ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปกลุ่มชายตัวใหญ่เข้ามาล้อม ‘ชูเฟิง’ เอาไว้เพื่อไม่ให้เขาหนี เขาสามารถบอกได้เลยว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไร ถึงได้มาดักรอเขาทางที่เขาจะผ่าน
” บ้าจริง!!! พวกมันอยากตายมากใช่มั๊ย ? “
‘ชูเฟิง’ สบถในใจ
ก่อนหน้านี้ ‘ชูเฟิง’ ถามคน’เสี่ยวเอ้อ’คนหนึ่ง ว่าทางลัดไปหุบเขา – พยัคฆ์ขาว ไปทางไหน แต่ไม่นึกเลยว่าคนๆนั้นจะยอมขายข้อมูล เมื่อคนพวกนี้รู้ข่าวพวกมันจึงอ้อมมาดักรอ ‘ชูเฟิง’
” ฮ่าๆ เจ้ากล้ามากที่แย่งม้าหัวหน้าของพวกเรา “
ชายคนนั้นมีดาบใหญ่ ถือแนบไว้ที่ลำตัว เขากำลังเดินเข้าด้านหน้าของ’ชูเฟิง’ ด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว ดูเหมือนว่าคนพวกนี้คงจะไม่ปล่อยให้เขารอดไปได้ง่ายๆ
สำหรับ ‘ชูเฟิง’ ไม่เคยเห็นคนกลุ่มนี้อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ นอกจากชายตัวใหญ่ ที่มีพลังอยู่ในระดับ 9 ห้วงวิญญาณ คนอื่นๆล้วนมีฝีมือไม่เอาไหน แต่กับมารนหาที่ตาย ที่คิดจะปล้นคนแบบ ‘ชูเฟิง’
” นั้นมัน . . . . “
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ขมวดคิ้วลง พร้อมกับหันหน้าไปมอง
เขามองเห็นฝุ่นที่ลอยฟุ่งพร้อมกับม้าหลายสิบตัววิ่งตรงหาเขา ม้าทุกตัวล้วนแต่เป็นม้าชั้นยอด ไม่ได้ด้อยไปกว่าม้าเหงื่อโลหิต พวกมันคงจะถูกการฝึกมาเป็นอย่างดี
คนที่ขี่มันก็ไม่ธรรมดา ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าที่ดูหรูหรา พลังวิญญาณของพวกเขาก็นับว่าไม่เลว ในกลุ่มคนพวกนั้น ระดับพลังวิญญาณต่ำสุด อยู่ที่ระดับ 4 กำเนิดวิญญาณ แม้แต่กลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณก็ยังอยู่ในคนกลุ่มนั่น แม้ว่ามันจะเป็นแค่ระดับ 1 ก็ตาม แต่ไม่ผิดแน่
” นี่ . . . . . . . “
กลุ่มคนขี่ม้าทำให้พวกชายตัวใหญ่ รีบซ่อนดาบไว้ด้านหลังของพวกเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็หลบออกข้างทางพร้อมกับมีท่าที สงบเสงี่ยม
มันเป็นเพราะว่าพวกเขากลัวคนกลุ่มนั้นเห็น ว่าเขากำลังปล้นเด็กหนุ่ม หากคนกลุ่มนั้นเป็นองครักษ์จากเมืองวิหคเพลิง พวกเขาอาจต้องถูกฆ่าตาย
‘ชูเฟิง’ ยังคงยืนอย่างสงบ มองกลุ่มคนที่กำลังขี่ม้า เขาต้องการรอให้คนพวกนั้นผ่านไป จากนั้นค่อยลงมือจัดการกับพรรคพวกของชายตัวใหญ่
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มคนที่ขี่ม้าเข้ามาล้อมรอบ ‘ชูเฟิง’ กับ ชายตัวใหญ่ ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง ที่ขี่ม้าสีขาว จ้องมอง ‘ชูเฟิง’ อย่างเย็นชา และกล่าว
” เจ้านี่ฉลาดไม่เบา ที่เลือกจะออกจากเมืองวิหคเพลิงในตอนกลางคืน แต่เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าจะหนีรอดจากสื่งที่เจ้าทำไว้ ? “
” เจ้าเป็นใคร ข้าจำไม่เคยได้ว่าไปทำอะไรให้เจ้า “
‘ชูเฟิง’ เริ่มตรวจสอบชายหนุ่มรูปงามคนนั้น แล้วพบว่าเขาอยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ ระดับ 8
แต่เมื่อเทียบกับคนที่อยู่ด้านหลังของเขา ยังดูน่ากลัวกว่าซะอีก เขาเป็นชายวัยกลางคน ที่อยู่ในอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 1
” โอ้ว เจ้าจำข้าไม่ได้งั้นหรอ ได้!!!ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ ข้า ซ่างกวน หย๋า คู่หมั้นของ ซูเหม่ย . . . . ทีนี้เจ้าคงรู้จักแล้วสินะ “
‘ซ่างกวน หย๋า’ พูดขณะที่สายตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
” คู่หมั้น . . . ? ซูเหม่ยไปหมั้นกับคนแบบท่าน ตอนไหน . . . . ข้าไม่เคยได้ยินนางพูดมาก่อน หรือว่าท่านคิดเองฝ่ายเดียว ? “
ตาของ ‘ชูเฟิง’ แคบลงพร้อมความเยือกเย็นที่ปรากฏออกมา แม้ว่าเขาจะมาด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เขาก็ไม่ใส่ใจ แต่หลังจากที่ได้ยินเขาบอกว่าเป็นคู่หมั้นของ’ซูเหม่ย’ มันทำให้ ‘ชูเฟิง’ โกรธอย่างมาก
เป็นเพราะว่า ‘ชูเฟิง’ นั้นมีความรู้สึกดีๆต่อ’ซูเหม่ย’ และ ‘ซูเหม่ย’เองก็ยังรักเขา แม้ว่าทั้งสองคนจะยังไม่มีใครสารภาพ แต่ในใจของ ‘ชูเฟิง’ คิดว่า’ซูเหม่ย’ เป็นของเขามาตลอด แล้วเขาจะทนได้ยังไงที่มีผู้อื่นมาเรียกตัวเองว่าเป็น คู่หมั้น ของ ‘ซูเหม่ย’ . . . .
” หืมม การแต่งงานระหว่างข้ากับซูเหม่ยถูกกำหนดไว้เมื่อหลายปีก่อน เรื่องนี้ทุกคนในเมืองวิหคเพลิง ต่างก็รู้ “
‘ซ่างกวน หย๋า’ พูดอย่างมั่นใจ เห็นได้ชัดว่าเขาชอบ’ซูเหม่ย’
” น้องชาย ไม่ต้องมัวไปพูดกับคนที่กำลังจะตายให่เสียเวลา รีบๆฆ่าเขาเลยดีกว่า !!! “
ในตอนนั้น ชายที่อยู่ด้านหลังของ ‘ซ่างกวน หย๋า’ ก็พูดขึ้นมา
ชายวัยกลางคนผู้นั้น มีนามว่า ‘ซ่างกวน เถียน’ เป็นพี่ชายของ ‘ซ่างกวน หย๋า’ เมื่อตอนอายุ 30 เข้าพึ่งจะเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณ แม้ว่าสถานะของเขาจะด้วยกว่า ‘กวน หย๋า’ แต่พลังวิญญาณของก็นับว่าไม่เลว
และเขาก็ยังมีบทบาทในตะกูล ‘ซ่างกวน’
” พี่ชาย พูดก็ถูก คนที่กำลังเผชิญกับความตาย จะมัวไปเสียเวลาทำไม “
‘ซ่างกวน หย๋า’ ยิ้มและตอบ
แม้ว่าเขาจะมีสถานะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของตะกูลซ่างกวน เขาก็ยังให้ความเคารพต่อพี่ชายของเขา
” งั้นก็ ฆ่ามัน!!! “
‘กวน เถียน’ พูดอย่างเย็นชา แต่เขายืนอยู่เฉยๆ เพราะเขารู้สึกว่า ‘ชูเฟิง’ ไม่คู่ควรขนาดที่เขาจะต้องลงมือหลังจากที่เขาพูดจบ ผู้เชี่ยวชาญหลายสิบคนพร้อมกับ’ซ่างกวน หย๋า’ เข้าโจมตีชูเฟิงพร้อมกัน แม้แต่กลุ่มคนของชายตัวใหญ่ ยังถูกลูกหลงไปด้วย ภายในพริบตาพวกของเขาหลายคนล้มตายลงบนพื้น
” คุณชาย อย่าฆ่าข้าเลย ข้าไม่เกี่ยวข้องกับเด็กหนุ่มคนนี้ “
ชายตัวหวาดกลัวอย่างมาก เขาไม่เคยนึกเลยว่า ‘ชูเฟิง’ จะมีศัตรูเช่นนี้ พวกเขาหลายคนถูกฆ่าภายในพริบตา ดูจากความแข็งแกร่งและพลังวิญญาณของพวกเขา ชัดเจนแล้วว่าสถานะของพวกเขาไม่ธรรมดาถ้าพวกเขารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับ ‘ชูเฟิง’ เขาคงไม่กล้ามาปล้น นี้เพียงไม่แต่การปล้นจะล้มเหลว พวกเขายังต้องมาตายอีกด้วย
” แล้วทำไมข้าถึงต้องปล่อยคนที่รู้เรื่องนี้ไปล่ะ “
ผู้เชี่ยวชาญ ซัดไปที่ขมับของชายตัวใหญ่จนทำให้สมองของเขาระเบิดออกมา ดับอย่างน่าอนาถหลังจากที่ฆ่าพรรคพวกและชายตัวใหญ่เรียบร้อย พวกเขาก็เข้ามาล้อม ‘ชูเฟิง’ เพื่อไม่ให้เขาหนี เห็นได้ชัดว่าพวกเขาวางแผน ตั้งใจจะมาฆ่า ‘ชูเฟิง’ แต่แรก
” จะฆ่าข้างั้นหรอ ข้าเกรงว่าพวกเจ้าจะไม่มีปัญญา!!! “
‘ชูเฟิง’เห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี เขาจึงกระโดดขึ้นม้า พร้อมกับควบมันฝ่าออกไป ทันใดนั้น มีชายสองคน รีบมาขัดขวางทางหนีของเขา
” เจ้าคิดจะไปไหน ? “
สองคนนั้นเข้ามาโจมตีในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้โดยเข้ามาโจมตีตรงๆ พวกเขาเหวี่ยงหมัดออกมา จนเกิดเป็นคลื่นพลังที่มองไม่เห็นฝ่ากระแสลม พุ่งเข้ามาหา’ชูเฟิง’
” หืมม. . . “
‘ชูเฟิง’ ยังคงยืนนิ่ง แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับการโจมตีของพวกเขา จากนั้นสายฟ้าฯสีทองก็เกิดประกายแสงออกมาจากดวงตา พร้อมกับการป้องกันที่มาจากแหล่งกำเนิดวิญญาณ พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นจนเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณ ระดับ 2 จากนั้นเขาก็ปัดหมัดทั้งสองออกไปในเวลาเดียวกัน
‘ชูเฟิง’ กำมือทั้งสองข้างของเขา พร้อมกับควบคุมแสงทองให้ยาวออกมาเหมือนดาบคู่ จากนั้น’ชูเฟิง’ก็เหวี่ยงแขนผ่านอากาศ ใส่สองผู้เชี่ยวชาญระดับ 5 กำเนิดวิญญาณ จนทำให้ตัวและหัวพวกเขาแยกออกจากกัน
* ซึบบ!!! *
หลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ ตัดศีรษะของสองคนนั้น ทางจึงถูกเปิดออก จากนั้นเขาก็รีบขี่ม้าเหงื่อโลหิตฝ่ามันออกไป
โปรดติดตามตอนต่อไป. . . . . . . . . .
ที่มา: