” เห้อ มีอะไรให้น่าชื่นชมเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของเจ้าสำนัก ข้านั้นทำให้สำนักมังกรฟ้าตกต่ำแบบนี้ ข้าล่ะอับอายบรรพบุรุษจริงๆ “
 
‘หลี่ จางฉิง’ ทำหน้าผิดหวังขณะที่กล่าวเขาก็ถอนหายใจ
 

 
” ท่านเจ้าสำนัก การที่สำนักมังกรฟ้าตกต่ำไม่ใช่ความผิดของท่าน ดังนั้น ท่านอย่าได้ตำหนิตัวเอง ตอนนี้สำนักของเราเริ่มมีชื่อเสียง หากเขารู้เรื่องนี้ เขาคงจะภูมิใจในตัวท่านมาก “
 
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็จินตนาการถึงว่า หาก ‘หลี่ จางฉิง’ รู้ว่าผู้ก่อตั้งสำนักยังมีชีวิตอยู่เขาจะทำหน้ายังไง มันยังมีความเป็นไปได้ที่ผู้ก่อตั้งสำนักจะกลับมา
 

 
” ฮ่าๆ . . . . . . หากบรรพบุรุษของเรายังอยู่ ก็เยี่ยมไปเลยนะสิ!!! “
 
 
” แต่อย่าได้พูดถึงเรื่องทีเป็นไปไม่ได้เลย ชูเฟิง จริงๆแล้วข้ามีเรื่องจะปรึกษากับเจ้าเกี่ยวกับ ตระกูล ชู “
 
 
” ข้ารู้ว่าหลังจากครอบครัวเจ้าประสบกับความเจ็บปวดทีถูกทำลายล้าง เจ้าคงกลัวว่า สมาชิกทีเหลือคนอื่นๆ จะถูกทำร้าย ดังนั้นเจ้าจึงพาพวกเขาไปหลบซ่อนอยู่ในที่ ที่ปลอดภัย “
 
 
” อีกอย่างแม้ว่าสำนักมังกรฟ้ากลายเป็นสำนัก # 1 แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่าจะปกป้องความปลอดภัยของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์ “
 
 
” แต่ยังไงสมาชิกในครอบครัวของเจ้า ก็ยังเป็นเด็กและพวกเขากำลังอยู่ในวัยที่ต้องฝึกฝนพัฒนา จึงไม่ควรให้เวลาเหล่านั้นเสียเปล่า “
 
 
” ดังนั้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าที่เป็นคนตัดสินใจว่าจะพาเขากลับมาอยู่ที่นี่หรือไม่ แต่ที่ข้าพอทำได้ก็มีแค่นี้ เจ้านำมันไปให้พวกเขาฝึกฝนซะ “
 
‘หลี่ จางผิง’ ผลักทักษะระดับ 6 และ ทักษะลับ ต่างๆ ไปให้ ชูเฟิง
 

 
” ท่านเจ้าสำนัก . . . . .”
 
เห็นแบบนั้น ‘ชูเฟิง’ รู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของเขามาก แต่ว่าของพวกนั้นจะเป็นสมบัติล่ำค่าของสำนักมังกรฟ้า ดังนั้นเขาจึงไม่อาจเห็นแก่ตัวรับมันไปให้ ครอบครัวของเขาฝึกฝนได้
 

 
” อย่าพูดอะไรเลย สิ่งเหล่านี้แม้มันจะสำคัญกับสำนักมังกรฟ้าของข้า แต่ในอนาคตข้าก็ยังต้องการ คนรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นขุมพลังให้กับสำนัก ไม่ช้าก็เร็ว สำนักมังกรฟ้า ก็ต้องเป็นของเจ้า ดังนั้นทักษะพวกนี้ก็เปรียบเหมือนเป็นของเจ้า ดังนั้นเจ้ารับมันไปเถิด “
 
‘หลี่ จางผิง’ บังคับทักษะต่างๆใส่ไว้ในมือของ ‘ชูเฟิง’
 

 
” ชูเฟิง ตาเฒ่านี้คิดจะหมัดมือชกเจ้าให้ขึ้นรับตำแหน่งเจ้าสำนัก หากเจ้ารับพวกมันไป ในอนาคตเจ้าต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อสำนักมังกรฟ้า ซึ่งยังไงเจ้าก็ทำหน้าที่นั้นอยู่แล้ว ดังนั่นทักษะพวกนี้ก็เหมือนเสมือนค่าแรงที่เป็นการตอบแทน รับๆมันไปก็มีแต่ได้กับได้ !!! “
 
‘ต้านต้าน’ ม้วนริมฝีปากของนางและกล่าว
 

 
” ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก ข้ารับรองว่าข้าจะไม่ปล่อยให้ทักษะลับและทักษะการต่อสู้เหล่านี้ตกไปอยู่กับบุคคลภายนอก “
 
‘ชูเฟิง’ยอมรับทักษะต่างๆแต่โดยดี จากนั้นก็นำมันหยัดใส่ถุงจักรวาล
 

 
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า หากข้าไม่ไว้ใจเจ้า ข้าคงไม่นำมันมอบให้กับเจ้า!!!”
 
เห็น’ชูเฟิง’รับไป ‘หลี่ จางผิง’ ก็ฉีกยิ้มออกมาทันที เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขอย่างมาก จากนั้นก็พูดกับ’ชูเฟิง’ต่อ
 

 
” จริงๆแล้ว ข้ายังมีอีกอย่างอยากจะบอกเจ้า นี้นับว่าเป็นโอกาสที่หายากที่สำนักมังกรฟ้าของเราจะได้ขยายอำนาจ “
 
 
” อะไร เหรอ ? “
 
‘ชูเฟิง’ ซอกแซกเข้าไปถามใกล้ๆ
 

 
” ชูเฟิง ข้าขอถามเจ้าก่อน ตอนนี้ อะไรที่ สำนักมังกรฟ้า ยังขาดมากที่สุด !!! “
 
‘หลี่ จางผิง’ ถามกลับก่อนที่จะตอบ
 

 
” สำนักมังกรฟ้ามีทรัพยากรอยู่แล้ว สิ่งที่ขาดคือกองกำลัง กองกำลังนั้นต้องค่อยๆสะสมทีละน้อย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ สาวกที่ยอดเยี่ยม “
 
‘ชูเฟิง’ ตอบ
 

 
” ถูกต้อง ขณะนี้สำนักมังกรฟ้าต้องการมากที่สุดคือ ศิษย์เก่งๆ อย่างไงก็ตาม ในการดึงดูดสาวกเข้ามาที่สำนักมังกรฟ้า ชื่อเสียงของสำนักมังกรฟ้าจึงจำเป็นต้องสูงขึ้น “
 
 
” แม้ว่าการต่อสู้ระหว่างเจ้ากับ กง ลู่หยุน จะน่ามหัศจรรย์ แต่ก็มีคนเชื่อครึ่งและไม่เชื่อครึ่ง พวกนั้นสงสัยว่า สำนักมังกรฟ้าของเราจัดฉากการต่อสู้ ที่น่าประทับใจเช่นนั้น “
 
 
” ในตอนนี้ มันเป็นโอกาส ที่จะได้พิสูจน์สำนักมังกรฟ้าของเรา โอกาสที่จะได้พิสูจน์ว่าเจ้าและข้านั้นแข็งแกร่ง ไม่กี่วันจะมีงานชุมนุมร้อยสำนักประจำปีเกิดขึ้น!!! “
 
 
” การชุมชมกว่าร้อยสำนักจัดขึ้นโดยสำนัก หลิง หยุน นี้เป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ของทุกสำนักในอาณาจักรมังกรฟ้า ที่ได้เข้าร่วม “
 
 
” ส่วนโอกาสนั้น พวกสาวกและเจ้าสำนักของสำนักต่างๆจะมีการประลองกัน หาผู้ชนะ และนั้นก็เป็นการจัดอันดับของสำนักด้วย สำนักมังกรฟ้าตอนนี้เป็นสำนัก#1 และสำนักของเราจะอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ในบรรดา ร้อยสำนัก มันก็ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว “
 
ตอนนี้สำนักมังกรฟ้า อยู่อันดับ 100 รั้งท้ายจ่าฝูง อันนี้เดาๆนะ
 

 
” หากสำนักมังกรฟ้าของเรา สามารถไปยืนอยู่ 10 อันดับแรก ของเหล่าสำนัก # 1 ข้าเชื่อเหลือเกินว่าชื่อของสำนักเราจะเป็นที่ดึงดูดเหล่าสาวกให้เพิ่มขึ้นไปจำนวนมาก “
 
‘หลี่ จางฉิง’ บรรยาย
 

 
” จริงๆแล้วการรวบรวม สำนักทั้งร้อยเป็นโอกาสที่หาได้ยาก แต่ท่านเจ้าสำนักไม่ต้องเป็นห่วง ในการต่อสู้กับสาวกจากสำนักอื่นๆในครั้งนี้ ข้า ชูเฟิง จะทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ทำให้คนทั้งสำนักหรือท่านต้องผิดหวัง !!! “
 
‘ชูเฟิง’ ให้สัจจะด้วยท่าทีที่มั่นใจ
 

 
” ฮ่าๆๆๆ แค่คำพูดของเจ้าก็เพียงพอแล้ว ข้าเข้าใจความแข็งแกร่งของเจ้าดี “
 
 
” แต่ในวันนี้ เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องที่ข้ากำลังจะบอกนี้ !!! “
 
‘หลี่ จางผิง’ พูดเข้าประเด็นนั้น พร้อมกับยิ้มแบบแปลกๆ
 

 
” เจ้าสำนัก มีอะไรในใจก็เชิญกล่าวออกมา “
 
‘ชูเฟิง’ถาม
 

 
” โอ้ ชูเฟิง อย่าโทษข้า สำหรับเรื่องนี้นะ “
 
‘หลี่ จางผิง’ เปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นสีหน้าที่จริงจัง
 

 
” เจ้าสำนัก มึงมีไรก็พูดมา อย่าลีลา ? “
 
ในหัว’ชูเฟิง’ เต็มไปด้วนหมอก เนื่องจากเขา
 

 
” ข้าตัดสินใจด้วยตัวเอง เรื่องการแต่งงานของเจ้า “
 
‘หลี่ จางผิง’ กล่าว
 

 
” อะไรนะ ? “
 
หลังจากที่’หลี จางผิง’ พูดจบ ‘ชูเฟิง’ ก็ตกใจไม่ใช่น้อย เขาได้แต่อ้าปากค้าง ตาค้าง ด้วยความประหลาดใจ
 

 
” ท่านเจ้าสำนัก ข้าไม่เคยขอให้ท่านหาเมียให้กับข้า แล้วทำไมท่านถึงได้ตัดสินใจเรื่องการแต่งงานของข้าโดยพละการ “
 
 
” ชูเฟิง อย่าได้มีน้ำโห ค่อยๆฟังสิ่งที่ข้าจะพูด ที่มาของคู่หมั้นของเจ้านางไม่ใช่ธรรมดาๆ เจ้าเคยได้ยินชื่อของ สำนักสตรีหยกหรือไม่ “
 
‘หลี่ จางผิง’ ถาม
 

 
” สำนักสตรีหยกหรอ!!! “
 
หลังจากได้ยินคำนั้น ‘ชูเฟิง’ ยิ้มออกมาที่มุมปาก เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจไม่น้อย แต่’ชูเฟิง’ก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับสำนักนั้นละเอียดสักเท่าไหร่ แต่บุรุษทุกคนในอาณาจักรมังกรฟ้ารู้ว่าความงามของสำนักสตรีหยกนั้นมีชื่อเสียงขนาดไหน
 
สำนักสตรีหยก เป็นสำนักพิเศษ เพราะสำนักต่างๆล้วนแล้วแต่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่สำหรับสำนักสตรีหยกมีแต่ผู้หญิงเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นทักษะลับ หรือ ทักษะการต่อสู้ มันจะเหมาะสำหรับผู้หญิงเท่านั้นที่ฝึกฝน
 
‘ชูเฟิง ‘มึงไปขอไปศิษย์แล้ว สร้างฮาเร็มสิ!!!
 
ถึงแม้ว่ามันเป็นสำนักที่ต้อนรับสำหรับ ผู้หญิง แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะรับทุกๆคนสำหรับการเข้าเป็นสาวก ยังมีคัดเลือกที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่หญิงคนนั้นจะต้องมากความสามารถที่โดดเด่น พวกนางยังต้องมีหน้าตาที่ดีอีกด้วย อย่าง ‘หลิน เยว่เยว่’ นี้หมดสิทธิ์ ไม่เพียงแต่ไม่รับ นางยังจะโดนสวดมนต์ขับไล่อีกด้วย ที่สำคัญ คนที่จะเข้าเป็นศิษย์ได้ ยังต้องเป็นสาวบริสุทธิ์
 
แน่นอนด้วยเหตุนั้น สำนักสตรีหยกจึงเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าชายหนุ่มแสนจะปรารถนา สาวกหญิงในสำนักต่างเปรียบดั่งเทพธิดาในใจชายนับไม่ถ้วน การได้แต่งงานกับพวกนางมีอะไรบ้างที่ทำให้เสียหาย ไม่เพียงแค่นั้นนับว่ายังเป็นเกียติยศสำหรับชายหนุ่ม ผู้พิชิต สาวงามอีกด้วย
 
เพราะความเข้มงวดในการคัดเลือกสาวก จึงทำให้คนในสำนักสตรีหยกมีจำนวนน้อยมาก ในสำนักทั้งหมดอย่าว่าแต่ 10000 คน แค่มีหลัก 100 ก็นับว่าเยี่ยมแล้ว สาวกในนั้นต่างก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้เป็นสำนักอันดับ 5 จากเหล่าบรรดาสำนัก# 1 ของอาณาจักรมังกรฟ้า
 
เป็นธรรมดาที่เหล่าสาวกจากสำนักสตรีหยก จะถูกหมายปอง แน่นอนว่าคนที่ต้องตาต้องใจพวกนางควรภาคถูมิใจ และการที่นางจะหมายปองชายใดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ หากจะมี ก็คงมีแต่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่จุดสูงๆเหนือกว่าพวกนางถึงจะคู่ควรได้พวกนางไปเป็นภรรยา
 
ดังนั้น แม้สาวกจากสำนักสตรีหยก ไม่พอทำให้เขาเปลี่ยนใจจากบรรดาเมียใหญ่ เมียรอง ของเขา แต่’ชูเฟิง’ก็ยังอยากรู้อยากเห็น
 

 
” เจ้าจะไปเหรอ ? “
 
เห็นใบหน้าของ ‘ชูเฟิง’
 
‘หลี่ จางผิง’ แสยะยิ้มแล้วกล่าว
 

 
” เอ๊ เอ๊ แม้ว่านางเป็นลูกศิษย์ของสำนักสตรีหยก ที่ไหนก็ย่อมมีทั้งคนดีและคนเลว เจ้าสำนักจะต้องรอบคอบ ในการหาคู่หมั้นที่เลือกให้ข้า ว่าแต่นางเป็นใคร และ น่าตาเป็นจังได๋ “
 
‘ชูเฟิง’ หัวเราะ และถาม
 

 
”  แหม๋บักหำ ข้ารับประกันว่าเจ้าจะต้องพอใจ นางเป็นศิษย์อันดับ 1 ของสำนัก ที่ได้ชื่อว่าเป็น หญิงงามที่สุด หยวน รู่ว !!! “
 
เนื่องจากพลังวิญญาณของ’ชููเฟิง’เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้มาก หากนำไปแสดงในงานการชุมนุมทั้งร้อยสำนักคงจะสนุกน่าดู อีกอย่างวิชา ที่ผู้ก่อตั้งมอบให้ เขาจะได้ใช้มันหรือเปล่า . . . . .
 
ที่สำคัญ’ชูเฟิง’จะทำให้สำนักมังกรฟ้าขึ้นเป็นอันดับที่เท่าไหร่
 
แต่ก่อนที่จะไปงานชุมนุม ร้อยสำนัก เขาต้องไปที่ สำนัก สตรีหยกซะก่อน เพื่อดูหน้า คู่หมั้นของเขา . . . .
 
เขาจะดูอย่างเดียวหรือไม่
 
ต้องรอติดตามตอนต่อไป . . . . .
 
ที่มา: