บทที่ 960 – พลังของทันไท่ เซว่
 
 
 
“เจียง ฉีซา เจ้ามันเป็นคนดีจริงๆ! ที่เอาคนรักของผู้อื่น และทำสิ่งที่ต่ำทรามกว่าสัตว์เดรัจฉาน เจ้าคงภูมิใจมากสินะ!”
 
 
 
หลังจากที่ เจียง ฉีซา พูด อากาศโดยรอบก็สั่นสะเทือน และในเวลาเดียวกัน ก็มีคนชุดยาวสีขาวพร้อมกับปิดผ้าคลุมศีรษะปรากฏต่อสายตา และคนๆนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจาก ทันไท่ เซว่ 
 
 
 
ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อได้เห็นนาง ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่สามารถมองเห็นหน้าตาของนาง แต่พวกเขาก็บอกได้ว่า นางเป็นหญิงสาว 
 
 
 
นำซ้ำนางยังอยู่ใน ระดับ 3 ราชันย์แห่งสงคราม นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คนในทะเลตะวันออกจะทำได้ เพราะในที่แห่งนี้ไม่มีใครเข้าสู่ระดับนี้ได้ด้วยวัยนี้ พวกเขาจึงรู้ว่านางคือ ทันไท่ เซว่ ที่มาจากดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ “ระดับ 3 ราชันย์แห่งสงคราม ไม่เลวๆ แต่ดูเหมือนว่าจะรีบร้อนไปหน่อย ไม่เช่นนั้น หากเจ้าได้เวลาอีกหน่อย เจ้าคงจะเข้าสู่ระดับ 4 ราชันย์แห่งสงคราม ใช่หรือเปล่า ?!””สิ่งที่ทำให้เจ้าร้อนใจ ก็คงเป็นเพราะว่าเจ้า ต้องการรีบมาช่วย จื่อหลิง ใช่ไม๊ ?! นี้คงเป็นเหตุผลที่เจ้ามาถึงแค่ระดับ 3 ราชันย์แห่งสงคราม”
 
 
 
เจียง ฉีซา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แค่นี้ก็เพียงพอที่จะจัดการกับเจ้า!”
 
 
 
เสียงของทันไท่ เซว่ ดูเย็นชา และยังเต็มไปด้วยการดูแคลน “ทันไท้่ เซว่ อะไรทำให้เจ้าคิดว่า ควรทำตัวหยิ่งยโส ? เจ้าลืมไปแล้วหรอ ว่าทำไมเจ้าถึงมาที่ทะเลตะวันออกนี่หากเจ้าไม่มีไรต้องกังวล ข้าจะบอกเจ้าอีกครั้งก็ได้ ว่ายัยแม่มดที่แสนน่าอับอายของดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ถูกบังคับให้หนีหัวซุกหัวซุน โดยพวกเราสี่พี่น้อง! หรือเจ้าจะบอกว่าเจ้ามานี่เพราะความบังเอิญ!” จ้าว เยว่เทียน ที่อยู่ข้างๆ เจียง ฉีซา ก็ตะโกนออกมา “นั้นเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับพวกเจ้าแล้วสินะ ผู้ชายสี่คนไล่ตามล่าผู้หญิงตัวเล้กๆอย่างข้า อีกทั้งพวกเจ้าทั้ง 4 ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญราชันย์แห่งสงครามกับไล่ตามข้าที่อยู่ในระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม นำซ้ำพวกเจ้ายังจับข้าไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ! เจ้าลองบอกสิว่า สี่อัจฉริยะแห่งนิกายสาปพสุธา เป็นสวะไร้ค่าหรือเปล่า ?!”
 
 
 
ทันไท่ เซว่ แสยะยิ้ม “เจ้า . . . ..”
 
 
 
จ้าว เยว่เทียน ถึงกับอึ้ง เมื่อได้ยินคำเยาะเย้ยของ ทันไท่ เซว่ เพราะที่นางพูดมาล้วนแต่เป็นความจริง ทั้งสีคนพวกเขาไล่ตาม ทันไท่ เซว่ แต่พวกเขาก็คว้าน้ำเหลว หากบอกกับทุกคนคงไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจนัก 
 
 
 
* พรึบ * ทันใดนั้น นางก็พลิกฝ่ามือของนาง และกรงวิเศษก็ปรากฏออกมา เมื่อนางสะบัดมันเบาๆ กวง ไป๋เหนียน ก็ส่งเสียงร้องออกมา “ศิษย์พี่ ช่วยข้าด้วย!!! ศิษย์พี่ ช่วยข้าออกไปเร็วๆ””บัดซบ!!! นางแม่มด ปล่อยศิษย์น้องข้าเดี๋ยวนี้!”
 
 
 
เสียงของ จ้าว เยว่เทียน สั่นเครือด้วยความโกรธหลังจากได้ยินเสียงของ กวง ไป๋เหนียน “เจ้าอยากให้ข้าปล่อย กวง ไป๋เหนียน ก็ได้ แต่เจ้าต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน ไม่งั้น ก็อย่าได้แม้แต่จะคิด”
 
 
 
ทันไท่ เซว่ กล่าว “เจ้าไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมาต่อลองกับข้า”
 
 
 
เจียง ฉีซา ยิ้มเบาๆ พร้อมกับหล่อสายตาไปที่ มู่หรง หมิงเทียน “ยัยแม่มดสามหาว เจ้ากล้าทำอะไรอุกอาจ ทั้งๆที่อยู่ในระดับ 3 ราชันย์แห่งสงคราม เจ้าคงเห็นข้าเป็นหัวหลักหัวตอสินะ !”
 
 
 
มู่หรง หมิงเทียน ตะโกน พร้อมกับปลดปล่อยออร่าระดับ 7 ราชันย์แห่งสงคราม จากนั้นก็ยกเปิดฝ่ามือพุ่งโจมตีใส่ ทันไท่ เซว่ 
 
 
 
* บูมมมมมมมมมมมม * 
 
 
 
การโจมตีของระเบิดออก มันไม่ใช่แค่พลังของทักษะที่น่ากลัว แม้แต่พลังของราชันย์แห่งสงครามยังกวาดไปรอบๆ จนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในตอนนั้นมันเหมือนกับสัตว์ร้ายที่โถมเข้าใส่ ทันไท่ เซว่ ด้วยพลังทำลายที่หนักหน่วง 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อการโจมตีของเขากำลังจะเข้าถึง ดวงตาของ ทันไท่ เซว่ ก็เบิกออก ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็พลันมืดมัว เมฆาดำทมิฬก่อตัวปกคลุมทั่วนภา ความเหน็บหนาวแผ่ซ่านไปทั่ว กดอุณภูมิจนลดต่ำ จนเกิดเป็นเกล็ดหิมะที่ขาวโผนราวกับกระดูกพัดลงมา รวมตัวกันเป็นพายุหิมะที่รุนแรง 
 
 
 
* ฟู่ววว * 
 
 
 
เกล็ดหิมะที่ปรากฏดูสวยงาม แต่มันนั้นเต็มไปด้วยออร่าที่แสนน่ากลัว นอกจากนี้มันยังบินไปตามสายตาที่ ทันไท๋ เซว่ เพ่งมอง ไม่เพียงแต่ พายุหิมะนั้นจำทำลายการโจมตีของ มุ่หรง หมิงเทียน มันยังพุ่งเข้าไปทำร้ายเขา “ฮ้าาา . . .”
 
 
 
มู่หรง หมิงเทียน ไม่กล้าที่จะประมาทพายุหิมะที่ซัดเข้ามา เขารีบโบกฝ่ามือของเขาซัดไปด้านหน้า พร้อมกับเกิดเสียงคำรามของสัตว์ขนาดยักษ์ ระเบิดออกมานับไม่ถ้วนจนกลายเป็นพลังต่อสู้ที่ทรงพลัง ขณะที่พวกมันวิ่งไปในอากาศ พวกมันก็ทะยานไปข้างหน้าอย่างดุร้าย 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะเป็นทักษะระดับ 9 ที่รุนแรง แต่มันก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีของ ทันไท่ เซว่ได้ เมื่อมันเข้าปะทะกับพายุหิมะ ร่างของมันก็แตกสลายโดยไม่มีโอกาสได้ขัดขืน “ทรงพลังยิ่งนัก ?!” 
 
 
 
ไม่ต้องพูดถึงปฏิกิริยาผู้คนโดยรอบ แม้แต่มู่หรง หมิงเทียน ยังมีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปอย่างมาก เขายืนตะลึง แม้เขาจะรับรู้จากร่างกายว่ามันทรงพลานุภาพและร้ายกาจ แต่เขาก็คาดไม่ถึงว่านางจะทรงพลังถึงขนาดนี้ แม้นางจะอยู่ในระดับ 3 ราชันย์แห่งสงคราม แต่การโจมตีของนางกับรุนแรงยิ่งกว่า การโจมตีของผู้เชี่ยวชาญระดับ 7 ราชันย์แห่งสงครามอย่างเห็นได้ชัด “ข้าไม่คิดว่า ข้าจะจัดการกับเจ้าไม่ได้”
 
 
 
นอกจากความตะลึง มู่หรง หมิงเทียน ก็รู้สึกโกรธ เพราะเขาที่มีพลังวิญญาณในระดับ 7 ราชันย์ กับพ่ายแพ้กับกับ ระดับ 3 ราชันย์ ต่อหน้าผู้คน 
 
 
 
ท่ามกลางความเดือดดาล เขาก็พลิกฝ่ามือ และนำยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์ออกมา ทันใดนั้น บรรยากาศทั้งหมดก็เปลี่ยนไป พร้อมกับออร่าของเขาที่แผ่ออกมา 
 
 
 
หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น พลังราชันย์ของเขาเข้าปะทะเข้าพายุหิมะ เมื่อมันปะทะกัน แรงระเบิดนั้นก็กวาดพัดรอบๆและย้อนกลับมาที่ มู่หรง หมิงเทียน “ร้ายกาจมาก ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ ?! นางถึงมีพลังน่ากลัวเช่นนี้”
 
 
 
ผู้ที่เฝ้าสังเกตุไม่สามารถสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เมื่อพวกเขาได้เห็นคลื่นระเบิดที่พัดกระจายออกไปทุกทิศทาง 
 
 
 
พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของ มู่หรง หมิงเทียน มาก่อน หลายคนจึงรู้ว่าความแข้งแกร่งเขามีประสิทธิภาพมากแค่ไหน นำซ้ำเขายังเป็นคนเดียวในทะเลตะวันออก ที่มีโอกาสเข้าถึงขั้น จักรพรรดิแห่งสงคราม 
 
 
 
แต่ในตอนนี้ ทันไท่ เซว่ เพียงแค่ลงมือเบาะๆ แต่กับทำให้ มู่หรง หมิงเทียน ที่อยู่ในระดับ 7 ราชันย์ถึงกับงัดยอดยุทธภัณธ์ราชวงค์ออกมาใช้ โดยขณะที่เป็นฝ่ายรับ เขายืนอยู่โดยที่ไม่มีโอกาสต่อต้านพลังนั้นได้เลย 
 
 
 
* ฟู่ววว * เมื่อคลื่นพลังพัดกวาดหายไป มู่หรง หมิงเทียน ก็ปรากฏอีกครั้ง 
 
 
 
เสื้อผ้าของเขาไม่ได้ถูกทำลาย และเห็นได้ว่าเขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ ด้วยพลังอำนาจของยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์ เขาสามารถป้องกันการโจมตีของ ทันไท่ เซว่ ได้สำเร็จ แต่สีหน้าของเขาในตอนนั้นดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 
 
 
 
แต่หลังจากที่สงบอารมณ์ มู่หรง หมิงเทียน ก็หัวเราะ พร้อมกับกล่าว”สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะที่ได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ เป็นครั้งแรกในชีวิตข้าเลย ที่ได้สัมผัสความแข็งแกร่งเช่นนี้ ร้ายกาจจริงๆ แต่ข้าก็ไม่เสียใจ” 
 
 
 
เขาจะบอกว่า เขาที่อยู่ในระดับ 7 ราชันย์ ได้พ่ายแพ้ให้กับ ระดับ 3 ราชันย์ นั้นถือเป็นเรื่องที่น่าอับอาย แต่นั้นในกรณีที่ว่าเป็นระดับ 3 ราชันย์ทั่วๆไป แต่นี้เขาพ่ายแพ้ให้กับ ระดับ 3 ราชันย์ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องเสียหน้ามากนัก 
 
 
 
นอกจากนี้ทุกคนยังรู้ว่า ผู้ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ ก็คือคนที่ครอบครองอำนาจศักดิ์สิทธิ์ไว้ในกำมือ ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะหรือสติปัญญา กระทั้งความแข็งแกร่งที่เหนือใคร แน่นอนว่าคนที่ไม่มีอะไรพิเศษย่อมไม่มีโอกาสที่จะต่อกร 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
A : กายศักดิ์สิทธิ์ ร้ายกาจถึงเพียงนี้เลย ถ้าจื่อหลิง ไม่ถูก ไอยาเวรนั้นนางคงเก่งแบบนี้!!! 
 
 
 
B : เอาน่า เด๋วก็เอายาจับสวรรค์ออกมาได้ 
 
 
 
A : แล้วถ้าไม่ได้อ่ะ 
 
 
 
B : พี่เฟิง ก็ซำติงออนยูเลยไง ให้เลี้ยงลูกอยู่บ้าน!!! 
 
 
 
A : เป็นความคิดที่ไม่เลว!!! 
 
 
 
C : ไม่ได้ๆ จื่อหลิง เป็นของทุกคน จะซำติงคนเดียวได้ไง ไม่ยุติธรรรม 
 
 
 
B : ต่ำช้า!!! 
 
 
 
C : ถ้าได้เอาไม๊ ?! 
 
 
 
A – B : เอา!!!