ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 232 ดาวเคลื่อนดาราคล้อย
สิ่งสำคัญที่ซูเฟยหยิ่งต้องทำในตอนนี้คือการไปชิงชิ้นส่วนน้ำแข็งพันปีกลับมา
หญิงสาววางมือข้างหนึ่งลงบนไหล่ของเย่เฟิงเบาๆ และค่อยๆยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมา ทันใดนั้น เย่เฟิงก็รู้สึกได้ถึงพลังของดวงดาวที่ค่อยๆรวมตัวกัน
ความรู้สึกแบบนี้มัน….
ทักษะเซียน – ดาวเคลื่อนดาราคล้อย!
นี่คือหนึ่งในทักษะเซียนที่สืบทอดต่อกันมาในสำนักสุสารดารา เป็นทักษะที่ผู้ฝึกเซียนที่มีวรยุทธ์ระดับ 100 ปีขึ้นไปเท่านั้นจึงจะเริ่มฝึกฝนได้ มันคือทักษะประเภทช่องว่างมิติที่หาได้ยาก ซึ่งสามารถใช้เคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ไกลกว่าพันลี้ (500 กิโลเมตร)
หากเทียบกับทักษะกระบี่ผ่ามิติแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทักษะดาวเคลื่อนดาราคล้อยนั้นน่าทึ่งกว่ามาก มันไม่เพียงสามารถเทเลพอร์ตได้ในระยะไกล แต่ยังสามารถพาผู้อื่นเคลื่อนย้ายไปพร้อมกันได้ด้วย
ด้วยทักษะสัมผัสวิญญาณ เย่เฟิงรับรู้ได้ว่าน้ำทะเลโดยรอบพลันเกิดการบิดเบี้ยว เมื่อแสงสีน้ำเงินปรากฏขึ้นมา ซูเฟยหยิ่งก็พาเขาและหลงหวางเอ๋อเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตา เมื่อเย่เฟิงพบว่าบริเวณโดยรอบกลับสู่สภาวะปกติแล้ว พวกเขาทั้งสามคนก็ได้ย้ายตำแหน่งมายังทะเลทางตอนใต้
ที่นี่ ห่างไกลจากเรือ Destroyer ของกองทัพ และห่างไกลจากการปิดล้อมของหน่วย NSA ในท้องทะเลอันสงบนี้ เรือสปีดโบทสีขาวลำหนึ่งกำลังแล่นอย่างรวดเร็วบนผิวทะเล ขณะที่ด้านหลังนั้น กำลังถูกไล่ล่าจากเรือเล็กของกองทัพทั้งสองลำ
บนเรือสปีดโบทลำสีขาว มีร่างของคนทั้งสามคนอยู่ คือหลงโม่หรัน หลงจื่อ และหลงชิง ซึ่งพวกเขากำลังถูกไล่ล่าจากคนของกองทัพ
แต่ทันใดนั้นเอง หลงโม่หรันก็ใช้กระบี่ในมือกวัดแกว่งเป็นท่วงทำนองของเพลงกระบี่พร่ำเพ้อ ใส่ผิวน้ำทะเลจนกลายเป็นน้ำแข็ง
เรือเล็กทั้งสองลำของกองทัพชนกับผิวน้ำแข็งนั้นทันทีจนเศษน้ำแข็งกระจาย สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เครื่องยนต์ของเรือได้รับความเสียจนไปต่อไม่ได้
“หึ กลับไปถ้ำหวังหวู่”
หลงโม่หรันเค้นเสียงขณะถือชิ้นส่วนน้ำแข็งพันปีไว้ในมือ เมื่อคิดว่าจะได้ดูดซับพลังวิญญาณเพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา กลบความรู้สึกคับแค้นใจจากการสูญเสียแขนข้างหนึ่งไปจนมิด
ถึงอย่างนั้น หลงโม่หรันยังเหลือความรู้สึกรำคาญใจอยู่เล็กน้อย
หลังจากได้เห็นร่างของเทพธิดาแห่งทะเลจีนตะวันออก หัวใจของเขาก็ถูกรบกวนด้วยความงดงามนั้น และรู้สึกว่าในโลกนี้ ไม่มีหญิงสาวคนใดจะน่าดึงดูดไปกว่าเธอคนนั้นอีกแล้ว แม้จะถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง แต่หลงโม่หรันมั่นใจกว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
การพลาดที่จะได้เชยชมความงดงามนี้ไป ทำให้เขารู้สึกขุ่นเคืองใจ และตั้งมั่นว่าหลังจากได้ดูดซับพลังวิญญาณจากผลึกน้ำแข็งนี้แล้ว ต่อให้ต้องเรียกบิดาออกมา เขาก็ยอมเพื่อจะได้ครอบครองเทพธิดานางนั้น
เพราะว่าหากพลาดจากหญิงสาวคนนี้ไป เขาคงรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต
“ท่านผู้นำ ข้างหน้านั่นใช่มีคนอยู่หรือไม่?”
ขณะที่หลงชิงกำลังกุมพวงมาลัยเรือ หลงจื่อก็มองออกไปจากที่ที่ห่างไกล และพบว่ามีเงาของคนสามคนอยู่ด้านหน้าเหนือผิวน้ำทะเล
เมื่อได้ยินดังนั้น หลงโม่หรันก็มองออกไปและพบว่ามีคนสามคนอยู่ข้างหน้าจริงๆ
ด้วยที่อยู่ไกลเกินไป หลงโม่หรันมองเห็นคนทั้งสามไม่ชัดเจน จึงโบกมืออย่างไม่แยแส “ไม่ต้องไปสนใจ”
เขารู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้ทักทายกับผู้โชคร้ายทั้งสาม ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ มีหรือที่เขาจะมีเวลาไปสนใจคนเหล่านั้น?
เรือสปีดโบทสีขาวยังคงแล่นต่อไปโดยไม่สนใจคนทั้งสาม แต่พวกเขาก็พบว่าคนเหล่านั้นเคลื่อนที่บนผิวทะเลได้เร็วอย่างยิ่ง ในเวลาไม่นาน ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองกลุ่มก็เหลือเพียง 200 เมตรแล้ว
“นี่มัน”
หลงจื่อขมวดคิ้วขณะคิดในใจ ทำไมคนพวกนั้นถึงดูคุ้นหน้าคุ้นตาแบบนี้?
เมื่อคนพวกนั้นเขามาใกล้จนสามารถมองเห็นหน้าอีกฝ่ายได้ชัดเจน หลงโม่หรันก็ตกใจจนเกือบทำน้ำแข็งพันปีในมือตก
พวกมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!
เย่เฟิง! เทพธิดา! แล้วก็หลงหวางเอ๋อ!
บ้าไปแล้ว มนุษย์ไม่มีทางเคลื่อนที่เร็วกว่าเรือสปีดโบทได้ ยิ่งกว่านั้น ก่อนหน้านี้ทั้งสามคนยังถูกหน่วย NSA ปิดล้อม แล้วทำไมถึงไล่ตามพวกเขามาได้?
“เจอแล้ว”
ในเวลานี้ ซูเฟยหยิ่งลอยตัวอยู่เหนือผิวทะเล เมื่อเห็นชิ้นส่วนน้ำแข็งพันปีในมือของหลงโม่หรัน ริมฝีปากบางจึงโค้งขึ้นเล็กน้อย
เมื่อหญิงสาวชี้มือออกไป กำแพงน้ำแข็งก็พลันโผล่ขึ้นมาจากผิวทะเลอย่างรวดเร็ว ขวางเรือสปีดโบทเอาไว้ กำแพงน้ำแข็งนี้สูง 2 เมตร และหนาเกือบครึ่งเมตร
เหตุการณ์นี้ทำให้หลงชิงตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทัน เรือสปีดโบทจึงชนเข้าใส่กำแพงน้ำแข็งอย่างจัง
ตู้ม!
น่าเสียดายที่เรือสปีดโบทแข็งแรงไม่พอ มันจึงไม่อาจเจาะทะลุกำแพงน้ำแข็งได้ และหยุดอยู่ต่อหน้าซูเฟยหยิ่งในที่สุด
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้หลงโม่หรันและอีกสองคนต้องขวัญเสีย แค่ชูมือขึ้นมาก็สร้างกำแพงน้ำแข็งแบบนี้ขึ้นมาได้ ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งถึงขั้นไหนกัน? ยิ่งกว่านั้น ทำไมเธอถึงได้มีความสัมพันธ์อันดีกับเย่เฟิง?
สีหน้าของหลงโม่หรันเปลี่ยนไปทันที เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะฟื้นขึ้นมาเร็วขนาดนี้ แล้วการที่เย่เฟิงมาอยู่ที่นี่ด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายคือผลึกน้ำแข็งที่อยู่ในมือนี่!
เดิมที การที่เย่เฟิงและอีกสองคนปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่ หลงโม่หรันคิดว่ามันอาจเป็นโชคดีที่เขาจะได้เก็บเกี่ยวสมบัติทั้งสองไปพร้อมกัน! แต่เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้เรียกกำแพงน้ำแข็งขึ้นมา ความหวังก็หายวับไปในทันที
จากท่าทางของเย่เฟิงและหญิงสาวอีกคนแล้ว หลงโม่หรันมั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าเย่เฟิงเสียอีก!
ไร้เทียมทาน!
มีเพียงสามพยางค์นี้เท่านั้นที่ใช้อธิบายหญิงสาวคนนี้ได้
แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรดี?
หลงโม่หรันคิดได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น อันดับแรกคือการพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้ให้ลดความระมัดระวังลง หลังจากนั้น เขาจะหาโอกาสหลบหนีไปทันที
“ฉันคือหลงโม่หรัน ขอทราบนามของเทพธิดาได้หรือไม่?”
หลงโม่หรันยืนอยู่บนเรือสปีดโบท ชุดคลุมสีขาวโบกสะบัดไปตามสายลมทะเล ทำให้เขาดูมีภูมิฐานราวกับชนชั้นสูง
แต่ช่างน่าเสียดายที่การกระทำนี้เป็นความคิดที่ผิดมหันต์
ซูเฟยหยิ่งไม่เหลือบมองหลงโม่หรันสักนิด เธอเพียงผายมือขาวผ่องออกมา และทันใดนั้น มวลอากาศคล้ายกับวิญญาณก็ฉกเอาชิ้นส่วนน้ำแข็งพันปีในมือหลงโม่หรันมาไว้มือหญิงสาวในทันที!
นี่คือวิญญาณหยางที่กำเนิดมาจากวรยุทธ์ระดับ 100 ปีของเธอ
เทียบกับวิญญาณหยินแล้ว วิญญาณหยางนั้นมีความสามารถเยอะกว่ามาก หากใครได้ฝึกฝนวิญญาณหยางแล้ว คนๆนั้นจะสามารถควบคุมสิ่งของนอกกายได้ อย่างไรก็ตาม บนโลกใบนี้ก็มีทักษะที่คล้ายกับวิญญาณหยางเหมือนกัน เช่นทักษะกรงเล็บมังกร
เมื่อฉกฉวยน้ำแข็งพันปีมาจากหลงโม่หรันแล้ว ซูเฟยหยิ่งส่งต่อไปให้เย่เฟิง
“ถือไว้”
คราวนี้ น้ำเสียงของซูเฟยหยิ่งฟังดูค่อนข้างนุ่มนวล มีเพียงเย่เฟิงเท่านั้นที่เธอจะแสดงด้านนี้ออกมา
“ครับ”
เย่เฟิงรับน้ำแข็งพันปีมาอย่างไม่ลังเล เขารู้สึกว่าในผลึกน้ำแข็งนี้มีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่ ตอนนี้มันดูไร้ชีวิตชีวาและเหลือพลังอยู่เพียงน้อยนิด
จากนั้น ชายหนุ่มจึงมองไปยังคนทั้งสามที่อยู่บนเรือสปีดโบท
หลงโม่หรัน หลงจื่อ และหลงชิงกำลังอยู่ในสภาวะตื่นตกใจ สิ่งที่คล้ายกับวิญญาณเมื่อครู่นี้มันอะไรกัน? ในขณะที่หลงโม่หรันยังไม่ทันได้ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ผลึกน้ำแข็งก็หายไปอยู่ในมือของซูเฟยหยิ่งแล้ว!
…………………
แปลโดย Solar Spark
(แปลจากเว็บ lnmtl.com และ Raw จีนโดยใช้โปรแกรมแปลภาษาช่วย)