บทที่ 838 – จักรพรรดิสังหารหมู่
 
 
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็รับคำตอบบางอย่างท่านหญิง เพียวเมี้ยว ที่มีการบ่มเพาะพลังเพียงขั้นราชันย์สงคราม แต่กลับมาอายุยืนยาวมากว่าพันปีนั้น มันก็ชัดเจนแล้วว่า นางนั้นใช้พลังพิเศษของหุบเขาสายหมอกทำให้นางมีอายุที่ยืนยาว 
 
 
 
นอกจากการบ่มเพาะพลังของนางเองที่ทำให้มีอายุยืนยาว นางขะต้องพึงพาพลังภายนอกเพื่อให้มีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ 
 
 
 
ดังนั้น เมื่อท่านหญิง เพียวเมี้ยว สามารถทำได้ แล้วเหตุใดผู้เชี่ยวชาญสูงสุดจากยุคดึกดำบรรพ์จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้ได้เช่นกัน “หึ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญเช่นนั้นรอดมาได้หรือไม่ แต่ข้าคิดว่า หากพวกเขารอดมาได้มันจะดีกว่าที่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเองออกมาไม่เช่นนั้น โลกนี้จะต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน !!”
 
 
 
ต้านต้าน กล่าว พลางยิ้มบางๆ ออกมา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโหยหา 
 
 
 
จากนั้นนางก็กล่าวออกมาอีกว่า”
 
 
 
รีบตรวจสอบต่อเถอะ ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ถูกซ่อนอยู่ที่นี่แน่ๆ !!””อืม”
 
 
 
ชูเฟิง พยักหน้ารับ เขาไม่ลังเลอีกต่อไปเขากระโจนขึ้นไปในอากาศ และบินข้ามมหาสมุทรโครงกระดูกออกไป 
 
 
 
ในขณะนั้น ชูเฟิง ได้พบกับโครงกระดูกของผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิอีกมาก และพวกเขาต่างตายด้วยวิธีเดียวกันทั้งหมด มันยิ่งทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง 
 
 
 
ในสายตาของเขานั้น เขาได้เห็นเหล่าโครงกระดูกของผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิจำนวนมากพวกเขาล้วนถูกสังหารด้วยวิธีเดียวกัน และมีแนวโน้มว่าพวกเขาตายด้วยฝีมือของคนคนเดียวกัน “นั่นมันอะไร !?”
 
 
 
เมื่อบินข้ามมหาสมุทรโครงกระดูกมานั้น ชูเฟิง ก็สังเกตเห็นพระรางวังสีดำอยู่ที่ปลายเส้นทางของเขา 
 
 
 
พระราชวังหลังนั้นเป็นสีดำสนิทคล้ายกับสีหมึก รูปร่างของมันคล้ายกับดาบที่ฝังลึกลงไปใต้ดิน มันทำให้ผู้พบเห็นต่างหวาดกลัวจากอำนาจพลังที่มันส่งออกมา “ฮ่าๆ ในที่สุดก็มาจนถึงจุดหมาย !! ชูเฟิง ดูนั่น !! นี่คือจุดสิ้นสุดของหอคอยอสูรฟ้า !! และพระราชวังสีดำนั่นก็คือเป้าหมายของพวกเรา!!”
 
 
 
ต้านต้าน ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นยินดี “ถูกต้อง !! พวกเรามาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว !!”
 
 
 
ชูเฟิง จ้องมองออกไป เขาพบว่ามันมีรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณปิดกั้นเส้นทางระหว่างเขาและพระราชวังสีดำเอาไว้ ซึ่งหมายความว่านี่คือจุดสิ้นสุด และพระราชวังสีดำก็คือส่วนที่สำคัญที่สุด 
 
 
 
ชูเฟิง แผ่อำนาจพลังวิญญาณของเขาออกไปแต่เขาก็ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้แม้แต่น้อย ราวกับว่าพระราชวังสีดำนั้นสามารถป้องกันได้ทึกๆ อย่าง หากเขาต้องการจะตรวจสอบสิ่งที่อยู่ภายใน เขาจะต้องเข้าไปในนั้นเอง 
 
 
 
หลังจากลงมาบนพื้นดินแล้วนั้น ชูเฟิง ก็พบว่าพระราชวังนั้นมีขนาดใหญ่อย่างมาก บนเส้นทางเดินถูกปูไว้ด้วยผลึกสีดำ อีกทั้งด้านข้างยังมีรูปปั้นของทหารที่ถือดาบขนาดใหญ่เอาไว้อยู่ 
 
 
 
พวกเขาสวมชุดเกราะ และถืออาวุธแบบเดียวกันทั้งหมด แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือใบหน้าของพวกเขา อีกทั้งร่างกายของพวกเขายังสูงใหญ่อย่างมาก ราวกับทหารชั้นยอดที่เฝ้าปกป้องราชาของผู้ครองพระราชวังหลังนี้ 
 
 
 
ในขณะที่อยู่บนเส้นทางเดินนั้น ชูเฟิง รู้สึกได้ถึงออร่าพลังของผู้ครองพระราชวังหลังนี้ แม้ว่าพระราชวังหลังนี้จะมีสีดำสนิท แต่มันไม่ได้ถูกสร้างมาจากวัสดุชนิดเดียวกันทั้งหมด และแม้ว่ามันจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่มันกลับให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ออกมา 
 
 
 
ในขณะที่เขาก้าวเดินมาจนสุดเส้นทางเดินนั้นเขาก็มาถึงประตูทางเข้าของพระราชวัง ประตูบานนั้นสูงกว่าสามสิบเมตร ที่กลางประตูมีสัญลักษณ์บางอย่างอยู่ แต่ ชูเฟิง ก็ไม่สามารถตรวจสอบมันได้ แต่เขาก็สามารถให้คำนิยามของมันได้ ด้วยคำว่า”
 
 
 
ยิ่งใหญ่”
 
 
 
ทั้งสองข้างของประตูมีข้อความที่ถูกสลักเอาไว้คู่กัน 
 
 
 
ที่ด้านขวานั้นถูกสลักเอาไว้ว่า”
 
 
 
สิ่งใดคือจุดหมายของการออกเดินทาง !! มีข้าเพียงลำพังที่สังหารเหล่าสัตว์ยักษ์ !!”
 
 
 
ที่ด้านซ้ายถูกสลักเอาไว้ว่า”
 
 
 
ในโลก หรือสวรรค์ ผู้ใfคือผู้ปกครอง !! ข้าสามารถสังหารได้ทั้งสิ้น !!”
 
 
 
ตรงกลางด้านบนถูกสลักเอาไว้ว่า”
 
 
 
จักรพรรดิสังหารหมู่ !!””จักรพรรดิสังหารหมู่ !! นี่คงจะเป็นผู้ครองพระราชวังหลังนี้ใช่ไหม !?”
 
 
 
เมื่อเห็นข้อความที่ถูกสลักเอาไว้นั้น ชูเฟิง ก็เบิกตากว้าง จากข้อความที่ถูกสลักเอาไว้นั้น ชูเฟิง สามารถบอกได้ทันทีว่า ผู้ที่เขียนนั้นจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งอยากมาก เพราะในข้อความล้วนบ่งบอกถึงความหยิ่งผยอง ที่ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดทั้งสิ้น และบุคคลที่จะมีความสามารถมากถึงขนาดนั้ยในที่นี่ ก็มีเพียงผู้ที่สร้างหอคอยอสูรฟ้าเท่านั้น “ชูเฟิง รีบเข้าไปเถอะ !! ที่นี่จะต้องมีสมบัติซ่อนอยู่แน่ !! แต่เจ้าต้องระวังให้มาก !! นอกจากว่าเจ้าของที่นี่จะใจกว้างให้เจ้าเข้าไปง่ายๆ !!”
 
 
 
ต้านต้านทกล่าวเตือนอย่างจริงจัง “อืม”
 
 
 
ชูเฟิง พยักหน้ารับ พร้อมกับผลักประตูบานใหญ่นั้น หลังจากเกิดเสียงดังก้องสะท้อนออกไป ประตูก็ถูกเปิดอย่างสมบูรณ์ 
 
 
 
หลังจากเปิดประตูแล้วนั้น ชูเฟิง ก็พบว่าภายในนั้นกว้างอย่างมาก มันถูกตกแต่งอย่างสวยงาม และละเอียดอ่อน แต่ทุกอย่างก็เป็นเช่นภายนอก เพราะทุกสิ่งล้วนแต่เป็นสีดำทั้งสิ้น 
 
 
 
เมื่อ ชูเฟิง ก้าวเดินเข้ามานั้น เขาก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อย แม้ว่ามันอาจจะไม่มีสมบัติที่ถูกซ่อนเอาไว้อยู่ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ 
 
 
 
แม้ว่าพระราชวังจะมีขนาดใหญ่ แต่มันย่อมมีจุดสิ้นสึด เมื่อ ชูเฟิง เดินเข้าไปเรื่อยๆ นั้น ก็มีแสงสาดส่องออกมาที่ด้านหน้าของเขา มันคือเตาไฟปลอม และที่ด้านหน้าของเตานั้นก็มีสัญลักษณ์บางอย่างอยู่ 
 
 
 
มันถูกสลักข้อความเอาไว้เช่นเดียวกับที่ประตูด้านหน้า บนเตานั่นถูกสลักเอาไว้ว่า “เตาพลังวิญญาณ รอคอยผู้เหมาะสม !!””หากไม่ใช่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณไม่สามารถใช้ได้ !!””เตาไฟมายานี่คืออะไร !?”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวถามด้วยความสับสน 
 
 
 
ต้านต้าน จ้องมองไปยังมันอย่างระมัดระวังหลังจากนั้นไม่นาน นางก็กล่าวออกมาว่า”
 
 
 
ข้าไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด แต่ดูจากรูปแบบของมันแล้วข้าคิดว่าผู้ที่สร้างมันขึ้นมาน่าจะเป็นผู้ที่สร้างหอคอยอสูรฟ้าแห่งนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งดีหรือร้าย หรืออาจจะเป็นกับดัก ทางเดียวที่จะรู้ได้คือใช้อำนาจพลังวิญญาณของเจ้าตรวจสอบมัน !!”
 
 
 
แต่ ชูเฟิง กลับส่ายศรีษะ หลังจากที่ยินคำกล่าวของ ต้านต้าน จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาว่า”
 
 
 
ข้าไม่สามารถตรวจสอบมันได้ ที่ด้านหน้าของเตานี้มีรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณอยู่ทำให้ข้าไม่สามารถตรวจสอบมันได้ !!””แต่ข้าว่ามันจะต้องมีวิธีใช้มันอยู่แน่นอนเพราะเจ้าของที่นี่ย่อมเป็นที่แข็งแกร่งอย่างมากเขาคงจะไม่วางกับดักอะไรเช่นนี้เอาไว้””ด้วยความแข็งแกร่งของเขานั้น เขาสามารถฆ่าสัตว์ยักษ์พวกนั้นได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งเขายังสร้างหอคอยอสูรฟ้าแห่งนี้เอาไว้อย่างละเอียด เพื่อค้นหาผู้ที่สามารถเข้ามาถึงสถานที่แห่งนี้ได้ !!””ข้าคิดว่านี้ย่อมเป็นโอกาสที่หาได้ยาก และมันต้องยากอย่างมาก ที่จะได้รับโอกาสเช่นนี้!!”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวอย่างมั่นคง 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
B : สมบัติที่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณไม่ว่าใครก็ต่างอยากได้ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ใช้มันได้อีกทั้งยังต้องฝ่ากับดักกลไก กว่าจะได้ใช้งาน พี่เฟิงจะสามารถใช้มันเพิ่มพูนอำนาจพลังวิญญาณให้เป็น สีทอง ได้หรือไม่ต้องมารอติดตาม