บทที่ 846 – เขาคือ ชูเฟิง
 
 
 
“นั่นใคร !?”
 
 
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนจากนิกายดาบศิลาต่างตกตะลึง เมื่อพงกเขาหันกลับไปมอง พวกเขาก็พบกับชายหนุ่มผู้หนึ่ง ที่เฉียบคมราวกับอาวุธ และมีพลังขั้นจ้าวสงครามระดับสาม อีกทั้งบรรยากาศรอบตัวของเขายังเต็มไปด้วยความกระหายเลือดอย่างรุนแรง “ผสานค่ายกลดาบ โจมตี !!”
 
 
 
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเช่นนั้น ผู้เชี่ยวชาญของนิกายดาบศิลารีบตั้งค่ายกลอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาไม่ได้โจมตีเหล่าพี่น้องของผู้เฒ่าเก้านิ้วแต่อย่างใด พวกเขากลับเข้าโจมตี ชูเฟิง 
 
 
 
***** ฝุ่บ ฝุ่บ ฝุ่บ ***** 
 
 
 
พลังโจมตีจากดาบศิลาทั้งร้อยเล่มนั้น แข็งแกร่งและรุนแรงมากกว่าครั้งก่อนๆ ที่พวกเขาโจมตีผู้เฒ่าเก้านิ้วอย่างมาก 
 
 
 
***** ตูมมมมม ***** 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ ชูเฟิง สะบัดฝ่ามือของเขา พลังโจมตีที่รุนแรงทั้งหมดก็แตกกระจายหายไปในอากาศ 
 
 
 
ไม่ใช่เพียงแค่พลังโจมตีเท่านั้น แต่ดาบศิลาในมือพวกเขาก็ถูกทำลายลงในพริบตา 
 
 
 
ผู้เชี่ยวชาญของนิกายดาบศิลาที่มีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งนั้น พวกเขาต่างกระอักเลือดออกมา และทรุดลงไปกองกับพื้น ส่วนคนอื่นๆ ที่มีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอนั้น พวกเขาต่างตายลงทั้งหมด “สวรรค์ !! เขาเป็นใครกัน !? เพียงการโจมตีครั้งเดียวของเขา กลับทำลายค่ายกลของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของนิกายดาบศิลาได้เช่นนี้ !!”
 
 
 
ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมาก เพราะตั้งแต่แรกนั้น พวกเขาได้เฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างผู้เฒ่าเก้านิ้ว กับผู้นำนิกายดาบศิลาอย่างยาวนาน แต่ในเวลานี้ ทุกๆ สายตาต่างจ้องมองมาที่ ชูเฟิง อย่างชัดเจน 
 
 
 
ในความเป็นจริงนั้น การต่อสู้ที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝั่งต่างเดิมพันด้วยความตาย แต่ในตอนนี้ ผู้นำนิกายต้องเห็นเหล่าผู้อาวุโสบาดเจ็บสาหัส และเหล่าศิษย์ล้มตายเป็นจำนวนมาก มันทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปอย่างรวดเร็ว “เจ้าเป็นใคร !? มีความแค้นใดต่อนิกายดาบศิลาของข้า ถึงได้โจมตีพวกข้าเช่นนี้ !?”
 
 
 
ผู้นำนิกายดาบศิลาตะโกนออกมาด้วยความกราดเกรี้ยว 
 
 
 
เหล่าผู้คนที่เข้าโจมตี ชูเฟิง นั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโส หรือศิษย์ ต่างบาดเจ็บสาหัส และตายไปจำนวนมาก ด้วยการโจมตีของ ชูเฟิง เมื่อเห็นเช่นนั้น มันจึงทำให้ผู้นำนิกายดาบศิลาโกรธแค้น 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นความแข็งแกร่ง และอายุของ ชูเฟิง นั้น เขาก็รุ้ได้ทันทีว่า ชูเฟิง จะต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ดังนั้น เขาจึงไม่ได้โจมตี ชูเฟิง ออกไปในทันที แต่กลับกล่าวถามออกมาแทน 
 
 
 
เขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่อยากจะถามคำถามนี้ เพราะในตอนนี้ ทุกๆ คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างอย่าจะถามออกมาทั้งสิ้น เมื่อพวกเขาเห็นความแข็งแกร่งของ ชูเฟิง “ฮึ่ม !!”
 
 
 
ชูเฟิง สูดหายใจอย่างเย็นชา เขาไม่ได้กล่าวตอบออกไปในทันที เขาเพียงแขนขึ้นมาปิดบังใบหน้า และเมื่อเขาลดแขนลงไปนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับที่เขากล่าวออกมาว่า”
 
 
 
เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร !?””สวรรค์ !! นั่นมันเขา !!”
 
 
 
เมื่อเห็นใบหน้าของ ชูเฟิง นั้น ใบหน้าของพวกเขาต่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง 
 
 
 
ในตอนนี้นั้น ทั่วทั้งเขตทะเลตะวันออกต่างเต็มไปด้วยประกาศจับ ชูเฟิง เต็มไปแทบทุกที่ จึงทำให้ชื่อเสียงของเขาแพร่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ว ผู้คนจำนวนมากต่างต้องการพบเห็นอัจฉริยะที่โดดเด่นเช่นเขา 
 
 
 
มันจึงทำให้ทุกคนในเขตทะเลตะวันออกต่างรู้รูปลักษณ์ของเขา และในตอนนี้ เมื่อ ชูเฟิง เผยใบหน้าที่แท้จริงของเขาออกมา มันจึงทำให้ทุกคนจำเขาได้ “เจ้า…..เจ้าคือ ชูเฟิง !!”
 
 
 
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้นำนิกายดาบศิลาขมวดคิ้วแน่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลอย่างชัดเจน 
 
 
 
ข่าวลือเกี่ยวกับ ชูเฟิง ได้แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งเขตทะเลตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องที่เกิดขึ้นในหุบเขาดอกไม้ ภายในตระกูลจื่อ 
 
 
 
พวกเขาต่างได้ยินมาว่า ไม่เพียง ชูเฟิง จะสังหารผู้นำตระกูลจื่อ แต่เขายังสามารถสังหารสองผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามระดับเจ็ด ของหมู่เกาะประลงได้ 
 
 
 
ถ้าหากข่าวลือนั้นเป็นจริง ผู้นำนิกายดาบศิลาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามระดับเจ็ด จะต้องพบกับหายนะอย่างแน่นอน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่วิตกเช่นนี้ “เมื่อเจ้ารู้ว่าข้าคือใคร ก็คงไม่ต้องถามว่าทำไม !!”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวออกมาเสียงดัง”
 
 
 
นิกายดาบศิลาเล็กๆ ของเจ้าช่างโง่เง่ายิ่งนัก !! ที่กล้าโจมตีพรรคมารทลายราตรีของข้า !! เจ้าไม่รู้หรือว่า การทำเช่นนี้ มันจะนำหายนะมาสู่นิกายของเจ้า !!”
 
 
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของผู้นำนิดายดาบศิลายิ่งบิดเบี้ยว และแววตาของเขาก็ยิ่งแสดงออกถึงความกังวงอย่างชัดเจน แต่เพียงแค่ไม่นานนัก เขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ตั้งแต่แรกที่ข้าโจมตีผู้เฒ่าเก้านิ้ว ข้าก็รู้แล้วว่า ในอนาคตพวกข้าจะต้องเป็นศัตรูกับพรรคมารทลายราตรี และคาดไว้แล้วว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะต้องเกิดขึ้น !!””หากผู้เชี่ยวชาญของพรรคมารทลายราตรีมาทั้งหมดล่ะก็ ข้าคงทำอะไม่ได้ แต่เจ้า……เจ้ามันก็เพียงเด็กเหลือขอ…..ข้าไม่รู้สึกกลัวเจ้าแม้แต่นิดเดียว !!””ตอนนี้ คนอื่นๆ ได้พูดถึงเจ้าราวกับเป็นพระเจ้า แต่ข้าไม่เชื่อหรอกว่า เจ้าจะสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า ด้วยพลังขั้นจ้าวสงครามระดับสามเช่นนี้ !!””ผุ้อาวุโส ข้ายกเด็กคนนี้ให้ท่านจัดการ แสดงให้โลกรู้ว่า ผู้ที่ได้ชื่อว่าอัจฉริยะนั้นอ่อนแอเพียงใด !!””และนิกายดาบศิลา จะเป็นผู้ทำลายตำนานนี้ !!”
 
 
 
***** วูบบบบบ ***** 
 
 
 
หลังจากสิ้นเสียงของผู้นำนิกายดาบศิลานั้น ทั้งฟ้าพลันสั่นสะเทือน ออร่าพลังขั้นจ้าวสงครามระดับหกแพร่กระจายออกมาอย่างรุนแรง และจุดศูนย์กลางของออร่าพลังนั้นก็มี ชายชราหกคนอยู่ 
 
 
 
ชายชราเหล่านี้มีผมขาวโพลนทั้งศรีษะ ใบหน้าของพวกเขาราวกับกระดูก ด้วยรูปลึกษณ์ที่น่าเกลียดเช่นนี้ มันทำให้ไม่สามารถคาดเดาอายุของพวกเขาได้ แต่ออร่าพลังของเขานั้นเป็นขั้นจ้าวสงครามระดับหกอย่างแน่นอน แต่ว่ามันแข็งแกร่งกว่าออร่าพลังของผู้นำตระกูลจื่ออย่างชัดเจน “พวกเขาคือเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายดาบศิลา !! พวกเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด และปลีกตัวออกไปเพื่อบ่มเพาะพลัง แต่ในวันนี้ พวกเขากลับออกมาปรากฏตัวที่นี่ !!”
 
 
 
เมื่อเห็นเช่นนั้น เหล่าผู้คนต่างตะโกนออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อพวกเขาเห็นการปรากฏตัวของหกผู้เชี่ยวชาญชรา “พวกเขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายดาบศิลาจริงๆ !! ในด้านความอาวุโส พวกเขาอาวุโสกว่าผู้นำนิกายอย่างมาก แต่ในด้านการบ่มเพาะพลัง พวกเขาก็ด้อยกว่าผู้นำนิกายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น !! ชูเฟิง ที่ไม่เห็นผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามระดับเจ็ดอยู่ในสายตา แล้วปิศาจเฒ่าทั้งหกนี่จะเอาชนะเขาได้หรือ !!”
 
 
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อชายชราทั้งหกคนปรากฏตัวออกมานั้น เหล่าผู้คนต่างสงสัยว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะ ชูเฟิง ได้หรือไม่ 
 
 
 
ในความเป็นจริงนั้น แม้ว่าผู้คนรอบข้างจะสงสัย แต่ผู้นำนิกายดาบศิลากลับมั่นใจอย่างมาก แม้ว่าการโจมตีของ ชูเฟิง จะรุนแรง แต่เขากลับไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่นัก และเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามันคือพลังขั้นจ้าวสงครามระดับสาม 
 
 
 
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างได้เกิดขึ้นไปแล้ว เขาได้โจมตีผู้เฒ่าเก้านิ้วไปแล้ว หากพวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาจะได้รับรางวัลอย่างงาม และจะสามารถย้ายฐานกำลังของตัวเองไปยังหมู่เกาะประหารได้ เมื่ออยู่ที่นั่น พวกเขาจะได้รับความคุ้มครอง และทรัพยากรการบ่มเพาะพลังอย่างดี อาจกล่าวได้ว่า พวกเขาเหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะก้าวเข้าสู่สรวงสวรรค์ 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาล้มเหลว ชูเฟิง ย่อมไม่ปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน และสิ่งเดียวที่รอพวกเขาอยู่นั้น ก็คือ ความตาย 
 
 
 
ดังนั้น ในเมื่อเขาอาจจะตาย ทำไมเขาจึงไม่ลองพยายามดูก่อน แต่ด้วยความที่เขายังคงต้องเฝ้าระวังผู้เฒ่าเก้านิ้ว เขาจึงไม่อาจต่อสู้กับ ชูเฟิง ได้ เขาจึงเรียกใช้ผู้เชี่ยวชาญชราทั้งหกคน และเพื่อเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของ ชูเฟิง อีกทางหนึ่ง 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
A : ตกใจหมด นึกว่าหมู่เกาะจะมาโจมตีซะอีก!!! 
 
 
 
B : มืงสปอย มั่วๆแบบนั้นระวังเถอะจะโดนส้น . . . . 
 
 
 
C : หมู่เกาะมันวางแผนไว้แล้ว ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน ?! 
 
 
 
A : ช่ายๆ ไม่ได้สปอยสักหน่อย ก็แค่คาดเดา