I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 66 คำขอ

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ทางทิศเหนือของจุดรับรางวัลมีประตูมิติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจันทร์นภา ประมิติแห่งนี้ถูกสลักด้วยอักษรรูนจำนวนมากทำให้มันแผ่พลังงานลึกลับออกมา

 

“เฒ่าโลภมาก เมื่อเพวกเราอยู่ในนิกายจะมีคนค้นพบตัวตนของท่านหรือไม่?” ซวนหยวนถาม ก่อนที่กำลังจะเดินทางผ่านประตูมิติ พวกเขาก็จะโผล่เมืองนักสู้มังกรมันไม่ห่างไกลจากนิกายนักสู้มังกรมากนัก ถ้ามีใครค้นพบการมีตัวตนอยู่ของเฒ่าโลภมาก ซวนหยวนจะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน

 

“ไม่ต้องกังวล แม้แต่นักสู้ขอบเขตเซียนก็ไม่สามารถรู้สึกถึงการดำรงอยู่ของข้าได้ ข้ามีทักษะปกปิดออร่าของข้า” เสียงหัวเราะของเฒ่าโลภมากดังก้องในหัวของซวนหยวน “เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจ ข้าคิดว่าเจ้าจะเอาหมาป่าของเจ้าไปนิกายพร้อมกับเจ้า เจ้าตัดสินใจเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านสือใช่ไหม?”

 

“ความจริงแล้ว ในสำนักจันทร์พฤกษาพวกเราอยู่ภายใต้การปกป้องของซือหยุน กู่ฉิงจะต้องปลอดภัย แต่ชีวิตของข้าก็มันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นในนิกาย ความบาดหมางระหว่างศิษย์แท้จริงจะทำให้พวกเรามีปัญหา ข้าต้องเผชิญหน้ากับความบาดหมางเพราะมันเป็นหนทางที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับข้า

 

“เพ้อฝัน! อาจารย์เฉินลู่เห็นเจ้าเป็นแค่เด็กเท่านั้น อย่าคิดมากเกินไป จักรพรรดิเคยกล่าวไว้ว่า “ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปมากกว่า ความทุกข์ทรมานที่เกิดจากความรัก อย่าหลงระเริงในเรื่องนี้… ” เฒ่าโลภมากพูดด้วยเสียงหยาบกระด้าง

 

“โอ้! จักรพรรดิแห่งการกลืนกินเจ็บปวดเพราะจากคนรักของเขาหรือ?” ซวนหยวนเปลื่องเรื่องคุย

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า… ข้าจะไม่บอกเรื่องซุบซิบใดๆของจักรพรรดิ หยิน เฉินลู่เป็นเป้าหมายที่ดีเพื่อเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มความแข็งแกร่งของเจ้า แต่เจ้าไม่สามารถที่จะบังคับความรักให้ออกดอกออกผลได้ เมื่อเจ้าเจอนาง นางอาจจะไม่ต้องการเจ้าและเจ้าต้องยอมรับมัน ผู้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทนจากการถูกปฏิเสธได้ เจ้าอย่าเป็นหนึ่งในผู้คนเหล่านั้น…” หลังจากพูดเสร็จเสียงของเฒ่าโลภมากก็จางหายไป

 

ซวนหยวนสาปแช่งเฒ่าโลภมากอย่างเงียบๆ

 

“นายน้อยซวนหยวน และน้องไป๋ ข้าสามารถติดตามพวกเจ้าได้เพียงแค่นี้ ข้าจะไม่เข้าไปในเมืองนักสู้มังกร ดูแลตัวเองด้วย” เสน่ห์ของฮั่วหยู่ไม่น้อยไปกว่าผู้หญิงวัยเยาว์ แต่ก่อนที่นางจะจากไปซวนหยวนได้กล่าวถามฮั่วหยู่

 

“ท่านหญิงฮั่วหยู่ ถ้าท่านสามารถทำอะไรบางอย่างให้กับข้าได้ข้าจะถามท่าน” ฮั่วหยู่ สูงกว่าซวนหยวนเล็กน้อย ดังนั้นซวนหยวนจึงเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างจริงจัง

 

“ได้แน่นอนท่านได้มอบโชคลาภให้แก่ข้าจำนวนมาก ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้ ข้าก็จะช่วยท่าน” นางตอบกลับ

 

“เกี่ยวกับเหยียน ซือหยุน นางสูญเสียสหายสนิทและพี่ชายของนางเพราะข้า ข้าจึงฝากกู่ฉิงกับนางเพื่อช่วยเหลือนาง ที่นั่นจะต้องมีการต่อสู้ระหว่างสำนักต่างๆ ถ้าท่านสามารถช่วยนางได้หากนางตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก ข้าจะขอบคุณท่านมาก แน่นอนว่าในอนาคตข้าจะช่วยท่านทุกสิ่งที่ท่านต้องการเพียงแค่บอก” เขามองตรงเข้าไปในดวงตาของฮั่วหยู่ ใบหน้าของซวนหยวนเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่น ทำให้เขาดูน่ารักและไร้เดียงสา

 

ไป๋ได้ตัดสินใจแล้วว่าซวนหยวนซื่อสัตย์และเป็นสหายที่เชื่อถือได้

 

ฮั่วหยู่ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะหัวเราะ “แน่นอน ตราบใดที่ข้ายังอยู่จะไม่มีใครสามารถทำร้ายคุณหนูเหยียนได้ เว้นแต่พวกผู้อวุโสจากนิกายเป็นคนทำให้เกิดปัญหาข้าไม่สามารถช่วยได้ นางเป็นคนที่มีความสามารถมากและเป็นที่นับถือของผู้คนในเมืองจันทร์พฤกษา ข้าค่อนข้างถูกใจนางแล้ว ถ้านางเข้ายึดสำนักจันทร์พฤกษา นางจะได้รับการสนุบสนุนจากถ้ำพระจันทร์”

 

ซวนหยวนดีใจและกล่าว”ขอบคุณท่านหญิงฮั่วหยู่! ถ้างั้นข้าว่าถึงเวลาที่พวกข้าจะต้องไปแล้ว”

 

“ช้าก่อน! ฮั่วหยู่จ้องมองไปที่ซวนหยวนอย่างจริงจัง ทำให้ซวนหยวนรู้สึกลุ่มหลงเสน่ห์ของฮั่วหยู่ “ดูสิท่านรู้สึกกระวนกระวายมากแค่ไหน อย่าลืมว่าคุณเป็นหนี้ข้า”

 

“แน่นอน!” ซวนหยวนจะไม่ลืมสัญญาของเขาเด็ดขาด

 

“พี่ฮั่วหยู่ หยุดแกล้งเขาสักที พวกเราจะมุ่งหน้าไปก่อน” ไป๋ยิ้ม

 

จากนั้นไป๋และซวนหยวนได้อำลาฮั่วหยู่ และเริ่มที่จะมุ่งหน้าเข้าไปยังประตูมิติ

 

ฮั่วหยู่ยิ้มอย่างชื่นใจขณะที่มองไปยังแผ่นหลังของพวกเขาที่เริ่มห่างไกลขึ้นเรื่อยๆ นางพูดกับตัวเองด้วยเสียงเบาๆว่า “ซวนหยวน… ช่างเป็นเด็กดีอะไรเช่นนี้ ฟางเย่วมีพรสวรรค์ที่ดี เขาจะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน”

 

มีผู้คนมากมายเดินทางไปที่เมืองนักสู้มังกร ขณะที่พวกเขากำลังจะเดินไปที่ประตูมิติ ก็มีชายคนหนึ่งผิวปากหลังจากเห็นไป๋

 

“เฮ้ สาวน้อยสุดสวย ดูเจ้าสิ ทำไมเจ้าถึงเดินตามหลังไอเด็กผอมแห้งนั่น? มันไม่สามารถปกป้องเจ้าได้หรอก มากับข้าสิ ข้าจะ…”

 

ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดจบ ซวนหยวนเริ่มจ้องมองไปที่มันอย่างเย็นชาและเรียกพลังมังกรสวรรค์ ทำให้ชายคนนั้นไม่สามารถหายใจได้ ทำให้มันรู้ว่าซวนหยวนเป็นผู้ฝึกฝนทักษะระดับสวรรค์ พวกเพื่อนๆของมันทุกคนเงียบไปในทันที

 

“เฮ้ย! ศิษย์น้องซวนหยวนรอพวกข้าด้วย” ปี้เย่ว,เซียวเทียน,เซี่ยง เทียนฮ้าว,ขุยหยา และศิษย์ภายในคนอื่นๆอีก 3คนจากนิกายนักสู้มังกรมาปรากฏ พวกเขาอยู่นอกนิกายมาเป็นเวลานาน พวกเขาต้องกลับไปยังนิกาย มิฉะนั้นพวกเขาจะพลาดการแข่งขันในการจัดอันดับศิษย์ที่กำลังจะมาถึงในอีก 6 เดือนข้างหน้า

 

“ศิษย์น้องซวนหยวน เมื่อพวกเรากลับไปยังนิกาย ข้าจะพาเจ้าไปชมสามารถที่ที่ดีที่สุด” เซี่ยง เทียนฮ้าวกล่าวด้วยอารมณ์ขัน

 

ชายผู้ที่แซวไป๋มันรู้สึกกลัวมากยิ่งขึ้นเมื่อมันได้ยินชื่อ เซี่ยง เทียนฮ้าว หรือว่าสาวน้อยที่ข้าแซวจะเป็นสมาชิกของนิกายนักสู้มังกร? มันโชคดีที่มันไม่ถูกนางฆ่าตาย

 

“ขอบคุณ ศิษย์พี่เซี่ยง” หลังจากซวนหยวนตอบกลับเสร็จ เขาก็รู้ว่าศิษย์ 3 คนที่เหลือนี้เป็นศิษย์ภายในแต่พวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่าปี้เย่ว พวกเขาแข็งแกร่งกว่าขุยหยาเพียงเล็กน้อย

 

“ทุกๆคนจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการเดินทางไปยังเมืองนักสู้มังกร” ชายชรานักสู้ขอบเขตกษัตริย์เดินตรงเข้ามาหาไป๋ นางจ่ายค่าเดินทางสำหรับตัวนางเองและจ่ายให้ซวนหยวน การเดินทางผ่านประตูมิติจะเสียค่าธรรมเนียม 1พัน เหรียญกษัตริย์ต่อหนึ่งคน

 

หลังจากทุกคนจ่ายค่าธรรมเนียมเสร็จ ประตูมิติก็เปิดออก

 

ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างออกมาจากประตู ซวนยวนคิดในใจ “เมืองนักสู้มังกร ข้ามาแล้ว!”

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments