I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 105 นิกายทมิฬ

| Dragon-Marked War God | 1452 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

แปลไทยโดย   Takumi Kun


ตรวจทาน        Subaru-Kyun


****************************************************************************


          เจียงเฉินใช้วิธีที่ทรงพลังมากที่สุดและหลักแหลมในการสังหารให้ไวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากที่สังหารชายแก่หนวดขาวด้วยขวานอัสนี เจียงเฉินใช้ปีกโลหิตและเคลื่อนย้ายมิติอีกครั้งทำให้ง่ายต่อการหลบหลีกการโจมตีของทั้งสามคน ระลอกคลื่นจากการโจมตีถูกขวานของเจียงเฉินทำให้กลายเป็นชิ้นๆเช่นกัน


” โหล่วไป๋! “


          หยินจงเฉินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ดูเหมือนว่าเปลวเพลิงจะพุ่งออกจากดวงตาของเขา ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ทั้งสี่ได้ซุ่มโจมตียอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ตัวจ้อย แต่หนึ่งในพวกเขาถูกสังหารในทันที นี่มันเรื่องตลกเป็นแน่


” ทุกคนระวังตัวด้วย! ไอ้เด็กเวรนี่มันเป็นสุดยอดสัตว์ประหลาดและตอนนี้มันได้ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางแล้วด้วย     พลังในการต่อสู้ของมันเทียบเท่ากับระดับแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้น! นอกจากนี้ มันยังมียุทธภัณฑ์ระดับสูง อีกทั้งมันดันรู้จักใช้ทักษะต่อสู้ประสานกับยุทธภัณฑ์ระดับสูงอีกด้วย “


หยินจงเฉินเตือนพวกเขา


” ลงมือพร้อมกันเถอะและกดดันมันไว้ด้วยการประสานกำลังกัน! ไม่ว่ามันจะเป็นสัตว์ประหลาดแต่อย่างใด    มันก็ยังเป็นเพียงแค่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์อยู่ดี!   จนถึงเมื่อกี้มันได้ปลดปล่อยทักษะที่ทรงพลังออกมาถึงสองทักษะและมันยังโคจรใช้ยุทธภัณฑ์ระดับสูงอีก!     ข้าไม่เชื่อว่ามันยังมีพลังหยวนมากพอที่จะปลดปล่อยพลังของขวานนั่นอีกครั้ง! “


          ชายแก่อีกคนพูดด้วยท่าทางเย็นชา ชายหนวดขาวนั่นเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา และเขาที่เป็นพยานเห็นเพื่อนตายโดยขาดครึ่งโดยเจียงเฉินเป็นคนสังหาร  มันทำให้ความเกลียดชังที่มีต่อเจียงเฉินเพิ่มขึ้นอย่างมาก


” ทลายศิลา! “


” สามวายุสะบั้นคอ! “


” คลื่นจตุรัสล่องหน! “


          ทั้งสามไม่กล้าที่จะแสดงความประมาทออกมาอีก ในความคิดของพวกเขา เจียงเฉินมันเป็นสุดยอดสัตว์ประหลาดที่ผิดปกติที่สุดผู้ที่ไม่สามารถที่จะทำเหมือนว่าเป็นเด็กหนุ่มแก่นแท้มนุษย์ได้


          ทั้งสามได้จู่โจมด้วยทักษะที่ทรงพลังที่สุดของตนในเวลาเดียวกัน การประสานกันระหว่างทักษะต่อสู้ของพวกเขาและยุทธภัณฑ์ของพวกเขาทำให้เกิดพลังอันมหาศาลของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ ระลอกคลื่นจำนวนมากได้ืทำลายมวลอากาศ


          พลังงานจำนวนมหาศาลได้เปล่งประกายดั่งสายรุ่งระยิบระยับ ระลอกคลื่นได้ถูกสร้างขึ้นจากพลังงานที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้าและภูเขาถูกทำลายโดยทันที

          การโจมตีประสานของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์นั้นมีพลังทำลายล้างสูงมาก

” ฮ่าฮ่า จงแสดงพลังทั้งหมดของพวกเจ้าออกมาซะ! ข้า…เจียงเฉิน ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด! “

          เจียงเฉินเริ่มหัวเราะเสียงดัง เขากำลังลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับขวานอัสนี   ผมสีดำของเขาปลิวไสวกับสายลม แสงสีทองอร่ามปกคลุมทั่วร่างของเขา การปรากฎตัวของเขาเหมือนดั่งองค์ราชันย์ได้มาเยือนโลกนี้ ซึ่งร่างกายของเขามีกลิ่นอายอันน่ากลัวแผ่ออกมา

          ในช่วงเวลานั้น หยินจงเฉิงและอีกสามคนรู้สึกเหมือนมีกลิ่นอายอันน่ากลัวจากร่างของเจียงเฉิน ชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเหมือนองค์มหาราชันย์ของโลกใบนี้ เหมือนกับว่าเขาไม่ใช่เด็กหนุ่ม แต่เป็นอสูรเฒ่าผู้ที่อยู่มากว่าสองถึงสามพันปี

ความรู้สึกเช่นนี้มันเหลวไหลชัดๆ แต่มันรู้สึกอย่างแท้จริง


          เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ทั้งสาม เจียงเฉินไม่มีความคิดที่จะถอยกลับ ด้วยความแข็งแกร่งภายในตัวเขาไม่อนุญาตให้เขาถอยกลับไป และเจียงเฉินจะไม่หนีเด็ดขาด ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือใช้พละกำลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้เอาชนะยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ซึ่งๆหน้า 

สร้างปาฎิหารย์สำหรับตัวเขาเอง


เปรี๊ยะ เปรียะๆ 


          ขวานอัสนีได้เกิดเสียงเปรี๊ยะๆ อีกครั้ง ขวานได้ปรากฎแสงสีทองขึ้น และได้มีเสียงมังกรลึกลับคำรามออกมาจากร่างของเจียงเฉิน พลังหยวนได้ไหลเข้าสู่ขวานอัสนีบาตอย่างบ้าคลั่ง พลังหยวนของเขาเป็นดั่งมหาสมุทรไร้ก้นแล้วมันก็ไม่เคยหมด


          ทักษะอัสนีบาตเป็นทักษะประจำตัวมันเอง เป็นทักษะต่อสูที่ทรงอำนาจ เมื่อเจียงเฉินเป็นผู้ใช้มัน แม้แต่ออร่าที่รุนแรงของมันสามารถทำลายภูเขาให้ราบได้


เปรี้ยง!


          สั่นสะเทือนถึงท้องฟ้า ตามด้วยเสียงระเบิดดังกึกก้อง เจียงเฉินยกขวานขึ้นสูง ลำแสงสว่างจากขวานอัสนีบาตได้กลายเป็นเสาสีทองพุ่งสู่ท้องฟ้า ในวินาทีต่อมา เจียงเฉินเหวี่ยงมันลงมาด้วยกำลังทั้งหมดของเขา


          ขวานยักษ์ทั้งสามได้ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ด้วยพลังอันรุนแรงของเจียงเฉิน ได้พุ่งทะลวงไปยังการโจมตีประสานของทั้งสาม ขวานสีทองแต่ละอันถือครองพลังอัสนีที่สามารถทำลายได้ทุกสิ่งที่ขวางทางเป็นพลังทำลายล้างอย่างแท้จริง


ตูม!


          สู้กับพวกเขาทั้งสามคนลำพังเพียงคนเดียว มันเป็นการต่อสู้ที่หาได้ยากอย่างยิ่ง  ทักษะการต่อสู้ ยุทธภัณฑ์ ทั้งสองสิ่งที่เป็นหน้าตาพวกเขาจะต้องถูกทำลายให้สิ้น ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างและพื้นที่แถบนั้นพังพินาศหมด


          หยินจงเฉิงและอีกสามคนต่างได้รับบาดเจ็บจากผลกระทบที่มาจากขวานอัสนีบาต และพวกเขาได้ถอยหลังไปกว่าสิบเมตรก่อนที่จะสร้างสมดุลแก่ร่างกายพวกเขาได้ มองไปยังเจียงเฉินอีกครั้ง เขายังมีแสงสีทองปกคลุมตัวเขาและมีออร่าที่สง่า เขาเป็นดั่งผู้พิพากษาของมนุษย์ด้วยขวานของเขาสามารถที่จะตัดสินโชคชะตาของมวลมนุษย์ได้


” เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? มันเป็นเพียงแค่ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง เขาแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร? “


” มันเป็นยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางจริงๆรึ? เหตุใดมันถึงสามารถโจมตีด้วยทักษะต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นนั้นได้? และพลังหยวนของมันดูไร้ที่สิ้นสุด มันดูไม่กลัวที่จะสิ้นเปลืองพลังจำนวนมาก! นี่มันไม่อย่าจะเชื่อ! “


” บัดซบ! พี่น้องหยิน ปีศาจประเภทใดที่เจ้าไปยั่วยุน่ะ? “


          ทั้งสามต้องการที่จะอาเจียนเป็นเลือด ในฐานะยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ พวกเขาได้ปกครองพื้นที่พวกเขามาหลายปี และพวกเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ที่ยากลำบาก


ตูม!


          เมื่อหนึ่งในพวกเขาพูดจบ พวกเขาได้ยินเสียงตูมดังก้อง เจียงเฉินกระพือปีก และเขาฟาดลงมาอีกครั้ง เขาพุ่งมาอยู่ตรงหน้าของหนึ่งในพวกเขา ขวานอัสนีได้อยู่ประชิดหัวของเขาแล้ว


          เร็ว….นี่มันรวดเร็วมาก! มันรวดเร็วมากชายผู้นั้นทำได้เพียงรับรู้แต่ไม่มีทางที่จะป้องกันการโจมตีนั่นได้


” แย่แล้ว! “


          ชายคนนั้นตะโกนด้วยความตกตะลึง เขาไม่เคยคาดว่าเจียงเฉิน หลังจากที่ใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุดแล้วยังสามารถที่จะโจมตีได้ทันทีโดยที่ไม่มีหยุด


          แต่ว่าแย่หน่อย มันจบไปแล้ว ขวานต่อสู้ที่ไร้ความปราณี ได้ผ่าร่างเป็นครึ่งซีก เลือดกระเซ็นในทุกๆที่ และเลือดได้เทลงไปยังอีกสองคน ทั้งสองคนรู้สึกหนาวไปถึงไขสันหลัง


ฟ้าว!


          จิตสังหารของเจียงเฉินพุ่งทะยาน ไม่มีการลังเล หลังจากที่ได้สังหารไปคนหนึ่ง เขาได้เหวี่ยงขวานไปยังอีกคนหนึ่งทันที


” วิ่ง! “


          หยินจงเฉิงตะโกนแล้วเขาหันหลังและเริ่มหลบหนี ไม่มีเหตุที่จะต้องสู้ต่อ เจียงเฉินแข็งแกร่งเกินไป โหดร้ายและเหี้ยมโหด มันไม่มีทางที่เขาจะได้แก้แค้นอีกแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเขาจะต้องรักษาชีวิตของตนก่อนและหากว่าเขายังอยู่ที่นี่ต่อ ตอนนั้นเขาจะไม่สามารถออกไปได้โดยยังมีชีวิตอยู่ เขาจะได้ตามรอยเท้าของชายแก่หนวดขาวไป


          หยินจงเฉิงเป็นคนแรกที่หนี ส่วนคนอื่นที่หวาดกลัวมีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผาก ได้หันกลับและพยายามที่จะหนี อย่างไรก็ตาม ปฎิกิริยาของเขาช้าเกินไป เพราะความหวาดกลัวทั้งหมดของเขา เขาจึงสูญเสียความต้องการที่จะสู้ทั้งหมด และได้ถูกผ่าครึ่งโดยเจียงเฉิน


          คนหนึ่งสู้ อีกสามคนตาย ใบหน้าของเจียงเฉินแสดงออกถึงความเหี้ยมโหด และตาของเขามีประกายเย็นยะเยือก เขาหันหัวไปหาหยินจงเฉิงที่หนีไปไกลแล้ว ปีกโลหิตของเจียงเฉินได้กระพือและเขาได้เริ่มไล่ล่าหยินจงเฉิงด้วยความเร็วสูง


ตอนนี้หยินจงเฉิงได้หนีไป หวงต้าได้ไล่ตามเขาและได้ปิดกั้นทางเขาไว้


” ไอ้หมาเวร อย่ามาขวางทางข้า! “


          ไม่มีการพูดอื่นใดอีก หยินจงเฉิงฟาดขวานของเขาลงมาใส่หวงต้า เขาจำเป็นต้องหนีจากที่นี่ตอนนี้ หากเขาถูกไอ้ปีศาจนั่นจับตัวได้ ตอนนั้นเขาตายอย่างแน่นอน


วู่มม!


          หวงต้าเปิดปากและปล่อยบอลพลังสีทองขนาดยักษ์ออกมา หยานเฉินหยู่สร้างม่านน้ำแข็งป้องกันการโจมตีของหยินจงเฉิง   (บอลสัตว์หางสินะ)


ตูม!


          เกิดการระเบิดของพลังงานขึ้น เพราะหวงต้าได้ขวางทางเขาทำให้หยินจงเฉิงได้ล่าช้าลง ในตอนนั้นเองเจียงเฉินก็ไล่ตามทันจากด้านหลังเขาแล้ว


          ด้วยจิตสังหารที่รุนแรง เขามองไปยังเจียงเฉิน แล้วเขามองไปยังขวานอัสนีบาตในมือของเจียงเฉินอีกครั้ง ที่เรืองแสงสีเหลืองอำพัน ใบหน้าของหยินจงเฉิงดูแย่มาก รู้สึกถึงความตายได้ห้อมล้อมเขาและที่เขารู้สึกตอนนี้คือความหวาดกลัว


” เจียง….เจียงเฉินอย่าฆ่าข้าเลย ปล่อยข้าไปเถอะ! ข้าให้สัญญาว่าข้าจะไม่มาสร้างปัญหาให้กับเจ้าอีก! “


หยินจงเฉิงเริ่มอ้อนวอน


” ผู้ที่จะต้องการสังหารย่อมถูกสังหารได้เช่นกัน “


ด้วยท่าทางเหี้ยมโหดของเจียงเฉิน เจียงเฉินยกขวานขึ้นบนฟ้า 


” หยินจงเฉิง เจ้าควรจะรู้ไว้ การก้าวพลาดเป็นสาเหตุของความเสียใจตลอดชีวิต ลองย้อนกลับไปวันนั้นที่เมืองจันทราสีเงิน เจ้าไม่ควรมาตอแยข้า “


          คำพูดของเจียงเฉินเป็นคำพิพากษาให้ประหารชีวิต เขาเหมือนดั่งผู้พิพากษาจากนรกที่ตัดสินว่าผู้ใดสมควรตาย


เปรี้ยง!


ขวานต่อสู้ได้สร้างเสียง ‘เปรี้ยง’ ออกมา แล้วมันฟาดลงมาจากด้านบนด้วยความเร็วสูงมาก 


” ไม่! “


          หยินจงเฉิงคำราม ด้วยพลังทั้งหมดของเขา เขาเงื้อขวานในมือเขาขึ้นและพยายามป้องกันการโจมตี แต่มันไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาได้ สุดท้ายเขาก็ถูกเจียงเฉินสังหาร


          สังหารยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ทั้งสี่ต่อเนื่อง และโคจรทักษะอัสนีบาตเรื่อยๆ ใช้พลังหยวนเป็นจำนวนมาก สร้างความน่าเบื่อแก่เจียงเฉิน พลังหยวนในร่างของเขาถูกใช้ไปเป็นจำนวนมาก และเขาไม่สามารถทำอย่างอื่นได้นอกจากทานยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์เพื่อฟื้นฟูพลังของเขา


” เจ้านี่มันบ้ามากขึ้นในแต่ละวันนะ! สังหารยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์สี่คน หากว่าคนอื่นได้รู้เข้าคงตายเพราะความหวาดกลัวเป็นแน่! “


หวงต้ากระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นและความยินดี


” พวกมันหาเรื่องตายเอง “


          เจียงเฉินแสยะยิ้ม เขาหยิบของขึ้นมา แล้วยุทธภัณฑ์ทั้งสามได้ลอยมาสู่มือของเขา เขานำพวกมันใส่แหวนเก็บของ


” เดินทางกันต่อเถอะ “


          ปีกโลหิตของเจียงเฉินกระพือ และเขามุ่งไปยังทิศที่นิกายทมิฬตั้งอยู่ การต่อสู้กับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ทั้งสี่ได้ทำให้เขาเข้าใจถึงพละกำลังในการต่อสู้ของเขาในปัจจุบัน  การต่อสู้นี้ทำให้เขาได้รับประโยชน์มากมาย


          นี่เป็นจุดจบที่น่าเศร้าของหยินจงเฉิง เหมือนดั่งที่เจียงเฉินพูด ย้อนกลับไปที่เมืองจันทราสีเงิน เขาไม่ควรที่จะมาตอแยเจียงเฉิน และเขาไม่ควรที่จะยึดติดกับเจียงเฉินหลังจากที่ฮันหยานออกหน้า นี่เป็นสิ่งที่ชักนำให้เกิดขึ้นในวันนี้


          เจียงเฉินใช้วิธีที่เหี้ยมโหดที่สุดในการบอกถึงความจริง ว่ามีบางอย่างในโลกนี้ที่ไม่ควรไปตอแยด้วยและหากว่าได้ทำลงไป ผลที่ตามมานั้นหนักหนายิ่งนัก


          นิกายทมิฬตั้งอยู่ที่ทางตอนเหนือของแคว้นฉี เป็นพื้นที่ที่โดดเด่นด้วยภูเขาและเทือกเขาสูง บนเขานั้นอุดมไปด้วยพลังหยวนตามธรรมชาติ ภูเขามีหมอกบางๆอยู่รอบๆตลอดปี สถานที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์และรู้สึกมีเกียรติ


          เทือกเขานี้จะเรียกว่า ภูเขาทมิฬ  ยอดเขานับไม่ถ้วนได้กระจายอยู่ทั่วด้านบนเขาทมิฬ


          มันสามารถพูดได้ว่า ผู้บุกเบิกนิกายทมิฬได้ค้นพบแหล่งพลังใต้ดินที่นี่ ดังนั้นเขาจึงครอบครองที่แห่งนี้และจัดตั้งนิกายทมิฬที่รุงโรจน์


          แหล่งพลังงาน นอกเหนือจากสามารถที่ให้สภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะได้ดีที่สุดแล้วและยังมีพลังธรรมชาติอยู่รวมกันอีกด้วย และมันยังเป็นตัวแทนของโชคลาภอีกด้วย นิกายใหญ่ทั้งสี่ในแต่ละแห่งได้ครอบครองพื้นที่ที่มีแหลงพลังงานอยู่ นี่เป็นเหตุที่ว่าพวกเขาที่ได้รุ่งเรืองนิรันดร์และได้ผลิตอัจฉริยะออกมานับไม่ถ้วน


          ผ่านไปสองวัน ช่วงบ่าย ในที่สุดเจียงเฉินและหวงต้าได้มาถึงนิกายทมิฬ พวกเขาร่อนลงที่ตีนเขา


” นี่มันสวยจังเลย! “


หยานเฉินหยู่ชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่เต็มไปด้วยหมอกบางๆ ช่วยไม่ได้ที่นางจะชมเชย


” เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ และมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ดีด้วยเช่นกัน “


          เจียงเฉินผงกหัวของเขา แต่ปฎิกิริยาของเขาไม่ได้มากมายนัก ประสบการณ์ของเขานั้นมากมายกว่ามากเมื่อเทียบกับหยานเฉินหยู่ นิกายเล็กๆอย่างนิกายทมิฬไม่สามารถเทียบคุณภาพกับระดับของทวีปศักดิ์สิทธิ์ได้


” ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกเราเป็นศิษย์นิกายทมิฬแล้ว ดังนั้นก่อนอื่นต้องไปรายงานว่ามาถึงที่แห่งนี้แล้ว “


เจียงเฉินพูดพร้อมรอยยิ้ม เขาขยับเท้า และเขาเริ่มเดินขึ้นเขา


” ห้ามผ่านไปมากกว่านี้! “


          เมื่อเจียงเฉินขึ้นไปได้ครึ่งเขาแล้ว เขาได้ยินเสียงตะโกนออกมา และชายหนุ่มสามคนแต่งชุดสีขาวเดินมาหาพวกเขาด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง




****************************************************************************


จบตอนจ้า  อิอิอิ


เกรียนมาแล้วจ้า พี่เฉินจะทำยังไงน้า  ถ้าอยากรู้ว่าจะทำอะไรต่อไป โปรดติดตามตอนต่อไป…..

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments