บทที่ 806 – การเปลี่ยนแปลงของตระกูลจื่อ
 
 
 
“พี่ชาย พวกท่านประเมินข้าสูงไปแล้ว ที่จริงมันก็เป็นเพราะแผนของพวกท่านด้วย หมู่เกาะประหารถึงได้พ่ายแพ้ไป ลำพังข้านั้นไม่มีพลังขนาดนั้นหรอก”
 
 
 
ชูเฟิงพูดขึ้นเขินๆ “การรวมพรรคนั้น ไม่สามารถเร่งรีบได้ มันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ดังนั้นมันจึงช้า และเมื่อเวลานั้นมาถึง เมื่ออาจารย์ของพวกเราปรากฏตัวขึ้นนั่นก็คือเวลาที่ประกาศให้โลกรู้ถึงพลังของพรรคมารทะลายราตรี.””ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง พวกเราก็เป็นเพียงการแสดงหน้าม่านเท่านั้น ของจริงคือการแสดงตัวของ 4 ผู้พิทักษ์.”
 
 
 
ฟู่ เฟิงหมิง หยักหน้าและพูดขึ้น “อ้า แต่พวกเราไม่ทราบว่า ผู้อาวุโส ฉิว ซานเฟิง นั้นอยู่ที่ใด”โย่ว ตงหาน พูดขึ้น “ผู้อาวุโส ฉิว ซานเฟิง ยังคงอยู่ในภูมิภาคทะเลตะวันออก และหากพวกเราเคลื่อนไหว เขาจะรู้เองและเมื่อถึงเวลาเขาคงมาปรากฏตัวด้วยตัวเองแน่นอน”
 
 
 
ฟู่ เฟิงหมิงพูด “ถูกต้อง ผู้อาวุโส ฉิว ซานเฟิงนั้น เป็นผู้นำของ 4 ผู้พิทักษ์ และเขายังเป็นมหาอำนาจของพรรคเรา ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับพรรค เขาย่อมปรากฏตัวออกมาแน่นอน”
 
 
 
ซวน เสี่ยวจาวพูดขึ้น 
 
 
 
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิงก็รู้ว่า 3 คนนี้นับถือฉิว ซานเฟิง มากเพียงใด บางทีนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่อาจารย์ของพวกเรารู้สึกด้วย “มา มา มา วางเรื่อง รวมพรรคไว้ก่อน ข้าจะบอกพวกเจ้าเรื่องที่ข้าสนใจในตอนนี้”
 
 
 
โย่ว ตงหานพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “พี่ชาย หาน เรื่องอะไรนั้นหรือ บ้าพวกข้าเร็วๆเข้า”
 
 
 
ซวน เสี่ยวจาวพูดขึ้น “พวกเจ้ารู้ใช่หรือไม่ ว่า มู่หรง ซุนนั้นมีคู่หมั้นอยู่ 2 คน”
 
 
 
โย่ว ตงหาน พูดขึ้นด้วย รอยยิ้ม 
 
 
 
ในตอนนั้น ใจชูเฟิงก็สั่นทันที เพราะเขารู้ว่า โย่ว ตงหาน หมายถึง จื่อ หลิง “แน่นอน ข้ารู้ นั่นคือเรื่องกายศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจื่อ จาก หุบเขาดอกไม้ใช่หรือไม่ ข้าได้ยินมาว่า กายศักดิ์สิทธิ์นั้นลึกลับมาก หลังจากที่ได้เกิดมาได้ไม่นาน นางก็หายไป แต่ตอนนี้ข้าได้ยินมาว่านางปรากฏตัวอีกครั้งแล้ว นางนั้นมีนามว่า จื่อหลิง””ข้า ได้ยินมาอีกว่ากายศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนั้น ไม่ได้ส่งผลเรื่องระดับการบ่มเพาะนัก ดังนั้นนางจึงอ่อนแอมาก และไม่ต่างจากคนธรรมดา””ดังนั้น คนจำนวนมากต่างเดาว่า จื่อหลิง นั้นไม่ได้มีกายศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง” “เรื่องกายศักดิ์สิทธิ์ นั้นไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือไม่ เพราะนั่นเป็นความลับของพวกหมู่เกาะประหาร พี่ชายหาน หรือว่าท่านจะมีข่าวใหม่””ข้าไม่รู้ว่า จื่อหลิง นั้นมีกายศักดิ์สิทธิ์ จริงหรือไม่ แต่ที่ข้าจะพูดคือเรื่องความงามของนาง นางนั้นเป็น 1 ใน 3 ยอดสาวงามเลยทีเดียว “โย่ว ตงหานพูดขึ้น “พี่ชาย หาน จื่อหลิง คนนั้นเป็นยังไงหรือ สู้หยา เฟย ได้หรือไม่ “ซวน เสี่ยวจ้าว และ ฟู่ เฟิงหมิง ถามขึ้นด้วยความสนใจ “งดงาม งดงามยิ่งนัก แม้แต่หยา เฟย ก็มิอาจเทียบเธอ พูดตามตรงว่านี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้ แม้แต่หญิงงามในภาพวาด ก็มิอาจเทียบนางได้ นางนั้นเป็นเหมือนกับ นางฟ้าเลยล่ะ”
 
 
 
โย่ว ตงหานพูดขึ้นพร้อมแสดงท่าทางเคลิบเคลิ้ม “นางงดงามขนาดนั้นเลยหรือ อย่างนั้นต้องลองถามน้องชายชูเฟิงดูและเทียบกับนาง”
 
 
 
ซวน เสี่ยวเจ้าพูดขึ้น “พูดตามตรง ข้านั้นก็ไม่ได้รู้จักนางมากนัก แต่ว่า หญิงสาวคนนั้นแตกต่างจาก หยา เฟย อาจพูดได้ว่านางนั้นมีจิตใจที่งดงามมาก อย่างไรก็ตาม ข้านั้นเกลียดมู่หรง ซุนมาก ข้าจะไม่ให้มันได้แตะต้องนาง”
 
 
 
โย่ว ตงหาน พูดขึ้น “พี่ชาย ตงหาน มีเรื่องอะไรน่าสนใจอีกหรือไม่ที่ท่านพบใน ตระกูล จื่อ”
 
 
 
ชูเฟิงถามขึ้น “ถามได้เยี่ยม เมื่อข้าได้ไปถึงตระกูล จื่อ ภายในตระกูลนั้นมีขัดแย้งกันภายใน ระหว่างปรมาจารย์ตระกูล หลี่ และ ตระกูลของจื่อ หลิง ดูเหมือนว่า พวกเขานั้นไม่ต้องการให้ จื่อหลิง แต่งงาน กับ มู่หรง ซุน แต่ปรมาจารย์ตระกูล หลี่นั้นไม่เห็นด้วย” โย่ว ตงหาน พูด “โอ้ว มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยหรือ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ”ซวน เสี่ยวจาว และ ฟู่ เฟิงหมิง สนใจอย่างมากเมื่อได้ยิน “ข้ารู้เพียงว่า พวกเขาได้กักขัง ครอบครัวจื่อหลิง และตัว จื่อหลิงไว้”
 
 
 
โย่ว ตงหานพูด””มีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่”
 
 
 
ชูเฟิงถามอย่างเร่งรีบ “ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง เพราะข้านั้นรีบมากจึงไม่ได้ฟังมันชัดๆ””ข้ารู้ว่า ครอบครัว จื่อหลิงนั้นไม่ต้องการให้นาง แต่งงานกับ มู่หรง ซุน เรื่องนี้นั้นน่าสนใจมาก บางทีพวกเราอาจใช้เรื่องนี้เข้าไปค้านในวันแต่งงานของมู่หรง ซุนก็ได้นะ.”
 
 
 
โย่ว ตงหาน พูดขึ้น “อืม ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง พวกเราอาจจะใช้มันเป็นข้ออ้างได้ แต่ดูเหมือนมันยังมีเวลาอีก 3 ปี กว่าจะถึงวันนั้น ข้าคิดว่า หมู่เกาะประหารจะไม่อยู่เสียแล้ว,”
 
 
 
ฟู่ เฟิงหมิง พูด 
 
 
 
ทั้ง 3 นั้นไม่ได้สนใจมากนัก เพราะ จื่อหลิง จะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขา 
 
 
 
จากที่ โย่ว ตงหานพูด พวกเขาก็พูดเพียงสนุกสนานเท่านั้นไม่มีใครคิดจริงจัง 
 
 
 
แต่ ชูเฟิง นั้นต่างอย่างสิ้นเชิง จื่อหลิงเป็นใคร นางเป็นคู่หมั้นของเขา ทำไมเขาต้องตามหา ฟู่ เหลียน เฉิง ทำไมเขาต้อง ช่วย ฉิว ซานเฟิง ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะเขาต้องการช่วยจื่อหลิง 
 
 
 
ดังนั้น เมื่อได้ยินเช่นนั้น จิตใจชูเฟิง ก็วุ่นวายไปหมด เขารีบถามขึ้นว่า”พี่ชาย โย่ว ตงหาน ท่านนั้นลอบเข้าไปยังตระกูล จื่อ ได้อย่างไร หมู่เกาะประหาร ไม่ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญ มาเฝ้า ตระกูล จื่อหรอกหรือ””ข้าไม่ได้คิดเรื่องนั้น เมื่อข้าเข้าไปข้าก็ไม่เห็นคนของหมู่เกาะประหารเลย”
 
 
 
โหยว ตงหาน พูด “แม้ว่า พวกเขาจะมีผู้เชี่ยวชาญมากมาย แต่เมื่อพวกเขามีอำนาจมากขึ้น เขาก็ต้องดูแลพื้นที่ของพวกเขามากขึ้น และนั่นก็ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ มาเป็นยามคอยเฝ้า” “ดังนั้น พวกเขา จึงไม่ได้ส่ง ผู้เชี่ยวชาญไปที่ตระกูล จื่อ””แม้ว่า พวกเขาจะมี ผู้เชี่ยวชาญระดับ ราชันย์สงครามอยู่มาก พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่ต้องไปคอยจับตาดู ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูล จื่อ ท้ายที่สุดแล้ว นางเป็นเพียง คู่หมั้นเท่านั้น”
 
 
 
ฟู่ เฟิงหมิงคาดเดา “เอ๊ะ น้องชาย ชูเฟิง ทำไมเจ้าถึงสนใจเรื่องตระกูลจื่อ ล่ะ หรือว่าเจ้าคิดจะจับกดคู่หมั้นของ มู่หรง ซุน อีกใช่หรือไม่?”
 
 
 
ซวน เสี่ยวจาว ยิ้มแล้ว พูดขึ้น ในเวลาเดียวกัน ฟู่ เฟิงหมิง และ โย่ว ตงหาน ก็ยิ้มแล้วมองไปที่ชูเฟิงเช่นเดียวกัน พวกเขายังจำได้ว่าวันนี้ชูเฟิงได้ทำอะไรกับหยา เฟย และ มู๋หรง ว่าน ไว้ ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
A : พี่เฟิงมีโอกาศนับไม่ถ้วน บอกให้ทุบ ก็ไม่เชื่อ!!! 
 
 
 
B : ถ้านางไม่ถูกพิษ ป่านนี้ อาจตั้งท้องแล้วก้ได้!!! 
 
 
 
C : นั้นคือคำพูดจากปากของ Fc. จื่อหลิง หรอ ใช้ไม่ได้ๆ