ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปรูปร่างที่งดงามของหญิงสาวนั้นเป็นที่น่าดูชมเป้นอย่างมาก โดยเฉพาะความสูงส่งที่ลอยออกมาจากตัวเธอนั้นมันทำให้โดดเด่นจากคนอื่นๆในที่นี้
แต่ประเด็นหลักคือ ‘ชูเฟิง’สัมผัสได้ถึง ออร่าความแข็งแกร่งของเธอที่ไม่ได้น้อยกว่า ‘หลี่ ชางฉิง’ หรือ ผู้เชียวชาญในระดับ8 แก่นแท้วิญญาณเลย
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัวขึ้น บรรดา ผู้อาวุโส และสาวก จากสำนัก หญิงหยก ก็แสดงความเคารพให้กับเธอ จากที่เห็นนั้น
‘ชูเฟิง’คิดว่า เธอคงจะเป็น ผู้นำของ สำนักหญิงหยกแต่สิ่งที่’ชูเฟิง’ตกใจที่สุดคือ หญิงไวกลางคนที่งดงาม และแข็งแกร่งที่เป็นน่าจะเป็นผู้นำของ สำนักหญิงหยก ได้มองมาที่ ตาแก่ ‘หลี่ ชางฉิง’ ด้วยสายตาที่แฝงด้วยความรู้สึกพิเศษบางอย่าง หลังจากนั้นเธอก็กล่าวว่า
” ชางฉิง ในที่สุดท่านก็มาหาข้า “
“บ้าน่า นี่คืออะไร เกิดอะไรขึ้น จะบอกว่า หลี่ ชางฉิง สามารถกุมหัวใจของ ผู้นำ สำนักหญิงหยก ได้อย่างนั้นหรือ “
ในขณะนั้น ที่’ชูเฟิง’กำลังอ้าปากค้า เพราะมันหมายความว่า ที่’หลี่ ชางฉิง’ พูดว่า เขาสามารถกุมหัวใจของ ผู้นำสำนัก หญิงหยกได้ เป็นความจริง นั้นเป็นนเพราะเธอไม่เคยลืมเรื่องที่เกี่ยวกับเขาเลย มองกลับไป ความแตกตางระหว่างสองคนนั้น ทำให้ ผู้คนรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างมาก
ไม่ใช่แค่’ชูเฟิง’ที่รู้สึกตกใจ แม้แต่ผู้อาวุโส และศิษย์จากสำนัก หญิงหยกต่างก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ตกใจได้ แต่ก็ไม่มีใคร ที่จะกล้าซักถาม ซักคน เพราะใน สำนักหญิงหยก ไม่มีใครกล้าหือกับ ผู้นำของสำนัก
หลังจากนั้น ผู้นำของ สำนักหญิงหยก ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ ‘ชูเฟิง’ และ ‘หลี่ ชางฉิง’ เป็นกรณีพิเศษ ‘ชูเฟิง’ที่หนังอยู่ ข้าง’หลี่ ชางฉิง’ และเห็นว่าไม่มีใครสนใจเขา เขาจึงกระซิบกับ ‘หลี่ ชางฉิง’ ว่า
“ท่านผู้นำ ท่านไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ที่ท่านบอกว่าท่านมีชะตาที่ต้องแต่งงานกับผู้นำสำนักหญิงหยกเพราะท่านกุมหัวใจนางตั้งแต่นางยังสาวอย่างนั้นสินะ”
‘ชูเฟิง’ไม่ได้พูดเรื่อยเปื่อยเพราะความแตกต่างระหว่างอายุทั้ง 2 คนนั้น มีมากเกินไป ‘หลี่ ชางฉิง’ เป็นตาแก่คนนึง และ แม้ว่า ผู้นำสำนักหญิงหยกนี้จะไม่ได้สาวแล้วแต่ นางก็ไม่ถึงวัยกลางคนและยิ่งเธอเป็นคนประเภทที่ใส่ใจตนเอง ทำให้ชูเฟิงยังคงสงสัยว่า ทำไม 2 คนนี้ถึงรักกันได้
“เจ้าเด็กบ้า เจ้าคิดอะไรของเจ้าอยู่ เจ้าไม่ทราบหรือว่า ผู้นำสำนักหญิงหยก มีเทคนิคการบ่มเพาะที่พิเศษมาก ตราบใดที่นางยังไม่สูญเสียความบริสุทธิ์ นางก็ยังเป็นสาวได้ตลอดกาล แม้ว่าผู้นำสำนักหญิงหยกจะยังดูสาวอยู่ แต่ที่จริงแล้วนางอายุน้อยกว่าข้าแค่ 2 ปีเท่านั้น “
‘หลี่ ชางฉิง’ ตอบกลับเงียบๆ
‘ชูเฟิง’รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เคยจะคิดว่ามีเทคนิคพิเศษแบบนี้ในโลก เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอย่างแท้จริง แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจมากที่สุดคือการที่ผู้นำของสำนักหญิงหยกและผู้อาวุโสสามารถรักษาความสาวแม้จะผ่านมาหลายปี จึงเป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก
เมื่อนางเห็น’ชูเฟิง’และ’หลี่ ชางฉิง’ แอบกระซิบกระซาบกันอยู่2คน ผู้นำสำนักหญิงหยกจึงคิดว่า’ชูเฟิง’เป็นคนใจร้อนและอยากเจอคู่หมั้นของเขา ดังนั้นนางจึงถามกับศิษย์
“รู่หยูอยู่ที่ไหน ทำไมนางไม่มาต้อนรับแขก “
“เรียนท่านผู้นำ อาวุโสหยานกล่าวว่านางรู้สึกป่วย นางจึงไม่ได้มาต้อนรับแขกในวันนี้ “
ศิษย์คนนั้นคนนั้นตอบ
“โอ้”
ผู้นำหญิงหยกจับพิรุธจากสายตาของเธอได้ แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก หัวของหญิงสาวหยกพิรุธกระพริบตาดวงตาของเธอ แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก นางเพียงแต่บอกว่าเดี๋ยวนางพูดกับ’ชูเฟิง’เอง
“ชูเฟิงข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยจริงๆ รูหยู กำลังป่วยอยู่ วันนี้เจ้าคงไม่ได้พบนาง แต่ว่าพร่งนี้ ข้าจะให้เจ้าไปการชุมนุมร้อยสำนักและถึงตอนนั้นข้าจะหาโอกาสให้เจ้าได้พบกับ รู่หยู “
“เหอๆ ท่านไม่ต้องสุภาพกับข้านัก ข้าชูเฟิง มาที่นี่เพียงเพื่อพบท่านและไม่ได้มีเป้าหมาย อื่นๆ ! “
‘ชูเฟิง’ยิ้มอย่างอายๆ
“ชูเฟิง หาก หยาน รูหยู ป่วยจริงๆก็แล้วไปแต่ถ้าเจ้า แกล้งป่วยนั่นหมายถึงนางไม่พอใจในตัวเจ้า “
‘ต้านต้าน’ ได้พูดออกมาจากภายในตัวของ’ชูเฟิง’
“แน่นอนข้ารู้. แต่ถึงแม้ว่านางจะพอใจในตัวข้า แต่ข้าก็ต้องการพอใจในตัวนางเช่นกันที่. “
‘ชูเฟิง’รู้สึกไม่ค่อยพอใจในใจเขาและความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางอาจเป็นศูนย์หรือติดลบ
ในวันนั้น’ชูเฟิง’และ’หลี่ ชางฉิง’ ได้รับเชิญให้พักที่นี่ในคืนนี้ เพราะในวันรุ่งขึ้นพวกเขาต้องตามสำนักหญิงหยกและมุ่งหน้าไปสำนักหลิงหยุนเพื่อเข้าร่วมชุมนุมร้อยสำนัก
เพื่อเป็นแม่สื่อที่ดีให้’ชูเฟิง’กับ’หยานรู่หยู’ ผู้นำสำนักโรงเรียนหญิงหยกจึงจัดที่นั่งให้’ชูเฟิง’อยู่ติดกับ’หยานรู่หยู’ แต่ความพยายามก็สูญเปล่า ‘หยาน รู่หยู’ยังคงไม่เต็มใจที่จะคุยกับเขา ‘ชูเฟิง’ไม่ทราบว่าทำไมนางถึงเป็นเช่นนี้และ’ชูเฟิง’จะไม่เข้าไปขอร้องเป็นอันเขา
ในขณะนั้น ‘หลี่ ชางฉิง’ และผู้นำสำนักหญิงหยก พูดคุยหัวเราะราวกับไม่มีใครอยู่รอบตัวเขาและยังทำให้หลายๆคนนั้นพูดไม่ออก
หลังจากเดินทางร่วม กลุ่มสำนักหญิงหยกได้พบสำนักอื่นๆแม้กระทั่งสถาบันอันดับ4อย่างสำนักกระบี่ หลังจากวันที่ของการเดินทางกลุ่มหยกสาวสำนักแม้กระทั่งได้พบกับสำนักอื่นและมันก็เป็นครั้งแรกที่สำนักอัตราการจัดอันดับเป็นที่ 4 สำนักกระบี่
สำนักกระบี่ ได้ถูกเชิญมาร่วมชุมนุมร้อยสถาบัน และผู้นำของสำนักกระบี่ นั้นมาขอเดินไปกับสำนักหญิงหยกอย่างหน้าไม่อาย และเพราะ ผู้นำสำนักหญิงหยกนั้นไม่ต้องการที่จะต่อสู้จึงอนุญาตไป
แต่แล้วศิษย์อันดับ1จากสำนักกระบี่ อย่าง ‘หนานกงเสี่ยว’หน้าด้านยิ่งกว่านั้นเดินเข้ามาด้านหน้าของ ‘หยานรู่หยู’และทำความรู้จักเธอ
‘ชูเฟิง’ที่นั่งอยู่ติดกับ ‘หยานรู่ยู่’ทนไม่ไหว จึงปล่อยพลังอำนาจวิญญาณออกมา เพราะเขาเห็นการกระทำของ ‘หนานกงเสี่ยว’
“หนานกงเสี่ยว เจ้าช่างเป็นคนไร้ยางอายยิ่งนัก ข้าไม่ต้องการที่จะรู้จักกับเขา ช่วยไล่เขาไปที “
เสียงที่เย่อหยิ่ง แต่ยังคงอ่อนโยนดังออกมาและมันก็ไม่ต้องสงสัย ‘หยาน รู่หยู’ นั่นเอง นางหันไปพูดกับศิษย์ในสำนักที่อยู่ด้านข้าง
“ศิษย์พี่ ข้าขอแนะนำให้เจ้าทำความรู้จักกับหนานกงเสี่ยว”
“ทำไม”
“ลองคิดดู ตอนนี้ผู้นำสำนัก จะจัดงานแต่งงานให้ท่านกับชูเฟิง เพราะหน้าตาที่งดงามของท่าน และมันคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักที่ท่านจะปฏิเสธ ชูเฟิงมันเป็นใครอย่างนั้นหรือ มันก็แค่คางคก เพราะผู้นำสถาบัน มันจะได้รับผลประโยชน์อย่างมากหลังจากนี้! “
“การแกล้งป่วยก็ไม่ใช่วิธีที่เข้าท่านักเพราะถ้าท่านผู้นำสถาบันรู้ท่านคงจะโกรธมาก หนานกงเสี่ยวนั้นหลงรักท่านและเขายังเป็น อันดับ 1 ของ สำนักกระบี่ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือสถานะ เขาเหนือกว่าชูเฟิง อย่างเทียบไม่ติด และถ้าเขารู้ว่า ท่านเป็นคู่หมั้นกับชูเฟิงเขาจะต้องไม่พอใจและจากนิสัยของเขาเขาต้องเล่นงานชูเฟิงอย่างแนนอน “
“ตอนนี้ชูเฟิงอยู่ที่นี่ ทำไมท่านไม่ใช้หนานกงเสี่ยวเพื่อให้บทเรียนกับชูเฟิงล่ะ ทำให้ชูเฟิงรู้ว่าเขานั้นกำลังมีปัญหาและหนีกลับไปและนอกจากนี้ยังทำให้ผู้นำของสำนักเราเห็นว่า ชูเฟิงนั้นเป็นคนไร้ประโยชน์ บางทีนางอาจเปลี่ยนความคิดและยกเลิกงานแต่งงานระหว่างท่านกับชูเฟิงก็เป็นได้นะ. “
“จะดีหรือ นั่นจะทำให้นางไม่มีความสุขนะ “
“ทำไมมันจะไม่ดี มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ หากท่านพลาดโอกาสนี้ ข้าเกรงว่างานแต่งงานของท่านจะถูกจัดขึ้นอย่างแน่นอน. “
“บัดซบ สองคนนี้กล้าเรียกข้าว่าคางคกอย่างนั้นรึ “
‘ชูเฟิง’ได้ยินทุกอย่างจึงโกรธมาก
“เห้ย ชูเฟิง ดูเหมือนคู่หมั้นของเจ้าจะมีแผนบางอย่าง เจ้ามีแผนที่จะทำอะไรบ้างไหม หึ๊ “
‘ต้านต้าน’หัวเราะคิกคักและนั้นก็เหมือนเป็นการราดน้ำมันบนกองไฟ
“บัดซบ ต่อให้นางเสนอตัวมาให้ข้า ข้าก็ไม่ต้องการ ตอนนี้นางอยากให้ข้ามีปัญหาแล้วกลับไปอย่างนั้นหรือ ได้วันนี้ เห็นทีข้าจะหันหลังกลับไปเฉยๆไม่ได้แล้ว”
ผู้แปลโดยคุณ #
บักเฟิง มึงคิดจะทำไรอ่ะ . . . . . .
ที่มา: