ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปคนนับร้อยยืนอยู่ข้างในประตูมิติซึ่งมีพลังปราณห้อมล้อมพวกเขาเอาไว้ ทัศนียภาพของถูเขา, แม่น้ำ, ที่ราบ และมหาสมุทร ลอยผ่านไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นภาพเบลอ ประตูมิติเดินทางออกไปหลายร้อยไมล์ในทันที มันใช่เวลาเวลาอยู่บ้างก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปถึง
” ศิษย์น้องซวนหยวน เมื่อพวกเราไปถึงที่เมืองนักสู้มังกร ข้าจะเป็นเจ้าบ้านที่ดีให้กับเจ้าที่เป็นสมาชิกใหม่” จู่ๆ ขุย หยาก็พูดขึ้นอย่างกระทันหัน
ซวนหยวนคิด ” มันคงจะเป็นกับดัก ขุยหยาคงไม่มีทางทำดีกับข้า “
” ขอบคุณ แต่ข้าไม่เป็นไร ข้าเป็นเด็กบ้านนอกมาจากเมืองเล็กๆ และยังชอบไปสร้างความบาดหมางกับคนอื่น ข้าไม่อยากทำให้พี่ขุยหยาลำบากใจ “
ในนิกาย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่ง ยิ่งมีความแข็งแกร่งมากเท่าไร สถานะก็จะยิ่งสูงมากเท่านั้น
” ถ้าเช่นนั้น ข้าก็จะไม่บังคับเจ้า แต่ข้าจะต้องบอกเกี่ยวกับกฎบางอย่างซึ่งเจ้าไม่รู้ มิฉะนั้น ถ้าเจ้าทำผิดพลาดไป แม้แต่ชีวิตของเจ้าก็ไม่เพียงพอที่จะจ่ายมัน
ม่านตาของซวนหยวนหดแคบลง เขาคิดมันจะดีกว่าถ้าไม่สนใจขุยหยา เขานั่งลง ในประตูมิติ เขาตระหนักได้ว่าความขัดแย้งระหว่างศิษย์ภายในเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าพวกเขากล้าที่จะรุกรานชีวิตคนอื่น แต่ก็ไม่มีใครที่โง่พอจะยั่วยุศิษย์จากนิกายเดียวกัน ถ้ามีศิษย์ภายในคนใดคนหนึ่งเกิดตกตายขึ้นมา ทางนิกายจะเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจัง เพราะมันเกี่ยวพันกับชื่อเสียงของนิกายด้วย
” นายน้อยซวนหยวน อาจจะต้องใช้เวลาถึง 3 วันในการไปถึงเมืองนักสู้มังกร เมื่อพวกเราไปถึงที่นั่นข้าอยากให้ท่านมาเยี่ยมเยือนข้าในฐานะแขก ท่านจะว่าเยี่ยงไร? ” ไป๋ถาม โดยเมินเฉยต่อเหล่าศิษย์ภายในที่กำลังไม่พอใจ นางนั่งลงข้างๆซวนหยวนด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง
ซวนหยวนรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินว่าใช้เวลา 3 วันในการไปถึงเมืองนักสู้มังกร จากบันทึกตะวันออกได้บอกถึงระยะทางระหว่างนิกายนักสู้มังกรและสำนักจันทร์พฤกษา กู่ฉิงสามารถวิ่งได้ 8,000 ไมล์ต่อวัน และจะสามารถไปถึงนิกายได้โดยใช้เวลา 3 ปีและต้องไม่พัก มันทำให้สามารถที่จะจินตนาการถึงความกว้างใหญ่ของดินแดนตะวันออกได้
” แน่นอน ข้านั้นยังไม่รู้เกี่ยวกับอีกหลายๆเรื่อง ข้าหวังว่าจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมในระหว่าง 3 วันนี้ และข้ากำลังจะฝึกฝนเพื่อที่จะก้าวสู่ขอบเขตต่อไป
ไป๋ยิ้ม นางพอใจที่ซวนหยวนตกลงจะมาบ้านของนาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลิกของซวนหยวนเป็นสิ่งที่ดึงดูดไป๋เป็นอย่างมาก ถ้านางไม่ได้เห็นว่าเขาทำอะไรเพื่อเหยียนซือหยุน ไป๋ก็เพียงแค่จะปฏิบัติกับเขาในฐานะที่มีพรสวรรค์ดีเยี่ยม แต่มันมีความหมายเป็นอย่างมากที่นางชวนเขาไปที่บ้านของนาง
” ดี ถ้าเช่นนั้นข้าจะปล่อยให้ท่านฝึกฝนไปก่อน ” นางลุกขึ้น ด้วยการขยับตัว ทำให้หน้าอกของนางส่ายไปมาเล็กน้อยและดึงดูดสายตาของคนรอบข้าง
จากนั้นซวนหยวนก็จดจ่ออยู่กับการฝึกของเขา ‘วิถีแห่งการปรับแต่งเส้นโลหิต’ จะช่วยเสริมสร้างและยกระดับเส้นเลือดให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น เขาแข็งแกร่งมากกว่านักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณนับ 10 เท่า อย่างไรก็ตามมีสิ่งสกปกจำนวนมากติดอยู่ในร่างกายส่วนล่างของเขา เส้นโลหิตส่วนที่อยู่ใต้เอวของเขาถูกปิดกั้น ทำให้ไปขัดขวางการไหลของปราณต่อสู้ เขาสามารถปลดปล่อยปราณต่อสู้ได้เพียงส่วนบนของร่างกายเท่านั้น
หลังจากที่เขาท่องทักษะ ‘มังกรสวรรค์นิรันดร์’ หนึ่งรอบ เขากระโดดขึ้นจากพื้นและเริ่มที่จะเคลื่อนไหว ซวนหยวนใช้ทักษะกลืนกินเพื่อที่จะปกปิดกลิ่นอายของทักษะตระกูลหยิน
เขาดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมาย ขุยหยาเยาะเย้ยอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นว่าซวนหยวนกำลังฝึกอยู่ ” ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นสักเพียงใดใน 3 วันนี้ เจ้าจะต้องตกตายอย่างแน่นอนเมื่อไปถึงเมืองนักสู้มังกร “
หัวใจของซวนหยวนสงบนิ่ง เขาปิดตาลง แต่ละหมัดที่ต่อยไปนั้นหนักหน่วง และปรากฎคลื่นมังกรสีขาวออกมา แต่ละตัวมีความยาวอย่างน้อย 7 เมตร ก่อนที่มันจะเจือจางหายไปในอากาศ
ทุกครั้งที่เขาเหยียดแขนขา จะทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก ทุกการเคลื่อนไหวได้ขับสิ่งสกปกบางส่วนออกจากเส้นโลหิตที่อุดตัน
เขาบิดเอวและยืดกระดูกสันหลัง ขณะที่กำลังโคจรปราณต่อสู้เข้าไปในส่วนล่างของร่างกาย เขารู้สึกว่าสิ่งสกปกค่อยๆถูกขับออกทีละนิด เส้นเลือดของเขาขยายมากขึ้นในนาทีต่อมา
การฝึกของเขาดำเนินต่อไปตลอดการเดินทาง
มันสร้างความเหนื่อยล้าให้กับซวนหยวน เขาจำเป็นต้องใช้ยาเสริมสร้างความแข็งแกร่งทุก 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะรักษาระดับการฝึกของเขาไว้
เซียวเทียนประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวของซวนหยวน ” ทักษะที่เขาใช้มันคืออะไรกัน? มันให้ความรู้สึกถึงออร่าของมังกร มังกรถูกก่อตัวขึ้นด้วยทุกการเคลื่อนไหวที่ใช้พลังปราณ! “
” เขาเป็นเด็กที่ไม่ธรรมดา ทักษะที่เขาใช้เป็นทักษะระดับสวรรค์จริงๆ แต่ทำไมข้าไม่สามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายได้เลย? หรือว่าข้าเข้าใจผิด?” เซี่ยง เทียนฮ้าว ตื่นตะลึงกับซวนหยวน
” จงสนุกกับการฝึกครั้งสุดท้ายเสียให้พอ ” ปี้เย่วหรี่ม่านตาลง ซวนหยวนคือคนที่ตายไปแล้วในสายตาของนาง นางเรียกขุยหยาและกล่าว ” ฆ่าเขาซ่ะ เมื่อไปถึงเมืองนักสู้มังกร อย่างรวดเร็วและอย่าให้ใครจับได้ ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างงาม “
ขุยหยายิ้มอย่างชั่วร้าย ในอีก 3 วัน เขาจะทำให้ซวนหยวนต้องพบกับจุดจบ
ซวนหยวนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันน่ามหัศจรรย์ เขาไม่เคยหยุดพักในช่วง 3 วัน และเติมเต็มความเหนื่อยล้าด้วยเม็ดยา แต่ภายในจิตใจกลับไม่เหนื่อยล้าแม้แต่น้อย เขาสามารถฝึกซ้อมโดยไม่หยุดพักเป็นข้อพิสูจน์ว่าพลังจิตของเขาทรงพลังมากแค่ไหน
เขากินยาหมดในวันที่ 2 แต่เป็นโชคดีของไป๋ นางได้รับข้อความจากฟางเย่วและได้ซื้อยาเสริมสร้างความแข็งแกร่งเตรียมเอาไว้ ดังนั้นซวนหยวนสามารถที่จะฝึกต่อไปได้
ในวันที่ 3 เขาสามารถขจัดสิ่งสกปกออกจากเส้นโลหิตของช่วงล่างของร่างกายได้ทั้งหมด หลังจากที่ประสบความสำเร็จเขาก็เลิกที่จะฝึก ความแข็งแกร่งของเขาได้เพิ่มขึ้นจากมังกร 26 ตัว เป็นมังกร 40 ตัว อย่างไรก็ตามเนื่องจากทักษะกลืนกิน ไม่มีใครสามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้ ในตอนนี้พลังที่แท้จริงของเขานั้นเทียบเท่ากับนักสู้ขอบเขตพฤกษา
” ฮ่าๆๆ ขอแสดงความยินดีด้วยศิษย์น้องซวนหยวนสำหรับความก้าวหน้าของเจ้า! ” ขุยหยากล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ในความเป็นจริง เขาไม่สามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของซวนหยวนได้เลย ” ศิษย์น้องซวนหยวน คิดยังไงถ้าพวกเราจะมีการประลองและทดสอบความแข็งแกร่ง “
ซวนหยวนมองไปที่ขุยหยา เขาอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตพฤกษา โดยปกติแล้วขีดจำกัดของขอบเขตพฤกษาคือมังกร 54 ตัว ผู้ฝึกตนทั่วไปจะได้ฝึกฝนทักษะระดับอรุณหรือทมิฬ แต่ขุยหยากับสามารถได้ฝึกฝนทักษะระดับปฐพี เหตุผลก็คือเขาเป็นศิษย์ชั้นหัวกระทิของนิกาย
ซวนหยวนยังคงรู้สึกกดดันจากความแข็งแกร่งของขุุยหยา แต่ก็ไม่ถึงกับทนไม่ได้เหมือนก่อนหน้านี้
” เอาอย่างงี้เป็นไง พวกเราจะมาเดิมพันกันว่าท่านสามารถต้านทานการโจมตีเพียงครั้งเดียวของข้าได้หรือไม่ ท่านคิดว่าอย่างไรศิษย์พี่ขุยหยา? ” ซวนหยวนมองไปที่ขุยหยาและยิ้มอย่างไร้เดียงสา
” เขาไม่รู้ถึงขีดจำกัดตัวเองหรือไง ขุยหยาอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตพฤกษา เขาไม่ควรตอบรับการยั่วยุเช่นนี้ ข้าประเมินเขาสูงเกินไป” เซี่ยง เทียนฮ้าวอาจจะมองเหมือนเป็นมิตร แต่ความคิดของเขาเย็นชามาก เขากล่าวกับทุกคน ” เป็นความคิดที่ดี มันถือเป็นการแสดงผลการฝึกของซวนหยวนในสามวันนี้ “
” ศิษย์พี่เซี่ยงฮ้าวพูดถูก ข้าหวังกับเจ้าไปสูง ศิษย์น้องซวนหยวน! ” เซียวเทียนยิ้ม
” เจ้าคิดจริงๆหรือว่าแค่ว่าแค่เวลาเพียง 3 วัน เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นได้จริงๆ? ศิษย์น้องขุยหยา อย่าได้โหดร้ายกับศิษย์น้องซวนหยวนมากนักล่ะ เขาช่างไร้เดียงสานัก ถ้าเจ้าเผลอฆ่าเขาศิษย์พี่เฟิง เลี่ย อาจจะลงโทษเจ้า ” ปี้เย่วมีความสุขที่เห็นซวนหยวนตกที่นั่งลำบาก
” ไม่ต้องห่วง ‘ข้าจะออมมือ’ ” เขาเน้นว่าจะออมมือ เขาหัวเราะและถอดเครื่องป้องกันออก
” ซวนหยวน เตรียมตัว! “