ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเย่ว หยง ได้ยินคำเตือนครั้งสุดท้ายของชายหนุ่ม และรู้ว่ามีเพียง 2 คนที่มาโจมตีพวกเขา เขาตระหนักได้เป็นอย่างดี เมืองจันทร์สายเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ในเขตชานเมือง อยู่ใต้ปกครองของสำนักจันทร์พฤกษา ถ้าสำนักตั้งใจที่จะกำจัดพวกมันจริงๆ เพียงแค่พลิกฝ่ามือ เมืองทั้งเมืองจะถูกลบไปในทันที
หนึ่งในเหตุผลที่ เย่ว หยง สังหารหมู่ทั้งหมู่บ้านสือเป็นเพราะต้องการแก้แค้นให้กับลูกชายที่ตายไป อีกหนึ่งเป็นเพราะความลับภายในหมู่บ้านสือ ที่ถูกบอกต่อมาโดยพ่อของเขา เขากล้าที่จะมาที่หมู่บ้านเป็นเพราะผู้นำหมู่บ้านคนก่อนได้ตกตายไปแล้ว
ถ้าเขาสามารถได้รับสิ่งที่หมู่บ้านสือนั้นเก็บซ่อนไว้ เมืองจันทร์สลายจากได้รับพลังอำนาจที่มากกว่าสำนักจันทร์พฤกษาและสามารถที่จะสถาปนาสำนักของตัวเองขึ้นมาได้ เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ใต้อำนาจของสำนักจันทร์พฤกษาไปตลอด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเสี่ยง
เย่วหยงเป็นผู้นำของทั้ง 4 หน้าเขาแปรเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ
“ พวกมันทั้งหมดจะต้องตาย ถ้ามันสามารถหลบหนีไปได้และกลับไปที่สำนัก เมืองของพวกเราจะประสบกับปัญหาครั้งใหญ่ ”
“ พวกมันอาจจะกลับไปแล้ว นายท่าน ผู้นำหมู่บ้านก็ยังหาไม่เจอ และพวกเราก็ถูกพบโดยคนของสำนักจันทร์พฤกษา พวกเราควรจะทำยังไงกันดี? ”
“ ก่อนอื่น ลองตรวจสอบร่างกายของพวกเขาก่อนเถิด บางทีอาจจะมีบาดแผลที่เกิดจากทักษะพิเศษ เราอาจจะรับรู้ได้ถึงบางอย่างจากศพพวกนี้ ” เย่ว หยงสั่ง หนึ่งในพวกเขาหยิบกริชที่ปักอยู่ในศพออกมา
“ กริชสามารถแทงทะลุเกราะได้? ดูเหมือนศัตรูจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ”
หลังจากที่เขาตรวจสอบเสร็จ ทันใดนั้นพลังลึกลับางอย่างได้เข้าควบคุมร่างการของเขา ดวงตาของเขาเปลี่ยนไปคล้ายกับคนตาย ‘ความโลภ’ ได้กลืนกินวิญญาณ ความทรงจำ กระทั่งครอบงำตัวเขา
ทุกคนเป็นผู้ฝึกตนที่มีประสบการณ์ พวกเขารับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ
“ เย่ว เซียง เกิดอะไรขึ้น? ”
เย่ว เซียง ส่ายหัวและยิ้ม “ ไม่มีอะไร ข้ารู้แล้ว่าพวกมันซ่อนอยู่ที่ไหน ตามข้ามา! ”
เขาชี้ไปที่บ้านหินที่อยู่ตรงข้ามกับที่ๆซวนหยวนและเหยียนซือหยุนนั้นซ่อนตัวอยู่ ด้วยพลังของกริชพวกเขาถูกชักนำให้มุ่งตรงไปยังทิศทางนั้น
ซวยหยวนรู้ดีว่านี่ต้องเป็นสิ่งที่เฒ่าโลภมากทำ พวกมันวิ่งไปที่บ้านที่อยู่ตรงข้ามกับพวกซวนหยวน และหันหลังให้กับซวนหยวน นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะกำจัดพวกมัน ซวนหยวนกระหายเลือดของพวกมันเป็นอย่างมาก เขาคำรามด้วยโทนเสียงต่ำ “ จัดการมัน!! ”
เขารีบโคจรปราณต่อสู้ลงไปในดาบมังกรวารี ขณะที่เหยียนซือหยุนก็ใส่ปราณต่อสู้ลงไปในกงล้อดวงจันทร์เช่นกัน ทั้งสองต่างเป็นอาวุธที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก
พวกเราพุ่งออกจากบ้านหินพร้อมๆกัน
“ ไข่มุกมังกรสวรรค์! ”
“ กงล้อดวงจันทร์! ”
เย่ว หยงมีปฏิกิริยาในทันที ด้วยการเป็นนักสู้ธาตุลม เขาหลบการโจมตีของซวนหยวนและเหยียน ซือหยุนได้ทันเวลาแต่คนอื่นๆไม่ได้โชคดีอย่างนั้น หนึ่งในพวกเขาถูกซวนหยวนสังหารด้วยดาบ ด้วยการแทงทะลุจากข้างหลัง อีกคนถูกผ่าครึ่งด้วยกงล้อดวงจันทร์
ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วมาก พวกมันถูกซวนหยวนและเหยียนซือหยุนฆ่าตายในทันที ด้วยความช่วยเหลือจากยุทธภัณฑ์ พวกเขาสามารถสังหารชาย 2 คนที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมังกร 17 ตัวอย่างง่ายดาย
เย่ว หยง นั้นแตกตื่นเป็นอย่างมาก เขารู้สึกกังวลมากขึ้นเมื่อเห็นหมาป่าสีเงินปรากฏตัวอยู่ข้างหลังซวนหยวนและเหยียนซือหยุน มันแบกร่างที่ไร้วิญญาณของหลิวเพียวซู่และหัวของสือคงหยูเดินมาอย่างช้าๆ สือคงหยูตายในขณะที่ตาของเขายังเปิดอยู่ ราวกับว่าเขากำลังเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่าง
เย่ว เซียง ชายที่ถูกเฒ่าโลภมากควบคุมไว้ชี้กริชมาทางซวนหยวนและตะโกน “ พวกเจ้าสองคน ตาย! เย่ว ตู หยิบดาบนั่น มันเป็นยุทธภัณฑ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูงสุด! ”
อีกคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ มันตื่นเต้นเป็นอย่างมากมันดึงดาบมังกรวารีของซวนหยวนออกจากศพ เขารู้สึกได้ว่าพลังของเขาเพิ่มพูนขึ้นด้วยดาบที่ถืออยู่ในมือ เขารู้สึกว่าอาจจะแม้กระทั่งเอาชนะเย่ว หยงได้
“ เจ้า! เหยียนซือหยุน เจ้าสั่งให้ประหารลูกชายข้า เจ้าจะต้องตายวันนี้ สือ คงหยูและคนอื่นๆในหมู่บ้านที่ตายไปทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า ส่วนเจ้า ข้าให้โอกาสที่จะเข้าร่วมกับพวกเราตอนนี้ ” เย่ว หยงจำจดเหยียนซือหยุนได้ และเขาเดาว่าตัวตนของทั้งสองข้างๆนางนั้นคือ ซวนหยวนและหมาป่าของเขา
“ เย่ว หยง เจ้ามันสารเลว ลูกชายของเจ้าได้ทรมานและสังหารผู้บริสุทธิ์ไปมากมาย ความตายของมันนั้นล้วนสมควร แต่การสังการหมู่ของเจ้านั้นไม่ใช่ เป็นเจ้าที่จะต้องตายในวันนี้ ” เหยียนซือหยุนนั้นเกรี้ยวกราด ทั้ง สือ คงหยูและหลิว เพียวซู่ต่างเป็นศิษย์น้องที่นางสนิทที่สุดในสำนัก แน่นอนอยู่แล้วว่านางจะต้องเตรียดแค้นเป็นอย่างมาก
“ ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไร เจ้าก็จะต้องตายที่นี่! เย่ว เซียง, เย่ว ตู ฆ่ามัน! ” เย่ว หยง โคจรปราณต่อสู้ลงไปในดาบจันทร์สลาย เขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมังกร 32 ตัว ทั้งซวนหยวนและเหยียนซือหยุนไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะเขาได้
เย่ว ตู หยิบดาบของซวนหยวนขึ้นมาและยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ นายท่าน เหยียนซือหยุนมีร่างกายที่งดงามเป็นอย่างมาก อย่าฆ่านาง เพียงแต่จับนางตรึงไว้ ข้าอยากจะลิ้มลองศิษย์สายในของสักนักจันทร์พฤกษา! ”
เย่ว หยงและเย่ว ตู พุ่งไปยังซวนหยวนและเหยียนซือหยุน มีเพียงเย่ว เซียงเท่านั้นที่ยังอยู่กับที่ พวกเขานั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก ซวนหยวนและเหยียนซือหยุนทำได้เพียงล่าถอย ซวนหยวนได้กล่าวอย่างรีบเร่ง!
“ ซือหยุน ตอนนี้แหละ! ”
แผ่นยันต์ได้ลอยออกมาจากแขนที่เรียวยาวของซือหยุน นางได้ท่องบางอย่าง
“ ระเบิด! ”
ตู้มมมม! เสียงระเบิดดังขึ้น ยันต์อาคมระเบิดนั้นมีประสิทธิภาพอย่างมาก รอบรัศมี 10 เมตร กลายเป็นเปลวเพลิงด้วยการระเบิดที่น่ากลัว เย่ว หยงและ เย่ว ตู ที่อยู่ในระยะนั้น คลื่นความร้อนพาดผ่านอากาศ ซวนหยวนพบว่ามันทำให้ลำบากมากที่จะหายใจ เขารู้สึกว่าร่างกายกำลังเดือด และหัวเราะออกมา
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ๆ เป็นยังไงบ้างล่ะ! ”
ปราณต่อสู้ระเบิดออกมาจากกองไฟ เย่ว หยง พุ่งออกมาด้วยท่าทางที่ไม่สู้ดีนัก เขาถูกปกคลุมไปด้วยเลือดและดูโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
เย่ว ตู ไม่มีโชคมากพอที่จะหลบหนีออกมา มีเพียงแค่เศษชิ้นส่วนของร่างกายและดาบมังกรวารีเท่านั้น แม้แต่เหรียญที่เขาพกมาด้วยก็ถูกทำลาย
“ กล้าดียังไง! ” ดวงตาของเย่ว หยง ถูกเผาไปด้วยเพลิงแห่งความโกรธ ยันต์นี้ถูกสร้างจากนักสู้ขอบเขตพฤกษาบางคนที่แข็งแกร่งกว่าเย่ว หยง มิฉะนั้น เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงเพียงนี้
เขาหยิบเม็ดยาฟื้นฟูออกมา เลือดค่อยๆไหลออกมาจากบาดแผลช้าลง ซวนหยวนและเหยียนซือหยุนสามารถรับรู้ได้ถึงกระดูกที่กำลังสั่นเครือของเขา
“ วันนี้ พวกเจ้าจะได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนักสู้ขอบเขตพฤกษา! ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้าจะมียันต์เหลืออีก วันนี้พวกเจ้าจะต้องตาย! ”
นักสู้ขอบเขตพฤกษานั้นปรับแต่งไขกระดูกของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้ผลิตเลือด เย่ว หยงเสียเลือดไปมากจากการระเบิด แต่เขากำลังสร้างพวกมันขึ้นมาใหม่! คนปกติจะตายถ้าหากสูญเสียเลือด แต่สำหรับคนที่ปรับแต่งไขกระดูกของตัวเองได้จะสามารถเติมเต็มเลือดของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วในระหว่างการต่อสู้ ถ้าอยู่ในสถานการณ์ระหว่างความเป็นและความตายพวกเขาสามารถใช้ปราณต่อสู้กระตุ้นเลือดและ สังหารศัตรูของพวกเขาด้วยการพลีชีพ
เย่ว เซียง ผู้ที่ไม่ขยับไปไหนจนถึงตอนนี้ ได้เดินมาใกล้กับ เย่ว หยง และถาม “ นายท่าน ไม่เป็นไรใช่ไหมขอรับ? ”
เย่ว หยง มุ่งความสนใจไปที่ ซวนหยวน แต่เขารู้สึกโชคดีที่ เย่ว เซียง ไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้าไป มิฉะนั้น เขาจะต้องตกตายอย่างแน่นอนและทิ้ง เย่ว หยง ไว้คนเดียวในการต่อสู้!
“ ไม่เป็นไร ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมด! ” เขาพุ่งออกไปพร้อมกับรวบรวมปราณต่อสู้ไว้ที่ดาบ
แต่ทันใดนั้น เย่ว หยงกับรู้สึกได้ถึงบางอย่างจากข้างหลังและก็ได้ยินเสียงที่ไม่รู้จักภายในใจของเขา
“ ไม่ เป็นเจ้าที่จะต้องตายก่อน! ”
มันเป็นเสียงของเฒ่าโลภมาก เย่ว หยง กลายเป็นแข็งทื่อในทันที
เขารู้สึกได้ถึงกริชที่กำลังตัดผ่านหัวใจของเขา และแก่นชีวิตของเขาทั้งหมดถูกทำลายในทันที
ทั้ง เย่ว หยง และ เย่ว เซียง ต่างทรุดลงบนพื้นด้วยร่างที่ไร้วิญญาณ กริชวางอยู่บนพื้นอย่างเงียบๆ เหมือนกริชทั่วไป ไม่มีใครสังเกตเห็นมัน…