ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปนี่เป็นป่าอาถรรพ์ที่น่าขนหัวลุก
ถึงแม้จะเป็นเวลากลางวัน เมฆที่หนาและเสียงกบร้องนั่นหมายความว่าที่แสงส่องผ่านลงงมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เหมือนว่าโลกแห่งนี้ดูมืดทึบ มีมนต์ขลังและมีโทนเป็นสีพื้นดิน
หลังจากที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้มาเป็นเวลานาน แต่ท่าทางของแต่ละคนก็เปลี่ยนไปดูมืดมนกว่าเดิม
ทั้งคู่รอจนกระทั่งประตูหินที่อยู่ด้านหลังของพวกเขาปิดสนิทหลังจากนั้นโทนี่ดึงฮู้ดขึ้นและพูดว่า
“ฉันจะไปทางนั้น”
เขาไม่รอกริมตอบ แต่หันกลับไปและตรงไปทางซ้ายซึ่งเป็นทางที่แคบและคดเคี้ยวเป็นอย่างมากซึ่งเป็นทางที่ถูกปูไว้ด้วยหินสีขาว
กริมที่รอจนกระทั้งร่างที่ใหญ่โตของโทนี่หายไปในหมอกสีขาว จากนั้นเขาก็ดึงฮู้ดขึ้นมาบ้าง หันหน้าไปทางอื่นและตรงไปทางขวา
ขณะที่กำลังเดินอยู่ เขากระซิบเบาๆว่า “แสดงข้อมูลตรวจพบของโทนี่”
วินาทีถัดมา รายงานที่ถูกทำขึ้นมาจากชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพถูกแสดงขึ้นในหัวของเขา
————————————————
โทนี่
มนุษย์
Hp -/-
นักเวทย์ขั้นต้น
คุณสมบัติ
Strength 7
Agility 3
Physique 8
Spirit 6
————————————————–
ปากของกริมอ้าค้างด้วยความตกใจ ด้วยแต้มกายภาพ ทำไมเขาถึงไม่ไปเป็นนักรบ? แต้มความแข็งแกร่งและแต้มกายภาพเป็น 2 เท่าของกริม นั่นหมายความว่าถ้าเขาต้องสู้กับโทนี่ บางทีอาจจะแค่หมัดเดียวก็น็อคเขาได้แล้ว
แต่ในฐานะนักเวทย์ขั้นต้น โทนี่มีแต้มกายภาพถึง 6 แต้มซึ่งมากกว่ากริม 2 เท่า ไม่ว่ากริมจะทำงานหนักแค่ไหน แต่ด้วยความได้เปรียบนี้ทำให้ยากที่จะเอาชนะ
เมื่อเป็นแบบนี้ โทนี่จึงวางแผนที่จะพัฒนาไปทางการใช้เวทย์เสริมร่างกาย โดยวิธรการใช้เวทย์เสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายของเขา จากนั้นใช้เวทย์เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ระยะประชิด…บางทีนี่อาจจะเป็นทางเดียวที่เขาสามารถเลือกได้!
ต้องอยู่ใกล้กับเป้าหมายเป็นระยะเวลาหนึ่ง ชิพจึงจะสามารถประมวลผลและรวบรวมข้อมูลได้ถูกต้อง โดยทำการตรวจสอบการเคลื่อนไหวและพฤติกรรมของเป้าหมาย ไม่ต้องสงสับเลยว่านี่เป็นทางเดียวที่ทำให้กริมได้เปรียบเมื่อทำงานกับคนอื่น นอกจากนี้เขายังสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นได้
และนี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับกริม!
แต่บางทีวิธีดังกล่าวก็ไร้ประโยชน์กับจอมเวทย์ เนื่องจากบางครั้งร่างกายของพวกเขาแผ่พลังธาตุที่แข็งแกร่งออกมา นี่เป็นสิ่งที่จอมเวทย์ต้องทำอย่างตลอดเวลาเนื่องจากร่างกายของพวกเขาเก็บรวบรวมเวทย์ไว้มหาศาล มันจึงเป็นวิธีที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา
ไม่รู้ว่าข้อมูลที่มีค่าจากชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพที่ตรวจสอบได้มาและกริมยังกังวลว่าจอมเวทย์อาจจะตรวจพบชิพนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องใช้งานมันอย่างระมัดระวัง
ทางเดินหินที่คดเคี้ยวด้านหน้านำทางไปสู่หมอกสีขาว มีต้นไม้ประหลาดหลากหลายขนาดขึ้นอยู่สองข้างทางมีทั้งต้นที่สั้นและหนา เป็นรูปกรวย มีใบเล็กที่โค้งงอเป็นเกลียวคล้ายกับเถาองุ่น เถาที่เหมือนองุ่นได้พาดลงมาที่หัวของเขาขณะที่เขาเดินลอดใต้พวกมันมาและยังมีดอกไม้หลากสีสัน ดอกไม้ลึกลับที่มีกลีบขนาดเท่าอ่างล้างจานขนาดใหญ่….นอกจากนี้ยังมีโคลนและบ่อน้ำที่เหม็นเน่า….
ที่ผ่านมาทั้งหมดแม้จะดูเหมือนบ่อน้ำธรรมดา กริมรู้ดีว่าเขาไม่เคยคิดที่จะก้าวเท้าออกจากทางเดินหินแม้แต่ครึ่งก้าว
ต้นไม้เหล่านั้นดูเป็นต้นเล็กๆดูไม่น่ากลัว ถ้าผู้คนเข้าไปใกล้มากพอ กิ่งก้านเหล่านั้นจะขดตัวรัดและจับคนๆนั้นห้อยไว้บนต้นไม้ หลังจากนั้นจะมีหนามโผล่ออกมาเสียบเข้าไปในร่างกายและดูดเลือดออกจากร่างกาย
หลังจากที่เลือดถูกดูดออกจนหมด เหลือเพียงผิวหนังที่แห้งและกระดูกซึ่งจะกลายเป็นปุ๋ยชั้นดีให้กับต้นไม้นักล่าเหล่านี้
ถ้ามีใครบางคนมาขุดดินสีเลือดใต้ต้นไม้นักล่าเหล่านี้ได้ พวกเขาจะพบกับโครงกระดูกจำนวนมาก บางส่วนเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ บางส่วนเป็นโครงกระดูกของสัตว์ นอกจากจะทำแบบนี้แล้วไม่มีหลักฐานใดๆชี้ได้ว่าเป็นฝีมือของต้นไม้นักล่าเหล่านี้
มี 2 เหตุผลที่หอคอยถึงตั้งอยู่ในบึงที่เต็มไปด้วยต้นไม้ปีศาจเหล่านี้
อันดับแรกคือ การป้องกันการบุกรุกจากมนุษย์คนอื่นๆ
อันดับต่อมาคือ พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยววัตถุดิบเวทมนตร์แบบพิเศษได้จากพืชเหล่านี้
รากของต้นไม่นักล่าและเถาวัลย์ดูดเลือด ภายในของเถาวัลย์ดูดเลือดคือยาชูกำลังชั้นดี พวกมันเป็นประโยชน์สำหรับเหล่าจอมเวทย์ทั้งหลายที่ไม่ได้มีแต้มกายภาพมากนัก เป็นงานประจำที่นักเวทย์ขั้นต้นต้องมารับความเสี่ยงจากการถูกโจมตีจากต้นไม้ปีศาจเหล่านี้เพื่อเก็บเกี่ยววัตถุดิบ ดังนั้นมันเป็นงานที่เสี่ยงอันตรายซึ่งมีอตรายการเสียชีวิตสูงมาก
กริมที่แกล้งทำเป็นไม่เห็นการเคลื่อนไหวของต้นไม้ปีศาจ ตอนนี้เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพวกมัน
ไม่ว่าจะบ้าหรือดุร้ายอย่างที่พวกมันเป็น พวกมันไม่ได้เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ทางเดินหินเหมือนำวกมันกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
“ตรวจสอบฐานข้อมูล บันทึกและเก็บข้อมูลพืชเวทมนตร์ทั้งหมดรอบๆพื้นที่นี้!”
“ข้อมูลไม่เพียงพอ….ฐานข้อมูลไม่สมบูรณ์และไม่สามารถจับคู่สายพันธ์ได้….เปิดวิสัยทัศน์ค้นหาธาตุ….สร้างฐานข้อมูลใหม่”
ตามมาด้วยเสียงของชิพที่ดังขึ้นมา ภาพที่ฉายบนดวงตาเริ่มสั่นไหว เนื่องจากข้อมูลจำนวนมากที่ไหลมาเหมือนน้ำตกผ่านดวงตาของเขา ในเวลาเดียวกันในสายตาของเขาเห็นเพียงแสงไฟหลากสีที่ผ่านตาของเขา]
ทัศนวิสัยค้นหาธาตุ? นี่เป็นความสามารถพิเศษที่เขาได้รับหลังจากผสานชิพเข้ากับร่างกายปัจจุบันเหรอ?
พืชเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสีเขียว แสดงให้เห็นว่าพืชปีศาจเหล่านี้มีพลังธาตุอยู่มาก ซึ่งไม่น่าแปลกใจเมื่อมองไปที่พืชธรรมดาที่มีสีอื่น เช่นสีแดง สีเหลือง สีฟ้าและสีม่วง พื้นที่แต่ละส่วนมีพลังงานที่แตกต่างกันรวมตัวอยู่ นอกจากนี้ยังมีอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความเร็วลม ความหนาแน่นของสารพิษ การกระจายตัวและการไหลเวียนของอนุภาคธาตุ…ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ชิพตรวจพอและถูกฉายลงบนดวงตาของเขา
กริมขมวดคิ้ว
การฉายภาพที่เต็มไปด้วยสีสันที่ซับซ้อนแบบนี้ส่งผลกระทบต่อการมองปกติ นี่เป็นข้อมูลที่มากเกินไป
“ลบสีที่ไร้ประโยชน์ออก….ลบการกระจายแสงออก…เน้นเฉพาะจุดที่พบพลังงานจพนวนมากรวมกันอยู่….”หลังจากที่กริมออกคำสั่ง ในแต่ละคำสั่งในที่สุดสีของลูกตาจางๆของเขาค่อยๆปรากฏขึ้นมาและสีตาของเขากลับมาเป็นสีปกติอีกครั้ง
หมอกที่หนาและมีสีจืดได้กลายเป็นก้อนและเส้นใยอนุภาคที่เคลื่อนที่ช้าๆนับไม่ถ้วน พวกมันถูกบังคับโดยพลังที่มองไม่เห็นและไม่สามารถแพร่กระจายออกไปได้ แต่ถูกบังคับให้ปกคลุมบึงน้ำแห่งนี้เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า
กริมหยุดเดินและยืนขึ้น ภายใต้เงาของฮู้ดเกิดประกายแสงจากดวงตามองออกไปทางต้นไม้ปีศาจที่อยู่สองข้างทางเดินโดยไม่กระพริบ ด้วยทัศนวิสัยการมองแบบใหม่ สีของธาตุที่ซ่อนอยู่บนต้นไม้เหล่านั้นในที่สุดก็ปรากฏออกมาให้เห็น
ภายใต้เปลือกไม้ที่เหี่ยวเฉาจำนวนมาก ปรากฏใบหน้าของผีที่น่าขนลุกจำนวนมากอยู่กันอย่างแออัด ทุกตนเป็นวิญญาณที่ติดกับของต้นไม้ปีศาจเหล่านี้ กริมที่เห็นประกายแสงสีเขียวอยู่ที่ปลายเข็มที่ติดอยู่บนกิ่งไม้ ประกายแสงนี้บ่งบอกถึงพิษที่ทำให้เหยื่อของมันเป็นอัมพาต
ส่วนเถาวัลย์ดูดเลือดที่แขวนอยู่บนต้นไม้นักล่า พวกมันทั้งหมดเป็นปีศาจ พวกมันมีเลือดไหลเวียนอยู่ภายใน นั่นคือเลือดบริสุทธิ์ที่ไหวอยู่ใต้เปลือกสีเขียวที่บิดกันเป็นเกลียวอยู่ ภายในของต้นไม้นั้นมีถุงเลือดอยู่ในจำนวนมากมีขนาดเท่ากำปั้นของมนุษย์และมีการสูบฉีดเลือดเป็นจังหวะ ดูคล้ายกับหัวใจของมนุษย์
กา~ กา~
อีกากลุ่มหนึ่งได้บินลงมาเกาะที่กิ่งของต้นไม้ ดวงตาสีแดงของพวกมันมองมาที่กริม
บอกได้เลยว่า การถูกจ้องมองโดยเหล่าอีกาปีศาจเหล่านี้ ทำให้เขารู้สึกอึดอัด
การเผชิญหน้ากับเหล่าปีศาจที่เต็มไปด้วยความอันตราย กริมไม่กล้าประมาท ถึงแม้ว่าเหล่าอีกาพวกนั้นจะไม่ค่อยแข็งแกร่งเหมือนกับสัตว์อสูร ดวงตาสีแดงของพวกมันมีความสามารถ ‘Doom’ เคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับนักเวทย์ขั้นต้นและตาของพวกเขาบอดเพราะอีกาเหล่านี้
เมื่อเห็นอีกากำลังตั้งท่าจะโจมตี กริมยกแขนขวาขึ้นมและร่ายเวทย์อย่างแผ่วเบา หลังจากนั้น 5 วินาที บอลไฟสีแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนมือของกริมและหมุนอย่างรวดเร็ว
มือขวาของกริมปกคลุมไปด้วยบอลไฟ แต่เขายังคงปลอดภัยอยู่
นี่คือ เวทย์ ‘ฝ่ามือเปลวเพลิง’
หลังจากที่ใช้เวลา 6 ปีในหอคอย นี่เป็นเวทมนตร์บทเดียวที่กริมสามารถใช้ได้
ปัจจุบันด้วยความสามารถของกริม เขาสามารถยืดเปลวเพลิงออกจากฝ่ามือไปได้ถึง 5 ก้าว นั่นเป็นขีดจำกัดที่เขาทำได้ในตอนนี้ ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเป็นเวทย์ระยะใกล้
เปลวไฟเวทย์ส่องสว่างขึ้นมาท่ามกลางหมอก พลังที่ส่งออกมาทำให้พวกปีศาจตระหนักว่ามนุษย์ตรงหน้าพวกมันไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้ง่ายๆ
บรรดาปีศาจที่กำลังล้อมรอบกริม ดูเหมือนว่าพวกมันเกรงกลัวและค่อยๆกระจายตัวหลบหนีออกไปจากข้างทางอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้พวกกลุ่มอีกาปีศาจได้ส่งเสียงร้องออกมาขณะที่บินขึ้นสู่ท้องฟ้าในเวลาอันสั้นและกลืนหายไปในหมอก
กริมสูดลมหายใจยาวๆ ดังนั้นความกดดันที่มีอยู่ค่อยๆคลายตัวลงช้าๆ
ไม่มีปีศาจตัวใดกล้ามาขวางทางเดินหินอีก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะหยุดข่มขู่เหล่านักเวทย์ขั้นต้นให้ออกจากทางเดินหินแห่งนี้ ถ้ากริมตกใจกลัวเมื่อตกอยู่ในวงล้อมของเหล่าปีศาจและเผลอเดินออกไปจากทางเดินหิน….แม้ว่าเขาจะมีเครื่องรางเวทย์ เขาก็อาจจะตายได้
วิญญาณ เลือดและเนื้อของเหล่านักเวทย์ขั้นต้น มันอร่อยกว่าเนื้อของมนุษย์และสัตว์ป่าทั้งหลายแน่นอน นอกจากนี้ยังไม่ได้เป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างเหล่าปีศาจและหอคอยเวทมนตร์ ดังนั้นการเดินทางออกไปตรวจสอบด้านนอกของหอคอยจึงต้องเตรียมจิตใจให้พร้อม เมื่อใดก็ตามที่เหล่าปีศาจพบจุดอ่อนในจิตใจของมนุษย์ อนาคตของมนุษยชาติคงจะไม่ดีแน่
“บันทึกทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับปีศาจเหล่านี้”
“ปี๊ป….การบันทึกเสร็จสมบูรณ์! โฮสต์ โปรดตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตตามลำดับ”
ภาพของสิ่งมีชีวิตปรากฏขึ้นมาบนดวงตาของเขา
“ต้นไม้นักล่า….เถาวัลย์ดูดเลือด…อีกาปีศาจ…”
“การตั้งชื่อเสร็จสมบูรณ์! บันทึกข้อมูลใหม่ลงในฐานข้อมูล”
********************************
ไปกดติดตามกันได้ในเพจนะครับ
ตามหานักแปลเก่าครับ ทักมาหาในเพจเลย