I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 892 – ตัดสินภายในครั้งเดียว

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 892 – ตัดสินภายในครั้งเดียว

 

“เจ้าพวกไร้ประโยชน์!!! พวกเจ้ามีเวลาและทรัพยากรเพาะปลูกมากมาย แต่กับเอาเวลาเสียไปการ สัมเลเทเมา แล้วดูตอนนี้สิเป็นยังไง ?!””ทุกคน ถอยไปให้หมด!!!”

 

มู่หรง ซุน ดวงตาสีแดงกร่ำด้วยความโกรธ เขามองดูลูกน้องจำนวนมากโดนจัดการคนแล้วคนเล่า สุดท้ายเขาก็อดที่จะด่าไม่ได้

 

ในตอนนั้น ผู้เชี่ยวชาญจากหมู่เกาะประหารไม่มีใครกล้าค้านคำพูดของเขา พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ใช่ฝ่ายรุก แต่เป็นรับมากกว่า จนในที่สุดพวกเขาก็คุกเข่าลงต่อหน้า มู่หรง ซุน อย่างเป็นระเบียบ และกล่าว”

 

นายน้อย พวกเราขออภัยในความไร้สามารถ โปรดเชิญลงโทษ!””ลงโทษงั้นหรอ ?! พวกเจ้ามันสมควรถูกลงโทษ เสียทีที่หมู่เกาะประหารเมตตาพวกเจ้า ไหนลองบอกข้าสิว่าพวกเจ้าสมควรตายไม๊!!!”

 

มู่หรง ซุน ตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด ในขณะที่ม่านตาขยายขึ้น ขยายขึ้น “นายน้อย ได้โปรดลงโทษพวกเราด้วย! ต่อให้ท่านจะฆ่าจะแกง พวกเราจะไม่ปริปากพูดใดๆ!”

 

ผู้คนที่คุกเข่าต่างพากันกล่าว “ดี!!! ไหนๆเจ้าก็ยอมรับความผิด งั้นพวกเจ้าก็มอบเลือดเนื้อและชีวิต ชดใช้บุญคุณให้หมุ่เกาะประหารซะ”

 

เมื่อเขาได้ยินคำตอบของมู่หรง ซุน ไม่มีใครกล้าขยับแม้แต่น้อย แต่ทุกคนต่างก็มีดวงตาที่แสนจะดุร้ายราวกับว่ายอมรับผิดด้วยความตาย

 

* วูบบบ วูบบบ วูบบบ วูบบบ *

 

ทันใดนั้น แววตาที่แสนเย็นชาก็พลันปรากฏในดวงตาสีแดงเลือดของมู่หรง ซุน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โซ่สีแดงเลือด จำนวนมาก เจาะทะลวงผ่านร่างของคนหมู่เกาะประหารที่กำลังคุกเข่า ขณะที่บริเวณนั้นต่างเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเลือดที่สาดกระเด็น “อ๊าาาาา”

 

เมือดโซ่สีแดงเลือด เจาะผ่านร่างของพวกเขา พลังวิญญาณและพลังชีวิตที่สั่งสมมาเป็นเวลาหลายปี ก็ถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็ว จนร่างกายของพวกเขาแห้งเหี่ยว ขณะที่เสียงร้องเริ่มแหบแห้ง

 

ทั้งๆที่โดนกระทำเช่นนั้น แต่ไม่มีใครหนีไปแม้แต่คนเดียว พวกเขาต้องทนแบกรับความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญ เสียงกรีดร้องยังคงดังระงม ขณะที่พลังวิญญาณและพลังชีวิตของพวกเขาไหลเข้าสู่ร่างกายของมู่หรง ซุนอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเขาก็ไม่ปริปากบ่นใดๆ

 

พลังวิญญาณจากผู้คนจำนวนนับพัน นับหมื่น ทำให้ ออร่าของมู่หรง ซุน สูงขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้พลังของเขาเกือบจะเทียบเท่ากับ ราชันย์แห่งสงคราม ขนาดที่แทบจะทะลวงผ่าน

 

อย่างไรก็ตาม พลังวิญญาณของมู่หรง ซุน ยังคงเพิ่มสูงขึ้น สูงขึ้น ผ่านโซ่สีแดงเลือดที่เจาะอยู่บนร่างกายของลูกน้อง ในตอนนั้นพวกเขาแทบจะดูไม่ออก ว่าเป็นคน หรือ ผีดิบ เสียงพวกเขาที่กรีดร้องยิ่งฟังมันก็ยิ่งน่ากลัว “เขามันบ้าไปแล้ว!!! เขาดูดกลืนพลังของผู้ติดตามใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์แบบนั้น ได้ลงคองั้นหรอ เขายังเป็นคนอยู่ไม๊”

 

เห็นการกระทำแบบนั้น ซวน เสี่ยวจาวและคนอื่นๆ รีบเขามาประชิดกับ ชูเฟิง พร้อมกับถือยอดยุทธภัณฑ์กึ่งราชวงค์ไว้ภายในมือ “ชูเฟิง โชคดีที่เจ้ามาที่นี่ทันเวลา มิเช่นนั้นพวกข้าคงตายไปแล้ว ตอนนี้มู่หรง ซุน มันบ้าคลั่ง ให้พวกเราช่วยเจ้าสู้อีกแรง”

 

แม้แต่ 10 พี่น้องชุดทองก็ยังมา แต่หากเปรียบเทียบกับ ซวน เสี่ยวจาวและคนอื่นๆ สายตาของ 10 พี่น้องชุดทอง ที่มองชูเฟิงดูซับซ้อนมากยิ่งกว่า พวกเขาไม่เคยลืมภาพ วันที่ ชูเฟิง วิ่งมาขอความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่หลังจากนั้นไม่นาน ชูเฟิงก็แกร่งขึ้นมากกว่าพวกเขา นำซ้ำยังมาช่วยพวกเขาอีก “มันเป็นความจริงที่ มุ่หรง ซุน เขาคลั่งไปแล้ว แต่ข้าก็ไม่คิดว่าเขาพึ่งจะบ้าคลั่ง นี้อาจจะเป็นธาตุแท้โดยสันดานของเขา””อาวุโส พี่น้องทุกท่าน ไม่ต้องกังวล แม้ว่าวิชามารของเขาจะร้ายกาจ แต่มันก็มีขีดจำกัด ในการที่จะดูดซับพลังวิญญาณจากผู้อื่นมาเป็นของตน””แม้ว่ามู่หรง ซุนจะกลั่นพลังจากลูกน้องทั้งหมดจนตาย พลังวิญญาณของเขาจะเพิ่มมากสุดก็แค่ระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม ตราบใดที่เขาไม่ทะลวงผ่านเป็นราชันย์แห่งสงคราม ข้าก็ยังตีเขาให้พิการได้สบายๆ”

 

ขณะที่ ชูเฟิง พูด เขาก็พลิกฝ่ามือ จากนั้น หอกมังกรเงิน ก็พลันปรากฏขึ้นมาใบมือ

 

เมื่อมันปรากฏขึ้น ออร่าของมันก็กวาดผ่านทุกอย่างในรอบๆเส้นรัศมี พริบตาความแข็งแกร่งของชูเฟิงก็เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่า ด้วยพลังของชูเฟิงในตอนนี้้ ต่อให้เป็น ราชันย์แห่งสงครามเขาก็อาจจะพอสู้ได้ “ยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์!!!!”

 

หลังจากที่สัมผัสได้ถึงยอดยทุธภัณฑ์ราชวงค์ ไม่ว่าจะเป็น 2 ผู้พิทักษ์จากตระกูล วิหคศักดิ์สิทธิ์ หรือ ราชันย์วารี และ ราชันย์อัคคี ก็อดไม่ได้ที่จะทอดสายตามองไปยัง หอกมังกรเงินที่อยู่ในมือของชูเฟิง “ดูจากการเพาะปลูกของเขา มันต้องเป็นยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์ไม่ผิดแน่ ตอนนี้เขาสามารถใช้มันได้อย่างสมบูรณ์แล้ว!!!”

 

หลังจากที่ยืนยันได้แล้ว ว่าภายในมือของ ชูเฟิงคือยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์ ราชันย์อัคคีและราชันย์วารีต่างชื่นชมออกมา ในขณะที่ สายตาสองผู้พิทักษ์แห่งตระกูลวิหคศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยความเดือดดาล

 

แล้วทันใดนั้น ระเบิดก็ดังออกมาอย่างไม่รู้จบ จากทิศทางของ มู่หรง ซุน ร่างของคนจำนานมากหายไป ในบริเวณนั้นต่างเต็มไปด้วยละอองเลือดที่ลอยฝุ่งอยู่ในอากาศ จนเกิดเป็นฝนโลหิตตกลงมา

 

เมื่อพวกเขาโยนสายตากลับมาที่ มู่หรง ซุน พวกเขาก็พบว่าร่างกายของมู่หรง ซุน บวมอึดราวกับหมูตอน จากเดิมที่เขาเป็นชายร่างสูงและกำยำ ตอนนี้เนื้อหนังของเขาเหมือนกับอัดแน่นไปด้วยชั้นไขมัน ที่ราวกับว่าจะระเบิดออกมาได้ในทุกเมื่อ นอกจากนี้ผิวหนังบนร่างกายของเขายังมีสีแดงโลหิต ทำให้ดูน่ากลัวไม่น้อย

 

แม้ว่าออร่าของเขาจะมากมายมหาศาล แต่มันก็ยังอยู่ในแค่ระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม ตามที่ชูเฟิงกล่าวไว้ ว่าต่อให้มู่หรง ซุน ใช้วิชามารมันก็ไม่สำคัญเนื่องจากมันมีข้อจำกัด เขาไม่อาจจะปรับแต่งมันได้หลังจากที่ดูดซับพลังวิญญาณของผู้อื่นมา “ชูเฟิง!!! มาทำให้มันจบดีกว่า ให้การโจมตีต่อไปจะเป็นการตัดสินว่าใครจะอยู่หรือตาย”

 

ทันใดนั้น มู่หรง ซุน ก็ตะโกนออกมาดังสนั่น เสียงที่เปล่งออกมาไม่ใช่เสียงเดิมของเขา มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธและอาฆาตแค้น ราวกับเสียงของพวกปีศาจ

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้น ไม่ใช่เสียงของเขา แต่เป็นแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ ชูเฟิง

 

ตอนนั้น แม้แต่สีของท้องฟ้าเหนือศีรษะของมุ่หรง ซุน ก็ยังเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ราวกับว่าไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นปีศาจที่ถูกย้อมไปด้วยเลือดของชีวิตคนนับไม่ถ้วน

 

เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับ มู่หรง ซุน ที่มีลักษณะดังกล่าว แม้แต่ ซวน เสี่ยวจาว , 10 พี่น้องชุดทอง และคนอื่นๆ ก็ไม่อาจที่จะสงบใจได้ ใบหน้าของพวกเขาเห็นได้ชัดว่าเกิดความหวาดหวั่น แต่ก็ไม่มีใครคิดจะถอย

 

น่ากลัว น่ากลัวยิ่งนัก มู่หรง ซุน ที่ได้ดูดกลืนพลังของคนนับหมื่น จนออร่าของราวเต็มไปด้วยกลิ่นอายคาวเลือด ดูน่ากลัวอย่างมาก สภาพเขาในตอนนี้ไม่อาจจะเรียกว่ามนุษย์ได้ “ฮ่าๆๆ ข้าก็คิดไว้แบบนั้น”

 

แต่ความน่ากลัวของมู่หรง ซุน ไม่ได้ทำให้ ชูเฟิง รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่า

 

* บูมมมมมมมมม *

 

จู่ๆ ชูเฟิงก็เริ่มลงมือ ขณะที่เขาเคลื่อนไหว สถานที่รอบๆที่เขายืนก็ปรากฏรอยแตกขนาดใหญ่ แม้แต่ ซวน เสี่ยวจาว และคนอื่นๆที่เป็นกำลังเสริม ก็พากันถอยออกไปด้วยพลังที่รุนแรงของ ชูเฟิง เห็นได้ชัดว่า ชูเฟิง ร้ายกาจอย่างมาก

 

ชูเฟิง จับหอกมังกรเงิน ลอยขึ้นสู่อากาศ พุ่งเข้าใส่ มู่หรง ซุนที่อาบไปด้วยเลือด ราวกับดาวหาง

 

ในระยะไม่ถึง 3000 เมตร ชูเฟิงก็เร่งความเร็วขึ้น จนเกิดเป็นเส้นแสงสีเงิน ขณะที่เสียงของหอกมังกรเงินคำรามออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อแสงนั้นกวาดผ่านอากาศ มันก็ดูราวกับมังกรเงินปรากฏบนฝากฟ้า คำรามออกมาอย่างน่าเกรงขาม เมื่อแสงสีเงินหายไป ชูเฟิง ก็มาถึงหน้า มู่หรง ซุน ขณะที่แสงนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง ผ่านร่างของมู่หรง ซุน พริบตาที่แสงปรากฏ มังกรเงินก็บินทะลุหลังของเขา ขณะที่ เลือดไหลออกมาชโลมหอกในมือของชูเฟิง หอกนั้นได้ทิ้มทะลวงผ่านหน้าอกของมู่หรง ซุน ทะลุมาถึงด้านหลัง

 

การเผชิญหน้าในครั้งนี้ของพวกเขา ได้ถูกตัดสินด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

ในตอนนี้ มู่หรง ซุน ได้พ่ายแล้ว!!!

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : เห็นเสียเวลา ดูดซับพลังจากคนตั้งนาน สุดท้ายถูกแทงด้วยหอกซะดื้อๆ!!!

 

B : กูก็นึกว่ามันจะยึดเยื้ออีกยาว

 

A : ว่าแต่ มันจะรอดไม๊นะ ?!

 

B : ไม่แน่ใจอ่ะ แต่น่าจะไม่รอดนะ โดนไปซะขนาดนั้น

 

C : มันก็ยังไม่แน่หรอก!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments