ้าฉลาดไม่เบา ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะได้ทันสังเกต !! ฮ่าๆ …”วิหคเพลิง ห้วเราะออกมาต่อท่าทีของ ชูเฟิง ก่อนที่มันจะกล่าวออกมาอีกว่า”
 
 
 
ชิง ซวนเทียน ได้สร้างสถานที่นั้นไว้ เผื่อว่าเขาจะไม่สามารถกลับมาที่นั่นได้ เขาจึงทิ้งสิ่งสำคัญสองอย่างเอาไว้ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีผู้ที่คู่ควรจะได้รับมรดกของเขา !!””หนึ่งคือยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิ ที่เป็นอาวุธคู่กายของเขา และอีกสิ่งหนึ่งคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ที่ติดตามเขาไปทุกหนแห่งในโลกนี้ คือ มังกรฟ้า , พยุคฆ์ขาว , วิหคเพลิง และ เต่าทมิฬ !!””อีกครึ่งหนึ่งคือผู้อาวุโสทั้งสี่ !? แต่พวกท่านก็ได้อยู่ในร่างกายของข้า !!”
 
 
 
ชูเฟิง รู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะเขาไม่คิดว่า ทักษะเร้นลับทั้งสี่จะเป็นมรดก 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทักษะเร้นลับจะมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิ “หรือว่า…….ท่านไม่ใช่ทักษะเร้นลับ !?”
 
 
 
หลังจากคิดเพียงชั่วครู่นั้น ชูเฟิง ก็เอ๊ะใจบางอย่าง เพราะ วิหคเพลิง ไม่ได้แทนตัวเองว่าทักษะเร้นลับ แต่แทนตัวเองว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ “ฮ่าๆ เจ้านี่มันฉลาดจริงๆ มันก็เป็นอย่างที่เจ้ากล่าว !!””พวกเราทั้งสี่ไม่ใช่ทักษะเร้นลับ นั่นมันก็แค่เปลือกนอกที่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของพวกเราเท่านั้น !!””ความจริงนั้น พวกเราทั้งสี่เกิดขึ้นมาพร้อมกับ ชิง ซวนเทียน และด้วยทักษะพิเศษของเขา ทำให้สามารถแยกพวกเราออกมาจากเขา และมีชีวิตเป็นของตัวเองได้ !!””ในตอนนั้นที่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ชิง ซวนเทียน ได้พบกับศัตรูที่แข็งแกร่ง !! พวกเราทั้งสี่ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อผนึกเขาเอาไว้ !!””แต่ชิง ซวนเทียน ไม่อยากให้พวกเราทำเช่นนั้น เขาจึงใช้ทักษะบางอย่าง แยกจิตวิญญาณของพวกเราออกจากร่าง และผนึกพวกเราให้กลายเป็นทักษะเร้นลับ เพื่อมีชีวิตที่ยืนยาว !!””ยังไงก็ตาม ตราบใดที่จิตวิญญาณของพวกเราสามารถผสานกลับเข้าไปในร่างเดิมของพวกเราได้ พวกเราก็จะสามารถฟื้นคืนชีพมาได้ และหากเจ้าสามารถทำได้ พวกเราก็จะซื่อสัตย์ต่อเจ้า เช่นเดียวกับ ชิง ซวนเทียน !!”
 
 
 
วิหคเพลิง กล่าว “ถ้าเช่นนั้น ผู้อาวุโสก็ไม่ใช่ทักษะเร้นลับ แต่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ !! หากมีวิธีที่ข้าสามารถฟื้นคืนชีพพวกท่านได้ ข้าจะทำจนสุดความสามารถของข้า เพื่อให้สำเร็จให้ได้ !!”
 
 
 
ชูเฟิง รู้สึกดีใจไม่น้อย เขารู้ว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่นั้นแข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน และหากเขาสามารถฟื้นคืนชีพให้พวกมันได้ เขาจะมีขุมพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก “พอเถอะ อย่าได้เรียก ผู้อาวุโสอีก ที่นี่มีเพียงเจ้า และข้า !! และเจ้าก็เป็นเพียงคนเดียวที่พวกเราทั้งสี่ยอมรับในรอบหมื่นปี แต่ก็ไม่ได้หมายความพวกเราจะบอกทุกอย่างแก่เจ้า !!””พวกเราสัญญากับ ชิง ซวนเทียน เอาไว้ว่าจะหาผู้สืบทอดให้เขา ดังนั้น พวกเราจะต้องทำหน้าที่ของพวกเราให้ดีที่สุด ยังไงก็ตาม ตราบใดที่เจ้ายังไม่สามารถครอบครองยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิชิ้นนั้นได้ พวกเราจะไม่บอกอะไรแก่เจ้า และจะไม่บอกสถานที่ที่ผนึกร่างกายของพวกเราเอาไว้ !!””แต่เมื่อใดก็ตาม ที่เจ้าสามารถครอบครองยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิชิ้นนั้นได้ พวกเราจะบอกทุกอย่างให้เจ้ารู้ และนั่นคือสิ่งที่ผู้คนในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่างอยากจะรู้ !!”
 
 
 
หลังจากกล่าวจบนั้น ร่างของ วิหคเพลิง ก็ค่อยๆ สลายและกำลังจะผสานเข้ากับร่างของ ชูเฟิง “ผู้อาวุโส ช้าก่อน !! อย่างน้อยท่านก็ควรบอกข้าก่อนว่าจะสามารถครอบครองยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิได้เช่นไร !! หากข้าตายไป การรอคอยกว่าหมื่นปีของพวกท่านไม่สูญเปล่าหรอกหรือ !?”
 
 
 
ชูเฟิง รีบถามออกมา มันไม่สำคัญว่าทักษะวิหคเพลิงฟื้นคืนจะแข็งแกร่ง และมีสติปัญญามากเท่าใด ในตอนนี้มันก็เป็นเพียงทักษะเร้นลับ หากมันผสานเข้ากับร่างของเขา มันจะไม่สามารถสื่อสารได้อีกต่อไป “ถ้าเจ้าอยากรู้อะไมากกว่านี้ อย่างแรกเจ้าจงครอบครองยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิชิ้นนั้นให้ได้ และหลังจากนั่นพวกเราจะบอกเจ้าทุกอย่าง เพราะพวกเราจะสามารถพูดกับเจ้าได้ตลอด !!””แต่หากว่าเจ้าตายก่อนทำสำเร็จ นั่นหมายความเจ้าไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นผู้สืบทอดของ ชิง ซวนเทียน พวกเรารอมาแล้วกว่าหมื่นปี หากรออีกหน่อยจะเป็นไรไป !!” 
 
 
 
หลังจากกล่าวจบนั้น มันก็กลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าไปที่หน้าผากของ ชูเฟิง 
 
 
 
ชูเฟิง รู้สึกเจ็บแปลบที่ศรีษะ พร้อมกับได้รับรู้ความสามารถของทักษะเร้นลับ วิหคเพลิงฟื้นคืน 
 
 
 
ความสามารถของมันคือการรักษา และซ่อมแซม ไม่เพียงแค่รักษาตัวเอง แต่สามารถรักษาผู้อื่นได้เช่นกัน 
 
 
 
หากเข้าใจความสามารถของมันอย่างแท้จริงนั้น ไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาอวัยวะที่เสียหาย แม้แต่ร่างกายที่ตายไปแล้วก็สามารถทำให้ฟื้นคืนกลับมาได้ 
 
 
 
นี่จึงเป็นเหตุผลที่มันได้ชื่อเช่นนั้น “ข้าคิดมาตลอดว่า หากสามารถรวบรวมทักษะเร้นลับทั้งสี่ได้………. !! ถ้าหากใช้ออกทั้งสี่ทักษะพร้อมกันม้นจะต้องสุดยอดแน่ๆ !!”
 
 
 
มุมปากของ ชูเฟิง ยกขึ้น เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดี 
 
 
 
มันไม่ใช่เพียงเขาได้รับทักษะเร้นลับ วิหคเพลิงฟื้นคืน แต่เขายังได้รับมรดกของ ชิง ซวนเทียน 
 
 
 
ชูเฟิง หมายที่จะครอบครองยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิ และอยากรู้เรื่องราวของ ชิง ซวนเทียน และบุคคลที่แข็งแกร่ง ที่ต้องใช้ชีวิตของสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในการผนึกเขา 
 
 
 
เขารู้ว่า ชิง ซวนเทียน ได้ไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์เมื่อนานมาแล้ว และเขาน่าจะทิ้งเรื่องราวอันเป็นตำนานไว้ที่นั่น 
 
 
 
สำหรับ ชูเฟิง เขาจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งนั้นในอีกไม่นาน และสร้างตำนานที่เป็นของเขาเองขึ้นมา 
 
 
 
แต่ก่อนอื่นนั้น เขาจะต้องจัดการกับ เจียง ฉีซา และหมู่เกาะประหาร พร้อมกับนำหุบเขาสายหมอกกลับมา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็จะไร้ความหมาย 
 
 
 
ชูเฟิง จัดเสื้อผ้าของเขาพร้อมกับก้าวออกมา เขาไปพบท่านหญิง เพียวเมี่ยว และคนอื่นๆ เพื่อเตรียมกลับไปยังเขตทะเลตะวันออก 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
B : ถ้าพี่เฟิง หาร่างของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 พบ มันก็จะสามารถออกมาภายนอกสู้ร่วมกับพี่เฟิงได้ เจ๋งเป็นบ้าเลยว่ะ!!! 
 
 
 
A : ยิ่งถ้าได้ยอดยุทธภัณฑ์ชั้นจักรพรรดิมา อย่าว่าแต่ เจียง ฉีซา เลย แม้แต่ประมุขนิกายสาปพสุธาก็ยังต้องกรี๊ด. . . . . 
 
 
 
C : พี่เฟิง จะน่าอิจฉา เกินไปล่ะ ตอนนี้ ก็ระดับ 7 จ้าวแห่งสงคราม นำซ้ำยังมีไข่มุกนิรันดร์ที่อัดพลังวิญญาณระดับ 4 ราชันย์แห่งสงคราม ถ้าได้ดาบผนึกมารมา + กับพลังวิญญาณระดับนี้ เจียง ฉีซา คงรอดยาก 
 
 
 
B : ยังไม่หมดๆ!!! อย่าลืมกองทัพ + สกิลมารประทานพร ที่บัพให้กับคนทั้งปาตี้ดิ ยิ่งดาบผนึกมาร เคลื่อนที่ได้ ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเปนที่ไหน พรรคมาร ก็ยิ่งจะโหดสัดรัสเซีย ใกล้ตอน สนุกล่ะเว้ยยยยย 
 
 
 
C : เรื่องมันจะง่ายแบบนั้นหรอ โย่ว หมิงเติง เกลียดพี่เฟิงเข้าไส้ อย่างกะพี่เฟิงไม่ข่มขื่นเมียมันมา 
 
 
 
A : อาจารย์อยู่กลัวอะไร ?!!!