I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Lazy Dungeon Master ตอนที่ 23 ตอนพิเศษ นักผจญภัยที่สุดแสนจะประหลาด (มุมมองของทหารเฝ้ายาม)

| Lazy Dungeon Master | 744 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ข้าคือทหารยามเฝ้าประตูเมือง  ข้าหนะเป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูงมากๆเลยแหละ ไม่ได้จะคุยโม้โอ้อวดอะไรนะ แต่ข้าหนะเพียงแค่มองก็บอกได้แล้วว่าใครมีพิรุธหรือใครโกหก   ระหว่างที่ข้ากำลังเฝ้าประตูเหมือนๆกับทุกวัน ก็มีนักเดินทางคู่นึงโผล่มา เป็นผู้ชายที่มีผมสีดำกับเด็กผู้หญิงที่มีผมสีออกไปทางสีดำ …

แต่ว่านะ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆนั่นเป็นคนแบกสัมภาระทั้งหมด ในขณะที่ไอ้หมอนั่น ทั้งๆที่เป็นผู้ใหญ่แล้วกลับเดินตัวปลิวโดยที่ไม่ได้แบกสัมภาระอะไรเลย หากมองจากไกลๆก็คงจะเห็นว่าเป็นคู่พี่ชายน้องสาว แต่พอมาดูใกล้ๆ  เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์เผ่าสุนัขนี่นา ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นทาสแฮะ เพราะแบบนั้นเธอเลยต้องแบกคนอยู่คนเดียวสินะ

แต่ว่า ให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆมาแบกของทั้งหมดแบบนี้ ถึงจะเป็นทาสก็เถอะ ข้าก็ยังรู้สึกรับไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ ไอ้หมอนี่ชอบทารุณเผ่าครึ่งคนหรือป่าวนะ แต่ว่ามันกบลับขัดแย้งกับการแต่งกายของเธอที่ดูดีมากๆเลยแฮะ เป็นคู่นักเดินทางที่ประหลาดสุดๆไปเลย แต่หน้าที่ต้องมาก่อน ถึงจะแปลกยังไงข้าก็ต้องทำตามหน้าที่ของทหารเฝ้ายามอย่างเต็มที่

“หยุด!! พวกเจ้ามีธุระอะไรที่เมืองเซียร์แห่งนี้”

เมื่อข้าเรียกหยุด ทั้งคู่ก็หยุดตามที่บอกโดยไม่ขัดขืนใดๆ

“โอ้ต้องขออภัยด้วย พอดีว่าผมมาจากประเทศอื่นเลยไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่ ผมต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าไปข้างในเมืองได้ยังงั้นหรือ?”

ทั้งคู่ไม่ได้แสดงท่าทีคุกคาม หรือพยายามที่จะฝ่าเข้าเมือง ข้าแอบเปิดใช้งานอุปกรณ์เวทมนต์[เครื่องจับเท็จ] ทหารยามเฝ้าประตูจะพกไอ้นี่ไว้ใช้ตอนที่มีบุคคลต้องสงสัยพยายามจะเข้าเมือง เจ้าอุปกรณ์นี่ทำงานได้ดีมากๆเลยแหละ แม้จะเป็นทหารฝึกหัด ขอเพียงใช้งานสิ่งนี่ก็สามารถบอกได้ทันทีว่าคู่สนทนาโกหกหรือไม่

“…ตอบคำถามข้ามา!! พวกเจ้ามีธุระอะไรที่เมืองเซียร์แห่งนี้”

“คือว่า…ผมเดินทางมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเป็นนักผจญภัยที่เมืองแห่งนี้หนะ”

ดูเหมือนว่าจะไม่ได้โกหกสินะ มาเพื่อเป็นนักผจญภัยยังงั้นหรือ เป็นความไฝ่ฝันยอดฮิตของพวกหนุ่มๆที่อยากจะมีชื่อเสียงและร่ำรวยทางลัดสินะ แต่ว่า มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ การเป็นนักผจญภัยหนะ

“หืม…ทาสนั่น เป็นของเจ้ายังงั้นหรือ?”

“ใช่แล้ว พอดีว่าผมไปเก็บมาได้โดยบังเอิญหนะ”

นี่ก็ไม่ได้โกหกเหมือนกันแฮะ การที่หมอนี่บอกมาตรงๆว่าเป็นทาสที่เก็บมาได้ก็ฟังดูสมเหตุสมผลดี เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเหตุการพวกกองโจรไล่ปล้นผู้คน การจะมีทาสเร่ร่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสินะ ว่าแต่ทาสเด็กคนนี้ทั้งแข็งแรงและการแต่งกายก็ดูดีมากๆเลยนะนี่ หรือว่าหมอนี่จะดูแลเด็กนี่ดีกว่าทาสทั่วๆไปกันนะ

“แล้วพวกเจ้ามาทำอะไรในเวลาแบบนี้?”

“ก็..พอดีว่าเห็นว่าอัศวินเพิ่งจะไปกำจัดพวกโจรเมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหมครับ ดังนั้นผมเลยคิดว่า ถ้าเดินทางในช่วงนี้ก็คงจะปลอดภัยดี พวกผมเองก็ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรเป็นพิเศษ ว่าแต่….พวกผมมาผิดเวลาหรือป่าว? คนต่างถิ่นอย่างผม ไม่ทราบเรื่องอะไรแบบนั้นหรอกนะ ต้องขออภัยด้วย”

หืมมม เป็นอีกครั้งที่หมอนี่พูดจริง ท่าทางหมอนี่จะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพื้นที่แถวๆนี้เลยสินะ ว่ากันตามตรง ถึงแม้ว่าจะโกหกบ้างนิดหน่อย ถ้าไม่ใช่เรื่องอันตรายหรือขอขาดบาดตาย ข้าเองก็ไม่ถือหรอกนะ แต่ว่าหมอนี่ช่างซื่อตรงจริงๆเลยนะนี่ คำพูดของเจ้านี่ไม่มีคำโกหกเลยแม้แต่คำเดียว

“โอ้ เข้าใจหละ โทดทีนะ ช่วงนี้มันมีเรื่องยุ่งยากนิดหน่อยนะก็เกี่ยวกับที่พวกอัศวินไปกำจัดพวกโจนนั่นแหละ ทางเมืองนี้ก็เลยเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในระยะนี้หนะ”

“โอ้ ยังงั้นหรือ? ท่าทางจะเหนื่อยกันน่าดูเลยนะ แล้วผมเข้าเมืองได้ไหม? ผมต้องทำอะไรก่อนหรือป่าว”

ข้าอธิบายเรื่องกฏระเบียบในการเข้าเมื่อและค่าใช้จ่ายต่างๆให้ดูเหมือนว่าเจ้าหนุ่มนี่จะกังวลเรื่องของค่าใช้จ่ายแฮะ หมอนี่มีเงินติดตัวเท่าไรกันนะ สุดท้ายข้าก็เสนอตัวเป็นไกด์นำทางหมอนี่เป็นลงทะเบียนที่กิลนักผจญภัย

จากที่ข้าได้แอบสังเกตมาตั้งแต่แรก เด็กน้อยครึ่งสัตว์นี่แตกต่างจากทาสที่ข้าเคยได้เจอมากๆเลยแฮะ ดูเหมือนว่าเธอจะติดตามรับใช้หมอนี่ด้วยความเต็มใจและมีความสุข ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนเสนอตัวที่จะขนสัมภาระทั้งหมดด้วยความต้องการของเธอเอง ดูแล้วเด็กนี่อาจจะได้รับการดูแลที่ดีไม่เลวเลยนะเนี่ย

เจ้าหมอนี่กล่าวชมและลูบหัวเด็กครึ่งสัตว์อย่างอ่อนโยน ข้าพอจะเข้าใจขึ้นมานิดนึงแล้ว ทำไหมเด็กทาสนี่ถึงติดหมอนี่นัก เท่าที่เห็น หมอนี่ก็ไม่ใช่คนเลวร้าย หรือว่าอันตรายอะไร ข้าเลยอณุญาติให้ทั้งคู่เข้าเมืองและนำทางไปยังกิลนักผจญภัย   ระหว่างทางที่ผ่านร้านชายเนื้อเสียบไม้ย่าง ทั้งสองคนนั่นดูจะสนใจเอามากๆ

ข้าหละปลื้มกับภาพที่ได้เห็นจริงๆ บางทีหลังจากที่คู่นี้ลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยเสร็จ มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองคนจะปักหลักอยู่ที่นี่ซักระยะ เอาเป็นว่าถ้าโชคดีได้เจอกันอีก ข้าจะเลี้ยงเนื้อย่างเจ้าทั้งสองคนละกันนะ

หลังจากที่มาถึงกิลนักผจญภัย พวกเราตรงไปที่เคาเตอร์ทันที หลังจากที่พนักงานต้อนรับได้สอบถามว่าเขียนหนังสือเป็นไหม หมอนั่นตอบว่าไม่เป็นไร และสั่งให้เด็กทาสนั่นเขียนให้ แต่ว่านะ ให้ตายเถอะ ยัยหนูนี่ชื่อว่า ‘[มีท]’ ยังงั้นหรือ? ชื่อแบบนั้น!! ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิด นั่นมันเป็นชื่อสำหรับทาสกามไม่ใช่หรือไง? หมายความว่า ไอ้หมอนี่!!…กับเด็กเล็กๆแบบนี้หนะหริอ!?..หมอนี่มีรสนิยมแบบนี้หรอวะเนี่ย? เพราะแบบนี้สินะเด็กนี่เลยแต่งตัวซะสวยเชียว

ในที่สุดก็หายสงสัยละ   แต่ว่านะ หมอนี่จะทำอะไรกับทาสของมันก็ไม่เกี่ยวกับข้าหรอก แต่ทว่า การลงทะเบียนชื่อ [‘มีท’] กับกิลนักผจญภัยแบบนี้ จากนี้ไปชื่อของเด็กนั่นก็จะถูกจดจำในชื่อนี้ไปตลอดชีวิตเลยนะเฟร้ย ถึงแม้จะถูกปลดปล่อยจากการเป็นทาส แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อได้ทีหลังอีกแล้วนะ

หลังจากลงทะเบียนยืนยันตนไปแบบนั้น การที่ข้าเป็นคนปล่อยให้หมอนี่เข้าเมืองมาทำเรื่องที่หยาบช้าเยี่ยงนี้ ข้าเองก็รู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในบาปครั้งนี้ด้วยเลยนะนี่ ว่าแต่ทำไมยัยหนูนี่ถึงได้มองหมอนั่นด้วยความรักแบบนั้นหละ จริงๆเธอควรจะโกรธเจ้านี่เข้ากระดูกมากกว่าไม่ใช่หรือไง ….

แต่ก็เอาเถอะ อย่างที่บอกไปแล้ว มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้านี่นา   แม่สาวประชาสำพันธ์ของกิลบ่นพึมพัมเงียบๆ ดูเหมือนเธอจะพูดว่า [ช่างเป็นเด็กที่น่ารักอะไรอย่างนี้นะ…ให้ตายเถอะ ชั้นจะปกป้องเธอจะไอ้บ้านี่ให้จงได้] น่าจะอะไรประมาณนี้แหละ

หลังจากที่ทั้งคู่ได้เป็นสมาชิกของกิลและมีบัตรยืนยันตนแล้ว หน้าที่ของข้าก็จบลง ว่าแต่หมอนี่ชื่อว่า เคมะสินะ ช่างแปลกคนซะจริงๆ แต่ว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับข้านี่หวะ เอาหละข้าไปเฝ้าประตูเมืองต่อดีกว่า   ก็ข้าหนะเป็นทหารยามมืออาชีพหนะสิ ฮ่าๆๆ

 

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments