ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“วู้วว ในที่สุดพวกมันก็ไปซะที”
ในที่สุด’เลนลี’ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ‘เลนลี’รู้ดีว่าเขามีพลังแค่นักรบระดับสี่เท่านั้น การต่อสู้ในอาณาเขตระยะประชิตกับหมาป่าลมระดับห้าพอๆกับการฆ่าตัวตาย การใช้เวทมนตร์เท่านั้นที่สามารถทำให้เขาพอมีหวังรอด
แต่ถ้ามันไม่ได้เพราะว่าเขามีความเร็วที่พอเพียง เขาจะมีโอกาสร่ายเวทอะไรได้ละ โชคดีที่เขาเร็วอยู่บ้าง และทำให้เขาสามารถที่จะเจอผลลัพท์อันน่าชื่นชมนี้ได้
“ถ้าหากนักเวทระดับหกอยู่ที่นี้ เขาคงจะไม่ได้ทำอะไรได้ดีกว่าผมแน่ๆ เมกัสระดับหกในเรื่องของความเร็วนั้น ไม่สามารถหลุดออกจากการไล่ตามของเหล่าหมาป่าลม เมื่อถูกล้อมรอบและโจมตีโดยฝูงหมาป่า เขาอาจจะไม่มีแม้แต่โอกาสในการร่ายเวทใดๆเลย”
ยิ่งกว่านั้น ‘เลนลี’รู้สึกมั่นใจว่าการตัดสินใจไม่ลดระดับการฝึกฝนร่างกายของเขานั่นเป็นการตัดสินใจอันชาญฉลาดมากๆ ‘เลนลี’มองดูที่แหวนดราก้อนริงค์บนมือซ้ายของเขา เขาได้เริ่มใส่แหวนไว้ในมือซ้ายตั้งแต่เขาตอนร่างกายเขาได้พัฒนาเติบใหญ่แล้ว
“และ มันดีมากที่ผมมีแหวนดราก้อนริง ไม่งั้น ผมจะสามารถใช้เวทมากมายขนาดนี้ได้ยังไง”
สำหรับเมกัสระดับห้าธรรมดาๆ หลังจากใช้เวทระดับห้าสองครั้ง ส่วนใหญ่แล้วพลังเวทเขาก็จะหมด แต่’เลนลี’นั้นแตกต่าง เขาเพิ่งจะใช้เวทระดับห้า ไปหกครั้ง การร่ายเวท
“เวททลายหินผา”
สามครั้ง ,
“เวทสุดยอดแรงดึงดูด”
หนึ่งครั้ง ,
“เกราะแห่งการปกป้อง”
หนึ่งครั้ง และ
“หอกเซตธาตุดิน”
หนึ่งครั้ง เหตุผลที่เป็นอย่างนี้คือ? -> แหวนดราก้อนริงไงล่ะ ในหลายปีที่ผ่านมา ‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ได้ไปเจอแหวนโดยบังเอิญ ครั้นนั้นเมื่อ’ด็อกริงโคเวิร์ท’ร่ายเวท
เขาพบสิ่งที่น่าประหลาดใจว่า เวทเมื่อได้ร่ายผ่านแหวนดราก้อนริง มันจะใช้พลังเวทและพลังวิญญาณอย่างมากแค่หนึ่งในหกเพื่อที่จะได้ผลเท่ากัน หนึ่งในหก นี้มันแสดงถึงอะไร? เมกัสระดับเซียนโดยธรรมดาแล้วสามารถใช้ เวท
“ พายุทำลายล้าง”
ที่น่ากลัว ได้หนึ่งครั้ง แต่ด้วยการช่วยเหลือของดราก้อนริง เขาสามารถใช้เวทได้หกครั้ง! ช่างน่ากลัวนัก สมบัติที่ทรงพลังทำให้ด็อกริงโคเวิร์ทตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาคิดว่าการค้นพบครั้งนี้เป็นพรจากพระแม่ธรนี นี้คือเหตุที่เขาตั้งชื่อแหวนนี้ว่า แหวนโลกา สมบัติศักดิ์สิทธิ์
“แหวนโลกา”
นี้คือชื่อที่’ด็อกริงโคเวิร์ท’มอบให้มัน ตามที่’ด็อกริงโคเวิร์ท’พูด ถึงแม้ทวีปยูแลนมีสมบัติที่ทรงพลังมากมากที่สามารถทำให้เมกัสร่ายเวทได้ง่ายมากขึ้น มันแทบจะไม่มีเลยที่จะมีผลเทียบเท่าระดับเดียวกับ แหวนโลกา แต่หลังจากได้แหวนดราก้อนริงนี้มา เมื่อฝึกกับมัน ‘เลนลี’ค้นพบบางอย่างด้วย
“ไม่ใช่แค่ เวทดิน!! เวทลม และแม้แต่เวทไฟอันน้อยนิดของผม เมื่อแผ่กระจายมายังแหวนดราก้อนริง จะใช้ พลังวิญญาณ และพลังเวทเพียงแค่หนึ่งในหก”
มองที่แหวน ‘เลนลี’รู้สึกดีใจมากยิ่งๆขึ้น ในโอกาสนี้’ด็อกริงโคเวิร์ท’เลือกที่จะปรากฏข้างๆ’เลนลี’
“อย่ามองมันไปเลย ในสมัยของปู่ หลังจากได้แหวนดราก้อนริง ปู่ไม่กล้าบอกใครใครเกี่ยวกับมัน ถ้าใครสักคนรู้เรื่องมัน เป็นไปได้อย่างมากว่า นักสู้ระดับเซียนจำนวนมาก จะมาลองทดสอบและเอามันไปจากปู่ แต่ปู่จำเป็นต้องพูด แม้แต่ปู่ก็ยังไม่คิดว่ามันจะสามารถช่วยผู้ใช้เวทไฟและเวทลมด้วย”
‘ด็อกริงโคเวิร์ท’ถอนหายใจ ‘เลนลี’พยักหน้า
“ต่อไปในอนาคต ผมก็คงไม่กล้าเปิดเผยความลับนี้เหมือนกัน”
‘เลนลี’รู้ดีมากๆว่าแหวนนี้มีค่าเพียงไร ถ้าความลับของมันรั่วออกไป เป็นไปได้ยอ่างมากว่าเขาจะถูกแยกชิ้นส่วนโดยนักสู้ระดับเซียนทั่วทั้งทวีปยูแลน
“ลูกพี่ เสร็จยังง?”
ชาร์โดว์เมาส์ตัวจ้อย หนูปิ๊ เลือกที่จะพูดในตอนนี้ มันยืนบนที่ที่เป็นหญ้าไม่ใกล้มากนัก หลังจากนั้น หนูปิ๊ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย มันแค่มองจากที่ไกลๆ ‘เลนลี’ยิ้ม
“โอ๊ะ เจ็บ”
เห็นแผลบนหน้าอกของเขาและ และเสื้อผ้าที่ได้ถูกฉีกและเปื้อนด้วยเลือด ‘เลนลี’เริ่มพันแผล-ทายา ร่วมถึงใช้พลังธาตุเพื่อปิดบาดแผล หนูปิ๊จ้องที่แผลของ’เลนลี’ด้วยเช่นกัน ดูเหมือนค่อนข้างกำวล
“ลูกพี่ ต่อไปถ้ามีเหมือนแบบนี้เกิดขึ้นอีก ปิ๊จะเริ่มช่วยสู้ด้วยแล้ว”
จู่ๆหนูปิ๊ก็พูดกับ’เลนลี’ทางจิต
“ไม่จำเป็น นอกจากปิ๊น้อยคิดว่าผมอยู่ในสถานการณ์ที่ผมไม่มีพลังพอที่จะต้านทานและ ผมกำลังจะตายแน่ๆ เพียงแค่นั้นปิ๊น้อยถึงมาช่วยได้ ไม่งั้น มันจะมีผลอะไรที่ผมมาฝึกที่นี้ละ?”
เสียงของ’เลนลี’แน่วแน่และหนักแน่น หนูปิ๊เลยไม่กล้าที่จะพูดอีก หนูปิ๊อยากช่วยฆ่าสัตว์อสูรต่างๆมานานแล้ว แต่’เลนลี’ไม่ตกลง ตอนนี้ เงาสีดำซุ่มอยู่ ซ่อนที่หญ้าหนาสามเมตรถัดจาก’เลนลี’
“เพียงตอนนี้ ในการต่อสู้ ตั้งแต่แรกจนท้ายสุด เขาใช้เวทระดับหก หกครั้ง ถึงแม้เวทมีพลังแค่ระดับห้า จากการที่เขาสามารถร่ายมันหกครั้ง เขาเลยใกล้เคียงเมกัสระดับหก การพลังการต่อสู้ของเขาควรเป็นนักรบระดับสี่ ตามความจริงก็คือการเคลื่อนไหวของเขาได้รับการช่วยเหลือด้วยเวทลม เขาเลยมีความสามารถใกล้เคียงกับคนที่มีความสามารถเวทลมอีกด้วย โดยสรุปก็คือ เมกัสสองธาตุระดับหก และนักรบระดับสี่”
เงามืดที่อยู่ห่างไกลกำลังคำนวณ
“โอกาส 90เปอเซ็นสำเร็จในการฆ่ามัน ข้าสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว”
เงาดำได้ทำการตัดสินใจ ‘เลนลี’เพิ่งจะเสร็จการต่อสู้ครั้งใหญ่ เป็นธรรมดาที่ เขาจะผ่อนคลายสักนิดหนึ่ง เงามืดนั่นยังคงอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว ในยามค่ำคืน ไม่มีอะไรมากไปกว่าเงาอีกเงาหนึ่ง ไม่แม้แต่ชาโดว์เมาส์จะรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่นแม้แต่น้อย ไม่ต้องพูดถึง’เลนลี’ แสงพลังธาตุที่ปกคลุมบนพื้นดินได้หายไป สุดยอดแรงดึงดูดได้หมดไป
“ตอนนี้ละ!”
เงาดำ ซึ่งได้ซุ่มอยู่ตลอดเวลา พุ่งออกอย่างรวดเร็ว ถลาด้วยความเร็วอันน่าตกใจไปยัง’เลนลี’ เหมือนเงาลางเลือนหลอกตา ในทันใดนั้น’เลนลี’รู้สึกตื่นตระหนก และเขาหลบโดยทันทีอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งหันไปมองข้างหลัง
เขาเห็นเงาสีดำกำลังพุ่งเข้ามาแทงที่เขาด้วยมีดแหล่มคม มีดที่แผ่แสงอ่อนๆ ที่ทำให้หัวใจของ’เลนลี่’กลายเป็นน้ำแข็ง ความเยือกเย็น อำมหิต แววตาฆ่าฟัน เหล่านั้นของเงาทำ ล้วนทำให้หัวใจของ’เลนลี’หยุดเต้น
“เร็วมา!”
‘เลนลี’รีบถอยหนี แต่ชัดเจนว่าเงานั้นเร็วยิ่งกว่า แสงแวบของมีดสีดำเกือบจะมาถึงดวงตาของเขา
“แคล็ง!”
‘เลนลี’ใช้สิ่งตรงเพื่อป้องกันมีดของคู่ต่อสู้ และมีดดำของคู่ต่อสู้ปะทะอย่างรุ่นแรงที่สิ่งตรง ด้วยเสียงแคล็ก สิ่งตรงได้แตกกระจายทั้งหมด ด้วยเศษใบมีดของสิ่วตรงได้บาดไปที่ใบหน้าของ’เลนลี’ ทิ้งไว้เลือดที่ไหลออกมาเป็นสาย
“วูบ วูบ วูบ วูบ”
จู่ๆใบมีดลมเจ็ดหรือแปดอันก็ปรากฏข้างๆ’เลนลี’ และฟันลงไปที่เงาดำ ด้วยระดับความสามารถของ’เลนลี’ในตอนนี้ เขามีช่ำชองในการร่ายมีดลมสนับสนุน มีดลมเจ็ดหรือแปดใบทั้งหมดฟันไปที่เงาดำ แต่เมื่อมีดเหล่านั้นพุ่งถึงแสงสีดำที่แผ่ออกมาจากเงานั้น มีดเหล่านั้นล้วนหายไป
“ปราณธาตุความมืด!”
‘เลนลี’คิดขึ้นได้โดยทันที ถึงแม้ว่าใบมีดเจ็ดหรือแปดใบนั้นไม่ได้ขวางกั้นเงาดำ มีดเหล่านั้นก็ได้ทำให้เงาดำหันเหความสนใจไปชั่วขณะ ‘เลนลี’รีบหันไปข้างหลังและ พุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกธนูที่พุ่งออกจากคันธนู
แต่ยังไงก็ตาม เงาดำนั้นก็มีการตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และได้ไล่ตามหลัง’เลนลี’ ด้วยใจแน่วแน่ที่จะไปไล่ให้ได้ด้วยความไวที่เร็วยิ่งกว่า
ท่ามกลางกลางอากาศ เมื่อเจอะกับ’เลนลี’ เงาดำพุ่งแทงไปยัง’เลนลี’ด้วยมีดของเขาอีกครั้ง และยังคงมุ่งตรงไปยังหัวใจของ’เลนลี’ ในขณะนี้ ‘เลนลี’ก็เกิดได้หวนนึกถึงภาพของศพห้าศพเหล่านั้นที่เขาได้เห็นก่อนที่จะเข้าสู่เทือกเขาสัตว์เวทแวบขึ้นมา ทั้งห้าได้ถูกฆ่าด้วยการแทงเข้าที่หัวใจ
“ตาย”
เงาดำมีความมั่นใจอย่างแน่วแน่ มีดของเงาดำที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีดำ ได้ถึงหน้าอกของ’เลนลลี’แล้ว ในกลางอากาศนั้น มันไม่มีทางเลยที่’เลนลี’จะไปหรือหาที่หลบ ทางเดียวที่เขามีก็คือ ร่ายเวทป้องกันที่ดีที่สุดเท่าทีเขาทำได้โดยไว โล่ธาตุดิน! โล่เล็กๆของธาตุดิน ขนาดเพียงค่สามส่วนของขนาดปกติ ได้ปรากฏขึ้นข้างหน้าหน้าอกของ’เลนลี’
“หึ!”
เงาดำอุทานขึ้นอย่างดูถูก มีในมืดของพุ่งตรงไปยังโล่นั่นด้วยความไวที่มากกว่าเดิม สำหรับใครสักคนที่มีระดับพอๆกับเงาดำ โล่ดินไม่ได้แสดงถึงป้องกันอะไรเลยสักนิด หลังจากได้ย่อขนาดโล่ลง
โล่ดินจริงๆแล้วนั้นมีความสามารถด้านการป้องกันที่มากโขเลยทีเดียว แต่เมื่อเจอะกับการโจมตีจากมีดนี้ ที่โล่สามารถทำได้ทั้งหมดก็คือลดความเร็วของมัน โดยที่ไม่สามารถหยุดมันได้
‘เลนลี’รู้สึกความเจ็บมาจากหน้าอกขณะที่มีดที่พุ่งตลอดทางตรงมายังโล่ดินองเขา
“โฮกกกกกกกก”
เสียงชวนขวัญผวา เสียงกรีดร้องทุ่มต่ำ ดังขึ้นมาณะที่ชาร์โดว์ตัวน้อย หนูปิ์ ปรากฏขึ้นมาในทันทีใกล้ๆกับข้อมือของเงาดำ ปากของชาร์โดว์เมาส์ใหญ่พอที่จะงับมือของมนุษย์ได้ ด้วยฟันอันแหลมคมของมัน สามารถที่จะเคี้ยวบดอะไรก็ได้อย่างง่ายดาย
หนูปิ๊กัดไปอย่างแรงที่ข้อมือของเงาดำ เงาดำที่สูญเสียมือส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา สิ่งยังคงเหลือนั้นคงมีแต่มือครึ่งหนึ่งที่ยังคงจับมีดที่เจาะไปยังโล่ดิน ทิ่มไปที่หน้าอกของ’เลนลี’
ที่มา: