ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 950 – สายลมที่พัดพา
ภายในพระราชวังใต้ดินมีบางอย่างอยู่ภายข้างใน เขาคือชูเฟิง เขาได้ทำการฝึกฝนอยู่เพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามเป้าหมายของเขาไม่ใช่เพื่อเพิ่มความเเข็งเเกร่งของตนเอง เเต่เขาได้ทำการฝึกฝนทักษะดาบของดาบตราประทับผนึกมารอยู่
การบ่มเพาะพลังของเขาตอนนี้สามารถที่จะสร้างรูปแบบการก่อตัวได้อย่างง่ายดายบนฝ่ามือของเขา
ดาบตราประทับผนึกมารเป็นเช่นเดียวกับหอกมังกรเงินเเละขวานอสูรฟ้าที่พวกมันได้ยอมรับชูเฟิงโดยสมบูรณ์ชีวิตของพวกมันกับเขาได้เชื่อมต่อกันความนึกคิดของพวกมันนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของชูเฟิงเขาสามารถที่นำมันออกมาจากร่างกายของเขาหรือเก็บไว้ในร่างกายของเขาได้เมื่อถึงตอนที่เขาจะเรียกใช้เขาเพียงเเค่สั่งการเพียงน้อยนิดเพื่อเรียกใช้งาน
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงสร้างรูปแบบการก่อตัวที่มือข้างขวาตราบใดที่มันเสร็จสมบูรณ์เขาก็สามารถที่จะใช้ออกถึงอำนาจพิเศษของดาบตราประทับผนึกมารเพื่อส่งพลังช่วยเหลือคนจากพรรคมารทลายราตรีได้
ซึ่งหมายความว่าถ้าการก่อตัวของชูเฟิงเสร็จสมบูรณ์เขาสามารถที่จะมอบอำนาจพิเศษเเก่ใครก็ได้ที่เขาอยากจะให้ เขาสามารถมอบให้กับทุกคนจากพรรคมารทลายราตรีได้ในทำนองเดียวกันเขาก็จะสามารถส่งพลังไปให้บางคนหรือคนบางกลุ่มก็ได้เช่นเดียวกัน “คงต้องใช้เวลาอีกสักนิดเพื่อเตรียมความพร้อม”
ในที่สุดหลังจากการเสร็จสิ้นกระบวนการสุดท้ายของการก่อตัวดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอะไรสำคัญเเต่ว่ามีสัญลักษณ์ที่สลับซับซ้อนปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของชูเฟิงมันสังเกตุได้ยากเเละค่อนข้างลึกลับ “ฮ่าๆ ชูเฟิง เจ้าทำได้ไม่เลวเลย! มันเป็นความจริงที่เจ้าค่อนข้างมีความสามารถ ความสามารถของเจ้านั้นชั่งล้ำลึกเสียจริง! รูปแบบมารประทานพรอันนี้ก็เเข็งเเกร่งอย่างมาก” “เมื่อเจ้าเปิดใช้งานมันสามารถที่จะเพิ่มความเเข็งเเกร่งให้กับทุกคนถึงเเม้ว่ามันจะเพิ่มความเเข็งเเกร่งเเต่สำหรับบุคคลธรรมดาก็เป็นเรื่องปกติ เเต่ความสามารถนี้ถ้าใช้ให้กับผู้เชียวชาญระดับ ราชันย์เเห่งสงคราม อย่าง ฉิว ซานเฟิง เเน่นอนว่าเขานั้นสามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดในสงคราม”
ราชินีอย่าง ต้านต้าน ถึงเเม้นางจะเย่อหยิ่งเเต่ก็เห็นได้ว่า นางได้ช่วยสรรเสริญชูเฟิงเมื่อเขานั้นสามารถประสบผลสำเร็จในที่สุด
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานางได้คอยสังเกตุเเละดูการฝึกของชูเฟิงเสมอ นางนั้นไม่คิดว่าชูเฟิงจะทำสำเร็จได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้ เมื่อนางเห็นว่าเขาได้ศึกษารูปแบบมารประทานพร จนสำเร็จได้นางจึงค่อนข้างยิงดีเป็นเพราะว่าความสามารถด้านอำนาจพลังวิญญานของเขานั้นค่อนข้างที่จะเเข็งเเกร่งเเละน่ายกย่อง “เฮ้. . เจ้ารู้ถึงความอัจฉริยะของข้าเเล้วใช่หรือไม่ เช่นนั้นเจ้าจะพิจารณาเรื่องการเเต่งงานระหว่างเราแล้วใช่ไม๊?”
ชูเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เเน่นอน! เจ้าไม่สามารถนึกได้เลยว่าข้านั้นจะฉีกเจ้าออกเป็นสองท่อนยังไงในคืนวันเเต่งงานของเรา เเน่นอนว่าถ้าเจ้าไม่เชื่อเจ้าจะลองดูก็ได้”
ต้านต้านกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่สองมือของนางได้อยู่อยู่บนเอวของนาง “เอ๋….”
ชูเฟิงรู้ดีว่านางพูดเพื่อจงใจเเกล้งเขา เขารู้ดีว่านางจะไม่ทำอย่างนั้นเเน่นอน
*ทึ่มม*
ในช่วงเวลาเดียวกันชูเฟิงได้สังเกตุเห็นการสั่นไหวของรูปแบบอำนาจวิญญานทางเข้าเล็กน้อยหมายความว่ากำลังมีใครบางคนจะเข้ามาพบเขาในตอนนี้
ชูเฟิงรีบเปิดประตูเเละในทันทีพลันปรากฏภาพบุคคลที่คุ้นเคยพวกเขาคือ ซวน เซี่ยวจาว, โย่ว ตงหาน เเละ ฟู่ เฟิงหมิง “พวกเราขอคำนับท่านประมุขพรรค”
ทั้งสามคนยิ้มออกมาก่อนที่จะเริ่มโค้งคำนับเพื่อความเคารพ
มันก็ไม่ได้เป็นครั้งเเรกที่พวกเขามาเพื่อดูชูเขาชูเฟิงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาถึงเเม้ชูเฟิงจะได้เเนะนำพวกเขาไว้ว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องเรียกเขาว่า ประมุขพรรค ก็ได้ เเต่ว่าพวกเขาก็ยังคงเรียกว่าประมุขพรรคอย่างไม่สนใจชูเฟิงเป็นเพราะว่าพวกเขาเต็มใจที่เรียกขานเช่นนั้น
ถึงเเม้เขาจะไม่อยากให้เรียกขานเช่นนั้นเเต่เขาก็ไม่รู้จะทำเช่นไร ดังนั้นชูเฟิงจึงปล่อยให้พวกเขาเรียกขานยังไงก็ได้เเล้วเเต่พวกเขาเลย ถึงยังไงพวกเขาทั้ง 3 ก็ยังคงเป็นพี่น้องของเขาชูเฟิงอยู่ดี
ชูเฟิงที่ที่เสร็จสิ้นจากการสร้างรูปแบบนั้น เขาก็ย่อมรู้สึกมีความสุขโดยธรรมชาติหลังจากที่เห็นหน้าทั้ง3คนเขารีบกล่าวอกมาว่า”
ท่านพี่ทั้งหลายช่วยยืนนิ่งๆสักครู่!”
ชูเฟิงรีบปิดประตูเเละบอกให้พวกเขายืนนิ่งๆโดยที่ไม่ปล่อยให้พวกเขาพูดอะไรก่อนที่ฝามือของเขาจะส่องเเสงและดาบตราประทับผนึกมารก็ปรากฏออกมาในมือขวาของเขา
เมื่อดาบปรากฏขึ้นมาออร่าที่ส่องเเสงนั้นไม่ได้ลดลงเเม้เเต่น้อยมันยังคงเปร่งเเสงเช่นเดิมเเละส่งคลื่นพลังพัดผ่านไปยัง ซวน เซี่ยวจาว เเละคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว สายตาของพวกเขาค่อยๆสว่างมากขึ้นเเละการเเสดงออกของพวกเขาค่อนข้างประหลาดใจอย่างมาก “พระเจ้า! ท่านประมุขท่านสามารถทำสำเร็จเเล้ว? ท่านใช้งานเเละสามารถถ่ายโอนพลังจากรูปแบบมารประทานพรได้?”
พวกเขาล้วนเเต่อุทานออกมาด้วยความตกใจพวกเขารู้สึกว่าอำนาจพลังของพวกเขาเเข็งเเกร่งขึ้นเเละมีอำนาจมากกว่าเดิม
มันหมายความว่าชูเฟิงได้ประสบความสำเร็จอย่างเเท้จริงเขาไม่เพียงเเต่สามารถใช้ดาบตราประทับผนึกมารได้เเต่เขายังสามารถใช้ออกด้วยเทคนิคพิเศษของมันได้อีก “หึ ดูเหมือนว่าข้าสามารถที่จะเปิดใช้งานมันได้เเล้วจริงๆ”
ชูเฟิงยิ้มเเละพยักหน้าตอบ “ฮ่าๆ นี่มันชั่งประเสริฐจริงๆ ท่านประมุขท่านช่างยอดเยี่ยม ถึงเเม้จะเป็นท่านอดีตประมุขพรรคในอดีตเขาก็พยายามที่จะเปิดการใช้งานมัน เเต่เขาก็ยังไม่สามารถที่จะเปิดใช้งานมันได้” “ข้าไม่คิดเลยว่า เเม้เเต่ท่านประมุขพรรคคนก่อนที่ไม่สามารถที่จะทำสำเร็จได้ เเต่ท่านสามารถที่จะทำสำเร็จได้มันชั่งยอดเยี่ยมจริงๆ”
โย่ว ตงหาน หัวเราะออกมาเขารู้สึกมีความสุขอย่างมากจากก้นบึ้งหัวใจเขา “ใช่เเล้ว ด้วยเทคนิคพิเศษนี้พวกเราสามารถที่จะต่อกรกับหมู่เกาะประหารได้อย่างเต็มกำลังเเละโอกาสสำหรับชัยชนะของพวกเราล้วนเพิ่มขึ้นอย่างมาก!”
เเม้เเต่ ฟู่ เฟิงหมิง ก็พยักหน้าตอบด้วยความตื่นเต้น
ชูเฟิงเข้าใจดีว่าพวกเขารู้สึกเช่นไรยามนี้ถึงเเม้จะเป็นตัวเขาเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกัน?
ตอนนี้เขาเป็นประมุขพรรคของพรรคมารทลายราตรีดังนั้นมันจะเป็นการดีถ้าเขาสามารถที่จะช่วยให้คนของเขาสามารถเเข็งเเกร่งมากขึ้นเเม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม “ใช่เเล้ว ท่านพี่ทั้งหลาย พวกท่านดูไม่ค่อยปกตินะวันนี้ ? การเตรียมการของพวกเราเสร็จสิ้นไปด้วยดีใช่หรือไม่?”
ชูเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม
ถึงเเม้ว่า ซวน เซี่ยวจาวเเละคนอื่นๆ จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชูเฟิง เเต่ว่าหลายวันมานี้พวกเขาก็ไม่ได้เขาเยี่ยมชูเฟิงเลย พวกเขานั้นไม่คิดเลยว่าชูเฟิงนั้นจะสามารถดูออกได้ว่าทำไมพวกเขาถึงดูผิดเเปลกวันนี้
เป็นเพราะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ชูเฟิงได้ศึกษารูปแบบมารประทานพรอย่างโดดเดี่ยวเเละใจจดใจจ่อ ดังนั้นเรื่องวางเเผนเเละงานทั้งหมดที่เขาต้องทำจึง เป็น ฉิว ซานเฟิง ที่ต้องรับภาระ
อย่างไรก็ตาม ฉิว ซานเฟิง เป็นปราการที่เเข็งเเกร่งเเละยอดเยี่ยมของพรรคมารทลายราตรี เขาสามารถที่จะจัดการคนทุกคนเเละสั่งการโดยไม่มีปัญหาใดๆ นอกจากนี้เขายังได้ทำการวางเเผนเพื่อต่อกรกับหมู่เกาะประหารอีกด้วย “อืม ภายใต้การสั่งการของ ผู้อาวุโส ฉิว ซานเฟิง ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมไว้เเล้วเหลือเพียงเเค่คำสั่งการเท่านั้นตอนนี้กองกำลังของพรรคมารทลายราตรีกว่า10ล้านคนได้เตรียมที่จะมุ่งหน้าออกรบเพื่อชัยชนะทุกเวลา เเต่ว่า..” “เเต่ว่า …. พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะรายงานเรื่องนี้ สิ่งที่พวกเราจะรายงานท่านคือ เราได้มีเเขกคนสำคัญมาเยือนตอนนี้”
ซวน เซี่ยวจาว กล่าว “เเขกคนสำคัญ”
ชูเฟิงผงะเล็กน้อย “เขาคือ นิรันดร์ที่1 ของหมู่เกาะประหาร”
ซวนเซี่ยวจาวพูดด้วยเสียงต่ำเล็กน้อย “ไปกันเถอะ”
ตาของชูเฟิงสว่างเป็นประกายเมื่อเขารู้ว่าบุคคลที่มาเยือนคือ นิรันดร์ที่ 1 ความประหลาดใจประกฏขึ้นในดวงตาของเขา เขาไม่รีรอรีบเปิดประตูพระราชวังเพื่อออกไปในทันที
ตอนนี้ทุกสิ่งได้ถูกเตรียมไว้พร้อมเเล้ว พวกเขาเหลือเพียงเเค่สายลมที่คอยนำพาพวกเขาเพียงเท่านั้น
เมื่อพวกเขามาถึง ปรากฏว่า นิรันดร์ที่ 1ได้รอพวกเขาอยู่ก่อนเเล้ว
P’Film