I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 163 เฒ่าโลภมากออกโลง

| Devouring The Heavens | 1402 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 “190 ล้าน” หญิงสาวในห้องปฐพีกล่าวอย่างสงบ  ผู้หญิงคนแรกได้ล้มเลิกที่จะซื้อเซ็ทยุทธภัณฑ์หลิงหลงไปแล้ว หลายคนอยากจะรู้ว่าผู้ที่อยู่ในห้องสวรรค์เป็นใครเพราะโดยปกติแล้วมีคนไม่มากนักที่จะกล้าสู้ราคากับเจียงอี้เทียน

 

 “200 ล้าน” เจียงอี้เทียนกล่าว

 

 “230 ล้าน” ซวนหยวนยังคงขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง

 

 “เขาคือใครกัน? มีคนไม่มากนักที่จะขึ้นราคามากเช่นนี้”

 

 “น้ำเสียงเขาคล้ายกับชายชรา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เกรงกลัวเจียงอี้เทียนเสียด้วยซ้ำ”

 

 “ผู้หญิงในส่วนปฐพีเองก็ลึกลับเช่นกัน ข้าได้ยินมาว่านางคือศิษย์แท้จริงจากนิกายหลิงหลง นางอาจจะต้องการยุทธภัณฑ์เหล่านั้นจริงๆ”

 

 “ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะเพิ่งเริ่มต้น”

 

 “240 ล้าน” หญิงสาวกล่าวอย่างสงบ

 

 “250 ล้าน” เจียงอี้เทียนกล่าวอย่างเฉยเมย

 

 “280 ล้าน” ซวนหยวนเพิ่มราคา

 

 “ดูเหมือนท่านจะเป็นชายชราจริงๆ ทำไมท่านถึงต้องการยุทธภัณฑ์หลิงหลง? หรือท่านต้องการที่จะที่จะมอบของขวัญให้หญิงสาว? ทำไมถึงไม่ให้ศิษย์พี่เจียงอี้เทียนไปเสียล่ะ? เขาคือศิษย์แท้จริงอันดับ 1 ของนิกายนักสู้มังกร” ชิงยวิ๋นกล่าวแดกดัน ทุกคนที่มีห้องส่วนตัวในส่วนสวรรค์ล้วนแต่มีภูมิหลังที่น่าเกรงขาม แต่ชิงยวิ๋นได้รับการสนับสนุนจากเจียงอี้เทียนทำให้เขาอวดดีและหยิ่งผยองอย่างมาก

 

 เฒ่าโลภมากถูกยั่วยุ จากนั้นก็ปลดปล่อยออร่าที่น่าหวาดกลัวตรงไปที่ชิงยวิ๋น “หุบปาก! แมลงชั้นต่ำอย่างเจ้ากล้าดียังไงมาตั้งคำถามกับข้า?”

 

 เสียงแห่งความตาย เฒ่าโลภมากเคยใช้ทักษะนี้ในงานประมูลครั้งก่อน ให้เหตุการณ์ครั้งนั้นผู้คนกลายเป็นหวาดกลัวอย่างมาก พวกเขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณของพวกเขาถูกลากลงไปในนรกและถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แต่คราวนี้มันมุ่งตรงไปที่ชิงยวิ๋นเพียงผู้เดียวเท่านั้น เขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณถูกบดขยี้และกระอักเลือดอย่างรุนแรง จากนั้นได้มีแสงจากห้องของเจียงอี้เทียนยิงตรงไปที่เขาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด

 

 “มันคือเสียงแห่งความตาย มันได้สูญหายไปนานมากแล้ว! มันคือทักษะสวรรค์ระดับ 7 ดาวจากลัทธิแห่งความตาย ดูเหมือนว่าท่านจะเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ลัทธิ” ชายจากอีกห้องกล่าว

 

 เมื่อได้ยินเช่นนั้นชิงยวิ๋นกลายเป็นหน้าซีดในทันที ถ้าเจียงอี้เทียนไม่เข้ามาช่วยเหลือเขาคงตายไปแล้ว แต่เมื่อคิดว่ามีเจียงอี้เทียนคอยสนับสนุนทำให้เขามีความกล้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและชี้นิ้วไปยังห้องของซวนหยวน “ท่านกล้าทำร้ายข้า? ท่านไม่รู้หรือว่าข้าคือศิษย์แท้จริงของนิกายนักสู้มังกร? ท่านกำลังดูหมิ่นนิกาย!”

 

 “เจ้ากล้าที่จะหยาบคายกับข้า ข้าไม่สนใจแม้ว่าเจ้าจะมาจากนิกายนักสู้มังกร ถ้าข้าเจอในสิ่งที่ข้าชอบข้าก็จะซื้อมัน ระวังคำพูดของเจ้าเอาไว้ ข้ารู้ว่ามีเซียนจากนิกายอยู่ที่นี่ แต่ถ้าข้าต้องการข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้ จงคิดให้รอบคอบ” ซวนหยวนกล่าว ไป๋รู้สึกตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของเขา หลายคนพยายามตรวจสอบว่าใครกันแน่ที่อยู่ในห้องนั้น แต่พวกเขาก็ต้องล้มเหลว

 

 ชิงยวิ๋นไม่กล้าอวดดีอีกต่อไป ความหยิ่งยโสของเขาทำให้เหล่าผู้อาวุโสและเหล่าเซียนของนิกายโกรธ งานประมูลนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดให้การสร้างสหาย เพราะทุกคนล้วนแต่เป็นผู้มีอำนาจจากทั่วโลก แต่ชิงยวิ๋นกลับสร้างความบาดหมางกับหนึ่งในแขกที่ลึกลับที่สุดคนหนึ่ง ถ้าพวกเขากลับไปที่นิกาย ชิงยวิ๋นอาจจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง

 

 “นั่งลง” เจียงอี้เทียนสั่ง “ได้โปรดอย่าได้มีโทสะกับความโง่เขลาของเขาเลยนะขอรับ ให้ข้าได้แนะนำตัว ข้าคือศิษย์แท้จริงของนิกายนักสู้มังกรนามว่า เจียงอี้เทียน ท่านคงจะเตรียมพร้อมมาอย่างดีสำหรับงานประมูลในครั้งนี้ แต่ถ้าท่านยกยุทธภัณฑ์เหล่านี้ให้กับข้า ข้าจะถือว่าท่านเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของนิกายนักสู้มังกรของเรา” เจียงอี้เทียนกล่าวอย่างสุภาพ อาจกล่าวได้ว่าเขาคือประมุขคนในอนาคตของนิกายนักสู้มังกร

 

 อย่างไรก็ตามซวนหยวนและเฒ่าโลภมากหาได้สนใจความสุภาพของเขาไม่

 

 “ไสหัวไป! อย่าได้เสแสร้งต่อหน้าข้า เจ้าไม่รู้หรือไงว่าผู้ที่ใช้เสียงแห่งความตายสามารถตรวจสอบคำพูดได้ว่ามีความจริงใจหรือไม่? เสียงของเจ้าเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเจตนาชั่วร้าย”

 

 “ฮ่าๆๆ เสียงแห่งความตายช่างน่าประทับใจยิ่งนัก แม้ว่าศิษย์เจียงอี้เทียนจะทำทีสุภาพ แต่เขาก็ไม่สามารถปกปิดจากท่านได้”  มันเป็นเสียงของเฟิงเลี่ย เขานั่งอยู่ในห้องสวรรค์อีกห้อง เรื่องนี้เป็นความขัดแย้งระหว่างศิษย์แท้จริง ซึ่งแม้แต่ผู้อาวุโสและเหล่าเซียนต่างก็ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้

 

 “ศิษย์น้องเฟิงเลี่ย เจ้าคงจะสนุกมากสินะ ถ้าผู้อาวุโสท่านนี้ไม่ยอมให้ในสิ่งที่ข้าต้องการ งั้นก็มาดูกันว่าใครมีเงินมากกว่ากัน” เจียงอี้เทียนกล่าวอย่างสงบ

 

 “เฟิงเลี่ย? ไม่เลว เจ้าตรงไปตรงมาดี ข้าถูกใจเจ้า เอานี่ ทักษะระดับเซียนพายุนิรันดร์ มันเป็นของเจ้าแล้ว แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์แต่เจ้าก็อาจจะสามารถปรับปรุงมันได้” มีตำราลอยจากห้องของซวนหยวนเข้าไปในห้องของเฟิงเลี่ย

 

 “ฮ่าๆๆ ขอบคุณขอรับ! ท่านผู้อาวุโส!” เฟิงเลี่ยหยิบตำราไว้

 

 ทุกคนกลายเป็นตื่นตระหนก เขาเป็นใครกัน? เขาโยนทักษะระดับเซียนให้กับผู้อื่นราวกับเป็นขยะ!

 

 “อะไรกัน? เขาเพิ่งจะให้ทักษะที่ทรงพลังกับคนอื่นไป? เขาไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง!”

 

 “นายน้อยเฟิงเลี่ยเป็นคนที่สง่างามและไม่เคยรังแกคนอ่อนแอ เขาเป็นคนที่รักในความยุติธรรม ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อาวุโสจะรับรู้ได้ถึงความจริงใจจากเขา”

 

 “ตรงกันข้ามกับเจียงอี้เทียนโดยสมบูรณ์ แม้ว่าภายนอกเขาจะสุภาพแต่ภายในกลับเต็มไปด้วยแผนชั่วร้าย…”

 

 “พายุนิรันดร์? หรือว่ามันจะถูกสร้างโดยจักรพรรดินิรันดร์?” เซียนคนหนึ่งถาม

 

 “จะว่าเช่นนั้นก็ได้ ข้าบังเอิญพบบางส่วนของทักษะที่ไม่สมบูรณ์ ข้าไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้แต่มันก็เหมาะสมกับเฟิงเลี่ย เจ้าเด็กนี่ทำให้ข้าชื่นชม อำนาจของทักษะจะถูกใช้ถึงขีดสุด ถ้าผู้ใช้เหมาะสม” ซวนหยวนกล่าว

 

 “กล่าวได้ดีสหาย ข้าประทับใจในความเมตตาของเจ้า” เซียนอีกคนกล่าวเสริม

 

 ในห้องของเจียงอี้เทียน เขาหันไปหาหญิงสาวที่นั่งข้างๆ

 

 “เจ้ารู้จักผู้ที่นั่งอยู่ในห้องนั้นไหม ?”

 

 “ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ” นางส่ายหัว

 

 “บอกข้า แล้วข้าจะให้เจ้า 10 ล้านเหรียญกษัตริย์”

 

 “ข้าไม่รู้จริงๆ แม้ว่าท่านจะให้ข้าพันล้านเหรียญกษัตริย์ ข้าก็ไม่สามารถบอกท่านได้” นางกล่าวขณะกระวนกระวายใจ

 

 เจียงอี้เทียนตระหนักได้ว่านางไม่รู้จริงๆ จึงไม่ได้ถามต่อ

 

 “300ล้าน!” เสียงมาจากห้องปฐพี หญิงสาวเริ่มเสนอราคาต่อ

 

***********************************************************************

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments