ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ช้าก่อน เจ้าทั้งสองสามาถเข้าไปได้ แต่สัตว์ต้องอยู่ข้างนอก นั่นคือกฏ” ฟางหยวน ไม่กล้าที่จะหยุดซวนหยวนและเหยียนซือหยุนยกเว้นสัตว์ แม้ใครก็ตามที่เป็นนักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณ พวกเขาก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไป
“ช่างเป็นกฏที่โง่เง่ามาก ข้าคือนี่แหละคือกฏ ไปกันได้แล้ว” ซวนหยวนมองไปที่ฟางหยวนอย่างเย็นชา คนสองคนและหมาป่าเดินเข้าไปในตึก มันทำให้พวกเขาเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก ฟางหยวนรู้สึกคันไม้คันมือที่จะต่อสู้กับพวกเขา แต่เมื่อมันนึกถึงความโกรธของเฟิง เลี่ยเขาจึงหยุด ศิษย์จำนวนมากที่มาจากสำนักในเมืองจันทร์นภา พวกเขามารอเพื่อที่จะรับรางวัล มันจะไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาที่จะต่อสู้กับซวนหยวน และเหยียน ซือหยุน
ฟางหยวนจ้องมองที่หลังของพวกเขาและเยาะเย้ยพวกเขาอย่างเงียบๆ “ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะสามารถซื้ออะไรได้บ้าง พ่อของข้าเป็นเจ้าของตึกศูนย์กลางการค้า ข้าจะให้เขาเพิ่มราคาของเพื่อให้เจ้าไม่สามาถซื้อมันได้!”
ชั้นแรกของตึกการค้าเต็มไปด้วยสินค้าระดับปานกลาง สินค้าที่แข็งแกร่งที่สุดมันคือของระดับจิตวิญญาณขั้นกลางเท่านั้น มันไม่ใช่ทุกคนที่จะมีกำลังซื้อของขั้นสูงหรือระดับสูง
ทั้งซวนหยวนและเหยียนซือหยุนถูกปกคลุมไปด้วยเลือดที่แห้งแล้วและกลิ่นเหม็น ทำให้หลายๆคนขมวดคิ้ว กู่ฉิงใช้อุ้งเท้าของมันขุดดินที่เปียกโชกไปด้วยเลือดจึงสกปรก ทุกคนๆรอบๆพวกเขากำลังมองพวกเขาอย่างอึดอัด
แต่ซวนหยวนก็ไม่ได้สนใจพวกมัน เขาตะโกนขึ้นเสียงดัง “ใครก็ได้ที่มีตำแหน่งสูงๆของที่นี่ออกมาซะ!”
ชายวัยกลางเดินออกมาและยิ้ม “ข้าชื่อฟางอวี้ ข้าเป็นผู้จัดการชั้นแรกของที่นี่ มีอะไรที่ข้าสามารถช่วยพวกท่านทั้งสองคนได้มั้ย?”
ซวนหยวนพยักหน้าแต่เขาไม่ได้พูดอะไร เขาเอาของที่ปล้นมาทุกอย่างออกมาจากแหวนต่อสู้ของเขา
ของที่ปล้นมาจาก ต่ง เซวียน ยุทธภัณฑ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูง , ดาบจันทร์สลายที่เคยเป็นของเย่วหยง และของอื่นๆที่อยู่ในระดับจิตวิญญาณขั้นสูง 18 ชิ้นเขาวางลงบนโต๊ะ
รอยยิ้มของฟางอวี้แข็งทื่อ เขาได้ยินซวนหยวนกล่าวว่า “บอกราคาของเหล่านี้ทั้งหมด ถ้ามันเป็นจำนวนเงินที่สมเหตุสมผล ข้าจะขายมัน”
ทันใดนั้นมีชายอีก 4 คนมาช่วยประเมินราคาของซวนหยวน หลังจากผ่านไป 10 นาที ฟางอวี้ กล่าว”นายน้อยของทั้งเหล่านี้พวกข้าให้ 50000 เหรียญจิตวิญญาณ”
ซวนหยวนขมวดคิ้วและพูดเยาะเย้ย “เจ้าเป็นพ่อค้าที่ดี แต่คิดว่าข้าโง่รึ ไปเรียกเจ้าของตึกศูนย์กลางการค้ามา”
ฟางอวี้ ที่ยืนอยู่ข้างๆประหลาดใจที่เห็นอาวุธ ยุทธภัทฑ์ระดับสูง และสูงสุดมายมาย แต่เขาก็เก็บซ่อนอารมณ์ของเขาและหัวเราะเยาะคำพูดของซวนหยวน “ฮ่าฮ่าฮ่า ไอเด็กสกปรกอย่างเจ้าน่ะหรือ ที่ต้องการพบพ่อของข้า? เจ้าคิดจริงๆหรือว่าอาวุธ ยุทธภัณฑ์ที่แตกหักพวกนี้ของเจ้ามันจะมีค่า? ช่างน่าขัน”
ฟางอวี้ ได้ยินนายน้อยของเขากล่าว และยังแสดงให้เห็นความกระวนกระวาย”ท่านทั้งสอง อาวุธและยุทธภัทฑ์ที่พวกท่านนำมามันเป็นของดี แต่ของเหล่านั้นมันไม่ค่อยมีค่ามากที่ตึกศูนย์กลางการค้าจันทร์เต็มดวงแห่งนี้ ถ้าท่านคิดว่าพวกมันมีค่ามาก โปรดเก็บไว้ พวกเราจะไม่จ่ายให้ท่านเพิ่ม”
ซวนหยวนและเหยียน ซือหยุนนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ ส่วนกู่ฉิงยืนอยู่บนพื้น เขาไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ฟางหยวนและฟางอวี้ กล่าว เขาปิดตาและพูดอย่างเย็นชา “ข้าจะพูดอีกครั้ง ไปเรียกเจ้าของมาซะ”
ฟางหยวนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาสั่ง”ใครก็ได้มาที่นี่ที หักขาพวกมันและโยนพวกมันออกไปที”
ทันใดนั้นก็มีนักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณ 10 คนปลดปล่อยพลังปราณทันที คนที่อยู่รอบๆข้างกำลังรอดูการแสดง
“ไอพวกเหลือขอ เจ้ามาจากไหนกัน? ท่านฟางเย่วเขาเป็นนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ เขาคงไม่อยากจะเห็นเด็กสกปรกอย่างเจ้า”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะได้เห็นคนถูกโยนออกไปจากตึกศูษย์กลางการค้า ตึกศูนย์กลางการค้าเป็นที่ๆทรงพลังมาก! มีนักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณอยู่หลายสิบคนที่อยู่ในชั้นที่ 1 นี้แล้ว เจ้าสามารถจินตนาการว่าชั้นสองและชั้นสามจะเป็นอย่างไร?”
“คอยดูข้าคิดว่า คนสองคนผู้นี้จะต้องเสียใจมากแน่ๆ หมาป่ามันจะต้องตายแน่ๆ”
แต่แล้วชายวัยกลางคนที่ดูสง่างามก็ออกมา เขาสวมชุดกำมะหยี่สีน้ำเงิน ลักษณะของเขาคล้ายกับฟางหยวน เมื่อเขาก้าวออกมานักสู้ทั้งหมดหยุดมือทันที เขามองไปที่ซวนหยวนและถามอย่างสุภาพ “เจ้าหนูเจ้าต้องการพบข้า?”
“ท่านพ่อ พวกเราควรจะหักขาพวกมัน พวกมันทำให้พวกเราเดือดร้อน!” ฟางหยวนกล่าว
“ถูกต้อง เขาไม่พอใจกับเงินที่พวกเราเสนอไปให้ 50000 เหรียญจิตวิญญาณกับของเหล่านี้ เขาอยากจะมีเรื่องกับศูนย์กลางการค้า พวกเราควรเตะพวกมันออกไป” ฟางอวี้พูดเสริม
เจ้าของศูนย์กลางการค้าขมวดคิ้ว ซวนหยวนรู้สึกถึงพลังของเขาที่เป็นนักสู้ขอบเขตกษัตริย์และหยิบเหรียญตราออกมา
“ท่านฟางเย่ว ท่านรู้จักเหรียญตรานี้หรือไม่?”
ฟางเย่วรู้สึกประหลาดใจ “มันเป็นเหรียญตราของนิกายนักสู้มังกร! สัญลักษณ์ของนายท่านเฟิง เลี่ย!”
“ดีที่ท่านไม่ใช่พวกโง่เขลา ข้าต้องการเงินและข้าต้องการขายอาวุธ ยุทธภัทฑ์ระดับจิตวิญญาณทั้งหมดที่เป็นของข้า แต่ตึกศูนย์กลางการค้าของท่านกำลังพยายามข่มขู่ลูกค้าของท่าน พวกเขาขัดขวางป้องกันไม่ให้พวกเราเข้ามาและสั่งให้ใครบางคนหักขาข้า ศิษย์พี่เฟิง เลี่ยบอกกับข้าว่าจะไม่มีใครที่จะกล้าไม่สุภาพกับข้า สำหรับผู้ที่ข่มขู่ข้า เขารับปากว่าจะฆ่าคนผู้นั้นและถอนรากถอนโค่นพวกมันทั้งตระกูล แล้วท่านจะทำอย่างไร?” ซวนหยวนกล่าวอย่างเฉยเมย
จากนั้นซวนหยวนก็ลุกขึ้นยืนเพื่อออกไปจากที่นี่ ฟางเย่วตกใจ เขาตบฟางอวี้ทำให้ฟางอวี้ลอยกระเด็นไปในอากาศและกระแทกเสาหิน จากนั้นเขาก็เตะไปที่ขาของฟางหยวนและหักขาของพวกมันทั้งสอง ฟางหยวนประหลาดใจมันไม่คิดว่าพ่อของเขาจะทำร้ายเขา
“เอาตัวฟางหยวนและฟางอวี้ออกไปจากที่นี่และลงโทษพวกมันโดยกฏของตระกูล!” ชายสี่คนพาพวกมันทั้งสองออกไปทันที
“นายน้อยได้โปรดยกโทษให้พวกเขาด้วย ข้าขอโทษท่านในนามของตึกศูนย์กลางการค้า ข้าจะซื้ออาวุธ ยุทธภัณฑ์พวกนั้นทั้งหมดของท่านเป็นเงิน 300,000 เหรียญจิตวิญญาณ ท่านคิดว่าไง” ฟางเย่วยิ้มอย่างตกไปตรงมาอาวุธยุทธภัณฑ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูง 18 ชิ้นราคาชิ้นละ 30000 เหรียญจอมยุทธ์ และอีก 6 ชิ้นที่อยู่ในขั้นสูงสุดสามารถขายได้ในราคา 120,000 เหรียญจอมยุทธ์ ทั้งหมดมีค่าเท่ากับ 120,000 เหรียญจิตวิญญาณ ตอนนี้เขาเสนอราคาให้ซวนหยวนมากกว่าสองเท่า!
ซวนหยวนพยักหน้า เขาไม่ได้โกรธอีกต่อไป ถ้าฟางเย่วต้องการแก้ปัญหาด้วยเงิน ซวนหยวนก็ไม่ปฏิเสธ
“ดี ถ้างั้นซือหยุน ท่านควรจะขายดาบที่ได้มาจากเหยียน เหลียง และยุทธภัทฑ์ระดับจิตวิญญาณทั้งหมดด้วย” ซวนหยวนบอกเธอ
เหยียน ซือหยุนพยักหน้า นางวางอาวุธยุทธภัทฑ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูงสุดทั้งหมดของนางลงบนโต๊ะและถาม “ท่านฟางเย่ว ท่านจะจ่ายเท่าไหร่กับของเหล่านี้”
“100,000 เหรียญจิตวิญญาณ” ฟางเย่วตอบอย่างรวดเร็ว และเหยียน ซือหยุนก็พอใจ นางหยิบเหรียญตราสำนักจัทร์พฤกษาออกมาและกล่าว “ขอบคุณท่านฟางเย่ว เมื่อข้าได้กลายเป็นเจ้าสำนักของสำนักจันทร์พฤกษา ข้ารับรองว่าสำนักจะมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีกับท่าน”
เขารู้สึกประหลาดใจที่รู้ว่าเหยียน ซือหยุนคือเจ้าสำนักคนต่อไปในอนาคต นี่เป็นข้อเสนอที่ดีมากๆ
“ยอดเยี่ยม!”
“นั่นยังไม่จบ ท่านฟางเย่ว ท่านคิดว่าดาบเล่มนี้จะมีมูลค่าเท่าใด?” ซวนหยวนถาม และวางดาบมังกรวารีลงบนมือฟางเย่ว
หัวใจของฟางเย่วเต้นรัว
“นี่คือดาบมังกรวารี มันสามารถปรับเปลี่ยนเป็นอาวุธระดับปฐพีขั้นต่ำได้ ดาบนี้เป็นดาบของราชวงศ์ตะวันออก เด็กคนนี้ได้มาได้ยังไง?”
ซวนหยวนไม่ต้องการให้คนจากตระกูลหยินหาเขา เพราะดาบดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะขายมัน
“100,000 เหรียญจิตวิญญาณ” ฟางเย่วให้ราคาทันที
“ดี ข้าจะขายสิ่งของเหล่านี้ด้วยเช่นกัน” จากนั้นซวนหยวนก็หยิบเอากระจกแห่งความตายออกมาและยุทธภัทฑ์ทั้งชุดระดับปฐพีขั้นต่ำของอู๋ หมิงออกมา มันประกอบไปด้วย หมวก เกราะ รองเท้า และจี้หยก ฟางเย่วมองไปที่สิ่งของเหล่านี้ด้วยความหวาดหวั่น
“โปรดให้ราคาของพวกนี้แก่ข้าด้วย! ท่านฟางเย่ว”