ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 920 – การเผชิญหน้าของอสูร
“แล้วถ้าข้าไม่ทำล่ะ !?”
ทันไท่ เซว่ กบ่าวออกมาอย่างไม่แยแส น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความดูถูก “ถ้าเจ้าไม่ทำ !! ข้าจะสอนให้เจ้ารู้ว่าความตายมันเป็นเช่นไร !!”กวง ไป่เหนียน กล่าวออกมาอย่างรุนแรง พร้อมกับที่เขาพลิกฝ่ามือขึ้น พลันยันต์เป็นร้อยๆ ใบก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา
หลังจากยันต์เหล่านั้นปรากฏออกมา มันก็เปล่งแสงออกมาละลานตาพร้อมกับที่พวกมันแปรสภาพเป็นปิศาจโครงกระดูกหลายร้อยตัวอย่างรวดเร็ว
ปิศาจทั้งหมดนั้นถือดาบสองเล่มไว้ในมือ พร้อมกับที่ทุกตัวนั้นจะมียันต์แปะอยู่ตรงส่วนหัวของมัน และออร่าพลังของมันยังแข็งแกร่งกว่า กวง ไปเหนียน พวกมันทั้งหมดมีพลังอยู่ในขั้นราชันย์สงครามระดับสอง “สวรรค์ !!…….”
ซาน จิวเซียว ตกตะตลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าของเขาอย่างมาก
กวง ไป่เหนียน ที่มีพลังเพียงขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่ง แต่กลับสามารถสร้างปิศาจที่มีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสองออกมาได้ ต้องยอมรับว่าทีกษะของเขานั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก “พลังของพวกเขาแปลกจริงๆ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะด้อยกว่าข้าแม้แต่น้อย อีกทั้งทักษะที่พวกเขาใช้ ภายในเขตทะเลตะวันออกก็ไม่มีผู้ใดที่สามารถใช้ได้ !!””ดูเหมือนว่า โย่ว หมิงเติง จะคิดถูกที่ไม่เข้าปะทะกับพวกเขา !!”
ชูเฟิง นึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในที่ราบแห่งความหนาวเย็น
ในตอนนั้น โย่ว หมิงเติง หนึ่งในสี่ปราการที่แข็งแกร่งของพรรคมารทลายราตรี ที่มีพลังถึงขั้นราชันย์สงครามระดับสี่ แต่กลับหวาดกลัวต่อผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่งทและระดับสอง จากนิกายพสุธาต้องสาป
โย่ว ตงหาน และคนอื่นๆ ต่างรู้สึกสับสนอย่างมาก พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใด โย่ว หมิงเติง ถึงหลีดเลี่ยงการต่อสู้ในครั้งนั้น
การตัดสินใจของ โย่ว หมิงเติง นั้นนับว่าถูกต้องอย่างมาก ที่ไม่ประมือกับคนของนิกายพสุธาต้องสาป ที่มาจากดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าอายุของพวกเขาจะไม่มาก แต่พลังของพวกเขาก็นับว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตทะเลตะวันออกตอนนี้
ดินแดนสงครามมศักดิ์สิทธิ์นั้นน่ากลัวอย่างมาก “ตอนนี้มาดูกันว่านางจะทำเช่นไร !!”
ในสายตาตกตะลึงของทุกคนนั้น ชูเฟิง ได้หันกลับมามองที่ ทันไท่ เซว่
เพราะ ทันไท่ เซว่ นั้นอ่อนแอกว่า กวง ไป่เหนียน ที่มีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่ง
แต่หลังจากที่ ชูเฟิง ได้เห็นพลังของนางแล้วนั้น เขามั่นใจว่านางขะต้องมีทักษะที่ไม่ธรรมดา และเขายังคิดว่านางมาจากดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
หลังจากการสนทนานั้น ชูเฟิง ก็รู้ว่านางไม่ใช่คนของเขตทะเลตะวันออกอย่างแน่นอน
ดีงนั้น ชูเฟิง จะไม่มั่นใจอย่างมาก ว่านี่ไม่ใช่การประมือกันธรรมดา แต่นี่คือการเผลิญกันระหว่างปิศาจที่มาจากดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์
***** โอ้ววววว *****
โครงกระดูกหลายร้อยตัวของ กวง ไป่เหนียน คำรามออกมาอย่างรุนแรง
หลังจากนั้น พวกมันก็ควงดาบในมือ และพุ่งเข้าหา ทันไท่ เซว่ อย่างรวดเร็ว “ใครกล้าแตะต้องนายข้า !!”
อย่างไรก็ตาม อสูรวิญญาณที่มีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสามก็ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง
นางพุ่งออกไปราวกับแสงเข้าสู่กองทัพของปิศาจโครงกระดูก พร้อมกับควงหอกสองง่ามในมืออย่างรวดเร็ว
หอกสองง่ามถูกวาดผ่านไปยังเหล่ากองทัพปิศาจโครงกระดูกอย่างรวดเร็ว และพวกมันทั้งหมดก็แตกละเอียดในทันที ด้วยพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสามของนาง “ยันต์สลายวิญญาณ !!”
กวง ไป่เหนียน ขมวดคิ้วแน่น ในขณะที่เขามองดูกองทัพของเขากำลังถูกทำลาย เขาสะบัดฝ่ามือพร้อทกับปล่อยยันต์ออกมาอย่างรวดเร็ว
***** ฝุ่บ *****
แววตาของอสูรวิญญาณเป็นประกายกล้า หลังจากเห็นยันต์เหล่านั้น นางเบี่ยงตัวหลบออกไปในทันที และยันต์เหล่านั้นก็ระเบิดขึ้นในตำแหน่งที่นางยืนอยู่ในก่อนหน้านี้
***** ครืนนนน *****
หลังจากที่ระเบิดออกมานั้น มันก็ส่งคลื่นพลังแปลกๆ ออกมา แต่มันไม่มีผลต่อมนุษย์ และดูเหมือนว่ามีเพียงอสูรวิญญาณเท่านั้น ที่ได้รับผลจากมัน
แต่ในครั้งนี้ อสูรวิญญาณได้หลบมันได้ทัน ดังนั้น นางจึงไม่ได้รับผลกระทบจากมัน “ทักษะที่ชั่วร้าย !! ข้าจะให้เจ้าได้รับผลของมัน !!”
นางตวาดออกมาด้วยความไม่พอใจ หลังจากที่นางถูกลอบโจมตีในครั้งก่อน นางคิดว่า กวง ไป่เหนียนจะไม่ใช้ออกมาอีก แต่เขากลับใช้ออกมา มันทำให้นางโกรธอย่างมาก นางพุ่งโจมตีใส่ กวง ไปเหนียน ด้วยหอกสองง่ามในมือของนางอย่างรวดเร็ว “หือ !! เจ้ามีทักษะที่ดี และเหตุผลที่ทำให้เจ้าหญิงผยองได้เช่นนี้ เพียงเพราะเจ้ามีอสูรวิญญาณจากพิภพนางฟ้า ที่มีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสาม เจ้าคิดว่าจะรับมือข้าได้ด้วยสิ่งนี้รึ !!”
กวง ไป่เหนียน หัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน เมื่อเขาเห็นอสูรวิญญาณโจมตีออกมา เขาเรียกประตูวิญญาณออกมาสิบบานพร้อมกัน
เมื่อประตูทั้งสิบบานปรากฏออกมานั้น อสูรวิญญาณจากพิภพปิศาจก็ก้าวออกมา อีกทั้งพวกมันทั้งหมดยังมีพลังถึงขั้นราชันย์สงครามระดับสาม
อย่างไรก็ตาม อสูรวิญญาณจากพิภพปิศาจนั้นอ่อนแอกว่าพิภพนางฟ้า แม้ว่าพวกมันจะมีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสามทั้งสิบตัว แต่พวกมันก็อ่อนแอกว่าอสูรวิญญาณจากพิภพนางฟ้าเพียงตัวเดียว
***** ฝุ่บ *****
อย่างไรก็ตาม กวง ไปเหนียน ไม่ได้ใส่ใจต่อข้อดท็จจริงนี้มากนัก เขาพลิกฝ่ามือพร้อมกับส่งยันต์เข้าไปที่อสูรวิญญาณทั้งสิบตัวของเขา
***** วูบบบบ *****
เมื่อยันต์เข้าปะทะกับร่างของพวกมันนั้น ยันต์ทั้งหมดก็เปล่งแสงขึ้น พร้อมกับผสานเข้ากับร่างกายของพวกมัน ในเวลานั้น ออร่าพลังของพวกมันก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดนั้น พลังของพวกมันแต่ละตัวไม่ได้ด้อยไปกว่าอสูรวิญญาณจากพิภพนางฟ้าแม้แต่น้อย
***** โฮกกกกก *****
หลังจากที่ได้รับการเพิ่มพลังแล้วนั้น อสูรวิญญาณทั้งสิบก็คำรามออกมาอย่างรุนแรง พร้อมกับพุ่งเข้าใส่อสูรวิญญาณจากพิภพนางฟ้าด้วยความมั่นใจ พวกมันทั้งสิบประสานการโจมตีกันอย่างรวดเร็ว “ฮ่าๆ หากเจ้าคิดว่าจะได้เปรียบข้าเพราะอสูรวิญญาณ นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย !!”
กวง ไปเหนียน หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “แข็งแกร่งจริงๆ !! สหาย กวง ไปเหนียน เจ้าทำให้ข้าได้เปิดมุมมองมากจริงๆ !!”
ในขณะนั้น ซาน จิวเซียว รู้สึกชื่นชม กวง ไป่เหนียน อย่างมาก จากความรู้สึกจากหัวใจของเขา
แม้ว่า กวง ไป่เหนียน จะมีพลังเพียงขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่ง และมักจะดูถูก ซาน จิวเซียว แต่ในเวลานี้ อสูรวิญญาณเพียงตัวเดียวของเขา ก็สามารถฆ่า ซาน จิวเซียว ได้อย่างง่ายดาย มันทำให้เขาได้เห็นความแข็งแกร่งของ กวง ไป่เหนียน อย่างชัดเจน “หึหึ !! มันก็แค่วิธีง่ายๆ ที่นิกายของข้าสอนเท่านั้น !!”
กวง ไป่เหนียน ยิ้มหยันออกมา ต่อคำชมของ ซาน จิวเซียว
ทันไท่ เซว่ ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาแม้แต่น้อย แต่ในขณะนั้น พื้นที่รอบๆ กวง ไป่เหนียน และ ซาน จิวเซียว กลับสั่นไหวอย่างรุนแรง
จากนั้นไม่นาน ประตูโลกวิญญาณพลันปรากฏขึ้นมากว่าร้อยบานรอบตัวพวกเขา
หลังจากนั้นก็มีร่างคนก้าวออกมาจากประตูทุกบาน
พวกเขาอสูรวิญญาณพิภพนางฟ้าทั้งหนึ่งรอยคน บนร่างกายของพวกเขาสวมใส่เกราะสีทอง และถือหอกสองง่ามไว้ในมือ พวกเขามีทั้งผู้ชายและผู้หญิง อีกทั้งออร่าพลังของพวกเขายังอยู้ในขั้นราชันย์สงครามระดับสามทั้งหมด “กวง ไป่เหนียน เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ !? ข้าไม่ได้ยินเลย!!”ทันไท่ เซว่ กล่าว
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : แต่อสูรวิญญาณพิภพนางฟ้า ร้อยตน ไหนจะมาสู้กับ อสูรวิญญาณพิภพอสูรฟ้า 1 ตน
B : ต้านต้าน สู้ไม่ได้หรอก พลังวิญญาณนางยังอ่อนอยู่ แต่ถ้านางเข้าสู่อาณาจักรราชันย์เมื่อไหร่ 100 ตัว 1000 ตัว ก็มาโลด
C : เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นล่ะ แต่พี่เฟิงกูยังไม่ค่อยมีบทบาทเลย
A : เด๋วก่อน หลังจากตอนที่ 930 พี่เฟิงก็เริ่มเคลื่อนไหวล่ะ พอจบเล่ม 3 เด๋ว พี่เฟิงกูก็ไปประกาศศักดิ์ดาที่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์