ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่ตั้งของศูนย์การค้าไท่ไป๋ พวกเขาพูดคุยกันมาตลอดทาง ทำให้ซวนหยวนไม่ได้ให้ความสนใจกับทิวทัศน์มากนัก เมื่ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้น เขามองเห็นอาคารขนาดยักษ์
ประตูทางเข้ามีขนาดกว้างถึง 100 เมตร มีผู้คนเดินเข้าออกด้วยความเร่งรีบและคึกคัก แต่ก็ยังดูเป็นระเบียบ ด้านนอกของกำแพง มีนักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณยืนเฝ้ายามอยู่ ให้บรรยากาศที่น่าประทับใจยิ่ง ศูนย์การค้าจันทร์เต็มดวงเปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นเมื่อเทียบกับที่นี่ ตัดสินจากศักยภาพของเหล่ายาม สามารถคาดเดาได้เลยว่าเหล่าคนที่อยู่ข้างในต่างต้องทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
มันเป็นศุนย์กลางของเมืองที่อยู่ภายใต้นิกายนักสู้มังกร
ไป๋ได้ยินเกี่ยวกับความกตัญญูของซวนหยวน จึงได้บอกเขาเกี่ยวกับข้อมูล นางกล่าว ” ไม่จำเป็นที่จะต้องขอบคุณข้า ข้าเพียงแค่บอกในสิ่งที่ข้ารู้ นายน้อยซวนหยวน ท่านคิดว่าเราเป็นสหายกันหรือไม่? ” ไป๋ยิ้ม
” แน่นอน ” ซวนหยวนกล่าวออกไปในทันที
” เพื่อนควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บางทีสักวันข้าอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากท่าน ” ไป๋ยิ้ม ขณะที่พวกเขาก้าวเดินเข้าไปในตัวอาคาร
” คารวะ คุณหนูไป๋ ” เหล่ายามกล่าวออกมาอย่างพร้อมเพียงกันเมื่อเห็นไป๋ นางพยักหน้าให้พวกเขา ซวนหยวนยังคงคิดกับตัวเอง ” ข้าจะต้องฝึกฝนให้หนักยิ่งขึ้น มิฉะนั้น ข้าจะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ รอก่อนนะท่านอาจารย์เฉินลู่! “
ข้างในประตูเป็นสระขนาดใหญ่ มีปลาคราฟสีสันสวยงามแหวกว่ายอยู่ข้างใน ทุกตัวสง่างามราวกับลูกหลานของมังกร เกร็ดของพวกมันสะท้านแสงจากด้านบนและเกิดเป็นสีรุ้ง มันเป็นฉากที่สวยงามเป็นอย่างมาก ดอกบัวสีขาวเติบโตอยู่บนใบบัวสีเขียวเข้ม และให้กลิ่นหอมที่น่าหลงไหลเป็นอย่างมาก
ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาและแสดงความเคารพต่อไป๋ ” คุณหนูของข้า ท่านกลับมาแล้ว! “
” ใช่แล้ว ท่านผู้ดูแล ขอบคุณในการทำงานหนักช่วงที่ข้าไม่อยู่ นี่คือสหายของข้า โปรดเตรียมเหล่ายุทธภัณฑ์ระดับสูงที่ดีที่สุดให้กับเขา และนำเขาไปที่ตึกยุทธภัณฑ์ ” ไป๋ยิ้มอย่างอบอุ่น
” รับทราบแล้วคุณหนู โปรดตามข้ามา ” เขากล่าวตอบ ขณะที่กำลังพาไปตึกยุทฑภัณฑ์
ไป๋ต้องเป็นตัวตนที่ทรงอำนาจในศูนย์การค้าไท่ไป๋ หลายคนจ้องมองไปที่นาง นอกจากนี้ยังมีผู้คนจำนวนมากหลงไหลในไป๋อย่างชัดเจน และเมื่อจ้องมองมาที่ซวนหยวนทำให้พวกเขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับต้องการให้เขาตาย
เขาได้แต่ยิ้มและถอนหายใจอย่างขมขื่น ” ในโลกใบนี้ ผู้ที่ไร้พลัง จะถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย.. “
ตึกยุทธภัณฑ์เป็นสถานที่ที่ไว้เก็บเหล่ายุทธภัณฑ์จำนวนมหาศาล มันมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นแรกมีไว้สำหรับยุทธภัณฑ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูงสุด ชั้นที่สองมีไว้สำหรับยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นต่ำ ชั้นที่สามสำหรับยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นกลาง ชั้นที่สี่สำหรับยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นสูง
ด้วยการนำทางของผู้ดูแล ไป๋และซวนหยวนได้มาถึงที่ชั้นสี่ ผู้คนมากมายคารวะให้ไป๋จากระยะไกล นางยิ้มให้พวกเขาอย่างสุภาพ แต่พวกเขากลับมองไปที่ซวนหยวนด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรมากนัก ถ้าการมองสามารถฆ่าคนได้ ซวนหยวนคงตกตายเป็นพันครั้งแล้ว
ชั้นที่สี่ถูกสร้างจากหินอัคคีที่สลักอย่างสวยงาม มันเป็นพพื้นที่วงกลมขนาด 100 ตารางเมตร ยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นสูงถูกนำมาวางให้บนผนัง มีคนจำนวนมากเดินดูอย่างช้าๆ
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงห้องที่ต้องการ ซวนหยวนรับรู้ถึงออร่าที่หนักอึ้ง มันเป็นออร่าจากนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ที่อยู่ข้างใน มีแม้กระทั้งคนที่อยู่ในขอบเขตนักพรต
” คุณหนูไป๋ เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้พบท่าน ” ชายที่ดูหล่อเหล่าเดินเข้ามาหาพวกเขาในทันที เขาอยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ที่ดูหรูหราและไว้ผมหางม้า ตัดสินจากออร่าที่เขาปล่อยออกมา ทำให้รู้ได้ในทันทีว่าเขาเป็นนักสู้ขอบเขตนักพรต
” อ๊ะ นายน้อยหู่ เซวียนนี่เอง ” ไป๋ยิ้มอย่างสง่างามเช่นเคย
” มันคงนานมากแล้วตั้งแต่ที่ข้าเจอกับท่านเป็นครั้งสุดท้าย ท่านยังคงสง่างามเช่นเคย ” หู่ เซวียนหันไปทางซวนหยวนและยิ้มอย่างเป็นมิตร ” ไม่ทราบว่าพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใครหรือ? “
” นี่สหายข้า ซวนหยวน เขาได้รับเลือกจากนายน้องเฟิง เลี่ย ข้ากำลังพาเขามาเลือกยุทธภัณฑ์ที่เหมาะกับเขา เมื่อเข้าไปอยู่ในนิกาย ” ไป๋อธิบาย
” น่าประทับใจ ซวนหยวน นี่เป็นครั้งแรกที่คุณหนูไป๋นั้นจะเลือกยุทธภัณฑ์ให้ใครบางคน ” ก่อนหน้านี้ หู่ เซวียนเหลือบมองซวนหยวนเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่ตอนนี้เขากำลังพิจารณาซวนหยวนอย่างรอบคอบ แต่ซวนหยวนกลับไม่แสดงสีหน้าหวาดวิตกแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็สังเกตุไปที่รองเท้ามังกรที่ซวนหยวนสวมอยู่ มันถูกสร้างจากผู้อาวุโสตระกูลหู่
” ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าทั้งข้าและเจ้าจะมีชะตากรรมเกี่ยวพันกัน นั่นเป็นเพราะรองเท้าที่เจ้าสวมใส่อยู่ หนึ่งในผู้อาวุโสกระกูลข้าเป็นคนทำขึ้น “
หู่ เซวียนประหลาดใจกับความกล้าหาญของเขาเมื่อถูกจ้องมองโดยนักสู้ขอบเขตนักพรต ” นักสู้จิตวิญญาณธรรมดาจะกลัวเมื่อถูกข้าจ้องมอง แต่เจ้ากลับไม่รู้สึกอันใด ช่างเป็นความกล้าหาญที่น่าชื่นชม เฟิง เลี่ย ตาดีจริงๆ สำหรับคนที่มีพรสวรรค์ “
” คารวะ นายน้องหู่ เซวียน ” ซวนหยวนมีท่าทางที่สุภาพกับเขา ตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อเขาเข้าไปอยู่ในนิกายซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ มันจะดีกว่าถ้าพวกเขาจะสร้างความสัมพันธ์อันดีเอาไว้
” ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ ข้าเป็นสหายกับเฟิง เลี่ย ให้ข้าและคุณหนูไป๋เป็นคนเลือกสิ่งดีๆให้กับเจ้าในวันนี้เถอะ ” เขามองไปที่ท่าทางและเสื้อผ้าอันธรรมดาของซวนหยวน หลังจากที่ขบคิดอยู่นั้น เขาชี้ไปที่พนักงานคนหนึ่งของไท่ไป๋
” จงนำเสื้อเกราะทองคำสวรรค์และหมวกเหล็กไร้ตำหนิออกมา ” เขากล่าว ” ทั้งสองชิ้นนี้เป็นยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นสูงมันน่าจะเหมาะกับเจ้า ซวนหยวน “
พนักงานนำสินค้าออกมาอย่างรวดเร็ว
” เสื้อเกราะทองคำสวรรค์ถูกปรับแต่งมานับร้อยครั้งและถูกชำระล้างถึงแปดครั้ง จิตวิญญาณธาตุทองถูกนำใส่เข้าไปเพื่อให้มันมีสติปัญญาเป็นของตัวเอง มันรู้ว่าเมื่อจะปกป้องผู้ที่สวมใส่โดยไม่จำเป็นที่จะต้องสั่งการมัน มีอาคมป้องกันถูกร่ายเอาไว้ ตราบเท่าที่ร่างการยังมีพลังปราณมากพอ มันจะทำงานด้วยตัวเอง แม้กระทั่งนักสู้ขอบเขตนักพรตก็ไม่อาจจที่จะสังหารเจ้าได้ ” หู่ เซวียนอธิบาย
” สำหรับหมวกเหล็กไร้ตำหนิ มันถูกสร้างมาจากผลึกไร้ตำหนิและหินล่องหน เมื่อเจ้าสวมมันมันจะกลบล่องลอยของเจ้าออกไป ถ้าเจ้ามีปราณมากพอที่จะกระตุ้นอาคม เจ้าจะสามารถซ่อนตัวจากศัตรูและซุ่มโจมตีพวกมันได้ ” หู่ เซวียน ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของยุทธภัณฑ์ทั้ง 2 ด้วยคำพูดที่ชัดเจนไม่กี่คำ ซวนหยวนรู้ได้ทันทีว่าของเหล่านี้เหมาะสมกับเขา
” ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ นายน้อยหู่ เซวียน ” ซวนหยวนกล่าวกล่าวด้วยความจริงใจ
” เอาล่ะ พวกมันเป็นของท่าน ” ไป๋กล่าวออกไป หู่ เซวียนเป็นหนึ่งในคนจำนวนมากที่เข้ามาเอาใจนาง แต่อย่างไรเขาก็เป็นถึงผู้นำในอนาคตของตระกกูลหู่และเป็นที่รู้กันดีว่าเขาเป็นคนใจกว้างและจริงใจ อย่างตอนนี้เขาได้ให้คำแนะนำอย่างจริงใจต่อซวนหยวน
“เดี๋ยวก่อน! ข้าสนใจคำแนะนำของนายน้อยหู่ เซวียน , ให้ข้า ชิง ฉาน ซื้อพวกมันเอง” ด้านหลังของพวกเขา ได้มีชายที่ถือดาบยาวเดินเข้ามาขัดจังหวะ ซวนหยวนถึงกับขมวดคิ้ว
เขาเป็นนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ !