ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 830 – งานชุมนุมสัมพันธมิตร
“ฮ่า ฮ่า หวู่ชาง เจ้ากำลังทำให้ข้าสงสัยว่า ชูเฟิง นั้นมีระดับพลังวิญญาณเหนือกว่าที่เจ้า เอาอย่างนี้ . . . . เจ้าลองประมาณการณ์มาคร่าวๆได้ไม๊ ว่าชูเพิง นั้นอยู่ในอาณาจักรพลังขั้นไหน หรือว่าเขาก้าวไปถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรสวรรค์ ?!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเจียง หวู่ชาง ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าก็เริ่มอารมณ์ดีมากขึ้น อีกทั้งยังถามถึงการเพาะปลูกที่แท้จริงของชูเฟิง
ในทันทีสายตาทุกคู่นั้นก็ได้จับจ้องมาที่เจียงหวู่ชางเป็นเพราะพวกเขานั้นสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของชูเฟิงในตอนนี้
เมื่อเขาได้ยินคำถามของผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้านั้นเจียงหวู่ชางเพียงยิ้มเบาๆและกล่าวออกมาว่า”
ผู้อาวุโสข้าน้อยมิได้ที่จะดูถูกท่านนะเพียงแต่ข้าเกรงว่าแม้แต่การบ่มเพาะพลังของท่านในตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะเทียบได้กับความแข็งแกร่งของพี่ใหญ่ชูเฟิง ดังนั้นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเก้าอาณาจักรนั้นถ้าไม่นับท่าน จะต้องเป็นพี่ใหญ่ชูเฟิงอย่างแน่นอน”
หลังจากที่เจียงหวู่ชางกล่าวออกมาคำพูดของเขานั้นเปรียบสเหมือนพายุที่พัดผ่านสมองของพวกเขาทุกๆคนนั้นเงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงหอบหายใจในความเป็นจริงพวกเขานั้นตกตะลึงเป็นที่สุด
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆแม้แต่ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าก็สีหน้าผลันเปลี่ยนเป็นแช่แข็งในทันทีใบหน้าที่ดูมีอายุของเขาตอนนี้นั้นเกิดอาการช็อคจนเห็นได้ชัดถึงความประหลาดใจ
มันเป็นเพราะเจียงหวู่ชางนั้นได้ให้คำตอบที่เกินกว่าความคาดหมายของพวกเขาไปไกลโข
ในทันทีพวกเขาดูเหมือนพอจะรู้แล้วว่าทำไมเจียงหวู่ชางนั้นถึงได้ดูเคารพและรักชูเฟิงเป็นพี่ใหญ่ของเขาทั้งๆที่พวกเขาต่างอยู่ในรุ่นเดียวกันคือคนรุ่นใหม่
หลังจากการจัดงานเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง เรื่องราวของชูเฟิงนั้นค่อยๆเงียบลงในทันทีเป็นเพราะพวกเขานั้นหวาดกลัวการบ่มเพาะพลังที่น่ากลัวของชูเฟิงเป็นอย่างมาก
หลายวันแล้วที่ราชวงศ์เจียงนั้นจัดงานเลี้ยงผู้คนจากทวีปเก้าอาณาจักรนั้นเริ่มที่จะทยอยก้าวมาสู่เขตพื้นที่ของพวกเขาเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลอง
ในที่สุดงานชุมนุม สัมพันธมิตรพันตระกูลก็ได้เริ่มขึ้น
งานชุมนุมสัมพันธมิตรพันตระกูลเป็นการชุมนุมของเหล่าราชวงค์ในฝั่งทวีปตะวันออก ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในทุกๆปี และสถานที่จัดงานก็จะเป็นสถานที่ของราชวงค์ที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่ปีนี้เป็นข้อยกเว้นเหตุผลที่ว่าทำไม มันถึงถูกจัดขึ้นที่ทวีปเก้าอาณาจักรซึ่งสถานที่จัดคือ ราชวงศ์เจียง ไม่ใช่ว่าราชวงศ์เจียงนั้นแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ราชวงศ์แต่เป็นเพราะมีบุคคลพิเศษที่มาเข้าร่วมคือ ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้านั่นเอง
ถึงแม้ว่าชื่อมันคือ งานชุมนุมสัมพันธมิตรพันตระกูล แต่ความเป็นจริงมีเพียงไม่กี่ร้อย ตระกูล ที่มาเข้ามาร่วมงานในทุกๆปี นอกจากนี้ เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการจัดการชุมนุมสัมพันธมิตรก็คือการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลที่ทรงพลังต่างๆ พวกเขาจะเลือกคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตระกูลเพื่อใช้เพิ่มชื่อเสียงและความนับถือให้แก่วงค์ตระกูล
ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างในนั้นก็ค่อนข้างพบเห็นอยู่ทั่วไปคือการแลกเปลี่ยนทักษะการต่อสู้ระหว่างบุคคลรุ่นใหม่เพราะว่าบุคคลรุ่นใหม่นั้นคือความแข็งแกร่งในอนาคตของ ราชวงศ์
งานชุมนุมสัมพันธมิตรในปีนี้ ราชวงศ์เจียงนั้นคาดว่า เจียง หวู่ชาง ที่เป็นตัวแทนของพวกเขานั้นจะต้องการเป็น ม้ามืด ที่ทุกคนต่างจับตามองอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ บุคคลจากสถานที่และทวีปต่างๆ รวมทั้งชนเผ่าอื่นๆด้วย
เขาไม่เพียงแต่จะมีการบ่มเพาะพลังอยู่ในระดับ 8 อาณาจักรสวรรค์ เพียงเท่านั้น เขายังได้ครอบครองสายเลือดจักพรรดิ์ มันสามารถบอกได้เลยว่า ความแข็งแกร่งและการบ่มเพาะพลังของเขาในอนาคตนั้น จะไม่มีขีดจำกัดและจะมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างแน่นอน
เขาคือความหวังของราชวงศ์เจียงแต่ปัญหาคือทรัพยากรที่ต้องใช้ในการบ่มเพาะพลังที่สูงของเขาด้วยเช่นกันไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์อย่างเขาที่หลบหนีมาจากทะเลภาคตะวันออกจะมีทรัพยากรที่เพียงพอแต่ว่าไม่ช้าก็เร็วราชวงศ์ที่ทะเลภาคตะวันออกเหล่านั้นจะต้องสยบแก่พวกเขาและพวกเขาเองก็จะมีอำนาจและความแข็งแกร่งที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่ทะเลภาคตะวันออกเช่นเดียวกันแต่มันก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสามารถเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนั้น
มันเป็นเพราะสายเลือดจักพรรดิ์นั้นคือสายเลือดที่แข็งแกร่งและพลังที่เกิดจากสายเลือดนี้มันเป็นพลังในตำนาน มันถูกลิขิตมาให้เหนือกว่าสายเลือดทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของพวกเขาคงไม่ง่ายดายอย่างที่เขาคิด เพียงเพราะ เจียง หวู่ชาง มีพลังสายเลือดจักรพรรดิ เพราะในบรรดารุ่นเยาว์ของขุมอำนาจ ที่มาเข้าร่วมงานชุมนุมสัมพันธมิตร พวกเขาจะต้องพบเจอกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งพวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ครอบครองสายเลือด และอายุของเพียงแค่ ยี่สิบต้นๆ ถึงอย่างไร พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นการบ่มเพาะพลังของเขาได้ไม่ว่าจะใช้เทคนิคพิเศษอย่างไรก็ตาม ไม่แน่ว่าเจียงหวู่ชางนั้นไม่อาจที่จะสามารถชนะบุคคลนั้นได้
เขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมงานประลอง ชื่อของเขาคือ เกา เผิง
*บู้ม บู้ม บู้ม บู้ม*
การต่อสู้ละหว่าง เจียงหวู่ชาง และ เกา เผิง ก็ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้การโจมตีของเจียงหวู่ชางนั้นก็เริ่มที่จะรุนแรงเพิ่มขึ้นการต่อสู้ของทั้งสองคนนั้นยิ่งนานยิ่งรุนแรงแม้กระทั่งคนรุ่นเก่าที่อยู่ในจุดสูงสุดของอาณาจักรสวรรค์ก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่มหาศาลมันเป็นที่แน่นอนว่าพวกเขานั้นรู้สึกถึงความรุนแรงของการต่อสู้นี้ ถ้าพิจารณาจากความคิดของพวกเขา แม้แต่ตัวพวกเขาเองอาจที่จะไม่สามารถที่จะสู้ชนะทั้งสองด้วยซ้ำ “บ้าเอ้ย!”
ข้าไม่เชื่อข้าไม่สามารถที่จะเอาชนะเจ้าได้ในวันนี้!”เจียง หวู่ชางเริ่มที่จะรู้สึกหงุดหงิด เป็นเพราะถึงแม้เขาจะทุ่มพลังทุกอย่างและเทคนิคต่างๆก็ยังไม่สามารถที่จะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้เขารู้สึกโกรธอย่างมากเป็นเพราะตั้งแต่เริ่มการต่อสู้มา เขารู้สึกว่า เกา เผิง นั้นมองเขาเป็นเพียง ของเล่นที่จะจัดการเมื่อไหร่ก็ได้ เขาไม่เคยมอง เจียง หวู่ชางว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อด้วยซ้ำ “ฮ๊า”
ในทันที เจียงหวู่ชาง ตะโกนออกมา บนหน้าผากของเขาปรากฏสัญญาลักษ์สีทองและมีคำว่า ‘จักพรรดิ์’ ปรากฏในเวลาเดียวกันกลิ่นอายความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วพลังของเขาถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายในทันทีบางคนที่เห็นก็รู้สึกตกใจในความเปลี่ยนแปลงนี้ “นี่มันสายเลือดจักพรรดิ์ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะได้พบเห็นมันด้วยตาตัวเอง อาร่าที่ปลดปล่อยออกมานี้แข็งแกร่งกว่าสายเลือดราชวงศ์อย่างเห็นได้ชัด”
นี่มันเป็นไปไม่ได้ ราชวงศ์เจียงที่ไม่ได้รับการสนใจและไม่ได้ถูกนับว่าเป็นตระกูล ราชวงศ์มาหลายปี แต่พวกเขาในขณะนี้ได้ครอบครองเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่งเพียงหนึ่งเดียว! พวกเขาครอบครองสายเลือด จักพรรดิ์ นี่มันไม่จริงใช่มั้ย! มันแน่นอนว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นมากในอนาคตมันสามารถบอกได้เลยว่า มันยากมากที่พวกเขาจะต้านทานได้ในอนาคต
หลังจากเห็นเจียงหวู่ชางที่มีสายเลือดจักพรรดิ์ไหลเวียนอยู่ ราศวงศ์หลายคนนั้นได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่มีสิ้นสุด แววตาของพวกเขานั้นปรากฏความชื่นชมอย่างยิ่ง แต่พวกเขาก็อดที่จะรู้สึกอิจฉา เจียงหวู่ชางไม่ได้ ตราบใดที่เจียงหวู่ชางอยู่ที่ราชวงศ์เจียง พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากสานสัมพันธ์ไมตรีต่อราชวงศ์เจียงไว้ เพื่อรักษาสัมพันธ์ที่ดี “ถึงแม้เจ้าเด็กจากราชวงศ์เจียงนั้นจะได้ทำให้เห็นสิ่งที่น่าประทับใจ แต่ เกา เผิง จากราชวงศ์ เกา นั้นก็ยังไม่ได้ที่จะเอาจริง เขายังไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริงของเขาออกมา ข้านั้นสงสัยมากถึงดินแดนการบ่มเพาะพลังที่เขาอยู่”
พวกเขาต่างเดากันว่าอาจจะอยู่ระดับที่ 9 อาณาจักรสวรรค์ก็เป็นได้ “ใช่ ราชวงศ์ เกา … ข้าไม่เคยได้ยินชื่อราชวงศ์นี้มาก่อนเลย! และ เกา เผิง นับตั้งแต่เขาเดินขึ้นบนเวทีไป เขาก็ได้ปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเอง เขายังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่จากการบ่มเพาะพลังของเขาแม้แต่น้อย ไม่ใช่ว่าเขาคิดว่าสามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้โดยไม่ต้องใช้พลังที่แท้จริงงั้นหรือ” “เป็นเพราะว่า เจียง หวู่ชางในปัจจุบันที่ใช้พลังของ สายเลือดจักพรรดิ์ เด็กคนนี้สุขุมและรอบคอบ ด้วยความกล้าหาญและฉลาดเช่นนี้มันแน่นอนเลยว่าในอนาคตเขาจะต้องเป็นบุคคลที่โดดเด่นแน่นอน”
จนถึงตอนนี้พวกเขาไม่เพียงแต่ชื่นชม ความแข็งแกร่งของเจียง หวู่ชางที่แสดงออกมา แต่เขาก็ยังอดที่จะมอง เกา เผิงไม่ได้ ถึงแม้หน้าตาของเขาจะไม่ได้หล่อเหลาเท่า เจียง หวู่ชาง แต่พวกเขาก็คาดหวังว่าจะได้เห็นสิ่งที่แปลกใจเพิ่มขึ้นอีก
และที่สำคัญที่สุดคือ เกา เผิง จากราชวงค์ เกา พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อนหรืออาจจะน้อยกว่าราชวงศ์เจียงแต่ก่อนด้วยซ้ำ มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินว่า ราชวงศ์ เกา คือราชวงศ์ใน ทวีปตะวันออก
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : เด๋วมืงเจอราชวงค์ ชู!!!
B : มันไม่มีหรือเปล่า?!!!
A : มี เด๋วราชวงค์ ชู ก็มาพร้อมกับกองทัพเรือ ภาคน้ำที่ 1 ในอ่าวไทย
C : มันมีที่ไหน!!!
A : พวกมืงนี้ก็ขัดกูจัง . . . . .