ตอนต่อไปวันนี้เป็นวันที่อี้หวินเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตว่ามันไม่ง่าย แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะมาตกตายเช่นนี้
ตอนเช้าอี้หวินไปปีนเขากับเพื่อนสนิทสองคน ทั้งสองเป็นสาวงาม คนหนุ่มสาวมักชอบความตื่นเต้น
อี้หวินก็ไม่มีข้อยกเว้น รองเท้าปีนเขาอย่างดีสักคู่ กับเส้นทางที่ยังไม่มีใครไปสำรวจ มันจึงเป็นสิ่งที่วิเศษและสุดยอดมาก พวกเขาเลือกภูเขาที่ดูรกร้างแห่งหนึ่ง
เมื่อปีนไปได้ถึงครึ่งทางพวกเขาค้นพบถ้ำ พวกสาวๆดูตื่นเต้นมาก และยืนกรานที่จะเข้าไปสำรวจ
เมื่อพวกเขาเข้าไปในถ้ำ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น อี้หวินพบผลึกม่วงมันมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ภายในถ้ำ
มันดูเหมือนแผ่นคริสตัลจากหนังไซไฟ
เขาแตะต้องมันด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทันใดนั้นก็มีเสียงดังกึกก้อง แล้วผนังถ้ำก็ถล่มลงมา มันเป็นเรื่องยากที่อี้หวินจะบอกได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร ขณะที่เห็นหินน้ำหนักมหาศาลกำลังหล่นลงมา ถ้าจะพูดเป็นสำนวนคงพูดว่า “ เมื่อความตายมาเยือน ก็จะรู้เองว่าความตายเป็นเช่นไร ”
เขายังหนุ่มแน่น แข็งแรง หุ่นดี และที่สำคัญ เขายังซิง…
เขาควรมีอนาคตที่สดใส แต่ทั้งหมดนั้นกำลังหายไป
แต่แล้วความเศร้าและความสิ้นหวังก็หยุดลงเมื่ออี้หวินพบว่า ก้อนหินพวกนั้นไม่ได้หล่นมาที่ตัวเขา แต่กลับหล่นลงมาปิดทางออก
การถูกฝังทั้งเป็นในภูเขา โดยไม่มีอาหารและน้ำ มีเพียงอากาศอันน้อยนิด ทำให้อี้หวินแน่ใจว่า ที่แห่งนี้ต้องเป็นหลุมฝังศพของเขา
อี้หวินมองอย่างเลื่อนลอยไปที่ผนังหนาของถ้ำ ภายใต้แสงไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือ ฉายให้เห็นกำแพงหนาเหมือนหน้าของปีศาจร้าย
ความหนาวเหน็บและเยียบเย็นย่างกรายสู่ใจของอี้หวิน ทีละเล็กทีละน้อย
เขาไม่ได้สังเกตแม้แต่น้อย ขณะที่กำลังสำรวจถ้ำอยู่ๆเพื่อนของเขาหายไป
พวกเขาทั้งหมดอยู่ใกล้ๆกัน ตอนเริ่มเข้าไปในถ้ำ เมื่อถ้ำเริ่มถล่มทั้งสองควรจะติดพร้อมกับเขา แต่กับ……หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หากว่าพวกเธอไม่ได้เข้ามาในถ้ำพร้อมกับอี้หวิน เขาทบทวนความจำอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนถ้ำถล่ม เขาได้ยินสาวๆพูดกันที่ด้านหลังว่า พวกเธอกลัวงูที่อยู่ในถ้ำ
คนเป็นๆสองคน หายไปอย่างกระทันหันได้อย่างไร?
ถ้ำอันแข็งแรงมันถล่มลงมาได้อย่างไร?
มันเป็นสถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังอย่างแท้จริง โทรศัพท์มือถือก็ไม่มีสัญญาณและเขาไม่แน่ใจในชะตากรรมของเพื่อนๆ
อี้หวินไม่อยากนั่งอาลัยรอความตายที่กำลังคืบคลานมา เขาคิดจะขุดหาทางออก…ถ้าสิ่งกีดขวางมีขนาดเล็ก
แม้มันจะเป็นความหวังอันริบหรี่ก็ตาม
เมื่อบุคคลเผชิญหน้ากับความตาย พวกเขาก็จะสามารถแสดงสัญชาตญาณของการเอาชีวิตรอดอันแข็งแกร่ง และใช้ทุกๆอย่าง แม้จะเป็นแค่เศษเสี้ยวของความหวังก็พร้อมที่จะลองดู
อี้หวินเริ่มขุดด้วยมือเปล่ามันเป็นไปไม่ได้ เขาไม่มีเครื่องมือที่จะขุด ในขณะนั้นเองอี้หวินก็คิดขึ้นมาได้ว่า เขามีแผ่นผลึกนี่…
มันเหมือนเสียมอันเล็กๆแม้มันจะมีขนาดเล็กและไม่มีด้าม มันก็ยังดีกว่าขุดด้วยมือเปล่าๆ
จู่ๆอี้หวินก็คิดถึงแผ่นผลึกลึกลับ ระลึกถึงเรื่องที่ผ่านมาอย่างรอบคอบ ถ้ำถล่มลงมาเมื่อเขาแตะถูกแผ่น มันเป็นเรื่องบังเอิญ?
และเรื่องลึกลับที่สุดคือเพื่อนของเขาหายไปราวกับไม่มีตัวตน
มีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นเต็มไปหมด ในหัวของอี้หวินเต็มไป ด้วยคำถาม ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเพราะแผ่นผลึก?
เขามองดูแผ่นผลึกสีม่วง มันนูนขึ้นมาเล็กน้อย เขาวางมันลงบนหินที่ดูแข็งแรงมั่นคงก้อนหนึ่งอย่างดี ขณะที่มันเปล่งแสงเรืองรางจางๆออกมา
อี้หวินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนปิดแสงโทรศัพท์ แม้ในความมืดมิดของถ้ำ เขายังเห็นแสงจางๆออกมาจากแผ่นผลึก
เขาเข้าใจในทันทีว่า แผ่นผลึกอันนี้ไม่ได้ทำมาจากอเมทิสต์ เพราะว่า อเมทิสต์ ไม่เรืองแสง ในธรรมชาติแร่ธาตุที่เรืองแสงได้ มักมีส่วนเจือปนธาตุที่มีกัมมันตภาพรังสี
แต่สภาพการณ์ที่เขาประสบอยู่ เขาไม่สามารถคิดถึงความเป็นไปได้ที่กัมมันตภาพรังสีจะส่งผลต่อร่างกาย ดังนั้นเขาหยิบแผ่นผลึกขึ้นมาตรวจสอบมัน
หากว่าถ้ำถล่มเป็นเพราะแผ่นผลึกอันนี้ มันก็อาจเป็นตั๋วสู่การรอดชีวิตของเขาก็ได้?
อี้หวินรู้ว่ามีความหวังไม่มากนัก แต่เมื่อก้าวเข้าประตูแห่งความตาย
เขาต้องพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับที่พึ่งสุดท้ายนี้ แผ่นผลึกให้ความรู้สึกหนาวเย็นเมื่อสัมผัส ความรู้สึกนี้ เหมือนกับมันไหลลดเลี้ยวไปตามเส้นเลือดทุกๆเส้น จากแขนของเขามุ่งสู่หัวใจ แผ่นผลึกสีม่วงนี้มีขนาดใหญ่กว่ามือของผู้ใหญ่เล็กน้อยและไม่หนาไปกว่าฝ่ามือ
ด้านหนึ่งของแผ่นผลึกมีลวดลายลึกลับ มันไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่ถูกสลักด้วยน้ำมือมนุษย์
ใครเป็นผู้จารึกมัน?
เป็นสัญลักษณ์โบราณ หรือภาษาเร้นลับ?
หรือว่าเป็นวัตถุจากต่างดาว?
เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้น ทำให้สมองของอี้หวินเต็มไปด้วยคำถาม เขาแน่ใจแล้วว่าการถ่ถล่มของถ้ำเกี่ยวข้องกับแผ่นผลึก มันไม่มีแผ่นดินไหว เป็นไปได้อย่างไรว่าถ้ำจะถล่มลงมา?
อี้หวินตระหนักได้ว่าแผ่นผลึกในมือมีด้านที่คมราวกับมีด ได้จุดประกายแห่งความหวัง….มันจะเป็นเครื่องมือสำหรับเขา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินไปที่ผนังถ้ำที่ไม่รู้ว่าหนาสักเท่าไร พร้อมด้วยแผ่นผลึกในมือ จับขอบแผ่นผลึกทั้งสองมือ แล้วเริ่มขุด…บางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น
หินก้อนใหญ่แยกออกจากกันเหมือนก้อนเต้าหู้อี้หวินใช้แรงมากเกินไป ทำให้เขาถลำหัวไปชนกับผนังถ้ำ เขาตะลึง.. และไม่ได้สนใจกับหน้าผากแต่กลับจ้องแผ่นผลึกในมืออย่างเลื่อนลอย
หลังจากงงงันไปชั่วครู่ เขาก็รู้สึกยินดีอย่างมาก
นี่มันยังกะ….ดาบแสงของเจได ในหนังไซไฟเลย
แต่ในตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะตรวจสอบความคมของขอบแผ่นผลึก แต่มุ่งเน้นไปที่การขุดหาทางออกเท่านั้น สองมือจับแผ่นผลึกไว้มั่น อี้หวินตั้งหน้าตั้งตาขุดหลุมราวกับตัวตุ่น แผ่นผลึกตัดผ่านหินแกรนิตได้อย่างง่ายดาย
อี้หวินตื่นเต้นราวกับขุดเจอสมบัติ!
ถ้าเขาสามารถออกไปได้แผ่นผลึกนี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตของเขา มันอาจจะฝังเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวไว้ข้างในก็ได้
อี้หวินไม่รู้ว่าเขาขุดมานานเท่าไร และไม่แน่ใจว่ารู้สึกไปเองรึไม่ว่าเมื่อไรก็ตามที่เขาหมดแรง แผ่นผลึกในมือก็จะปล่อยกระแสความเย็นฟื้นฟูพลังให้เขามีแรงขุดต่อไป ในถ้ำที่ไม่รู้เวลา
อี้หวินก็ยังคงขุดต่อไปด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด โทรศัพท์มือถือแบตหมดไปนานแล้ว เขาไม่สามารถรู้เวลา เขาติดอยู่ในนี้นานเท่าใด สามวัน? ห้าวัน? เจ็ดวัน?อี้หวินไม่ได้ดื่ม กิน อะไรเลย แต่เขาก็ยังไม่ตาย เหมือนกับว่าแผ่นผลึกเป็นแหล่งพลังงานเดียวสำหรับชีวิตของเขา
ถ้าเขาหันหลังกลับไปมองตามเส้นทางที่ขุดก็จะพบว่า มีระยะทางอันแสนไกล แต่อี้หวินไม่ได้สนใจ เนื่องจากตอนนี้สายตาของเขาพล่ามัวแล้ว มองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้า ไม่เห็นหิน ความรู้สึกอย่างเดียวคือ ความเย็นสดชื่นที่แผ่นผลึกในมือของเขาแผ่ออกมา เขากำลังสูญเสียสติสัมปชัญญะทีละน้อยๆ แต่ก็ยังขุดอย่างขยันขันแข็ง
ในที่สุดเขาก็พบแสงที่ส่องลอดออกมาจากรอยแตกของดิน กระทบใบหน้าของเขา เหมือนโดนน้ำสาด สติของอี้หวิน พลันตื่นขึ้น!
แสง!
แสงสว่าง!
อี้หวินไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแสงสว่างมันสวยงามขนาดนี้ เขาไม่สามารถควบคุมน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาได้ ราวกับพลังงานที่สูญเสียได้ไหลย้อนกลับคืนสู่ร่างกาย เขากัดฟันขุดอย่างบ้าคลั่ง
ในที่สุด!
อี้หวินมองไม่เห็นไปชั่วขณะเมื่อแสงส่องมาบนตัวเขา เขาพยายามที่จะเปิดตามอง แล้วปีนออกไป
“สำเร็จแล้ว!”
“รอดแล้ว!”
อี้หวินอยากตะโกนออกมาดังๆ หากไม่ประสบกับความมืดมิด หรือได้ชื่นชมกับแสงสว่าง หรือได้รับรู้ความตาย เขาคงไม่ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิต อี้หวินนอนแผ่ลงกับพื้นดินสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ มองดูท้องฟ้าและหมู่เมฆ เขาไม่เคยรู้สึกเลยว่าท้องฟ้านี่มัน…สวยจริงๆ
แม้ว่าร่างกายของเขาจะเหนื่อยมาก ทั้งหิวและกระหาย
อี้หวินก็ไม่อาจพักนานกว่านี้ เขากัดฟันลุกขึ้น หาทางตามหาเพื่อนทั้งสองของเขา
อี้หวินรอดจากความตาย และเขาไม่รู้ชะตากรรมของเพื่อนๆ แต่…..โทรศัพท์มือถือของเขาแบตหมดเสียแล้ว เขามองไปรอบๆ หวังเพียงเห็นสัญญาณแห่งชีวิต แต่เพียงเหลือบมอง อี้หวินก็ตกตะลึง
มัน…มันเป็นไปได้อย่างไร?
อี้หวินจำได้อย่างชัดเจน ในขณะปีนเขา เขาถูกฝังทั้งเป็น ในถ้ำและปีนออกมาจากเชิงเขาเพียงลำพัง แต่เขากลับอยู่บนพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล และรอบๆล้อมรอบด้วยภูเขา ระยะทาง ถึงภูเขา ถ้าขี่ม้าก็ต้องขี่จนมันตายเลยล่ะ
อี้หวินไม่อยากเชื่อว่า เขาจะขุดอุโมงค์ได้ยาวขนาดนั้น รอบๆตัวเขามีกองดินพูนหลายกองและมีไม้ปักอยู่บนนั้น บนแท่งไม้เขียนอักษรเป็นคำหยาบๆไม่ปราณีตด้วยถ่าน
ที่นี่คือ…..สุสาน?
อี้หวินตกตะลึง เขามาอยู่ท่ามกลางหลุมฝังศพมากมายได้อย่างไร?
เมื่อหนีจากความตายมาได้ครั้งหนึ่งแล้ว อี้หวินตอนนี้ มีจิตใจเข้มแข็งมาก ดังนั้นแม้ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์ที่คลุมเคลือ เขาก็สงบลง และตรวจสอบหลุมฝังศพอย่างระมัดระวัง
หลุมฝังศพเหล่านี้ดูไม่เหมือนมาจากสุสานที่ทันสมัย ในสุสานที่ทันสมัยของเมือง ทุกหลุมมักทำด้วยหินอ่อนหรือ แกรนิต หรือตามแต่จะสั่งทำ แต่หลุมฝังศพตรงหน้าของเขา… หลุมฝังศพในชนบทยังดีกว่านี้
เดี๋ยวก่อน…….
อี้หวินค้นพบบางอย่าง เขาก้มหัวลงไปดูอุโมงค์ที่เขาปีนออกมายังคงอยู่ และอยู่ด้านหน้าของเนินดินและที่ด้านข้างของเนินดิน มีไม้กระดานสำหรับหลุมฝังศพ(ป้ายหลุมศพ) บนไม้นั้นมีคำแปลกๆ
โดยไม่ทราบสาเหตุ อี้หวินสามารถรับรู้และอ่านคำพวกนั้นได้ มันเขียนว่า
“หลุมฝังศพของอี้หวิน น้องชายอันเป็นที่รัก” และด้านข้างเขียนคำห้าคำ
“พี่สาว เจียง เซียวโยรว”
หลุมศพของ…อี้….อี้หวิน!?
อี้หยุนมึนงงไปทันที เขาแน่แก่ใจว่า เขาถูกฝังทั้งเป็น ในถ้ำบนภูเขา แต่ตอนนี้ เขากลับขุดทางออก ออกจากหลุมฝังศพ ที่สำคัญ
มันเป็นหลุมฝังศพของเขาเอง!
นี่มันเรื่องตลกอะไรเนี่ย!
อักษรที่เห็นมันไม่ใช่ภาษาจีนแน่ๆ และก็ไม่ใช่ภาษาอังกฤษด้วย
แล้วเขาอ่านอักษรแปลกๆนี้ได้อย่างไร?
ฝัน….ฝันแน่ๆ
ใช่..มันต้องเป็นความฝัน
ความฝันนี้ให้ความรู้สึกเหมือนจริง อี้หวินมองไปรอบๆ และ รู้สึกได้ทันทีว่า…
มันเป็นความจริง เขาหยิกตัวเองอย่างแรง และผลที่ได้รับ คือ…..เจ็บ
เขาหยิกอีกครั้ง….มันก็ยังเจ็บ
“มันไม่ใช่ความฝัน?”
“นี่มันไม่ใช่ความฝันจริงๆ?”
อี้หวินรู้สึกใจหาย มีใครบอกเขาได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น?
อี้หวินสาปแช่งในหัวใจ หรือเขาตายไปแล้วจริงๆ ตั้งแต่เขาโดนฝังทั้งเป็นในถ้ำและขุดอุโมงค์ออกมามันเป็นเพียงภาพลวงตาก่อนตายของเขา?
แต่….สองคำนั้น “น้องชายอันเป็นที่รัก” หมายความอย่างไร?
เขาไม่มีพี่สาว หากมีคนบอกว่า เป็นญาติจากเมืองอื่น ที่เขาไม่ค่อยสนิทสนมด้วย
ทำไมเธอจึงสร้างหลุมฝังศพให้เขา!
ถ้าหลุมฝังศพของ “อี้หวิน” เป็นคนอื่นที่มีชื่อแซ่เหมือนเขา มันก็ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาบังเอิญ ปีนขึ้นมาจากหลุมฝังศพของใครบางคนที่มีชื่อแซ่เหมือนกันว่า “อี้หวิน”
อี้หวินรู้สึกสับสนมาก
ในตอนนี้ เขามองด้วยความงุนงงไปที่ หญิงสาวในชุดเก่าปอนที่กำลังแบกตะกร้าเดินมาทางเขา ตามเส้นทางเล็กๆ ของหมู่บ้าน