I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Commanding Wind and Cloud ตอนที่ 13 : อุปสรรคสายเลือด

| Commanding Wind and Cloud | 873 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เหตุผลที่เฉินจิ้นกล้ากระทึบซีซาร์เป็นเพราะเขารู้ว่าคาร์เลอร์ไม่สามารถทำอะไรเขาได้นอกจากโกรธ แต่เขาก็ไม่คาดว่ากรรมการผู้จัดการจะมาตัดสินชะตากรรมของเขาในวันหนึ่ง

“อาจารย์ มันไม่เป็นไรถ้าไม่สามารถทดสอบใหม่ได้” เฉินจิ้นยักไหล่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้อะไรคิดเลย “การทดสอบนี้จะไม่ส่งผลต่อคุณภาพของค่ายกลพลังงานนักรบที่จะได้รับในอนาคต ฉันยังสามารถได้รับโอกาสที่จะใช้ค่ายกลพลังงานนักรบได้อยู่”

“ไอโง!” อาจารย์โรคโรคเกซตบโต๊ะมันทำถ้วยชาและหนังสือบนโต๊ะของเขากระเด็งขึ้นเล็กน้อย “แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับคุณภาพของค่ายกลพลังงานนักรบที่คุณอาจใช้ แต่ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับว่าคุณสามารถไปที่การชุมนุมผู้กล้าได้หรือไม่? ถ้าคุณไม่ไปคุณจะไม่ทราบว่านักรบที่แท้จริงมีพลังมากแค่ไหน! ถ้าคุณไม่ได้ไปชุมนุมแล้วสิ่งที่สามารถทำให้คุณทำงานหนักขึ้นเพื่อพยายามได้รับที่นั่งอย่างเป็นทางการในปีหน้า? “

เฉินจิ้นรู้สึกว่ามันตลกสินดียามที่เห็นอาจารย์โรคดิเกซกระตุนเขา ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสถาบันออซแลนนักเรียนทุกคนที่ได้รับการคัดเลือก พวกเขาได้แค่ไปนั่นประปนกับสถาบันอื่น ๆ

“เฉินจิ้นแม้ว่าฉันไม่ใช่นักรบชั้นนำ คุณต้องเชื่อมั่นในประสบการณ์และสัญชาตญาณของฉัน!”อาจารย์โรคดิเกซกระตุ่นเขามากขึ้น “คุณเป็นนักรบที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่ฉันได้เห็น คุณจะกลายเป็นนักรบที่แข็งแกร่งและมีอำนาจในอนาคต แม้ว่าคุณอาจจะไม่สามารถต่อสู้กับนักรบสายเลือดได้ แต่นั้นจะไม่ได้หยุดทำให้คุณกลายเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ในการต่อสู้กับปีศาจ”

“นักรบสายเลือด?” เฉินจิ้นขุ่นมั่วขึ้นแต่การแสดงออกดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เป็นคำที่คุ้นเคยนับตั้งแต่การทดสอบการตื่นของสายเลือด คำนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแม้แต่จะฝันถึง เหมือนกับว่ามันอยู่ในอีกฟากหนึ่งของหน้าผา

“ผมเชื่อในตัวคุณเฉินจิ้น! คุณเป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นในสถาบัน!” ความหลงใหลของอาจารย์โรคดิเกซไม่ได้ลดลง เขายกนิ้วขึ้น “สองปี! เพียงสองปี! เมื่อคุณเข้าชั้นปีที่ 3 และกลายเป็นนักรบระดับสูงขึ้นในสถาบันคุณจะเป็นผู้ชายที่เป็นตัวแทนนักรบและนักเวทของออซแลน ในการชุมนุมผู้กล้าและดึงดูดความสนใจจากสถาบันระดับสูงที่มีชื่อเสียงมันจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของคุณอย่างมาก! มันจะไม่ใช้สิ่งที่สามารถจินตนาการได้! ในโรงเรียนระดับสูงขึ้นนักรบที่มีพรสวรรค์สามารถใช้ค่ายกลพลังงานนักรบเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของนักรบได้ คุณรู้ไหมว่ามันจะช่วยให้คุณมีอัตราความสำเร็จเท่าไร? “

“ค่ายกลพลังงานนักรบ?” เฉินจิ้นพยายามเข้าใจมุมมองของอาจารย์โรคดิเกซ นักรบจะให้ความสำคัญกับความสำเร็จในอนาคต สถาบันระดับสูงที่มีชื่อเสียงมีค่ายกลพลังงานนักรบจำนวนมากและพวกเขาก็มีหินพลังงานมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขามีคำภีร์การฝึกอบรมขั้นสูงมากขึ้นเมื่อเทียบกับสถาบันการศึกษาโดยเฉลี่ย(ผู้แปล,Scrollไม่รู้จะคำไหนดีเอ้าคำภีร์ไปก่อนนะ)

การเข้าเรียนในสถาบันขั้นสูงที่มีชื่อเสียงหมายถึงอนาคตที่ดีสำหรับผู้คนจำนวนมาก มีนักวิชาการที่ใช้เวลาเรียนอยู่ที่ค่ายกลพลังงานนักรบ พวกเขาได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจำนวนมากและสามารถจัดหาหินพลังงานที่มีราคาแพงที่คนธรรมดาไม่สามารถจ่ายได้ พวกเขามีคำภีร์การฝึกอบรมขั้นสูงมากมาย

เฉินจิ้นถอนหายใจ คำภีร์การฝึกอบรมพลังงานขั้นสูง! มันเคยอยู่ใกล้เขามากถึงจุดหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็หายไปทั้งหมด ถ้าเขาไม่ได้หยิบหนังสือที่อยู่ในห้องสมุดของตระกูลและพบแผนที่แปลก ๆ พร้อมด้วยโน้ตพิเศษของ [สุดยอดคำภีร์พลังงานเมฆาวายุ] ในนั้นเขาจะไม่เคยมาที่ออซแลก

“เฉินจิ้นแม้ว่าการทดสอบนี้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณภาพของค่ายกลพลังงานนักรบ ที่คุณสามารถใช้ในภายหลังได้ที่สถาบันการศึกษา แต่ก็ส่งผลกระทบต่อทางอ้อมด้วยเช่นกัน” อาจารย์สอนโรคดิเกซก้าวเข้ามาใกล้เฉินจิ้น เขากล่าว “ถ้าคุณไม่สามารถเข้าสู่สถาบันการศึกษาขั้นสูงที่มีชื่อเสียงได้แล้วคุณจะหาหินพลังงานเพื่อสร้างค่ายกลพลังงานนักรบเพื่อเพิ่มพลังนักรบและกลายเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร”

“ดังนั้น” อาจารย์โรคดิเกซจ้องเขม็งที่เฉินจิ้นเขาสรุป “คุณไม่สามารถมีทัศนคติแบบนี้ได้ต่อการทดสอบนี้ ถ้าคุณสามารถรับที่นั่งเข้าร่วมการเลือกตัวแทนได้คุณจะสามารถสังเกตการต่อสู้ของนักรบที่มีพรสวรรค์มากที่สุด ในช่วงสามปีต่อมาตราบเท่าที่คุณไม่ได้อยู่ในรอบเดียวกับนักรบสายเลือดราชาเอลฟ์จากตระกูลเฉินในรอบคัดเลือกแล้วคุณอาจจะสามารถได้รับคะแนนในการชุมนุมผู้กล้า มาถึงตอนนั้นคุณมีโอกาสสูงในการเข้าสู่สถาบันชั่นสูงที่มีชื่อเสียง”

“นั่นคือทางที่ถูกต้อง!” อาจารย์โรคดิเกซพยักหน้าขณะที่เขาพูดเช่นเดียวกับที่เขากำลังสร้างแรงจูงใจเฉินจิ้น “ตราบเท่าที่คุณไม่พบนักรบสายเลือดราชาเอลฟ์จากตระกูลเฉิน ใครจะรู้ได้ว่านักรบหนุ่มจากตระกูลเฉินซึ่งเป็นหนึ่งในสามสายเลือดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของราชวงศ์ได้มีการปลุกสายเลือดของพวกเขา “

“ตื่นขึ้นของสายเลือด?” เฉินจิ้นยิ้มอย่างขมขื่น นักรบสายเลือดคนใดคนหนึ่งจากตระกูลเฉินสามารถไปถึง สุดยอดการตื่นของสายเลือดเพียงครั้งเดียวในหลายร้อยปี อย่างไรก็ตามหากตระกูลเฉินมีสุดยอดการตื่นของสายเลือดนักรบเขาจะกลายเป็นสุดยอดนักรบที่ยิ่งใหญ่ นอกจากสุดยอดการตื่นของสายเลือดนักรบที่จะเป็นหนึ่งในสามของสายเลือดที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นพร้อมกัน  ในปีที่ผ่านมามีนักรบกว่าสามสิบคนซึ่งเป็นสายเลือดหลักของพวกเขาที่ถูกปลุกให้ตื่นในตระกูลเฉินกลายเป็นนักรบสายเลือด มันทำให้กลายเป็นประวัติศาสตร์ของการตื่นขึ้นสายเลือดในตระกูลเฉิน

จากเอกสารในตระกูลเฉินบอกว่าหนึ่งในนักรบชุดนี้ที่มีการตื่นขึ้นของสายเลือดจะมีคนที่มีโอกาสกลายเป็นสุดยอดการตื่นของสายเลือดนักรบ ดังนั้นตระกูลเฉินจึงได้ให้ความสำคัญกับนักรบที่ตื่นขึ้นมาจากสายเลือดถึงสามสิบคน หนึ่งในนั้นอาจยกระดับตระกูลเฉินขึ้นสู่จุดสุดยอดที่แน่นอนและครองอำนาจเหนืออีกสองตระกูลของตระกูลสายเลือดสูงสุด!  ที่ถูกต้องคือในสุดยอดการตื่นของสายเลือดนักรบจะไม่มีการตื่นพร้อมกันของสามตระกลูยิ่งใหญ่นั้นหมายความตระกลูเฉินจะกลายเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในหมู่มนุษย์ทุกคน!

“ค่อยเดียว” อาจารย์โรคดิเกซส่ายหัว “ด้วยความช่วยเหลือของฉัน ถ้าคุณตั้งใจฝึกอย่างหนัก คุณยังมีโอกาสต่อสู่ได้กับนักรบสายเลือดราชาเอลฟ์จากครอบครัวเฉินแม้ว่าพวกเขาจะฝึกทั้งนักรบและนักเวทย์ก็ตาม ” ใช้นักรบสายเลือดราชาเอลฟ์สามารถเป็นนักเวทที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน

เฉินจิ้นรู้สึกขมขื้นมากขึ้น มีเหตุผลว่าทำไมนักรบสายเลือดราชาเอลฟ์ถึงสามารถกลายเป็นหนึ่งในสามสายเลือดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในด้านมนุษย์ได้ เพราะพวกเขามีความลับของตัวเองที่คนนอกไม่รู้จัก แม้นักรบสายเลือดราชาเอลฟ์ผู้ซึ่งเพิ่งตื่นขึ้นมาเป็นสายเลือดหลักจะมีการเติบโตที่น่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเวทและนักรบในร่างเดี่ยว นักรบสายเลือดราชาเอลฟ์จะเป็นฝันร้ายของศัตรู(ผู้แปล,โอ! นักรบเวท อย่างเท่ )

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments