I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 68 ความทะเยอทะยานของบุรุษผู้หนึ่ง

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 


แปลไทยโดย : Takumi Kun


ตรวจทาน       : Subaru-Kyun


=====================================================


หยานเฉินหยู่รู้สึกดั่งเช่นลูกสะใภ้ที่อัปลักษณ์ต้องไปพบพ่อสามี แน่นอนว่าลูกสะใภ้ผู้นี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าอัปลักษณ์สักนิด เจียงเจิ้นไห่พยายามส่งสัญญาณสายตาไปให้เจียงเฉิน สามารถบอกได้ว่าท่านเจ้าเมืองถูกใจลูกสะใภ้ในอนาคตผู้นี้มากๆ


เจียงเฉินที่ยืนข้างๆมีรอยยิ้มสุภาพบนหน้าเขา เขาไม่ได้เสนอความเห็นใดๆ


“เจ้าหนู! ในความคิดข้า ใช้โอกาสนี้แต่งงานกับหยู่น้อยของเจ้าซะเลยสิ และเจ้าจะได้ใช้เวลาคืนแรกเลยเป็นยังไง!”


ทันใดนั้นเสียงของหวงต้าได้ออกมาสะท้อนในหูเจียงเฉิน


“เงียบเลยไป!”


เจียงเฉินมองหวงต้าอย่าหมดสิ้นหนทาง ในตอนนั้นทุกๆคนเพ่งความสนใจไปยังหมาตัวนี้ หยานหงไท่และเจียงเจิ้นไห่จำได้ว่านี่คือหวงต้าผู้ที่ทำให้ราชันย์ปีศาจแก่นแท้สวรรค์ยอมแพ้และคุกเข่าลง มันจะต้องเป็นเจ้าตัวที่อยู่หน้าพวกเขาเป็นแน่ สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังโดยทันที ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะแสดงกิริยาดูหมิ่นแต่อย่างใด


“นายน้อย ในที่สุดท่านก็กลับมา! ข้ารับใช้ของท่านคิดถึงท่านมากๆ”


เจียงเฉิงเดินไปอยู่ข้างๆเจียงเฉินและคาราวะให้อย่างสุภาพ พยายามที่จะได้รับความสนใจบ้าง


“เจียงเฉิง เจ้าทำอะไรหลายๆอย่างในช่วงเวลาที่ผ่านมา!เจ้าสามารถไปรับ 10 เหรียญทองได้ที่คลังนะ”


เจียงเฉินตบบ่าของเขา


เมื่อได้ยินนายน้อยได้กล่าวถึงสิบเหรียญทอง เจียงเฉิงน้ำตาไหลออกมาจากตาของเขาทันที เขาตื้นตันมากเขาเกือบที่จะคุกเข่าบนพื้นและเรียกเจียงเฉินว่าท่านบรรพบุรุษ


“อย่าได้ยืนอยู่ที่ประตูอยู่เลย เชิญเข้าไปด้านในเถิด ท่านผู้นำตระกูลหยาน”


เจียงเจิ้นไห่กวักมือเรียกพวกเขาเข้าไปด้านใน ทุกๆคนตามเขาไปจนถึงโถงหลักตระกูลเจียง เจียงเฉินและหยานเฉินหยู่ได้เข้าไปเป็นลำดับสุดท้าย


“หยู่น้อย เจ้าครุ่นคิดถึงเรื่องที่บิดาข้าพูดไปหรือ?”


เจียงเฉินพูดพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์


“ครุ่นคิดอะไร๊?”(ลากเสียงสูง)


หยานเฉินหยู่ตื่นตระหนก แต่เมื่อนางนึกถึงเรื่องลูกสะใภ้ นางจะเขินทันที “ท่านพี่เจียงเฉินนี่ไม่เปลี่ยนไปเลย!”


หลังจากวันนั้น ตระกูลเจียงได้จัดงานฉลองครั้งใหญ่ ทุกๆคนปรากฏไปด้วยความปิติยินดีและมีความสุข ตระกูลมู่หรงและตระกูลลีได้หายไปแล้ว ทำให้ตระกูลเจียงและตระกูลหยานเป็นขุมกำลังเพียงหนึ่งเดียวในเมืองของพวกเขา นอกจากนั้นจากนี้ต่อไปทั้งสองตระกูลได้เป็นผู้ควบคุมอย่างสมบูรณ์ในอาณาเขตของพวกเขา ไม่มีตระกูลไหนจะมาเทียบกับพวกเขาได้ พวกเขาได้เป็นราชาของดินแดนของพวกเขา


เจียงเจิ้นไห่และหยานเจิ้นหยุนต่างสนทนาอย่างสนุกสนาน หยานเจิ้นหยุนไม่ได้ลุกไปไหนและเลิกเมื่อยามค่ำคืนได้มาเยือน


“ตระกูลหยานได้จัดการตระกูลลีไปแล้ว ตอนนี้มีหลายๆอย่างที่จำเป็นต้องจัดระเบียบใหม่ ข้าไม่ขอรบกวนเวลาของท่านแล้ว”


หยานเจิ้นหยุนประสานมือแสดงความเคารพต่อเจียงเจิ้นไห่และพูดว่า “เมื่อพี่น้องเจียงมีเวลาว่างในอนาคตท่านจะต้องมาเยี่ยมเยือนหอคอยหมอกฝนบ้างนะ ให้ข้าได้เป็นเจ้าภาพแก่ท่านบ้าง”


“แน่นอน เมื่อมีเวลาว่าง ข้าจะต้องไปเยี่ยมเยือนพี่น้องหยานในเมืองสีชาดแน่นอน”


เจียงเจิ้นไห่เป็นคนตรงไปตรงมา


“ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้! ข้าจะรอพี่น้องเจียงอยู่ที่หอคอยหมอกฝน ไม่จำเป็นต้องส่งพวกเราหรอก พวกเราจะกลับแล้ว”


หยานเจิ้นหยุนพูด



“เฉินเอ๋อร์ ช่วยข้าส่งท่านผู้นำตระกูลหยานหน่อย”


ใบหน้าของเจียงเจิ้นไห่เต็มไปด้วยความสุขและปิติยินดี เขาไม่เคยมีความสุขเช่นนี้มาก่อน


ภายนอกตระกูลเจียง


“ท่านผู้นำตระกูลหยานขอรับ ข้ามีบางสิ่งที่ต้องการให้ท่านช่วยเหลือ”


เจียงเฉินมองไปยังหยานเจิ้นหยุน


“บอกข้ามาเถิดว่าเป็นสิ่งใด”


หยานเจิ้นหยุนถาม


“ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะออกไปภายในสามวัน ข้าจะเข้าไปส่วนในของแคว้นฉี ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องการยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ ข้าหวังว่าท่านผู้นำตระกูลจะช่วยจัดหาให้ข้าบางส่วนนะขอรับ พยายามคัดเฉพาะที่มีประสิทธิภาพเจ็ดส่วนขึ้นไปนะขอรับ”


เจียงเฉินพูด เขาไม่รู้ว่าตัวเขาจะกลับมาอีกเมื่อไร ดังนั้นเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง ยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์เป็นสิ่งที่ใช้สำหรับยอดฝีมือและเจียงเฉินที่บ่มเพาะด้วยทักษะร่างแปลงมังกรจำเป็นต้องใช้พวกมันเป็นจำนวนมาก


เจียงเฉินไม่ได้ขอให้ตระกูลหยานเตรียมยาที่มีประสิทธิภาพ 100% เพราะในเมืองเล็กๆนี้ยาที่มีประสิทธิภาพ100% นั้นหายากมากๆ นอกจากนี้้เขายังสามารถสังเคราะห์ยาเมื่อไรที่เขาต้องการได้ และหากเขาได้ทานเข้าไปโดยตรงด้วยทักษะร่างแปลงมังกรก็จะช่วยขจัดสิ่งปนเปื้อนอยู่ได้


“วางใจได้เลยน้องเจียงเฉิน ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะได้รับยาแน่”


หยานเจิ้นหยุนสัญญา 


“ประเสริฐ ข้าจะไปยังหอคอยหมอกฝนในอีกสามวันและข้าจะออกเดินทางต่อ”


เจียงเฉินพูด


“ท่านพี่เจียงเฉิน ข้าต้องการไปกับท่านในสามวันนี้”


หยานเฉินหยู่พูดทันที


“ออกไปด้วยกันกับข้า?”


เจียงเฉินขมวดคิ้วของเขา “หยู่น้อย เจ้าต้องรู้ว่าข้าไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวเพื่อความสนุกในครั้งนี้”


“ข้าได้คิดไว้แล้ว! ไม่ว่าท่านพี่เจียงเฉินไปที่ใด ข้าจะไปด้วย! ข้ามีความสามารถในการปกป้องตัวเอง ข้าจะไม่เป็นตัวถ่วงของท่านเด็ดขาด”


หยานเฉินหยู่ยืนยัน ดูท่าว่านางได้ตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว


“หากเป็นการตัดสินใจของนาง…..น้องเจียงเฉิน หยู่เอ๋อร์มีกายศักดิ์สิทธิ์และชีพจรเก้าหยิน อยู่ในเมืองสีชาดจักเป็นการจำกัดศักยภาพนาง นางจะออกไปยังภายนอกเร็วๆนี้ไม่ก็ภายหลังนั่นล่ะ”


หยานเจิ้นหยุนผงกหัวเห็นด้วย แม้เขารักบุตรีของเขาอย่างมากแต่เขาก็ยังคิดถึงอนาคตของนาง


“เข้าใจแล้ว หยู่น้อยเมื่อกลับไปแล้วนะ เจ้าเตรียมตัวออกเดินทาง พวกเราจะออกเดินทางในสามวัน”


เจียงเฉินพูด เขารู้ถึงศักยภาพของชีพจรเก้าหยินดีกว่าหยานเจิ้นหยุนศักยภาพหยานเฉินหยู่ในอนาคตนั้นไม่มีขีดจำกัดและเพียงเมืองเล็กๆนั้นจะจำกัดโอกาสที่นางจะประสบความสำเร็จได้เชียวหรือ  นอกจากนี้ เจียงเฉินไม่มีเหตุผลที่จะปฎิเสธหญิงสาวน่ารักๆมาเคียงข้างเขา! 


ในคืนนั้น เจียงเฉินได้ไปยังห้องของเจียงเจิ้นไห่


“เฉินเอ๋อร์ เจ้ามาที่นี่หรือ!”


เมื่อเจียงเจิ้นไห่เห็นเจียงเฉิน ใบหน้าเขาเป็นสีหน้าอ่อนโยน


“ท่านพ่อข้ามีบางสิ่งที่จะบอกกับท่าน”


เจียงเฉินพูดออกมา


“เจ้าจะออกเดินทางเร็วๆนี้สินะ”


เจียงเจิ้นให้พูดออกมา


“ท่านทราบอยู่แล้ว” 


เจียงเฉินยิ้ม


“ข้าสามารถที่จะบอกได้ว่าด้วยความสามารถและศักยภาพของเจ้า เจ้าจะออกจากที่นี่เร็วๆนี้หรือหลังจากนี้ เมืองฟ้าหอมและเมืองสีชาดนั้นเล็กเกินไปสำหรับเจ้า มันเป็นสิ่งที่ดีที่เจ้าจะได้ออกไปเผชิญโลกภายนอกเพื่อหาประสบการณ์! แต่อย่าได้ลืมเด็ดขาด ว่าที่นี่คือบ้านของเจ้าเสมอ!”


เจียงเจิ้นไห่เอามือวางบนไหล่ของเจียงเฉินอย่างหนักหน่วง นี่เป็นวิธีพิเศษสำหรับบุรุษที่จะแสดงความรู้สึกของพวกเขาออกมา


เจียงเฉินรู้สึกอบอุ่นใจ และรู้สึกเปรี้ยวจมูก ตอนนี้เขาได้ตระหนักถึงว่าตัวเขาเป็นบุตรเพียงคนเดียวของเจียงเจิ้นไห่และสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ๆเขาต้องใส่ใจ


“เจ้าจะออกไปเมื่อไรรึ?”


เจียงเจิ้นไห่ถาม


“ในสามวันขอรับ”


“สามวันงั้นรึ? เร็วจริงเลยน้า?”


สายตาของเจียงเจิ้นไห่ดูเหงา


“ท่านพ่อ อย่าได้กังวลเกี่ยวกับข้าเลย ข้าได้มีบางสิ่งเตรียมไว้ให้ตระกูลเจียงด้วย แล้วข้าจะมอบยุทธภัณฑ์ระดับต่ำให้สองสามชิ้น มันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตระกูลเจียง”


เจียงเฉินพูดและหยิบยุทธภัณฑ์ระดับต่ำออกมาจากกระเป๋าของเขา พวกนี้ได้มาจากลีช่างห่าว 

ลีชานหมิงและเฉินซวง สำหรับเขายุทธภัณฑ์ระดับต่ำนั้นไร้ค่า แต่สำหรับตระกูลเจียงถือเป็นสมบัติที่หาได้ยากยิ่ง


“ยุทธภัณฑ์!”


 เจียงเจิ้นไห่มองไปยังยุทธภัณฑ์ระดับต่ำ และดวงตาของเขาเป็นประกาย แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าเมืองฟ้าหอม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นยุทธภัณฑ์


“ท่านพ่อ ข้าสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังหยวนของท่าน ข้ามั่นใจว่าท่านสามารถที่จะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ได้ภายในสองสามวัน! เมื่อวันนั้นมาถึงท่านเลือกมาชิ้นหนึ่งสำหรับตัวท่านนะ”


เจียงเฉินพูด


“ด้วยยุทธภัณฑ์ระดับต่ำ กำลังของตระกูลเจียงจะเพิ่มขึ้นมหาศาล!”


เจียงเจิ้นไห่ผงกหัว เขามองเจียงเฉินอย่างมีความสุขยิ่งกว่าเก่า หลังจากที่ทุกอย่างได้เกิดเมื่อเร็วๆนี้   ในใจเขา บุตรชายของเขานั้นได้ครอบครองความสามารถที่สุดยอดบางอย่างมันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้


เมื่อผ่านไปสามวันแล้ว เจียงเฉินได้ใช้เวลาทั้งหมดกับเจียงเจิ้นไห่ เขาไม่ได้ออกจากคฤหาสน์ตระกูลเจียงแม้แต่ก้าวเดียว เจียงเจิ้นไห่หวงแหนเวลาที่พวกเขาได้อยู่ร่วมกัน ตามจริงแล้ว เขาสามารถที่จะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ได้ในวันที่สองแต่เขาหยุดมันไว้และตัดสินใจที่จะรอเจียงเฉินออกเดินทางก่อน


สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ขณะที่ท้องฟ้าไม่ได้ปลอดโปร่งมากนัก เจียงเฉินได้พาหวงต้าออกไปเงียบๆ


“เจ้าหนูเจ้าจะไม่ร่ำลาบิดาเจ้าหน่อยหรือ?”


หวงต้าถาม


“ไม่ล่ะ ข้าได้บอกลาเรียบร้อยแล้ว”


เจียงเฉินเดินก้าวใหญ่และเดินออกไป เขาไม่ได้หันกลับมาแม้ครั้งเดียว


คนและหมาได้ออกเดินทางด้วยความเร็วสุดยอด เมื่อช่วงบ่ายได้มาถึง พวกเขาได้มาถึงเมืองสีชาด เจียงเฉินไม่ยอมเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ และรีบตรงไปยังหอคอยหมอกฝนเพื่อพบกับ

หยานเจิ้นหยุน


“ท่านพี่เจียงเฉิน ข้าเตรียมตัวเสร็จแล้ว!”


รอยยิ้มดั่งดอกไม้บานแย้มปรากฎบนหน้าของหยานเฉินหยู่เมื่อนางมองเห็นเจียงเฉิน นางเดินหาเจียงเฉินอย่างมีความสุข 


“หยู่น้อยเจ้าตัดสินใจดีแล้วนะ?”


เจียงเฉินจงใจเตือนนางอีกครั้ง


“ข้าได้ตัดสินใจแล้ว!”


หยานเฉินหยู่ผงกหัว


“น้องเจียงเฉิน นี่ยาฟื้้นพลังขั้นมนุษย์หมื่นเม็ด 800เม็ดนั้นจะมีประสิทธิภาพสิบส่วนและนอกนั้นคละกันระหว่างเจ็ดส่วนและเก้าส่วน”


หยานเจิ้นหยุนส่งกระเป๋าที่เก็บของให้ ยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์หมื่นเม็ด แม้แต่เจัยงเฉินยังตะลึง เขาคาดไม่ถึงว่าหยานเจิ้นหยุนจะใจกว้างถึงขนาดให้ยาฟื้นพลังมาแก่เขาถึงหมื่นเม็ด


ด้วยยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์จำนวนมากมายนี้ แม้ด้วยการเงินของหอคอยหมอกฝนก็ตาม มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยาจำนวนขนาดนี้ในครั้งเดียว ยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ในกระเป๋านี้อาจจะมีมูลค่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินตระกูลหยาน


“ขอขอบคุณสำหรับความเมตตา ท่านผู้นำตระกูลหยาน”


เจียงเฉินไม่ได้ปฎิเสธรับยา เขาเก็บกระเป๋าใส่ยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ทันที มันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเขาและที่ดีกว่านั้น หยานเจิ้นหยุนต้องการที่จะหาทางตอบแทนเจียงเฉิน และตอนนี้เขาได้มีโอกาสแล้ว


“น้องเจียงเฉิน จากนี้ข้าขอฝากหยู่เอ๋อร์ไว้กับเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลนางอย่างดี!”


หยานเจิ้นหยุนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เขามีบุตรีเพียงคนเดียว และนางเป็นดั่งไข่มุกล้ำค่า ที่ประมาณราคาไม่ได้ สำหรับชีวิตของเขา มันเป็นการตัดสินใจที่ดี ในการที่จะพาหยานเฉินหยู่ออกไปในเวลานี้ เหตุผลแรกคือนางมีชีพจรเก้าหยินและสาเหตุที่สำคัญที่สุดคือตราบที่หยานเฉินหยู่อยู่กับเจียงเฉินด้วยความสามารถของเจียงเฉินทำให้มั่นใจได้ว่านางจะต้องปลอดภัย


“ไม่ต้องกังวลขอรับ ข้าจะไม่ยอมให้มีผู้ใดมากลั่นแกล้งหยู่น้อยเป็นแน่!”


เจียงเฉินจับมือเล็กๆของนาง นี่คือคำสัญญาของบุรุษ


“ท่านพ่อ เมื่อหยู่เอ๋อร์ไม่ได้อยู่เคียงข้างท่าน ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆด้วยนะคะ! หยู่เอ๋อจะคิดถึงท่านเสมอค่ะ!”


หยานเฉินหยู่กระโดดไปยังอ้อมแขนของหยานเจิ้นหยุน นางไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ในหลายปีที่ผ่านมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่หยานเฉินหยู่จะออกไปจากตระกูลหยานอย่างแท้จริง


“ไปได้แล้ว พ่อหวังให้เจ้ากลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคตนะ”


หยานเจิ้นหยุนเอามือวางไว้บนไหล่ของหยานเฉินหยู่อย่างนุ่มนวล


……………………………………………………



ภายนอกเมือง สองคนหนึ่งหมาได้เดินตรงไปยังเขาต้นกำเนิด ชายหนุ่มหน้าตาดีสวมชุดสีขาวและมี

ออร่าผู้ที่อยู่เหนือกว่าผู้อื่นไหลออกจากร่างเขา เด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วง ดวงตากลมโตและเป็นประกาย ฟันของนางขาวสะอาดบริสุทธิ์ นางงดงามและอ่อนโยน  ประดุจดั่งเช่นนางฟ้าจากสวรรค์ ถัดจากพวกเขาคือหมาตัวใหญ่สีเหลือง ร่างของมันทนทานและทรงพลังนัก


นี่คือเจียงเฉิน หยานเฉินหยู่และหวงต้าได้ออกจากเมืองสีชาด


เจียงเฉินหันกลับไปมองเมือง มุมปากเขายกขึ้น ความรู้สึกต่างๆผสมปนกันในใจเขา หลังจากตายมาได้กว่าร้อยปีและได้เกิดใหม่ เขาได้มายังที่ที่ห่างไกลและเพียงช่วงเวลาสั้นๆเขาได้ทำลายตระกูลมู่หรงและตระกูลลี ได้เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ดินแดนเหล่านั้นโดยสมบูรณ์


และนี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เจียงเฉินไม่ได้ต้องการที่จะเปลี่ยนกฎเกณฑ์ในดินแดนเล็กๆ เร็วๆนี้หรือหลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนแปลงกฎทั้งหมดทุกๆแห่งในทวีปเซียน


วันนี้เขาได้เริ่มออกเดินทาง ร้อยปีผ่านไปเขาได้เกิดใหม่ และตอนนี้เขาจะนำความรุ่งโรจน์ในอดีตของเขากลับคืนมา


ชายผู้มีความทะเยอทะยานสูง เขาจะทะยานสู่ท้องฟ้าและต่อสู้กับสวรรค์และในทุกๆก้าวที่เขาเดินเขาได้ทิ้งร่อยรอยลึกเอาไว้




************************************************************************


…..อวสาน…… อะเจ๊ย ไม่ใช่ จบภาคจุดเริ่มต้นแล้ว  >w<  To be continue…….


ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments