ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 862 – พยายามเพื่อเข้าสู่ขั้นจ้าวแห่งสงคราม
ในเวลานั้น ทันไท๋ เซว่ ยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน นางก้มลงมองเหล่าสมุนไพรที่ค่อยๆ ตายลงอย่างต่อเนื่องด้วยความสับสน
เพียงชั่วอึดใจนั้น คล้ายว่านางจะนึกอะไรบางอย่างออก นางเอาเข็มทิศวิญญาณออกมา พร้อมกับถ่ายพลังวิญญาณของนางไปที่มัน และเริ่มบินออกไปในอากาศ
นางตรวจสอบพื้นที่โดยรอบทุกตารางนิ้วอย่างละเอียด ด้วยการบินวนรอบๆ ยอดเขาอย่างช้าๆ
สุดท้ายนางก็มาหยุดที่ผนังด้านหนึ่ง
หลังจากตรวจสอบดูแล้วนั้น ร่างกายของนางสั่นสะท้าน และนางก็กล่าวออกมาด้วยความสุขว่า”
ข้าไม่คิดเลยว่าสถานที่แห่งนี้จะมีวัตถุศักดิ์สิทธิ์อยู่ !! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดรูปแบบที่แข็งแกร่งเช่นนั้นถึงอยู่ที่นี่ได้ !!”
หลังจากนั้นนางก็ก้าวเข้าไปยังภายในถ้ำด้วยความสุขบนใบหน้า แต่เมื่อนางมาถึงส่วนลึกของถ้ำ ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นตะลึงงัน
เมื่อมองไปภายในนั้น นางพบว่าการเชื่อมต่อถูกตัดขาดออกไปแล้ว ออร่าแห่งความกระหายเลือดระเบิดออกจากร่างกายของนาง ขณะที่นางตะโกนออกมาว่า”
ใคร !! มันเป็นใคร !!”
เสียงตะโกนของนางทำให้ภูเขาทั้งลูกสั่นไหว ก้อนเมฆบนท้องฟ้ามันแตกกระจาย
นอกจากนี้ คลื่นพลังแห่งความกระหายเลือดของนางยังแผ่กระจายออกไป ทุกอย่างที่มันพัดผ่านล้วนถูกทำลายอย่างน่าหวาดกลัว
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง ไม่ได้ยินเสียงตะโกนด้วยความกราดเกรี้ยว หรือแม้แต่รู้สึกถึงความกระหายเลือดที่แผ่ออกมาแม้แต่น้อย
ในขณะนั้น ชูเฟิง ยังคงอยู่ภายในที่ราบแห่งความหนาวเย็น เขาซ่อนตัวอยู่ในชั้นน้ำแข็งในพื้นที่ห่างไกลออกมา เขาจะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ในขณะที่เขากลั่นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ “ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ไม่เอามันไปด้วยแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามันอยู่ที่นั่นก็ตาม !!””วัตถุศักดิ์สิทธิ์นี้ยังไม่โตเต็มที่ หากมันเติบโตขึ้น มันจะมีสติปัญญา และพลังที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์มาก !!””เมื่อถึงเวลานั้น พลังของมันจะแข็งแกร่งมาก และคนที่วไปก็ไม่อาจกลั่นพลังของมันได้ !!””วิหารเพลิงผลาญสวรรค์คงคิดว่าควรจะปล่อยให้มันโตเต็มที่ก่อน จึงจะมาเอามันไป เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะได้รับประโยชน์สูงสุดของมันอย่างแน่นอน !!”
ชูเฟิง ค้นพบข้อเท็จจริง หลังจากที่เขาตรวจสอบมัน “วิหารเพลิงผลาญสวรรค์ค่อนข้างเมตตามากทีเดียว ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่ทิ้งมันไว้ที่นี่ !!””หากเป็นหมู่เกาะประหารล่ะก็ พวกเขาคงจะทำลายมันมากกว่า ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ !!”
ต้านต้าน กล่าว “แน่นอน หากข้าไม่สามารถกลั่นมันได้ และเมื่อมันไม่มีประโยชน์ต่อข้า ข้าก็จะไม่ทำลายมัน เพราะถึงอย่างไร หากมันเติบโตขึ้น มันก็จะมีชีวิตและจิตวิญญาณอย่างชัดเจน !!”
ชูเฟิง กล่าว “ชูเฟิง แม้ว่าเจ้านี่จะเติบโตขึ้นอย่างมาก และพลังของมันก็มีอยู่พอสมควรทแต่มันก็ต้องแบ่งพลังของมันให้แก่เหล่าสมุนไพรอยู่มาก เจ้าคิดว่ามันจะทำให้เจ้าก้าวเข้าสู่ขั้นจ้าวสงครามได้หรือไม่ !?”
ต้านต้าน กล่าวถาม “ข้าไม่รู้ว่าอสูรสายฟ้าในร่างกายของข้ามันจะถูกเติมเต็มไหม เพราะข้ามันรู้ว่ามันต้องการทรัพยากรมากเท่าใดถึงมันจะพอใจ !!” “ไม่ว่ายังไง พวกเราจะได้รู้กันว่าวัตถุศักดิ์สิทธิ์นี่จะสามารถทำให้ข้าประสบความสำเร็จหรือไม่ !!”
ชูเฟิง กล่าวพลางยิ้มบาง พร้อมกับเริ่มกลั่นมันโดยใช้รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณสีทองห่อหุ้มมันเอาไว้
***** พรึ่บ *****
เมื่อมันพูกห่อหุ้มด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณสีทองนั้น พลังงานก็ไหลออกมาราวกับสายน้ำ มันมีลักษณะคล้ายๆ กับงูที่กำลังวนอยู่รอบๆ วัตถุศักดิ์สิทธิ์นั้น
พลังงานเหล่านั้นดูอ่อนโยนอย่างมาก แต่ในเวลาเดียวกันนั้นมันกลับดูน่าหวาดกลัวเช่นกัน เพราะในขณะที่มันกำลังหมุนวนอยู่นั้น มันกลับทิ้งรอสีดำเอาไว้ราวกับกำลังเผาไหม้อยู่
พลังงานที่อยู่ในวัตถุศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก และในเวลานี้ มันก็กำลังถูกดึงออกมาด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ชูเฟิง
เมื่อพลังงานเหล่านั้นเริ่มไหลออกมา ชูเฟิง ก็อ้าปากและดูดพลังเหล่านั้นลงไปในท้อง เริ่มกลั่นมันในทันที
หากเป็นคนทั่วไปนั้น พวกเขาจะไม่สามารถทำเช่นเดียวกับ ชูเฟิง ได้ เพราะด้วยพลังมหาศาลของวัตถุศักดิ์สิทธิ์นี้ มันจะทำให้ร่างกายของพวกเขาถูกทำลาย
แต่ไม่เพียง ชูเฟิง จะสามารถกลันมันได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถดูดซับพลังงานของมันได้ทั้งหมดโดยไม่มีการเสียเปล่า พลังงานทั้งหมดจะทำให้การบ่มเพาะพลังของเขาแข็งแกร่งขึ้น
ในเวลานั้น การบ่มเพาะพลังของ ชูเฟิง ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อสูรสายฟ้าที่อยู่จุดตันเถียนของเขาที่สงบนิ่งมาเป็นเวลานานนั้น ก็เริ่มดูดกลื่นพลังของวัตถุศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่ง
พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่าจะมีสามเส้นที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดของ ชูเฟิง แล้วนั้น แต่ความเร็วในการดูดกลืนและความเร็วในการกลั่นของพวกมันก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อย
แม้ว่าพลังงานขวัตถุศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่งอย่างมาก แต่มันก็ไม่ต่างอะไรกับอาหารจานอร่อย
มันเป็นอย่างที่เขาคิด รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเขา ไม่สามารถดึงพลังงานของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ทัน
ด้วยความรวดเร็วในการกลั่นของสายฟัาศักดิ์สิทธิ์ในจุดตันเถียนของเขานั้น รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเขาจึงไม่สามารถดึงพลังงานออกมาได้ทัน มันทำให้เขาคาดว่าอีกหลายวันจึงจะกลั่นพลังงานจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์ได้หมด
ในขณะนั้น เขายังกลั่นพลังงานของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่ถึงหนึ่งส่วนสี่ของพลังงานทั้งหมด มันจึงทำให้ยังมาพลังงานอีกมากที่เขาสามารถได้รับจากมัน
ในเวลานั้น ออร่าพลังของ ชูเฟิง ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เขารู้สึกว่าเขาอยู่ห่างจากขั้นจ้าวสงครามอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น เขาก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นจ้าวสงครามได้จากขั้นแดนสวรรค์
และนั่น คือขั้นจ้าวสงครามที่แท้จริง
ReaDMGA ////////////////////////////////////////