I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1200 – กองทัพอสูรฟ้าเปิดแล้ว

| Martial God Asura | 8424 | 2357 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว

บทที่ 1200 – กองทัพอสูรฟ้าเปิดแล้ว

 

นับแต่ที่ ชูเฟิง เข้ามาในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ได้รู้จัก ปู่ ลั่ว

 

ปู่ลั่ว เป็นนักเดินทาง แต่การเพาะปลูกไม่สูงนัก แต่เขาใช้เวลาเกือบทั่งชีวิต เดินทางไปทั่วทั้งดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ได้รู้จักกับสถานที่ต่างๆมากมาย

 

แต่วันนึง ชูเฟิง ก้ได้รับข้อมูลแผนที่ จากหีบไม้ของปู่ลั่ว ตลอดจนกระทั่งยอดยุทธภัณฑ์ประหลาด

 

กล่องนั่นมีแผนที่และอาวุธที่ยังไม่รู้ว่าใช้ยังไง รวมทั้งผลวิญญาณ ซึ่งพลังจากผลวิญญาณนับเป็นทรัพยากรเพาะปลูกที่อัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณ

 

ที่ที่เป็นจุดฝังสมบัติ ได้ตั้งอยู่ในหุบเขาไม้คราม ที่แสนกว้างใหญ่ ไพรศาล

 

ชูเฟิงตอนนั่นได้ทำลายแผนที่ เพื่อไม่ให้ใครเห็นเนื้อหาของมัน แต่เขาได้บันทึกลงไปในสมอง ดังนั่น ชูเฟิง จึงรู้ถึงตำแหน่งที่แน่นอน ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาไม้คราม

 

ในความเป็นจริง หลังจากที่เข้ามาในหุบเขาไม้คราม ชูเฟิง ก็ได้ตรวจสอบกับจุดที่ตั้งสมบัติในแผนที่ในหัวของเขา

 

แต่นับว่าโชคร้ายอย่างมาก ที่จุดตั้งของสมบัติมันเป็นพื้นที่ต้องห้ามของหุบเขาไม้คราม สถานที่นั่นขนาดผู้จัดการอาวุโสยังไม่สามารถเข้าไปโดยพลการ แล้ว สมบัติก็ถูกซ่อนไว้ในสถานที่แบบนั่น ชูเฟิง จึงต้องลอบเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม

 

ในพื้นที่ต้องห้ามมีอันตรายร้ายแรง มีกระทั่ง สัตว์ร้าย พืชมีพิษต่างๆ แม้กระทั้งรูปแบบโบราณ

 

นั่นอาจกล่าวได้ว่า มันเป็นสถานที่เสี่ยงตายที่สุดในหุบเขาไม้คราม ที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป ซึ่งนับเป็นจุดซ่อนสมบัติที่แย่ที่สุดสำหรับ ชูเฟิง ดังนั่นไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เขาจะต้องเสี่ยง แม้ว่าเขาจะแอบเข้าไปได้ แต่มันก็นับว่ายังอันตรายเกินไป

 

ดังนั่น ชูเฟิง จึงเริ่มพัฒนาความแข็งแกร่งและคอยหาโอกาส จนกว่าวันนั่นจะมาถึง เขาจึงค่อยๆศึกษาสภาพภูมิศาสตร์และคอยมองหาคนร่วมมือที่ไว้ใจได้ เพื่อที่จะเข้าใกล้กับสมบัติที่ถูกซ่อนไว้

 

สำหรับปัจจุบัน ชูเฟิง จึงต้องจัดการกองทัพอสูรฟ้า อย่างน้อยๆก็ทำให้ชื่อเสียงของมันเพิ่มขึ้น และคอยขยายอำนาจของกองทัพอสูรฟ้า

 

การประกาศของ ชูเฟิง นั่นได้ผลอย่างมาก เพียงแค่เวลา 2 วัน สาวกก็มารวมตัวกันที่หน้าประตูศูนบัญชากองทัพอสูรฟ้า เป็นจำนวนมาก

 

กองทัพสวรรค์ที่เป็นพันธมิตร นำกำลังโดย หลง เฉินยี่ และ หลง เฉินฟู่ ก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดี

 

แม้แต่กองกำลังที่คนไม่รู้จัก ก็พากันแห่มาร่วมแสดงความยินดี เพื่อต้องการสร้างความสัมพันธ์กับ ชูเฟิง

 

ชูเฟิงไม่ใช่คนที่ยึดติดในชื่อเสียง ลาภยศ แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นใครมาจากไหน ทำด้วยเหตุผลอะไร แต่พวกเขาก็ตั้งใจมาร่วมแสดงความยินดี เขาจึงไม่มองว่าใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอ ชูเฟิง ต่างก็ยินดีย้อนรับพวกเขา จัดหาที่นั่งให้อย่างสมเกียรติ

 

ในขณะนั่น ดินแดนหน้าประตูทางเข้ากองทัพอสูรฟ้าเปิดกว้าง สามารถมองเห็นดินแดนอันกว้างใหญ่ของกองทัพอสูรฟ้า ซึ่งคนที่ต้องการเข้าร่วม ต้องผ่านเงื่อนไขคุณบัติที่ ชูเฟิง ตั้งเอาไว้

 

ในขณะนั้น ชูเฟิง และ หลง เฉินยี่ ใช้เวลาคุยกันเป็นเวลาพอสมควร ในช่วงเวลานั่นศูนย์บัญชากองทัพอสูรฟ้าเต็มไปด้วยความครึกครื่น ตื่นเต้น บัดนี้สมาชิกของกองทัพอสูรฟ้าได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก “จ้าว เซียง กล้ามากนะที่ถอนตัวออกมาเข้าร่วมกับกองทัพอสูรฟ้า หากเจ้าไม่ยอมออกมาจากกองทัพอสูรฟ้า พ่อของเจ้าคนนี้จะไปลากคอเจ้าออกมา!!!”

 

ในขณะที่ภายในประตูเต็มไปด้วยความครึกครื่น หน้าประตูของกองทัพอสูรฟ้าก็มีเสียงใครบางคนตะโกนขึ้นมา

 

เมื่อมองออกไป ก็พบกับคนจำนวนมากยืนล้อมหน้าประตูกองทัพอสูรฟ้า

 

คนกลุ่มนั่น มีจำนวนมากกว่า 2000 บนแขนพวกเขามีปลอกแขนสัญลักษณ์ของกองทัพ”

 

ปิ่งฉี”

 

ความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนี้ไม่ถึงกับสุดยอด แต่ก็ไม่อ่อนแอ แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือ ชายหนุ่มคนนึง

 

ชายหนุ่มคนนั่นอายุดูแล้ว น่าจะไม่เกิน 30 ปี เพราะหน้าเขายังดูเด็ก แม้ว่าเขาจะดูเยาว์วัย แต่ก็คงความเป็นผู้ใหญ่

 

แม้บนใบหน้าเขาจะดูเหมือนหงิ่มๆ แต่จริงๆมันเต็มด้วยด้วยเจตนาร้าย

 

เขาแข็งแกร่งกว่าคนทั้ง 2000 เพราะ ออร่าของเขานั่นไม่ธรรมดา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 6 ราชันย์สงคราม อย่างน้อยๆ ก็เทียบได้พอๆกับ หลง เฉินยี่ แต่เขามีบางอย่างต่างออกไป

 

หลังจากที่เขาปรากฏตัวขึ้น หลายคนเริ่มแตกตื่น บนใบหน้าของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าเกิดความขี้ขลาด เขาได้พาคนมาบุกยังสถานที่ของ ชูเฟิง ทำให้คนรอบๆที่อยู่นี่ ก็ถึงกับขมวดคิ้วแน่น ผิวพรรณดูเปลี่ยนไปอย่างมาก

 

เพราะชายหนุ่มที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่ม ไม่ใช่แค่มีพลังวิญญาณระดับ 6 ราชันย์สงคราม บนหน้าอกของเขายังมีสัญลักษณ์ที่ทำให้คนเห็นเกิดความหวาดกลัว ซึ่งมันคือสัญลักษณ์ของแผนกปรับแต่งยุทธภัณฑ์

 

แผนกปรับแต่งยุทธภัณฑ์ ไม่ใช่แผนกที่ก่อตั้งโดยสาวก แต่เป็นแผนกที่ผู้จัดการอาวุโสก่อตั้งขึ้น สาวกที่อยู่ในแผนกนั่นๆจึงได้รับการคุ้มครองจากแผนก การที่เขาเป็นนึงในสมาชิกของแผนกปรับแต่งยุทธภัณฑ์ แสดงว่าต้องมีผู้จัดการอาวุโสให้การสนับสนุน เห็นได้ชัดว่าเขานั่นไม่ธรรมดา “หลิว ปิ่งฉี เขามาที่นี่ทำไมกัน ?!”

 

หลง เฉินยี่เห็นแบบนั่นก็ขมวดคิ้วลงเล็กน้อย ด้วยท่าทางสับสน “ศิษย์พี่หลง ท่านรู้จักเขาด้วยหรอ ?!”

 

ชูเฟิง ถาม “ข้าพอรู้จัก เขาคนนี้ชื่อว่า หลิว ปิ่งฉี เป็นหัวหน้า กองกำลังใหญ่ ปิ่งฉี””เขาเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถมาก เป็นคนห้าวหาญ แม้แต่เทคนิคด้านอำนาจพลังวิญญาณก็ไม่ธรรมดา” “อย่างน้อยๆเทคนิคอำนาจพลังวิญญาณของเขา ก็ถูกยอมรับโดยผู้จัดการอาวุโสจากแผนกปรับแต่งยุทธภัณฑ์ ดังนั่น เขาจึงถูกชักเชิญให้เข้าร่วมกับแผนกปรับแต่งยุทธภัณฑ์” “หลิว ปิ่งฉี มั่นใจในตัวเองมาก ไม่ใช่แค่ตั้งกองทัพขึ้นด้วยชื่อของตน เขายังรับเฉพาะสาวกที่แข็งแกร่งเท่านั่น” “ไม่ใช่แค่เพียงคนๆนั่นจะต้องมีความสามารถที่โดดเด่น แต่ยังต้องเชี่ยวชาญด้านเทคนิคอำนาจพลังวิญญาณ คนที่ไร้อำนาจพลังวิญญาณเลิกคิดเลยว่าจะเข้าร่วมกับกองทัพเขาได้””นี้จึงเป็นสาเหตุ ว่าทำไมเขามีคนไม่กี่คน แต่ถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้””บางทีในสายตาคนอื่นๆ อาจมองว่ากองทัพนักล่า เป็นอันดับ 11 ของหุบเขาไม้คราม แต่ในสายตาของข้า หลิว ปิ่งฉี จากแผนกปรับแต่งยุทธภัณฑ์ มีความสามารถมากยิ่งกว่า กองทัพนักล่า”

 

หลง เฉินยี่อธิบายความแข็งแกร่งของ หลิว ปิ่งฉี “นั่นเป็นเพราะเขามักไม่ค่อยปรากฏตัว ดังนั่นชื่อเสียงของเขาจึงมีไม่มาก ดังนั่น จึงมีหลายคนคิดว่า หลิว ปิ่งฉี ด้อยกว่า ผู้นำกองทัพนักล่า เล่ย เหยา” “หลิว ปิ่งฉี แม้ว่าจะเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง แต่จริงๆแล้วเขาไม่ใช่คนชอบสร้างปัญหา ที่เขาโผล่มานี้ จึงทำให้ข้า งง ไปหมด” “เขาอาจมาที่นี่เพื่อไม่ได้ต้องการก่อปัญหาก็ได้ แต่ว่าศิษย์น้อง ชูเฟิง เจ้าเคยมีความแค้นอะไรกับเขาหรือไม่ก็คนของกองทัพปิ่งฉีหรือเปล่า ?!”

 

หลง เฉินยี่ ถามแบบ งงๆ “ข้า เพิ่งจะเคยเจอ หลิว ปิ่งฉี วันนี้ก็ครั้งแรก รวมทั้งคนของกองทัพ ปิ่งฉี ข้าคิดว่า ข้าไม่หน้ามีความคับแค้นอะไรกับพวกเขา”

 

ชูเฟิง กล่าว “หลิว ปี่งฉี หากจะมาตามสมาชิกของเจ้าแล้วไม่เกี่ยวอะไรกับกองทัพอสูรฟ้าของเรา แล้วที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่เจ้าอยากตะโกนก็ตะโกนได้ตามใจชอบ”

 

ในตอนนั่นจู่ๆก็มีสมาชิกของกองทัพอสูรฟ้า พูดขึ้น

 

ชายคนนั่น ไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย เขาอยู่ในระดับ 4 ราชันย์ ปัจจุบันเขาเป็นคนของกองทัพอสูรฟ้า ปัจจุบันแม้พลังเขาจะมากกว่า ชูเฟิง แต่ตำแหน่งเขาด้อยกว่ามาก

 

ในตอนนั่นผู้ชายคนนั่นไม่เพียงแต่เปิดปากพูดขึ้น เขายังทะยานออกไปนอกประตู ตรงไปหา หลิว ปิ่งฉี โดยหยุดอยู่เบื้องหน้า “ศิษพี่ หวาง เว่ย ศิษย์พี่ ฝาง พวกท่านรู้ไม๊ว่า คนคนนั่นเป็นใคร ?!”

 

ชูเฟิง ถามขึ้น แม้ว่าเขาจะเป็นคนตั้งเงื่อนไข แต่เขาไม่ได้คัดเลือกสมาชิกทุกคนเข้ามา คนที่รับผิดชอบหน้าที่นี้จะเป็น หวาง เว่ย และ ฝาง โถ่วไห่

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

C : เงื่อนไขคุณสมบัติที่พี่เฟิงตั้งไว้เป็นมาตราฐาน ในการรับเข้ากองกำลัง ได้แก่ – ไม่เป็นโรคหัวใจ – ไม่เป็นโรคเอดส์ – ไม่เป็นโรคเบาหวาน – กินผักได้ทุกชนิด – ไม่เลือกกิน หรือ มีไรให้แดกก็แดก ห้ามบ่น – ไม่นินทาหัวหน้าลับหลัง ถ้าจับไม่ได้ก็แล้วไป – ไม่ขี้เกลียดสันหลังยาว – เป็น ญ ให้เข้าห้องมาได้ไม่ต้องเคาะประตู

 

A : ไอสาด เงื่อนไขขนาดนี้ กูว่าเงื่อนไขกองทัพไอ้ ปิ่งฉี ยังง่ายกว่าอีก แต่เงือนไขสุดท้ายกูชอบนะ

 

B : หลิว ปิ่งฉี นี้มันกล้ามากเลยนะ เป็นคนแผนกปรับแต่งยุทธภัณฑ์แท้ๆ เสือกกล้ามาหาเรื่องหน้ากองทัพอสูรฟ้า ไม่กลัวผู้จัดการอาวุโสโบกกระบานหรือยังไง หรือมันไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกบ้างเลย

 

A : ไม่แน่ อาวุโสแผนกปรับแต่งนี้แหละส่งมันมาให้ทดสอบอำนาจพลังของชูเฟิง หรือ ไม่ก็จะให้มาแอบส่องว่าพี่เฟิง ครอบครองอสูรวิญญาณพิภพอะไร ?!

 

C : ถ้ารู้ หนาวแน่ รับรองได้!!!

 

ตอนที่แล้ว
comments