I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Arena ตอนที่ 34 Examinees (Part 2) [41/75]

| Arena | 625 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว

Chapter 34 Examinees (Part 2)

“เลเวล 5?”

ใบหน้าของจินฮยอกตกตะลึง.

“คุณโกหกหรอ?”

มันเป็นความตรงๆของจีโซ

“ผมไม่คิดว่าคนที่ผ่านมาสองรอบจะมีเอนทรีเลเวล 2 มันคงมีคาม่ามากพอที่จะเพิ่มสกิลหลักเอนทรีเลเวล5…”

ลีจียงที่ดูมีมารยาทกว่าเขาก็ยากที่จะเชื่อ.

แต่จุนชอยก็ไม่คิดที่จะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจ ในที่สุดผมก็ก้าวเข้ามาและอธิบาย.

“คุณมันน่าเหลือเชื่อมากอาจจะเพราะศิลปะการต่อสู้?”

จินฮยอกมีประกายการยั่วยุ

“ผมอยากเห็นสกิลของคุณ มันอาจจะเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ พวก? มีวอร์มเครื่องให้ร้อนก่อนจะสอบไหม ว่าไง?”

“เท่าที่คุณต้องการ.”

จุนชอยเห็นด้วย แม้ว่าพวกเขาจะผ่านมาแล้ว 19 รอบ มันดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่กลัว

“เขาจะโอเคไหม?”

แฮซูถามผม ผมพยักหน้า

“ไม่มีปัญหาตราบเท่าที่เขายังไม่ตาย เนื่องจากคุณสามารถฟื้นฟูได้เต็มที่เมื่อผ่านประตูสอบ เรากำลังสวมชุดนักรบและเสื้อผ้าบางประเภทเป็นครั้งแรกดังนั้นการอุ่นเครื่องอาจเป็นความคิดที่ดี”

ทั้งสองคนลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินไปยังที่ว่างในห้อง.

จากนั้นจุนชอยก็ตั้งท่าและจินฮยอกก็ยกกาดขึ้นมา ทั้งสองกำลังจะสู้มือเปล่า?

“มีสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากรู้.”

“มันคืออะไร?”

“กับศิปละการต่อสู้ในจีน คุณรวมมันเข้ากับไทชิด้วยใช่มั๊ย? มันช่วยในการต่อสู้หรือเปล่า?”

จอนฮยอกกระตุ้น ตาของจุนชอยกระตุก

“ผมจะแสดงให้ดู.”

จุนชอยค่อยๆสืบเท้าเข้าหา มันเป็นวิธีการเดินโดนใช้นิ้วเท้าในการกระเถิบเข้ามา.

ขณะที่เขากำลังค่อยๆเข้าหา จินฮยอกก็ได้แย๊ปเบาๆ จากนั้น

พลัก!

“…!”

ตอบโต้แย๊บนั้นด้วยการพุ่งโจมตีของจุนชอย

ทันทีที่จุนชอยก็พลันกระโดดต่อยเข้าไป.

ปั๊ปๆๆๆ!

พายุหมัดถูกจินฮยอกป้องกันไว้ได้

ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ จินฮยอกที่กำลังป้องกันอยู่ก็เตะไปที่เข่า ขณะเดียวกัน.

ผลัก!

จุนชอยที่ตกลงมาถึงพื้นแล้วก็กระโดดกลับตัว 360 องศาและตีเข่า นั่นเป็นการเคลือนไหวของ Baguazhang? ไม่ว่าอย่างไรมันก็น่าทึ่ง

ผัวะ!

“ผลัก!”

ขณะเดียวกันขาที่เตะไปยังเข่าของจุนชอยก็พลาดเป้าจินฮยอกที่สูญเสียสมดุลก็ต้องตั้งรับการโจมตีต่อเนื่องจากเข่าอีกครั้งก่อนที่จุนชอยจะตกถึงพื้น.

“อ่า แม่ง! มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ศิลปะการต่อสู้ของจีน!”

ขณะที่จินฮยอกหมุนตัวลุกขึ้นอย่างฉับพลัน

“ต้องการต่อไหม?”

“คุณพูดเรื่องอะไร? นี่เป็นการเริ่มต้น?”

จินฮยอกเคลื่อนที่เข้าไป.

แต่ก็ไม่สามารถที่จะโจมตีได้หลังจากที่ออกหมัดไปครั้งเดียวก่อนจะกลับเข้ามาสู่โหมดกระสอบทรายอีกครั้ง.

เขาพยายามที่จะโจมตีด้วยเย็บเบาๆ แต่จุนชอยก็โต้ตอบด้วยการโจมตีที่หนักหน่วงและลื่นไหนเป็นชุดๆ

พลัก!

“อัค!”

หมัดที่โดนคางของจินหยอกของเขาจนเลื่อนออกไปด้านข้าง(กรามหลุด)

จากนั้นจุนชอยก็หมุนตัวตวัดหมัดเข้าไปอีกข้างของเขาทำให้คางของเขากลับมาเข้ารูปเหมือนเดิมและจบด้วยการอัปเปอร์คัตจนจินฮยอกหงายหลังล้มลง.

ตึง!

“ออ!”

จินฮยอกหงายหลังอีกครั้ง

จุนชอยไม่ได้โจมตีต่อและเดินหลับไปที่นั่งของเขาก่อนจะพูด.

“พอแค่นี้ มันไม่มีจุดหมาย.”

“ห๊ะ?”

จินฮยอกตะโกน

“555! ตอนนี้นายเป็นไอ้ตูตโดยสมบูรณ์!”

“หุบปาก!”

จินฮยอกโกรธเสียงหัวเราะของจีโซ.

จุนชอยพูด.

“นั้นคือทั้งหมด.”

“อะไร นายกำลังจะบอกว่าแม้ว่าจะสู้มากกว่านี้คุณก็จะชนะ?”

จินฮยอกถาม และจุนชอยตอบเสียงเรียบ

“ไม่ว่ากี่ครั้งผมก็จะชนะ ตราบเท่าที่คุณไม่ได้ดึงดาบออก.”

จินฮยอกแน่นอน และใบหน้าของจีโซและจียังต่างตกใจ.

‘งั้นมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันคิดว่าเขาอ่อนแอเกินกว่าจะผ่านทั้ง19รอบได้.’

แม้ว่าจุนชอยจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ผ่านมา19ครั้งด้วยสกิลที่มากมายที่มาพร้อมกับคาม่า แต่จินฮยอกยังอ่อนแอเกินไป.

มันเป็นเพราะเขาไม่ได้ใช้อาวุธของเขา.

“ว้าว เขาเป็นหมอดู.”

จีโซอุทาน.

“แค่ก?”

จินฮยอกเกาหัว

“อย่าคิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่า มือใหม่.”

“55 มือใหม่มันดูแย่นะ มันไม่สามารถช่วยได้ ฉันไม่ได้ฝึกศิลปะอย่างต่อเนื่องเหมือนกับคุณ.”

“เขาเป็นช่างซ่อมรถยนต์~”

“หุบปาก.”

จินฮยอกหน้าเสียจากการกระแนะกระแหน่ของจีโซ

“นายรู้ได้อย่างไรว่าฉันใช้ดาบ?”

“ระยะทาง คุณรักษาระยะด้วยการแย๊ป จากนั้น…”

จุนชอยพูดต่อ.

“พลังงานที่อยู่ภายในจิตใจเหมือนกับที่ Mencius (Chinese philosopher) กล่าวไว้, ในศิลปะต่อสู้ไม่ได้เน้นไปที่ท่าทางแต่ยังมองไปที่จิตใจด้วย มันไม่ใช่อะไรที่เหมือนกับพลังเหนือธรรมชาติบางอย่าง.”

“…”

“กำลังจะบอกว่า การต่อสู้ของผมก็เหมือนกับการรำไทชิเหมือนกัน. เป็นการไหลเวียนร่างกายและเคลื่อนไหวด้วยการหายใจ.ถ้าคุณขี้เกียจแบบนี้ ขาและแขนของคุณก็จะไม่ทำงานประสานกัน การโจมตีและการป้องกันก็จะไม่ลื่นไหลและออร่าก็จะทำงานอยู่อย่างเดียว.”

“อ่า บทเรียนอันมีค่า คุณได้ยินไหม? คุณควรจะจดและเรียนรู้มัน.”

จีโซเน็บ.

“หุบปาก อีบ้า ใครให้เธอพูด? มันเป็นการฝึนการเคลื่อนไหวและกำหนดลมหายใจ?”

จินฮยอกถามจุนชอย.

“มันเป็นแบบนั้น.”

“งั้นการกำหนดลมหายใจเข้าออกก็เป็นแบบเดียวกัน?”

“มันสามารถทำแบบนั้นได้.”

“งั้นคุณจะบอกว่า คุณเลเวลอัพด้วยควบคุมออร่า?”

“ผมได้ทำมานานเกี่ยวกับการกระทำแบบนี้ อาจจะบอกได้ว่าผมทบทวนและประยุกต์ใช้ชี่กับออร่า.”

“คุณบอกว่าชี่คืออะไรนะ? บอกผมอีกครั้ง.”

จินฮยอกถามจุนซอยด้วยความสนใจอย่างมาก แม้ว่าจุนชอยจะตอบเพียงสั้นๆแต่ชัดเจน การดวลก็เปลี่ยนไปเป็นการบรรยาย

ใบหน้าของจินฮยอกแสดงพึงความพอใจออกมา

“อืม เยี่ยม ผมจะปรึกษาอีกรอบ.”

“เท่าที่คุณต้องการ.”

“ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมาก ดังนั้นผมจะจ่ายให้ เรียกกระเป๋าไอเทม.”

ขณะที่เขาพูดอย่างนั้นที่ข้างตัวเขาก็ปรากฎกระเป๋าขนาดเล็ก

จากในกระเป๋าข้างลำตัวของจินฮยอก เขาดังขวดสีแดงออกมา

“นี่ รับไป”

จุนชอยรับขวดสีแดง

“มันเป็นโพชั่นเพิ่มเลือด มันรักษาบาดแผลทันที เป็นของล้ำค่าที่เอาใว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่มีผลต่อการเจ็บป่วยหรือความเหนื่อยล้าของร่างกาย มีแค่บาดแผลเท่านั้น.”

จุนชอยที่รับขวดไว้และส่งมันให้แฮซู.

“เก็บมัน.”

“ได้…”

แฮซูก็เรียกกระเป๋าออกมาเหมือนกับจากนั้นก็เก็บขวดไว้ แต่กระเป๋าของแฮซูมีกระสุนปืนของ Mosin-Nagant และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเต็มไปหมด.

“เอ่อ ส่งมันมาที่นี่.”

จีโซถอนหายใจและช่วยเธอ เธอเก็บยารักษาโรคลงในกระเป๋าจนดูเหมือกับว่ามันจะระเบิด ผมกลัวว่ากระเป๋าอาจจะขาด แต่มันก็น่าแปลกใจ.

“กระเป๋าไอเทมมันแข็งแกร่งจริงๆ คุณสามารถใส่มันได้มากเท่าที่จะใส่ได้โดยไม่ต้องกลัวมันขาด”

“โอ้ ขอบคุณ”

ในฐานะพี่เลี้ยงทีมเรา*, จีโซแนะนำทริคมากกมาย.

(TN: คำนี้หมายความว่าพวกมีประสบการณ์มาก่อน)

เราใช้เวลาแบบนี้และเมื่อมันเหลืออีก3ชั่วโมง จีเฮก็ปรากฎขึ้น

“พวกคุณพร้อมหรือยัง?”

“ใช่.”

“งั้นก็เข้าไปในห้องของพวกคุณ ไม่จำเป็นต้องถอดอะไรและตรวจสอบว่าไม่ลืมอะไรก่อนจะสอบ มีคนเคยถอดรองเท้าและเข้าสอบทั้งอย่างนั้น.”

“ตรวจสอบเรียบร้อย”

เราเข้าไปในห้องของทีมเรา จีโซเหมือนจะบอกอะไรเล็กน้อยก่อนจะเข้าห้องของเธอ

“เจอกันพรุ่งนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่พรุ่งนี้สำหรับพวกเรา.”

“กลับมาอย่างมีชีวิตและมาเจอกันอีกครั้ง.”

ผมอยู่ในห้องของผมและนอนอยู่บนเตียง

ตอนนี้เป็นการสอบรอบที่3 เวลานี้ด้วยความช่วยเหลือของศูนย์วิจัยมันสามารถจัดการอย่างเป็นระบบจริงๆ.

แต่เมื่อเวลาใกล้เข้ามาผมก็อดคิดถึงไม่ได้ คำว่า‘รอบที่2 รอบที่3 จะมีแต่ความโชคร้าย’ ในหัวของผมและมันทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ.

‘จะไม่มีใครตายในรอบนี้.’

ผมไม่เสียใจกับการตายของโกซาง เขาสมควรตาย

แต่คราวนี้เป็นเพือนที่ดีอย่าง ยูนโฮ แฮซู และจุนชอย ผมหวังว่าจะไม่มีใครตาย.

และเวลาก็ใกล้จะหมดลง

ผมเรียกกระดานเพื่อดูเวลาที่เหลือก่อนที่จะหลับไป

***

ทันทีที่ผมลืมตาผมตรวจสอบเพือนร่วมทีมของผม ยูนโฮ แฮซูและจุนชอยยังอยู่ด้วยกันไหม

พอผมเพิ่งเงยหน้าก็เห็นไอ้เทวดาน้อยที่น่าเบื่อกำลังส่ายหำที่เหมือนหนอนไปมาและกระพือปีกไปรอบๆของเรา.

“เวลคัม ดีใจที่ได้เจอผมไหม?”

“…”

“ว้าว ดูจากชุดของคุณ ดูเหมือนว่าคุณจะเตรียมมาสำหรับสู้รบ.”

“เราได้เรียนรู้จากโลกที่เราไม่รู้มาก่อน.”

ประเทศต่างๆค้นหาผู้เข้าสอบและตั้งสถาบันวิจัยขึ้นเพื่อช่วยเหลือและจัดอันดับตามคาม่าของผู้เข้าสอบ?

ไม่ต้องพูถึงเลยว่าที่พวกเขารวบรวมเมไจที่เข้าสอบหลังจากอารีน่า เพื่อพลังงาน

‘บางอย่างมันแปลกๆ…’

“อะไรแปลก?”

“เอ๋ คุณแปลกใจผม!”

ไอ้เทวดาเหี้ยนี่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม มันทำให้ผมตกใจ และผมก็หงะถอยหลัง.

“แม่ง! ตกใจหมด!”

“ดูเหมือนกับว่าผู้เข้าสอบคิมฮยอนโฮมีความสงสัยอีกครั้ง”

“ใช่ มันแปลก!”

ผมพูด.

“โลกและอารีน่าเป็นโลกที่แยกออกจากกัน มันเป็นโลกที่ไม่สมควรที่จะเอาอย่างอื่นไปได้นอกจากร่างกายผม ถูกไหม?”

“นาย.”

“แต่ด้วยความสมบูรณ์ของโลกเรารู้ดีเกี่ยวกับอารีน่าที่พวกเรากำลังร่วมอยู่นี้ พวกเขากำลังเก็บและรวบรวมสิ่งที่เราเอามาจากอารีน่าเพื่อมาใช้เป็นพลังงานที่สูงเยี่ยมนั่นทั้งหมดมันเป็นไปได้หรอ?”

“มีอะไรที่ยังไม่ได้พูดอีก”

ไอ้เหี้ยนี่กำลังแคะขี้หูและทำท่าทางไม่น่ารักเอาซะเลย.

“มันจะไม่ไปขัดต่อกฎของโลกหรืออะไรแบบนั้นหรอ?”

“ม้าย ไม่.”

เทวดาน้อยกางแขนและทำท่าคลื่น

แต่ยิ่งผมคิด มันก็ยิ่งแปลกมากเกินไป

ผู้สอบจะถูกเลือกหลังจากตาย

แม้ว่าจะใช่อยู่ที่อารีน่า1อาทิตย์แต่มันก็ผ่านไปไม่นานสำหรับโลก.

นั่นเป็นข้อพิสูจน์ที่สับสน

แต่ความจริงแล้วผู้เข้าสอบถูกปิดเป็นความลับ ทั้งโลกรู้เกี่ยกับอารีน่าและผู้เข้าสอบ ทั้งยังสร้างองค์กรลับและกำลังทำวิจัยอยู่ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยกับประชาชนทั่วไป.

‘พวกเขาพยายามชักจูงเรา? หรือว่าจะมีจุดประสงค์อื่นๆ?’

ความคิดของผมมาถึงตรงนี้ก่อนจะถูกขัดจังหวะ

“ตกลง ไปกันเถอะ.”

เทวดาน้อยเคาะหัวผมเบาๆ

“อะไร?”

“ผู้เข้าสอบคิมฮยอนโฮ รู้สึกว่าคุณจะมีความคิดที่ลึกซึ้ง.”

“การคาดเดาของผมถูก?”

“หืม? ฉันไม่ได้บอกว่ามันถูกต้อง เพียงแต่คุณคิดลึกเกินไป นั่นไม่ใช่คำชม.”

นั่นอะไร คำตอบที่คลุมเครือ

เทวดาน้อยดีดนิ้วของเขาและประตูก็เปิด

“ตอนนี้ รีบๆและเริ่มซะ หรือว่านายต้องการจะใช่เวลากับฉันมากกว่านี้?”

ไม่มีคำพูดรอบสอง ทุกคนเดินเข้าประตูทีละคน

ผมเขาประตูสอบท้ายสุด

เมื่อผมถูกล้อมด้วยแสงจู่ๆผมก็ได้ยินเสียงของเทวดาน้อยดังตามหลัง.

“และฉันก็ไม่ได้บอกว่านายผิดนะ ฮิฮิ.”

อะไร ไอ้เหี้ยนี่! เขาไม่ได้บอกว่าผมถูกหรือผิดแน่ๆ!

สุดท้ายผมก็หมดสติด้วยสองที่มากขึ้น และการสอบรอบที่สามก็เริ่มขึ้น

***

ผมเบื่อหน่ายกับป่าแห่งนี้

ที่เราอยู่ตอนนี้คือลำธารจากการสอบรอบสอง

มีกองไฟเก่าๆ กระดูกปลาและกระต่ายเกลื่อนกลาดที่พวกเขาทิ้งไว้คราวที่แล้ว.

ตอนที่แล้ว
comments