I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 30 หลงหวางเอ๋อ

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

คู่หูเจียงซูที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง เมื่อพวกมันเห็นสิ่งที่’เย่เฟิง’ทำก็รู้สึกตกใจ ถึงแม้พวกมันจะเป็นพวกหัวรุนแรง แต่งานจัดแสดงสินค้าแห่งนี้ถูกดูแลโดย’หลงหวางเอ๋อ’ ซึ่งเป็นคนที่พวกมันไม่กล้ามีเรื่องด้วย

(note: คำว่า‘หลง’แปลว่ามังกร ซึ่งงานจัดแสดงสินค้านี้ดำเนินการโดยคนของตระกูลหลง)

ดังนั้นพวกมันจึงไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม ส่วนชายร่างผอมที่ถูกขู่โดย’เย่เฟิง’ก็ไม่ต่างกัน มันไม่กล้าร้องให้คนช่วย เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่มันโดนคุกคามกลับ และหากเรื่องที่พวกมันรวมหัวกันแบล็คเมล์คนในงาน รู้ถึงหู’หลงหวางเอ๋อ’แล้วละก็ พวกมันทั้งสามต้องเจอโทษหนักเป็นแน่

และในไม่ช้า ‘เย่เฟิง’ก็ได้รับคำตอบที่น่าพอใจจากชายร่างผอม   สิ่งที่เขาได้รู้มาคือ ในประเทศจีนแห่งนี้ มีโลกยุทธภพหลบซ่อนอยู่เบื้องหลัง รวมทั้งสมาคมของผู้ฝึกวรยุทธ์ก็มีอยู่อย่างลับๆเช่นกัน ถึงแม้ว่าผู้คนเช่นชายร่างผอมคนนี้ หรือชายร่างอ้วนที่กำลังดูแลแผงลอย จะเป็นพวกที่ไม่สามารถฝึกวรยุทธ์ได้ แต่พวกเขาก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของโลกเบื้องหลังนี้

ในปัจจุบันนี้ การจะฝึกวรยุทธ์ได้ ต้องได้รับหัวใจพระสูตร(Heart Sutra)จากตระกูลหรือสำนักหลักในโลกยุทธภพ ดังนั้นผู้คนภายนอกจึงไม่สามารถฝึกวรยุทธ์ได้ และการมอบหัวใจพระสูตรให้แก่คนภายนอกถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงของโลกยุทธภพ ตระกูลหรือกลุ่มคนใดที่ฝ่าฝืนจะถูกกำจัดโดยคนของสมาคมผู้ฝึกวรยุทธ์ทันที

ดังนั้นในประเทศจีน ผู้ใดที่ฝึกวรยุทธ์ได้ จะได้มีสถานะภาพที่สูงและได้รับการเคารพด้วยเช่นกัน   ระดับความแข็งแกร่งของโลกใบนี้ ถูกแบ่งออกเฉกเช่นของโลกเทวะ แต่ต่างกันที่การฝึกของโลกใบนี้จะใช้พลังฉีภายใน ไม่ใช่เจินฉี   ‘เย่เฟิง’เคยรู้สึกถึงพลังที่แปลกประหลาดภายในร่างของหญิงสาวใบหน้ารูปไข่ มันต่างไปจากเจินฉี

ถึงอย่างนั้น พลังฉีภายในมีความแข็งแกร่งเพียงครึ่งเดียวของเจินฉี ดังนั้น ระดับวรยุทธ์ของ’เย่เฟิ’งตอนนี้คือหนึ่งปีหกเดือน จะเทียบเท่ากับผู้ที่มีวรยุทธ์ระดับสามปี ของโลกใบนี้!

แน่นอนว่าระดับเท่านี้ยังถือว่าน้อยอยู่ดี และไม่เหมาะกับการเข้าปะทะโดยตรง   ‘เย่เฟิง’เชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นทักษะความเร็ว หรือทักษะวรยุทธ์อื่นๆในโลกใบนี้ ล้วนด้อยกว่าทักษะวรยุทธ์ในโลกเทวะอย่างแน่นอน

ดังนั้น หากเขาใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงา รวมทั้งดาบแดงเจินฉีของแหวนดาบมังกรโบราณ การลอบจู่โจมผู้ที่มีระดับวรยุทธ์ที่สูงกว่าก็น่าจะเป็นไปได้

สุดท้าย เขาได้ถามถึงเรื่องของหวงเหล่า แล้วจึงเดินจากมาอย่างพึงพอใจ   คู่หูเจียงซูค่อยสังเกต’เย่เฟิง’อยู่ตลอดเวลา พวกเขาจำชายสวมหน้ากากคนนี้ไว้อย่างแม่นยำ ไอเวรนี่ถึงกับกล้าฉีกหน้าพวกเขา หากจบงานจัดแสดงสินค้านี้เมื่อไหร่ พวกเขาจะตามไปฆ่ามันทิ้งเสีย!

………..

‘เย่เฟิง’เดินกลับมายังส่วนของการจัดแสดงแผงลอยในห้อง และไม่นานเขาก็พบหวงเหล่า   เขาเห็นชายแก่คนนั้นยืนอยู่หน้าแผงลอยที่หนึ่งขณะกำลังหลับตา หวงเหล่าคนนี้สวมชุดคลุมสีเทา มีผมและเคราสีหงอก ดูแล้วอายุมากกว่า 60 ปี   เมื่อสังเกตที่มือทั้งสองข้างของหวงเหล่า ‘เย่เฟิง’รับรู้ได้ทันทีว่ามือคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

แสดงให้เห็นว่าชายแก่คนนี้ฝึกฝนวิชากังฟูมาเป็นเวลานานแล้ว   ‘หวงเหล่า’เป็นเพื่อนเก่าของ’อู๋เอ’ และเป็นคนให้จดหมายเชิญชวนแก่’อู๋เอ’เช่นกัน ชายแก่คนนี้มาจากเทือกเขาเทียนจู่ มณฑลเจ้อเจียง โดยปัจจุบันมีอายุ 65 ปี เขาเริ่มฝึกวรยุทธ์ตอนอายุ 40 ปี และเวลานี้ เขามีระดับวรยุทธ์อยู่ที่ระดับ 30 ปี ถือว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงเลยทีเดียว

เดิมที’เย่เฟิง’ตั้งใจจะอยู่ให้ห่างจากเขา แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจจะให้’หวงเหล่า’ช่วยเหลือเขาบางเรื่อง   นอกจากหวงเหล่าแล้ว ตรงนั้นยังมีชายหนุ่มท่าทางฉลาดเฉลียวคนหนึ่งยืนอยู่ที่แผงลอย และกำลังต่อรองราคากับชายร่างผอมคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลูกศิษย์ของ’หวงเหล่า’

‘เย่เฟิง’ก้าวไปยังบูธของพวกเขา และทันใดนั้น สายตาของเขากวาดไปพบกับใบมีดสีดำที่แตกหักอันหนึ่งซึ่งเขารู้สึกสนใจมาก

“มันคืออาวุธสวรรค์จริงหรือนี่?”

ในโลกเทวะ อาวุธที่ถูกใช้โดยผู้ฝึกวรยุทธ์ จะแบ่งออกเป็นสองระดับคือ อาวุธธรรมดา และ อาวุธสวรรค์   ตัวอย่างของอาวุธธรรมดาคือ มีดในครัว มีดปอกผลไม้ มีดสับเนื้อ ฯลฯ ส่วนอาวุธสวรรค์เป็นสิ่งที่ทรงพลังกว่ามัน มันสามารถตัดผ่านเหล็กกล้าได้อย่างง่ายดายเหมือนตัดผ่านโคลน

ซึ่งในอดีต มีข่าวลือว่ามีดาวชั้นยอดสิบเล่มปรากฏขึ้นในประเทศจีน ซึ่งความรุนแรงของพวกมัน เย่เฟิงประมาณว่าใกล้เคียงกับอาวุธปืนในสมัยนี้   ดังนั้น อาจบอกได้ว่าใบมีดสีดำอันนี้ มีความรุนแรงเทียบเท่ากับปืนกระบอกหนึ่ง   น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงอาวุธที่แตกหักเสียหาย

“สวัสดีครับ”

เวลานี้ ชายหนุ่มท่าทางฉลาดสังเกตเห็น’เย่เฟิง’เดินเข้ามาในแผงลอยของเขา เขาจึงรีบส่งยิ้มพร้อมกับเริ่มอธิบาย

“ใบมีดสีดำอันนี้เป็นอาวุธของอาจารย์ผมหลายปีมาแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะแตกหักเสียหาย แต่มันก็เคยเป็นถึงอาวุธระดับสวรรค์ หากคุณต้องการเราจะขายให้ในราคาร้อยล้าน”

เมื่อได้ยินชายหนุ่มคนนั้นพูดคำว่าร้อยล้านอย่างง่ายๆ ‘เย่เฟิง’ถึงกับเดาะลิ้น ร้อยล้านงั้นหรอ?

ดูเหมือนว่าคนของยุทธภพในประเทศจีนจะร่ำรวยกันเสียเหลือเกิน ราคาของใบมีดแตกหักเล่มนี้ถึงขายเสียแพงหูฉี่ หากมันไม่แตกหักเสียหายละก็ ราคาขายคงเยียบ 800 ล้านได้   มิน่าเล่า ทำไมผู้คนถึงส่ายหัวเมื่อเดินออกจากแผงลอยแผงนี้ ชัดเจนว่าราคาร้อยล้านถือว่าแพงเกินไป ที่พวกเขาขายแพงขนาดนี้อาจเป็นเพราะหวงเหล่ายังอาลัยอาวรณ์กับมีดเล่มนี้ก็เป็นได้

“อย่าสนใจเลย ผมก็แค่เดินดูไปเรื่อยๆเท่านั้น”

‘เย่เฟิง’ยิ้มพร้อมกับส่ายหัว จากนั้นจึงถามชายหนุ่ม

“ผมมียาผสมบางชนิดมาขาย แต่ผมไม่มีแผงลอยมาตั้ง ผมขอใช้แผงลอยของคุณได้ไหม? แล้วผมจะให้ส่วนแบ่ง 30% ของราคาทั้งหมด”

เขาหันไปเห็นผู้คนไม่กี่คนกำลังขายยาผสมด้วยตัวเองอยู่หน้าทางเข้า นี่ทำให้’เย่เฟิง’รู้สึกขบขันในใจ เขามายังโลกใบนี้เกือบครึ่งเดือนแล้ว และด้วยการช่วยเหลือของแก๊งอสรพิษสวรรค์ ทำให้เขาได้รับยาสมุนไพรที่หายากและราคาสูงมามากมาย สุดท้าย เขาจึงใช้ทักษะจากโลกเทวะกลั่นมันขึ้นมาเป็นยาผสม

ยาผสมเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ขายได้ราคาดี พวกมันสามารถช่วยรักษาบาดแผล อาการบาดเจ็บภายในฟื้นฟูเจินฉี และยังมีความสามารถอีกมากมาย แน่นอนเย่เฟิงเก็บยาผสมบางส่วนไว้ใช้เองด้วย และนำส่วนที่เหลือมาขายแลกเงิน

“เรื่องนี้…….”

ชายหนุ่มคนนี้ลังเลเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวว่า

“เรื่องนี้ต้องให้อาจารย์ของผมเป็นคนตัดสินใจ”

ยาผสมถือเป็นของล้ำค่าในโลกยุทธภพ แต่ชายสวมหน้ากากคนนี้กลับบอกว่าจะขายมัน? และเขายังไม่แน่ใจว่ายาผสมของชายคนนี้จะเป็นของจริงหรือไม่ หากมีใครซื้อไปใช้แล้วเกิดปัญหาขึ้นละก็ ผู้คนอาจต่อว่าคนจากเขาเทียนจู่ก็เป็นได้

‘เย่เฟิง’มองไปที่’หวงเหล่า’ที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ซึ่งกำลังหลับตาอยู่ ความจริง’เย่เฟิง’ไม่แน่ใจว่ายาผสมของเขาจะสามารถฟื้นฟูฉีภายในของคนในโลกนี้ได้หรือไม่ แต่ที่เขาแน่ใจคือมันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างแน่นอน แต่นั้นก็เป็นเรื่องยากอยู่ดีที่จะหาคนบาดเจ็บมาทดสอบยาผสมของเขา

ขณะที่’เย่เฟิง’กำลังครุ่นคิด ในเวลาเดียวกัน มีชายสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ในห้องนี้ และพวกเขายืนอยู่ไม่ไกลจากแผงลอยที่’เย่เฟิง’กำลังยืนอยู่   คนหนึ่งนั้นเป็นชายหนุ่มผิวดำ ส่วนอีกคนเป็นชายร่างอ้วนวัยกลางคนสวมชุดสูทสไตล์ตะวันตก เหตุผลที่พวกเขาทะเลาะกัน

น่าจะมาจากความไม่ลงรอยกันและนำไปสู่การพูดจากล่าวหากัน ซึ่งดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และอาจถึงขั้นทะเลาะวิวาทกัน

“หรือเราจะเข้าไปช่วยสุมไฟให้คนพวกนั้นต่อสู้กันดี? หากมีใครบาดเจ็บขึ้นมาจะได้ใช้โอกาสนี้ทดสอบผลของยาผสมของเราเสียเลย หากมันได้ผลดีจะได้เป็นการโฆษณาสินค้าไปในตัว”

‘เย่เฟิง’คิดในใจ   แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร ทันใดนั้นมีเสียงหวานใสดังขึ้นซึ่งได้ยินไปทั่วทั้งห้องโดยน้ำเสียงนี้เป็นของหญิงสาวคนหนึ่ง

“นี่ พวกคุณทั้งคู่คิดจะสร้างปัญหาในงานที่ตระกูลหลงของพวกเราเป็นเจ้าภาพหรือไง?”

น้ำเสียงนี้เป็นที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนในงาน   เมื่อ’เย่เฟิง’เงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าน้ำเสียงนี้เป็นของหญิงสาวใบหน้ารูปไข่คนนั้น เธอเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับคนหลายคน พวกเขาเข้ามาหาชายหนุ่มผิวดำกับชายร่างอ้วนวัยกลางคนที่กำลังทะเลาะกัน

“หลงหวางเอ๋อมาแล้ว!”

“หลงหวางเอ๋ออยู่ที่นี่แล้ว!”

ผู้คนต่างส่งเสียงครั้งแล้วครั้งเล่า   ในที่สุด’เย่เฟิง’ก็รู้ได้รู้ชื่อของหญิงสาวใบหน้ารูปไข่คนนี้   ร่างบางของ’หลงหวางเอ๋อ’สวมกระโปรงสีขาวน้ำเงิน แต่สิ่งที่หน้าดึงดูดที่สุดคือทรวงอกทั้งคู่ของเธอที่นูนขึ้นและถูกรัดไว้แน่นจนเหมือนกับเสื้อที่เธอสวมอยู่จะระเบิดออกมา

นี่ทำให้เหล่าชายหนุ่มที่เห็นถึงกับต้องกลืนน้ำลายไปตามๆกัน   ‘เย่เฟิง’อดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่เขาค้นหาหญ้าใบทองในหน้าอกของเธอที่โรงแรม ความนุ่มละมุนและความยืดหยุ่นนั้นมัน……….

ถึงอย่างนั้น เหตุใด’หลงหวางเอ๋อ’คนนี้ถึงมีชื่อเสียงและได้ความเคารพแบบนั้นกันนะ?

“หึ คนส่วนใหญ่อาจเกรงกลัวตระกูลหลงของคุณ แต่ผมไม่กลัว”

ในเวลานี้ มีน้ำเสียงแสดงความโมโหดังมาจากชายหนุ่มผิวดำซึ่งกำลังจะทะเลาะวิวาทก่อนหน้านี้ เขาแสดงความหยิ่งยโสขึ้นมาเมื่อมองไปยัง’หลงหวางเอ๋อ’   คำพูดของเขาทำให้หลายคนในห้องนี้รู้สึกตกใจ

“อ่อ งั้นรึ?”

‘หลงหวางเอ๋อ’ยิ้มบางๆขณะเดินเข้าไปหาเขา

…………………………..

. แปลโดย : Solar Spark

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments