I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 92 กล้าที่จะรัก กล้าที่จะเกลียด

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ทันทีที่’เย่เวิ่นเทียน’ปรากฎตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่ง พร้อมกับส่งสายลมที่กันโชกผ่านพวกเขาไป  ชายชราคว้าเอาตัว’หลงหวางเอ๋อ’ออกไปจากอ้อมกอดของ’เย่เฟิง’ จากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จากนั้นเขาก็ปรากฎตัวอยู่ห่างจาก’เย่เฟิง’ประมาณ 5 เมตร

“คุณหนูตระกูลหลง การเข้าใกล้หลานชายของฉันแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลย คิดงั้นไหม?”

‘เย่เวิ่นเทียน’กล่าวเบา ๆ ขณะจ้องมองเธอ   หากเป็น’หลงหวางเอ๋อ’ก่อนหน้านี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการได้พบ’เย่เวิ่นเทียน’จะทำให้เธอรู้สึกประหม่าและเกรงกลัวขนาดไหน เพราะว่าเขาคือศัตรูเก่าตัวฉกาจของตระกูลเธอ

แต่สำหรับตอนนี้ หญิงสาวไม่รู้สึกเกรงกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะการที่เธอตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านเพื่อมาตามหา’เย่เฟิง’ มันทำให้เธอไม่ใส่ใจต่อสิ่งใดทั้งสิ้น   หญิงสาวเค้นเสียงเบาๆว่า

“คุณไม่อยากรู้หรือไง ว่าหลานชายสุดที่รักของคุณได้ทำอะไรกับฉัน?”

หลังจาก’หลงหวางเฮ่อ’กล่าวเสร็จจบ หญิงสาวยกใบหน้าที่สวยงามของเธอจ้องมองไปยัง’เย่เฟิง’ด้วยสายตาที่ซับซ้อน

“หือ?”

คำพูดของ’หลงหวางเอ๋อ’ ทำให้’เย่เวิ่นเทียน’งงงันไปในทันที   ‘เย่เฟิง’จ้องมองไปยังหญิงสาวพร้อมกับคิดว่าเขาไม่รู้ว่า’หลงหวางเอ๋อ’ได้กระจายข่าวเรื่องที่เขาเอาชนะ’หลี่ฮวา’ ชายวิปริตแห่งวังกระบี่สวรรค์ออกไปหรือไม่ ส่วนสิ่งที่แน่นอนตอนนี้คือ’หลี่ฮวา’คงต้องเก็บตัวรักษาบาดแผลอยู่

ยิ่งกว่านั้น ผู้คนตระกูลหลงไม่ได้เผยแพร่เรื่องนี้ออกไป   ใจของ’เย่เฟิง’เริ่มคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ เวลานี้ปู่ของเขามาที่นี่แล้ว ซึ่งมันทำให้เรื่องราวยุ่งยากขึ้น หาก’หลงโม่หรัน’ตามมาที่นี่ด้วย เขาคงไม่อาจรับมือได้

ดังนั้น ‘เย่เฟิง’จึงรีบตัดสินใจ ไม่ว่าอย่างไร เขาจะไม่มีทางยอมให้ปู่ทำอันตรายต่อเธอแม้แต่เส้นผม!   ในเมื่อหญิงสาวคนนี้มีร่างชีพจรเทวะซึ่งสำคัญต่อเขามาก ชายหนุ่มคิดว่ามันจะเป็นเรื่องดีมากหากเธอไม่ใช่ลูกสาวของ’หลงโม่หรัน’ แต่ก็น่าเสียดายที่เขาได้ทำแค่คิด

‘เย่เฟิง’เงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปยัง’หลงหวางเอ๋อ’ และบังเอิญหญิงสาวก็หันมาจ้องมองชายหนุ่มเช่นกัน เขาและเธอจึงประสานตาในชั่วขณะนั้น

“อย่าบอกนะว่า….”

ทันใดนั้น ‘เย่เวิ่นเทียน’พลันพูดออกมาเล็กน้อยขณะคิดถึงความเป็นไปได้ และเพื่อยืนยันความคิดนั้น ชายชราจ้องมองสีหน้าของ’เย่เฟิง’อย่างเพ่งพิศ แล้วจึงหันมามอง’หลงหวางเอ๋อ’ด้วยสายตาที่แหลมคม ชายชราจ้องมองเขาและเธอกำลังประสานสายตาซึ่งกันและกัน

ซึ่งทำให้ชายชรามั่นใจในสิ่งที่คิดมากขึ้นไปอีก

“คุณคิดถูกแล้ว”

‘หลงหวางเอ๋อ’เค้นเสียงเบาๆพร้อมกับพูดว่า

“คุณต้องการอะไรจากฉันก็ช่วยพูดออกมาตรงๆ เพราะถึงอย่างไร ฉันก็ไม่ใช่ศัตรูของคุณ”

“เธอช่างเหมาะสมกับชื่อ‘หญิงสาวผู้เย่อหยิ่งแห่งตระกูลหลง’จริงๆสาวน้อย ถึงแม้จะยืนอยู่ตรงหน้าไอ้แก่คนนี้ เธอก็ยังใจเย็นอยู่ได้”

‘เย่เวิ่นเทียน’เค้นเสียงเย็น

“ฉันไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอทั้งคู่ ต่อจากนี้ ห้ามมาหาหลานของฉันอีก เธอต้องยอมรับความจริงว่าตระกูลเย่ของฉันกับตระกูลหลงของเธอเป็นศัตรูกัน”

“แล้วถ้าฉันไม่ยอมล่ะ?”

หญิงสาวพูดขณะจองมายัง’เย่เฟิง’ และอดไม่ได้ที่เธอจะคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสุสานโบราณภายใต้แสงจันทร์ที่สลัววันนั้น   หลังจากเหตุการณ์นั้น ตัวเขาที่สวมหน้ากากได้ปรากฏตัวขึ้นมาสังหารปลาประหลาด จากนั้นชายหนุ่มช่วยชีวิตเธออีกครั้งโดยการถ่ายทอดอากาศเข้ามาในปาก

ต่อมา เขาก็ยังยืนหยัดต้านทานกระบี่สะบั้นวายุอย่างมั่นคงจนบาดเจ็บสาหัส ชายหนุ่มคนนี้ช่วยชีวิตเธอไว้หลายต่อหลายครั้งมาก   หญิงสาวยังไม่รู้เลยว่าบาดแผลของเขาดีขึ้นหรือยังตอนนี้?

ขณะที่’หลงหวางเอ๋อ’ยังคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ดวงตาที่สดใสของเธอก็พลันขุ่นมัวลง

ในสายตาของเธอ ภาพของชายสวมหน้ากากทับซ้อนกับภาพของ’เย่เฟิง’ ซึ่งทำให้เธอมั่นใจว่าพวกเขาคือคนคนเดียวกัน!   อย่างไรก็ตาม หากความคิดนี้ของเธอไม่ถูกต้อง ถ้าอย่างนั้นในอนาคต หญิงสาวจะตามหาตัวชายสวมหน้ากากแล้วฆ่าเขาทิ้งซะ! และถึงแม้เธอจะทำไม่สำเร็จ หญิงสาวก็จะให้คนตระกูลของเธอช่วยกันตามหาเขาไปทุกที่เพื่อตามฆ่าเขาให้ได้!

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดที่’เย่เฟิง’ยืนหยัดปกป้องเธอจากการโจมตีของชายวิปริตจากวังกระบี่สวรรค์ซึ่งมีวรยุทธ์สูงกว่าเขา เวลานั้นหญิงสาวตัดสินใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้คุ้มค่าที่จะเชื่อใจและฝากชีวิตไว้ได้   แล้วนี่ตกลงว่าเธอรักเขาหรือเกลียดเขากัน?

ตอนนี้ ‘หลงหวางเอ๋อ’มั่นใจ 100% ว่า’เย่เฟิง’คือชายสวมหน้ากากคนนั้น และหญิงสาวไม่มีทางเปลี่ยนความรู้สึกที่เธอมีต่อชายหนุ่ม……เธอรักเขา   ถึงแม้’เย่เวิ่นเทียน’จะฆ่าเธอตอนนี้ หญิงสาวก็ยอมตายอย่างมีความสุขและจะไม่เสียใจอะไรอีก!

‘เย่เวิ่นเทียน’เค้นเสียงอันดัง

“ถ้าเธอยังยืนยันแบบนี้ ฉันคงปล่อยให้สาวน้อยอย่างเธอ-”

วืด!   ทันใดนั้น ‘เย่เฟิง’พลันเคลื่อนไหวพร้อมกับทิ้งภาพติดตาเอาไว้เบื้องหลัง ชายหนุ่มพุ่งเข้าไปรวบเอวของหญิงสาวและพาเธอออกห่างจากปู่ของเขา   โดยไม่มีการแจ้งเตือน ‘เย่เฟิง’พลันใช้ทักษะเซียน ‘ย่างก้าวไร้เงา’ทันที!

“เจ้าเด็กหน้าเหม็น นี่แกกล้าพาเธอไปจากมือของไอ้แก่คนนี้งั้นรึ?”

ทันใดนั้น ‘เย่เวิ่นเทียน’ก็พลันโมโห เขาไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าเด็กน้อยอย่าง’เย่เฟิง’จะชิงตัวใครไปจากมือเขาได้ เมื่อเขาหันไปมอง’เย่เฟิง’ที่อุ้ม’หลงหวางเอ๋อ’ไว้ในอก ชายหนุ่มก็พาเธอไปไกลแล้ว

“ปู่ เหมือนว่าตอนนี้จะมีขโมยอยู่ในบ้านแหนะ ทำไมปู่ไม่ไปดูหน่อยละว่ามีอะไรหายรึเปล่า ผมขอตัวไปคุยกับเธอเดี๋ยวนึงแล้วจะรีบกลับ”

เมื่อพูดจบ ‘เย่เฟิง’รีบพาหญิงสาวจากไปอย่างรวดเร็ว   สีหน้าของ’เย่เวิ่นเทียน’พลันเปลี่ยนไปทันที มีขโมยอยู่ในบ้านงั้นรึ?

“ไอ้เด็กเวร กลับบ้านมาเมื่อไหร่ แกเตรียมตัวรับบทเรียนจากปู่คนนี้ได้เลย”

‘เย่เวิ่นเทียน’ไม่กล้ามองข้ามเรื่องนี้ เพราะในบ้านของเขามีสิ่งสำคัญมากๆเก็บไว้อยู่ ชายชราประทับฝีเท้าอย่างรุนแรงแล้วพุ่งเข้าตรวจสอบบ้านของเขา   ……

‘เย่เฟิง’หันหลังมองปู่ของเขาจากระยะไกลและเห็นว่าชายชราคนนั้นไม่ตามเขามา ชายหนุ่มจึงค่อยโล่งใจ โชคดีที่เขาเดาถูกว่าปู่ต้องซ่อนสิ่งสำคัญไว้ในบ้าน เนื่องจากบ้านหลังนั้นมีหลายห้องมาก แต่ปู่กลับห้ามไม่ให้เข้าไปในห้องบางห้องโดยไม่ยอมอธิบายอะไร

ถึงอย่างนั้น ‘เย่เฟิง’ก็ไม่อยากเสี่ยง ดังนั้น เขาจึงโอบร่างของหญิงสาวเข้ามาอย่างแนบแน่นแล้ววิ่งไปไกลหลายกิโลเมตร ชายหนุ่มหยุดลงก่อนจะถึงย่านบาร์ จากนั้นจึงค่อยคลายวงแขนของเขาออกจากร่างบางอันนิ่มนวลของเธอ

“ฉันคิดไว้ไม่ผิดว่าต้องเป็นนาย”

หลังจากเห็นทักษะของ’เย่เฟิง’ ‘หลงหวางเอ๋อ’ก็มั่นใจว่าเขาคือชายสวมหน้ากาก‘โม่จิ่วเกอ’ หญิงสาวตื่นเต้นและไม่ยอมคลายวงแขนของจากลำคอของชายหนุ่มเพื่อไม่ยอมให้เขาหนีไป

เวลานี้ กระแสของความสุขอันเอ่อล้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวทำให้เธอดูงดงามอย่างยิ่ง

“ใช่ ฉันเอง”

‘เย่เฟิง’พยักหน้า ก่อนหน้านี้ เมื่อเขาเห็นหญิงสาวยังคงยืนหยัดไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจแม้’เย่เวิ่นเทียน’จะขู่เธอ ชายหนุ่มจึงยอมแพ้และเลิกปิดบังตัวตนกับ’หลงหวางเอ๋อ’อีก

“แล้วนายจะทำยังไงกับฉันล่ะ?”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความกระวนกระวาย   ‘หลงหวางเอ๋อ’ไม่คิดเลยว่าเธอจะหาตัวเขาเจอได้เร็วขนาดนี้ ยิ่งกว่านั้น หญิงสาวไม่คาดคิดเลยว่า’เย่เฟิง’จะเป็นชายสวมหน้ากากจริงๆ ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นที่หน้าโรงพยาบาล เธอไม่อาจตรวจสอบวรยุทธ์เขาได้ และคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น

หากเธอไม่ได้รู้สึกว่า’เย่เฟิง’ดูคล้ายกับชายสวมหน้ากากเล็กน้อย เธอก็คงไม่สงสัยในกลิ่นของเขา และไม่อาจเดาได้ว่าทั้งสองคนจะเป็นคนคนเดียวกัน

“เธอคือผู้หญิงของฉัน จะไม่มีใครหน้าไหนกล้าเอาเธอไปจากฉัน”

ขณะยังกอดหญิงสาวไว้ในอก ‘เย่เฟิง’พูดต่อด้วยท่าทางเศร้าสร้อย

“ความจริงตอนแรก ฉันคิดว่าหากเธอเจอฉัน เธอจะฆ่าฉันเสียอีก…..”

“เดิมทีฉันก็อยากฆ่านาย แต่ตอนนี้ ฉันชอบนายมากนะ”

หญิงสาวพูดต่ออย่างเจ้าเล่ห์

“แต่ถ้านายทำให้ฉันเกลียดอีกครั้งละก็ ฉันฆ่านายแบบไม่ลังเลแน่นอน”

“ฉันไม่ยอมให้เธอได้เกลียดฉันแน่”

‘เย่เฟิง’พูดด้วยรอยยิ้ม

“แล้วนายละ นายเกลียดฉันไหม?”

ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะลังเล แต่เธอก็ถามออกไปในที่สุด   ‘เย่เฟิง’รู้ว่าสิ่งที่เธอถามนั้นเกี่ยวพันธ์กับสถานะของเขา ชายหนุ่มจึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า

“ขอฉันถามคำถามหนึ่ง หากวันนึง ฉันฆ่าพ่อของเธอ แล้วเธอจะเกลียดฉันไหม?”

ในสายตาของคนอื่น คำพูดอย่างไม่เจียมตัวของเจ้าหนูที่มีวรยุทธ์เพียงแค่ไม่กี่ปีนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องที่ชายหนุ่มคิดว่าสังหารผู้ที่เป็นอัจฉริยะและมีพรสวรรค์มากที่สุดของตระกูลหลงนั้นเป็นเหมือนเรื่องตลก   แต่สำหรับ’หลงหวางเอ๋อ’ที่ได้เห็นความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อของ’เย่เฟิง’แล้ว เธอรู้ชัดเจนว่านี่ไม่ได้เป็นแค่เรื่องขำขัน

อาศัยเพียงแค่วรยุทธ์ระดับ 5 ปี แต่’เย่เฟิง’กลับสามารถสังหารไห่ถัง หนึ่งในคู่รักสุขสรรค์แห่งวังกระบี่สวรรค์ได้ ไม่เพียงแค่นั้น เขายังสามารถใช้กระบี่พลังชี่ตัดแขน’หลี่ฮวา’ข้างหนึ่ง และทำให้มันหนีไปแบบหัวซุกหัวซุนได้

พรสวรรค์ของชายคนนี้สูงส่งอย่างยิ่ง ดังนั้นในอนาคต เขาย่อมสามารถสังหาร’หลงโม่หรัน’ได้แน่ และหลังจากนั้น ชื่อของเขาจะสั่นสะเทือนไปทั่ววงการยุทธภพ

“นี่ยังไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ และฉันก็ไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนั้นตอนนี้เช่นกัน”

หญิงสาวหันหน้าไปด้านหนึ่ง เธอถอนหายใจและพูดต่อว่า

“หากวันนั้นมาถึงจริง ฉันจะไม่ขัดขวางการแก้แค้นของนาย หลงโม่หรันนั้นเย็นชาและไม่แยแสชีวิตใครเลย ไม่ใช่แค่นั้น เขายังฆ่าภรรยาของเขาด้วยมือตัวเอง…..ถ้าเป็นไปได้ ฉันไม่อยากจะคิดว่าเขา….เป็นพ่อของฉันเลย…..”

……………………………….

แปลโดยทีมงาน GSI

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments