ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปตอนนั้นเองที่’หลัวเล่ย’ได้ถูกจัดการไปโดย’เย่เฟิง’แล้ว สติของ’หลงเสี่ยน’ก็เริ่มกลับมา เขาได้ยิน’เย่เฟิง’พูดว่า
“ตอนนี้มันถึงตามันแล้ว”
ทำให้ชายหนุ่มกลัวแทบตายจนใบหน้าเริ่มซีดราวกับศพ
“พี่ใหญ่ ผมผิดไปแล้ว!”
‘หลงเสี่ยน’ทำหน้าอ้อนวอนขอความเห็นใจ แม้เขาจะเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว แต่ก็ไม่ได้โง่งมนัก เมื่อชายหนุ่มเห็นแล้วว่าคนทั้งสองจากหมัดเทพทวาราได้หายตัวไป เขาก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนั้น
“แกผิดตรงไหน?”
‘เย่เฟิง’เดินเข้ามาใกล้ และถามอย่างเย็นชา
“ผมไม่ควรจะวางยาหวางเอ๋อหรือหลอกให้เธอไปที่นั่นคนเดียว……..ผมไม่คิดจริง ๆ ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงของยอดนักดาบอย่างคุณ”
‘หลงเสี่ยน’เหงื่อออกเย็นเฉียบ เขามองอย่างอ้อนวอนไปยัง’หลงหวางเอ๋อ’ที่กำลังกอดแขน’เย่เฟิง’ เขากำลังยัดเยียดเธอให้เป็นผู้หญิงของชายสวมหน้ากากคนนี้ เมื่อ’หลงหวางเอ๋อ’ได้ยินดังนั้น ก็ทำให้หญิงสาวโกรธมากขึ้น เธออยากจะกระโดดออกจากแขน’เย่เฟิง’และซัด’หลงเสี่ยน’สักร้อยหมัด
ใครเป็นผู้หญิงของชายสวมหน้ากากคนนี้กัน? น่าเสียดายที่สภาพของเธอตอนนี้ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ หากเธอเลิกใช้พลังกดพิษของยาเมื่อไหร่เธอคงทนฤทธิ์ของมันไม่ไหวและเปิดโอกาสให้’เย่เฟิง’ทำอะไรตามใจชอบ
จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่า’หลัวเล่ย’และ’หลัวลี่’เอายาชนิดนี้มาจากไหน ฤทธิ์ของมันเข้มข้นรุนแรงมากจนเธอสาบส่งสองคนนั้นในใจไปหลายรอบ แน่นอนว่าสองคนนั้นตายไปแล้วแต่เธอก็ยังไม่เลิกแช่งพวกมันอย่างไร้ประโยชน์เสียที
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ร่างกายของเธออ่อนแรงและไม่สามารถทำอะไรได้ เธอได้แต่ยอมให้’เย่เฟิง’ฉวยโอกาสจากเธอ ในความจริงหญิงสาวกำลังรอโอกาสที่เหมาะสมเพื่อใช้โอกาสหนีไปอย่างแยบยลจากปีศาจบ้ากามตัวนี้…………
“งั้นเหรอ? งั้นแกฟังฉันให้ดีๆนะ”
‘เย่เฟิง’ยิ้มเยาะ
“วันนี้ตอนเช้าที่เมืองหลินอัน ผู้หญิงคนนึงถูกบังคับให้ต้องกระโดดตึกตาย แกยังจำได้อยู่ไหม?”
“ม.. ไม่นะ”
‘หลงเสียน’ที่ได้ยินดังนั้นก็พลันตัวแข็งถืออยู่บนพื้น ชายสวมหน้ากากคนนี้รู้เรื่องได้อย่างไร? ทันใดนั้นใบหน้าของ’หลงหวางเอ๋อ’แสดงถึงความรังเกียจและขยะแขยงออกมา
‘หลงเสี่ยน’คนนี้กล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? แถมยังเป็นกับคนนอกยุทธภพอีกด้วย
“วันนี้ฉันในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง จะเป็นผู้ลงมือล้างบาปให้เอง!”
เจินฉีของ’เย่เฟิง’ปะทุขึ้นมาก่อให้เกิดดาบเจินฉีสีแดงจากมือของชายหนุ่มจ่อไปยัง’หลงเสี่ยน’ที่นอนอยู่ห่างออกไป!
“ไม่นะ… ได้โปรดท่านนักดาบผู้ยิ่งใหญ่ เมตตาด้วย! หวางเอ๋อ ช่วยฉันด้วย!”
ดวงตาของ’หลงเสี่ยน’มองไปยังดาบสีแดง เลือดของเขาแห้งเหือดด้วยความกลัว ทันใดนั้นก็มีน้ำออกมาจากหว่างขาของเขา!
“ที่โรงแรมนั่น ตอนที่หญิงสาวขอร้องให้แกไว้ชีวิตเธอ แกยอมทำตามไหมล่ะ?”
‘เย่เฟิง’ยิ้มเยาะอย่างเย็นชา อย่างที่คนเคยกล่าวไว้
“อะไรก็ตามที่คุณไม่ชอบ คุณก็ต้องไม่ทำสิ่งนั้นต่อผู้อื่น”
‘หลงเสี่ยน’คนนี้เมินเฉยต่อผู้อื่นเวลาพวกเขาร้องขอความเมตตา ‘เย่เฟิง’ก็อยากให้เขารับรู้รสเช่นนี้เหมือนกัน รสชาติแห่งความสิ้นหวัง ‘เย่เฟิง’ไม่ได้กล่าวอะไรอีกต่อ เขาตวัดมือเพียงหนึ่งครั้ง แสงสีแดงอาบไปทั่วบริเวณ! และในเวลาต่อมา ศพที่สามก็ถูกโยนร่วงไปจากหน้าผา ……………
“ฉันขอพูดตรงๆเลยนะ ทำตัวเป็นตัวประกันที่ดีซะ ตรงตีนภูเขาข้างหน้านั่นมีคนของตระกูลเธออยู่ใช่ไหม?”
หลังจากจัดการเรื่องของ’หลงเสี่ยน’เสร็จ ‘เย่เฟิง’เดินทางกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมแล้วตรงดิ่งไปยังตีนภูเขา ชายหนุ่มใช้มือกุมไว้รอบคอของเธอขณะถาม
“แค่กๆ.. มีสิ…”
ลำคอของ’หลงหวางเอ๋อ’ที่อยู่ในกำมือของ’เย่เฟิง’ทำให้เธอหายใจอย่างติดขัด หญิงสาวใช้เวลาไม่นานก็ทำความเข้าใจว่า’เย่เฟิง’ไม่ได้ช่วยเธอเพราะความเสน่ห์หาหรอก แต่เป็นเพราะต้องการจับเธอไว้เป็นตัวประกันต่างหาก
ว่าแต่ว่า อะไรคือเป้าหมายที่จับเธอไว้เป็นตัวประกันกันแน่นะ?แน่นอนว่าเธอไม่รู้เลยเรื่องที่’เย่เฟิง’ต้องการใช้เส้นทางผ่านไปทางตีนภูเขาเพื่อที่จะเข้าไปยังสุสานโบราณ ไม่ว่าจะด้วยสถานะของชายสวมหน้ากากหรือ’เย่เฟิง’ก็ตามที ไม่ว่านะฐานะใดเมื่อเขาไปปรากฎตรงหน้าคนของตระกูลมังกร
พวกเขาย่อมไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มผ่านไปแน่ ดังนั้นหญิงสาวในกำมือของเขาเป็นเพียงตัวเลือกเดียวที่จะช่วยให้เรื่องทุกอย่างง่ายขึ้น
“ดีมาก”
‘เย่เฟิง’พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขายังคงมุ่งต่อไปข้างหน้าพร้อมกับ’หลงหวางเอ๋อ’ในอ้อมแขน สภาพของ’หลงหวางเอ๋อ’ตอนนี้ค่อนข้างน่าสงสารทีเดียว ทั้งร่างกายของเธอตกอยู่ภายใต้พิษของยา แก้มเธอแดงระเรื่อ หญิงสาวที่ถูกจับกุมไว้โดย’เย่เฟิง’เริ่มรู้สึกเบาสบายและดีอย่างไม่คาดคิด
มันทำให้เธอรู้สึกละอายใจต่อตนเองจนแทบอยากจะฆ่าตัวตายนัก ปกติแล้ว’เย่เฟิง’ก็ไม่ปฎิบัติต่อผู้หญิงอย่างนุมนวลนัก โดยเฉพาะคุณหนูตระกูลมังกรคนนี้ก็ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาอยู่แล้วด้วย แถมยังเป็นศัตรูกันอีกต่างหาก ดังนั้นเขาจึงไม่เปิดเผยด้านอ่อนโยนต่อเธอเลยแม้แต่น้อย
เมื่อพวกเขาเริ่มเข้าใกล้บริเวณตีนภูเขามากขึ้น เขาเริ่มเป็นจุดสนใจต่อคนของตระกูลมังกร มีผู้คนอยู่ราวๆ 17-18 คนบริเวณนี้ แต่ละกลุ่มประกอบไปด้วยสองถึงสามคนกำลังสนทนาอะไรบางอย่างกันอยู่
เพียงแค่มองปราดเดียว’เย่เฟิง’ก็รับรู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้เป็นพวกจอมยุทธ์ทั้งนั้น เมื่อสายตาของพวกเขามองมายัง’เย่เฟิง’และ’หลงหวางเอ๋อ’ที่ถูกจับตัวอยู่ ใบหน้าของ 5-6 คนในนั้นซีดลงทันที
“หวางเอ๋อ!”
หนึ่งในคนจำนวนนั้นมีชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง คิ้วตรงชี้ขึ้นด้านบนและกำลังขมวดคิ้ว เขาก้าวเท้าอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นมาหา’เย่เฟิง’!
‘เย่เฟิง’มองไปยังชายวัยกลางคนตรงหน้าและประเมิณ เขาดูอายุราวสามสิบปี ใส่เสื้อผ้าสีขาวยาว มีฝักดาบเหน็บติดไว้ที่เอว ตั้งแต่หัวจรดเท้าให้ความรู้สึกที่ดูปราณีตและสุภาพแต่ก็ดูหลอกลวงในคราวเดียวกัน จากรูปลักษณ์ภายนอกทำให้’เย่เฟิง’อดไม่ได้ที่จะคิดว่าชายคนนี้เป็นคนที่มาจากโลกเทวะ
“พ่อ…”
‘หลงหวางเอ๋อ’พยายามพูดออกมาอย่างยากลำบาก เธอพยายามส่งสายตาไปยังชายวัยกลางคนผู้นั้น ชายวัยกลางคนที่ดูปราณีตและสุภาพเนี่ยนะ พ่อของเธอ? ใจของ’เย่เฟิง’เริ่มเกิดความตื่นตัวและระวังต่อสถานการณ์มากขึ้น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่
“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถอยไปให้หมด ไม่งั้นผมจะบีบคอผู้หญิงคนนี้ให้ตายคามือซะ! ผมแค่ต้องการผ่านตรงนี้ไปเท่านั้น หลังจากนั้นผมจะปล่อยลูกสาวคุณไปเอง”
“เจ้าหนู มันจะกล้าดีเกินไปแล้ว!”
แววตาของงชายวัยกลางคนเริ่มฉายแววเย็นเยียบออกมา คิ้วที่ตรงของเขาเริ่มชี้ตรงขึ้นไปอีก มือเอื้อมไปที่ฝักดาบเตรียมพร้อมจะฟาดฟันทุกเมื่อ
“โม่หลัน ช้าก่อน”
ด้านหลังของเขามีชายแก่ผู้หนึ่งกำลังมองสถานกาณณ์อย่างรอบคอบ เขารีบตรงเข้ามาหาและกระซิบต่อชายวัยกลางคนผู้นั้น เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้’เย่เฟิง’ได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวด ถ้าระดับพลังของเขามีอย่างต่ำสักสิบปี เขาคงจะสามารถได้ยินทุกสิ่งอย่างที่อีกฝ่ายกำลังพูด น่าเสียดายมันไม่เป็นเช่นนั้น
“แกคือโม่จิ่วเกองั้นหรือ?”
หลังจากที่พ่อของ’หลงหวางเอ๋อ’ฟังชายแก่ผู้จบ เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันไปมอง’เย่เฟิง’แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ถ้าแกกล้าทำให้ลูกสาวของฉันเจ็บละก็ คนของตระกูลมังกรเราจะตามล่าฆ่าแกจนสุดขอบโลก!”
“ใจเย็นก่อน”
‘เย่เฟิง’ฉีกยิ้มขณะเอามือกุมคอของ’หลงหวางเอ๋อ’อยู่ เขาก้าวเดินต่อไปจนกระทั่งเขาเข้ามาในระยะห้าเมตรจากพ่อของ’หลงหวางเอ๋อ’แล้ว ทันใดนั้น’เย่เฟิง’เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงสุด! ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้แน่นในอ้อมอกแล้วใช้วิชาย่างเก้าไร้เงาด้วยความเร็วที่สูงที่สุดจนกระทั่งทิ้งไว้เพียงเงาภาพติดตา
ชั่วกระพริบตา’เย่เฟิง’ที่จับกุม’หลงหวางเอ่อ’ไว้ข้ามผ่านตีนภูเขามุ่งหน้าไปยังป่าในทิศตรงกันข้ามทันที เหตุการณ์ตรงหน้าที่ฉับพลันเกินไปทิ้งไว้ให้’หลงโม่หลัน’และคนตระกูลมังกรคนอื่นๆได้แต่ตกตะลึง เจ้าเด็กมีความเร็วนาดนี้ได้อย่างไรกัน?
พวกเขาไม่ทันจะได้ตอบโต้’เย่เฟิง’ก็หายลับไปสุดสายตาเสียแล้ว พร้อมกับ’หลงหวางเอ๋อ’
“ฮ่าๆๆ โม่หลันไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่นายต้องรับความพ่ายแแพ้เช่นนี้ได้”
เสียงหัวเราะที่ดังตามมาด้วยประโยคเสียดสีผ่านมาจากอีกทาง ในความเป็นจริงตระกูลมังกรและผู้อาวุโสแห่งหมัดเทพทวาราไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนัก ดังนั้นเขาจึงถากถาง’หลินโม่หลัน’ตามใจ อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้’หลัวลี่’และ’หลัวเล่ย’ได้พยายามที่จะจับ’หลงหวางเอ๋อ’ และถูกสังหารโดย’เย่เฟิง’เรียบร้อย
มิฉะนั้น การที่เขาอยู่ที่นี่คงทำให้ความโกรธของ’หลงโม่หลัน’ระเบิด จนเขาต้องรีบหนีไปให้ไกลเพราะการกระทำของเจ้าศิษย์ชั่วทั้งคู่แล้ว
“เหอะ”
‘หลงโม่หลัน’แค่นเสียงเบาๆอย่างไม่ใส่ใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เขาขมวดคิ้วและกล่าว
“พวกนายลงไปด้านล่างดูซิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเด็กหลงเสี่ยน ส่วนฉันจะไปตามหาหลงหวางเอ๋อเอง”
เมื่อสิ้นเสียง เขาเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วกระโดดตามทิศที่’เย่เฟิง’และ’หลงหวางเอ๋อ’หายไป ‘หลงโม่หลัน’รู้สภาพของ’หลงหวางเอ๋อ’อย่างชัดเจน
แก้มที่แดงเรื่อเช้นนั้นเธอต้องตกอยู่ในพิษอะไรสักอย่างอยู่ หากเธอตกไปอยู่ในมือของคนชั่วร้ายชีวิตของเธอคงจะต้องถูกทำลายตลอดไปแน่…
………………………..
แปลโดยทีมงานGSI
ที่มา: