I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 76 ชีวิตที่ไร้ค่า

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

หลังจากซวนหยวนจากไป ก็มีเงาปรากฏตัวลงมาจากฟากฟ้าอย่างรวดเร็ว มันคือปี้เย่ว นางไม่พอใจมากกับสิ่งที่นางเห็น นางมองตรงไปข้างหน้าเพื่อดูศพของซวนหยวน แต่มันกลับตรงกันข้าม

 

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกมันทุกคนถึงตาย?” ปี้เย่วรีบไปตรวจดูศพเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว นางรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากดูผลพวงของการต่อสู้

 

”เขามีหน้าไม้ระเบิด แต่นักสู้ขอบเขตกษัตริย์สามารถที่จะป้องกันตัวเองจากหน้าไม้ได้! พวกมันไม่ควรตายแบบนี้!”

 

ข้างหลังปี้เย่ว มีขุยหยาพึ่งเดินทางมาถึงพร้อมกับชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง ชายคนนั้นมีพลังมากกว่านักสู้ขอบเขตกษัตริย์ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนักสู้ขอบเขตนักพรต!

 

“ศิษย์พี่ปี้เย่ว นักฆ่าที่ข้าจ้างมาถูกข้าตายทั้งหมด!” ขุยหยาตกใจมาก ถ้าเขาเป็นเป้าหมายของนักฆ่าพวกนี้  เขาคงจะถูกพวกมันฆ่าตายหลายครั้ง

 

ปี้เย่วมองไปที่ชายวัยกลางคนและกล่าว “ท่านนักพรตขุยเสวี่ย!”

 

“ข้าได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นจากขุยหยาแล้ว ถ้าคุณหนูปี้เย่วต้องการฆ่าซวนหยวน ข้าสามารถช่วยท่านได้ แต่มีเงื่อนไขต้องไม่ให้นายน้อยเฟิงเลี่ยรู้ว่าข้ามีส่วนร่วม ข้าไม่สามารถเป็นศัตรูกับเขาได้อีกคน ในขณะที่ตอนนี้ข้าสู้กับหู่ เซวียน อยู่” ขุยเสวี่ยเป็นชายที่น่าเกรงขาม เขาโบกมือของเขาและปลดปล่อยพลังไปที่เงามืดและกระชากดึงร่างทั้ง 2 ออกมาจากเงา มันคือ เซียวเทียน และ เซี่ยง เทียนฮ้าว

 

“ศิษย์พี่เซียว , ศิษย์พี่เซี่ยง! ทำไมพวกท่านถึงอยู่ที่นี่?” ปี้เย่วถามด้วยรอยยิ้มบนริมฝีปากของนาง

 

พลังของนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ และ ขอบเขตนักพรต มันแต่ต่างกันอย่างชัดเจน เซียวเทียน และเซี่ยง เทียนฮ้าว ไม่สามารถต่อต้านพลังของนักพรตขุยเสวี่ย ได้แม้แต่น้อย

 

“เจ้าเป็นหนึ่งในผู้ว่าจ้างนักฆ่า 2 กลุ่มนั้น ถูกต้องไหม? พวกเราทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว มันไม่ฉลาดนักที่พวกเจ้าจะหลอกลวงข้า” ขุยเสวี่ย พูดตรงไปตรงมา เขาพูดอย่างช้าๆ “ อย่าพยายามหลอกลวงข้า ซวนหยวนทำให้ลูกชายของข้าต้องอับอาย ข้าต้องฆ่ามันให้ได้ ถ้านี่เป็นความตั้งใจของเจ้าที่จะสังหารซวนหยวน งั้นพวกเราก็อยู่ฝ่ายเดียวกันและพวกเราควรจะร่วมมือกัน พวกเจ้าคิดอย่างไร?”

 

เซี่ยง เทียนฮ้าว รู้สึกถึงแรงกดดันในอากาศ นักพรตขุยเสวี่ย เป็นที่รู้จักว่าเป็นคนที่เดาทางยาก

 

“นักพรตขุยเสวี่ย พูดถูกต้องแล้ว พวกข้าเป็นหนึ่งในผู้ว่าจ้างนักฆ่าขอบเขตกษัตริย์ 2 คนเพื่อฆ่าซวนหยวน ตั้งแต่ที่ข้าเห็นว่าซวนหยวนพยายามที่จะทำให้ชื่อเสียงขอบศิษย์น้องขุยหยาต้องมัวหมอง ข้าเลยวางแผนที่จะส่งซวนหยวนไปตามทางของเขา” เซี่ยง เทียนฮ้าวอธิบาย

 

“นักพรตขุยเสวี่ย ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่ผ่านมาเฉยๆเส้นทางนี้คือเส้นทางที่ข้ามุ่งหน้าไปนิกาย ข้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ข้าต้องไปทำธุระต่อแล้ว” เซียวเทียน ทำท่าทีสุภายและยิ้ม ก่อนที่เขาจะหันเพื่อจากไป ขุยเสวี่ยต้องการที่จะหยุดเซียวเทียน แต่เขารู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ใช่แค่เซียวเทียนที่เป็น หนึ่งในคนสำคัญของศิษย์ภายใน  เขายังมีผู้สนับสนุนเขาที่ทรงพลังมาก

 

นักพรตขุยเสวี่ย พยักหน้า และเซียวเทียนก็ยิ้มก่อนที่เขาจะจากไป

 

เซี่ยง เทียนฮ้าว รู้สึกไม่พอใจ เขารู้สึกตกใจหลังจากที่เขาถูกดึงออกมาจากเงาโดย ขุยเสวี่ย และตอนนี้เขาก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเซียวเทียน

 

“พวกเจ้าทุกคนควรกลับไปที่นิกาย ซวนหยวนเป็นคนฉลาดแกมโกงมาก พวกเจ้าไม่สามารถที่จะหยุดยั้งให้เขาเข้าร่วมนิกายได้อีกต่อไป อย่าลืมเฝ้าสังเกตมันหลังจากที่มันอยู่ในนิกาย เมื่อซวนหยวนมันก้าวออกไปข้างนอกนิกาย มันจะต้องโอกาสฆ่าเขาอีก” ขุยเสวี่ย บินจากไปหลังจากที่พูดจบ สีหน้าของเซี่ยง เทียนฮ้าว และปี้เย่วกลับมาเป็นปกติหลังจากที่พลังที่แผ่ออกมาจากขุยเสวี่ยหายไป

 

ขุยหยารู้สึกมีความสุขมาก ที่ตอนนี้มีนักพรตขุยเสวี่ยเข้าร่วมด้วย และกล่าว “ศิษย์พี่ ไปกันเถอะ”

 

พวกเขาทุกคนเริ่มมุ่งหน้ากลับไปยังนิกายนักสู้มังกร

 

  ******************************************************************

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยม! ข้ากำลังกังวลเลย ว่าข้าจะช่วยเหลือตัวเองอย่างไรเมื่อข้าอยู่ในนิกาย ข้าไม่คิดว่ามีกลุ่มผู้บริจาคที่จะจัดหาอาวุธ ยุทธภัณฑ์และเงินให้กับข้า!”  ซวนหยวนกำลังพูดกับตัวเองอย่างมีความสุขขณะที่มุ่งหน้าไปยังนิกาย

 

“อย่าตื่นเต้นมากเกินไป เอาของพวกนั้นทั้งหมดแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนใส่ลงในหินต่อสู้ของเจ้า ส่วนหยก และคริสตัลเอามันทั้งหมดมาให้ข้า เจ้าคิดว่าจะอยู่สบายเมื่อเจ้าอยู่ในนิกายหรือ? ถ้าเจ้าไม่ระวัง ข้าอาจถูกตรวจเจอ” เฒ่าโลภมากขัดจังหวะมีความสุขของซวนหยวน

 

“ฝันไปเถอะ! ไปดูดกลืนหิน 9 ก้อนที่อยู่ในแหวนซะ แล้วพลังของเจ้าจะฟื้นฟู และพวกเราก็จะปลอดภัย” ซวนหยวนพูด

 

“เจ้าจะรู้อะไร? กี่ครั้งแล้วที่ข้าพูดถึงมัน? มันมีวัตถุลึกลับอยู่ภายในหิน ข้าอาจจะเป็นคนที่ถูกมันดูดกลืนแทน ข้ายังไม่แข็งแกร่งพอ ข้าจะต้องฟื้นฟูพลังของข้าเป็นอันดับแรก ถ้าเจ้าปรารถนาที่จะตาย ทำไมเจ้าไม่ลองใช้หินดูล่ะ? เจ้าไม่คิดว่าข้าไม่อยากดูดพลังของมันหรอกหรือ? มันไม่ใช่เรื่องง่าย…”

 

เฒ่าโลภมากยังคงพูดต่อเนื่องเป็นเวลา 15 นาที ซึ่งทำให้ซวนหยวนเบื่อ

 

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ข้าจะให้หินต่อสู้ หยก และคริสตัลกับเจ้า เพียงแค่เจ้าหุบปาก”

 

“แบบนั้นแหละดี” เฒ่าโลภมากรู้สึกพอใจกับชัยชนะของเขา

 

“มีอะไร เฒ่าโลภมาก ข้าไม่เคยเห็นคนไหนที่โลภมากเท่าเจ้า…”

 

“ข้ายังไม่แก่!” เฒ่าโลภมากโวยวายเพื่อประท้วง

 

เส้นทางที่ผ่านป่าเต็มไปด้วยสัตว์อสูรต่างๆ ขนาดสัตว์อสูรที่อ่อนแอที่สุดยังมีพลังเท่ากับนักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณ มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่ไม่พากู่ฉิงมากับเขา ถ้ากู่ฉิงได้รับบาดเจ็บ หรือตายเพราะเขา ซวนหยวนจะไม่ยกโทษให้ตัวเองเด็ดขาด

 

เมื่อซวนหยวนพูดล้อเล่นกับเฒ่าโลภมากจบ เขาพบว่ามีร่องรอยของการต่อสู้บนพื้น และต้นไม้รอบๆตัวพวกเขา เขาเห็นว่านี่เป็นผลพวงของการต่อสู้ ทำให้พื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยยสีแดง

 

“นั่นมันงูจิตวิญญาณแดง เมื่อเจ้าผ่านป่าของงูได้  เจ้าก็จะไปถึงนิกาย” เสียงของเฒ่าโลภมากดังขึ้นภายในหัวของซวนหยวน

 

“นิกายนักสู้มังกร ถือว่าเป็น 1 ใน 3 มหาอำนาจหลักในภาคตะวันออก มีคนต้องตายไปเท่าไหร่กันเพียงแค่พยายามเดินทางมานิกาย? มันโหดร้ายมาก”  ซวนหยวนถอนหายใจ

 

“หนทางของศิลปะการต่อสู้ นั่นโหดร้าย” เฒ่าโลภมากกล่าวเงียบๆ

 

ซวนหยวนตกลงไปในความเงียบขณะที่เขารีบเดินเข้าไปในป่า ต้นไม้จำนวนมากบนเส้นทางถูกทำลาย งูถูกฆ่าตายจำนวนมากสามารถเห็นได้ในระยะไกล และมีควันพิษไหลออกมาจากร่างของงูที่ตายเหล่านั้น ซวนหยวนรีบกลืนยาแก้พิษ 1 เม็ดที่ได้มาจากอู๋หมิง เพื่อลดผลกระทบจากควันพิษ

 

ซวนหยวนเห็นว่ามีร่างของนักสู้ที่ตายแล้วอยู่ข้างๆงูยักษ์ ซากงูมีควันลอยขึ้นสูง พิษของมันกัดกร่อนทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆมัน

 

“มันเป็นงูห้าสี พวกมันมีพิษที่อันตรายมาก และมีความแข็งแกร่งเท่ากับนักสู้ขอบเขตพฤกษา คนตายเหล่านั้นสวมเครื่องแบบ บางทีอาจจะเป็นยามจากตระกูลใหญ่ๆบางตระกูลที่คุ้มกันนายน้อยไปนิกาย” เฒ่าโลภมากอธิบาย

 

“อย่างนั้นก็ได้หรือ? นิกายจะยอมรับคนพวกนั้นเป็นศิษย์? พวกมันให้คนอื่นคุ้มครองเพื่อไปนิกาย” ซวนหยวนไม่อยากจะเชื่อว่าแบบนี้ก็ได้หรือ

 

“ย่อมได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของพลังของพวกเขาที่ชักจูงให้ผู้อื่นตายเพื่อเจ้า เจ้าคิดว่าผู้คนเหล่านั้นจะเต็มใจที่จะเสียสละตัวเองหรือ? พวกเขาเป็นแค่พวกไร้พลัง และยาจก นิกายเป็นเหมือนต้นไม้ที่มีรากแข็งแรงและมีหลายสาขา ในโลกนี้ชีวิตของผู้ที่อ่อนแอมันไม่มีค่าอะไรเลย” เฒ่าโลภมากรู้ว่าซวนหยวนกำลังคิดอะไรอยู่

 

ซวนหยวนยิ้ม และตอบกลับ “ความตายของพวกเขาต้องไม่ใช่ตายเพื่อผู้คนที่ร่ำรวย ข้าจะไปดูว่าพวกมันมีค่ามากกว่าพวกเขาแค่ไหน”

 

ซวนหยวนวิ่งไปข้างหน้า และเริ่มค้นศพ

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments