ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 154 วิถีอสุรา
เมื่อเย่เฟิงพลันถูกดึงเข้ามาในห้อง กลิ่นหอมอ่อนๆก็ลอยมาแตะจมูกทันที ร่างบางอันนุ่มนวลได้โถมตัวเข้ามาในอกของเขา
ขณะที่ยินพิงประตูอยู่ เย่เฟิงก็รวบตัวหญิงสาวมากอดไว้เช่นกัน “เธอมาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?”
หลงหวางเอ๋อยังคงดูงดงามและมีชีวิตชีวาเช่นเคย หญิงสาวสวมเสื้อเชิตแขนสั้นสีขาวที่มีรูปกระต่ายตัวน้อยคู่หนึ่งปักอยู่ ทำให้เธอดูน่ารักมากยิ่งขึ้น
“เพิ่งมาถึงวันนี้เอง”
หลงหวางเอ๋อพูดอย่างร่าเริง “ตอนแรก น้ากับฉันจะนอนห้องเดียวกัน แต่พอนายโทรมาแล้วบอกว่าจะมาที่นี่……….เธอก็ย้ายไปอยู่ห้องข้างๆ”น้า? ห้องข้างๆ?
จิตใต้สำนึกสั่งให้ชายหนุ่มใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณสำรวจห้องข้างๆทันที และทันใดนั้น เขาก็พบว่าในห้องมีหญิงสาวกำลังอาบน้ำอยู่ นั่นทำให้เขารีบยกเลิกทักษะอย่างรีบร้อน…….
“แล้ว น้าเธอรู้ตัวตนของฉันไหม?”
เย่เฟิงดึงทักษะสัมผัสวิญญาณกลับมาขณะเอ่ยถาม“เธอไม่รู้”
หลงหวางเอ๋อส่ายหน้า “ฉันบอกไปว่าโม่จิ่วเกอจะมาที่นี่วันนี้ แต่ต่อให้เธอรู้ตัวตนของนาย ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก น้าของฉันดูแลฉันมาอย่างดีตั้งแต่เด็กๆแล้ว”“เล่าเรื่องน้าเธอให้ฟังหน่อยได้ไหม?”
ขณะใช้แขนโอบร่างของหญิงสาวไว้ เย่เฟิงเดินเข้าไปในห้องที่ค่อนข้างกว้าง ซึ่งจัดเตียงนอนไว้ 2 เตียงทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุขอันเหลือล้น อย่างไรก็ตามเวลานี้ เย่เฟิงอยากรู้เรื่องที่แม่ของหลงหวางเอ๋อถูกสังหารด้วยการตัดหัวจากน้ำมือของพ่อเธอเอง แล้วหญิงสาวใช้ชีวิตอย่างไรตลอดเวลาที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะเป็นน้าของเธอที่เป็นคนเลี้ยงดูเธอมา
“เธอชื่อว่าชูชู เป็นน้องสาวของแม่ฉัน”
หลงหวางเอ๋อยังคงอิงแขนเขาไว้ ขณะเล่าเรื่องของเธอออกมา “เพราะความงดงาม แม่ของฉันจึงเป็นที่ต้องตาของตระกูลหลง หลังจากนั้น เพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลง แม่จึงถูกบังคับให้แต่งงานกับหลงโม่หรัน และน้าก็ต้องแต่งงานกับญาติผู้น้อง ถึงอย่างนั้น เพราะสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน ไม่ใช่แค่แม่ที่ถูกสังหารด้วยมือพ่อ แต่ญาติผู้น้องของพ่อก็ได้ตายในสงครามนั้นเช่นกัน……..”เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็พอจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เดิมทีแม่ของเธอและน้องสาวนามชูชู ไม่ได้ต้องการจะแต่งงานเข้าสู่ตระกูลหลง แต่พวกเธอทำไปเพราะถูกบังคับ!
เมื่อพิจารณาถึงความต้องการของหลงโม่หรันตอนนี้แล้ว เขายังจะตกหลุมรักผู้หญิงคนไหนได้อีกงั้นหรือ? หลังจากแต่งงาน แม่ของหลงหวางเอ๋อก็ได้เผชิญกับความยากลำบากจนได้ให้กำเนิดหลงหวางเอ๋อขึ้นมา บางทีในเวลานั้น เธอจึงได้พบกับเย่หยุนเฟยและด้วยที่เย่หยุนเฟยเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ แม่ของหลงหวางเอ๋อจึงได้ตกหลุมรักเขา……
(เย่หยุนเฟยคือพ่อของเย่เฟิงนะครับ)และสำหรับชูชู ในเมื่อพี่สาวและสามีได้เสียชีวิตหมดแล้ว เธอจึงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่คอยดูแลหลงหวางเอ๋อ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด แต่จุดสำคัญคือเธอไม่สามารถหนีไปจากกรงขังของตระกูลหลงได้เลยจนถึงตอนนี้
“แล้วตอนนี้ นายตั้งใจจะทำอะไรต่อไปหรอ? ถ้านายจะไปที่ทะเลเพื่อตามหาอาจารย์ งั้นฉันจะตามไปด้วย”
หลงหวางเอ๋อเอ่ยขึ้นมาขณะยังคงอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
เย่เฟิงใช้สองมือลูบไล้ไปตามเรือนร่างของหญิงสาวเบาๆ “อาจารย์หายไปตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนจนป่านนี้ยังไม่มีข่าว ต่อให้ไปที่นั่นตอนนี้ก็คงหาตัวเธอไม่เจอ ความจริง ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปที่นั่นเพื่อหาตัวอาจารย์หรอก ฉันต้องการปะการังราชันต่างหาก”
“อะไรนะ ปะการังราชัน……”
ริมฝีปากของหญิงสายเผยอขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ขณะที่ดวงตาคู่งามเบิกกว้างถึงแม้ในแถบทะเลจีนใต้จะคนพบปะการังราชัน แต่ที่นั่นก็เต็มไปด้วยผู้ฝึกวรยุทธ์มากมายจากทั่วสารทิศ รวมทั้งจากตระกูลของเธอด้วย! ถ้าเย่เฟิงต้องการเข้าไปแย่งชิงมัน ก็มีโอกาสสำเร็จต่ำมาก นอกจากนี้ หากมันไม่สำเร็จ เขาอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นั่นเลยก็ได้!
“ฉันอยากเอาชนะหลงโม่หรันให้เร็วที่สุด เพราะงั้นฉันต้องได้มันมาไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”
เย่เฟิงกล่าวด้วยใบหน้าที่ดูหนักแน่น ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา “แต่เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันไม่ทำอะไรที่ดูเสียงเกินไปอยู่แล้ว ไม่งั้นถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะอยู่กับเธอล่ะ…..”“นาย…….”
หลงหวางเอ๋อยิ้มบางๆ ก่อนหน้านี้เธอต้องการจะถามบางสิ่ง แต่ตอนนี้หญิงสาวรู้คำตอบแล้ว เวลานี้ หลงหวางเอ๋อรีบพลิกตัวขึ้นมานั่งทับขาเย่เฟิงไว้ “นายเพิ่มระดับวรยุทธ์เร็วจัง ตอนนี้ก็ตามฉันทันซะแล้ว……..”หลงหวางเอ๋อสามารถรับรู้วรยุทธ์ระดับ 10 ปีของเย่เฟิงได้ไม่ยาก เด็กหนุ่มลูกเจี๊ยบคนนี้เติบโตเร็วมาก เร็วจนใครต่อใครก็ต้องรู้สึกตกใจ”
“โชคช่วยน่ะ ฉันเพิ่งได้ลูกปัดสวรรค์ในเมืองเหยียนจิงมา………”
จากนั้นเย่เฟิงก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง“ลูกปัดสวรรค์!”
หญิงสาวรู้สึกตื่นตกใจเมื่อได้ยินดังนั้น “ทำไมถึงไปอยู่ที่เมืองเหยียนจิงได้?”“มีอะไรงั้นหรอ แล้วก่อนหน้านี้มันอยู่ที่ไหน?”
เย่เฟิงรู้สึกแปลกใจจึงเอ่ยถามออกไปทันที“อืมม เมื่อหลานวันก่อน ลูกปัดสวรรค์หายากลูกหนึ่งถูกขุดพบที่ทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงเหนือ ผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่รู้ข่าวก็ออกตามหากันแทบพลิกแผ่นดิน น่าเสียดายที่จู่ๆมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะไปอยู่ที่เมืองเหยียนจิงได้”
แม้หลงหวางเอ๋อจะเล่าออกมาเพียงเล็กน้อย นั่นก็พอจะทำให้เย่เฟิงรู้สึกถึงร้อนตับแตกของกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์ที่ออกตามล่าหาสิ่งนี้ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ และสุดท้ายก็ต้องเก็บความผิดหวังกลับไป ลูกปัดสวรรค์ก็เหมือนดั่งปะการังราชัน มันช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้ถึง 5 ปีในทีเดียว แน่นอนว่าการแย่งชิงย่อมเต็มไปด้วยความดุเดือด!
เย่เฟิงยืนยันได้แล้วว่าลูกปัดสวรรค์ที่เขาดูดซับเมื่อหลายวันก่อนมาจากทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะมันเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในโลกใบนี้ คงมีใครบางคนส่งมันไปให้ไซ่เชาหงโดยอาศัยช่วงเวลาที่สถานการณ์เต็มไปด้วยความวุ่นวายแน่นอน
เรื่องของลูกปัดสวรรค์ทำให้เขานึกถึงตำราวิถีอสุรารวมทั้งตำราวรยุทธ์อีกสามเล่ม หรือว่าพวกมันจะมาจากที่เดียวกัน?
เย่เฟิงคิดว่าหลงหวางเอ๋น่าจะรู้เรื่องนี้เช่นกัน เขาจึงเอ่ยถามออกไป
“ตำราวรยุทธ์ วิถีอสุรา?!”
ทันทีที่หญิงสาวได้ยินดังนั้น เธอก็ผงะไปเล็กน้อย “ผู้ที่ฝึกวรยุทธ์วิถีอสุราจนเชี่ยวชาญจะกลายเป็นนักฆ่ากระหายเลือด! ราวๆ 30 ปีก่อนมันถูกคนของยุทธภพทำลายไปแล้วไม่ใช่หรอ แล้วมันไปอยู่ที่นายได้ยังไง?”ดูเหมือนว่าวิถีอสุราจะเป็นหนึ่งในวิถียอดนิยมเมื่อกาลก่อน เมื่อฟังจากคำพูดของหลงหวางเอ๋อ ตำราวิถีอสุราได้ถูกทำลายไปหมดสิ้น แล้วมันไปอยู่ในมือของไซ่เชาหงได้อย่างไร?
เย่เฟิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเล่าลายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวกับไซ่เชาหงที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้หลงหวางเอ๋อฟัง อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เขาเล่าออกไปก็มีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับหลินชื่อฉิงเช่นกัน
“เป็นแบบนี้นี่เอง”
หลังจากได้ฟังเหตุการณ์ทั้งหมด รอยยิ้มซุกซนก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหญิงสาว “นายคงไม่ได้ล่อลวงคุณหนูหลินด้วยใช่ไหม?”
หลงหวางเอ๋อไม่ได้เอ่ยขึ้นมาเพราะรู้สึกหึงหวง แต่เป็นเพราะเมื่อได้ยินชายหนุ่มเล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณหนูหลิน หญิงสาวก็อดจะแซวเขาไม่ได้ นี่มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นเย่เฟิงแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา เพราะงั้นเธอต้องขอใช้โอกาสนี้รังแกเขาเสียหน่อย
น่าเสียดายที่เย่เฟิงไม่ได้แสดงสีหน้าลำบากใจออกมาเลยแม้แต่น้อย!
“ไม่แน่นอน คนที่ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงในตอนนี้ก็คือเธอนะ หว่างเอ๋อ”
(แค่ตอนนี้สินะ สินะ)ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มขณะใช้มือรวบตัวร่างบางเข้ามากอดไว้ในอก มันดูออกง่ายมากที่จะรับรู้ได้ว่า หญิงสาวคนนี้รักเขามากเพียงใด
“ดูเหมือนการที่พวกเราไม่ได้เจอกันนาน เธอคงคิดถึงฉันมากใช่ไหม?”
เย่เฟิงเอ่ยหยอกเย้า“หลงตัวเองไปแล้ว ชิ”
ขณะถูกเขากอดไว้แน่นในอ้อมอก หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาแม้แก้มของเธอจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ“งั้นเรามาทำอะไรที่น่าอายกันหน่อยไหม?”
เย่เฟิงยังคงเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า“นายอยากจะ…อ้า….ไม่ได้นะ นายต้องถามความยินยอมฉันก่อนสิ”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่หญิงสาวกลับหัวเราะขำขันอย่างน่ารัก ขณะที่แขนทั้งสองข้างรวบลำคอของชายหนุ่มเอาไว้หลังจากนั้น ทั้งสองร่างก็ค่อยๆล้มตัวลงบนเตียงนอนอย่างช้าๆ
เย่เฟิงยิ้มขณะพลิกตัวมาอยู่ด้านบนและกดร่างของหญิงสาวไว้ด้านล่าง เธอคนนี้ที่เขาไม่ได้พบหน้ามานาน ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา หญิงสาวทำได้เพียงส่งเสียงคราง “อืมม”ออกมา กระตุ้นความต้องการให้ทั้งสองฝ่ายให้ตื่นขึ้น
ทั้งคู่กอดรัดกันอยู่บนเตียง มือของพวกเขาลูบไล้ไปตามเรือนร่างของอีกฝ่ายราวกับพยายามจะส่งผ่านความรู้สึกระหว่างกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของทั้งสอง หลังจากที่ไม่ได้พบหน้ากันอยู่พักใหญ่ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่หัวใจของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความปรารถนาอันเหลือล้น เมื่อมีฝ่ายหนึ่งเริ่มปลุกเร้า มันก็เป็นเรื่องยากที่หยุดความต้องการของทั้งคู่ไว้ได้ เมื่อย้อนกลับไปในตอนที่ยังอยู่ในสุสารโบราณ ด้วยที่มีเพียงสติอันเลือนราง หลงหวางเอ๋อจึงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง แต่ในตอนนี้ แน่นอนว่าหญิงสาวต้องประทับความรู้สึกที่เย่เฟิงมอบให้ เข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเธอ
หากเทียบกับซูเหมิงหานแล้ว หลงหวางเอ๋อนั้นต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เรือนร่างของเธอเร้าร้อนและมีชีวิตชีวา ร่างกายอันละเอียดอ่อนของหญิงสาวเต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างไม่สิ้นสุด
น่าเสียดายที่เย่เฟิงนั้นดุร้ายกว่าเธอ ชายหนุ่มจึงเป็นฝ่ายเริ่มก่อน!
เขาถอดเสื้อเชิตแขนสั้นของหลงหวางเอ๋อออกอย่างรวดเร็ว ในเวลาถัดมา บราสีชมพูก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม มันรัดทรวงอกของหญิงสาวไว้อย่างแน่นหนา แสดงให้เห็นถึงความกลมกลึงและความยืดหยุ่นของภูเขาทั้งสองลูกได้เป็นอย่างดี
เสน่ห์อันขาวเนียน และร่องลึกที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า พาให้หัวใจของเย่เฟิงเต้นรัวอย่างหยุดไม่อยู่
น้องชายของเขาตอนนี้ ดูเหมือนจะพร้อมเข้าสู่สนามรบแล้ว!
……………………….
แปลโดย Solar Spark , Tan TanSolar Spark: ไม่ต้องค้างกันนะครับ ตอนหน้ามันตัดข้ามฉากไปเลย55
Tan Tan: เอิกกกแขนหักก็ฟินได้กับเรื่องนี้ละ555