ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปภารกิจนั่นถูกรับไปเมื่อไร? เมื่อเช้านี้? ไม่สิ อาจจะรับไปตั้งแต่เมื่อคืนก่อนก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือไง? ถ้าตามไปตอนนี้จะทันไหมนะ ไม่แน่ถ้าตามไปทันอาจจะต้องสู้กันก็ได้ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น พวกผมจะจัดการกันไหวหรือป่าวเนี่ย?
“….นายท่านค่ะ?”
ผมหันไปตามเสียงเรียกของ’มีท’ จะว่าไป ยัยหนูนี่รู้หรือป่าวนะ ว่าผมเป็นดันเจี้ยนมาสเตอร์ ผมเองก็ไม่เคยบอกเธอเลยซักครั้งนี่นา
…เอาหละ มาสงบสติอารมณ์กันก่อนดีกว่า ที่ดันเจี้ยนมี’โรคุโกะ’ดูแลอยู่ ดังนั้นไม่น่าจะเป็นอะไร ยัยนั่นน่าจะทำตามที่ผมบอกไว้ได้ ในเมื่อพวกนักผจญภัยไปที่นั่นเพื่อหาข้อมูล พวกนั้นคงไม่ก่อปัญหาอะไรให้กับเรา แต่ยังไงนี่ก็เป็นแค่การคาดเดาของผมฝ่ายเดียวหละนะ ยังไงก็ต้องหาข้อมูลจากทางกิลยืนยันให้มั่นใจได้ว่า ภารกิจนี้จะไม่เป็นปัญหากับดันเจี้ยนของเราจริงๆ ….
ไม่ใช่เวลาที่จะมานอนหลับได้สินะ เฮ้ออออ….. ผมเดินตรงไปที่เคาเตอร์ คุณพนักงานต้อนรับ ‘ซีเลีย’ นั่งอยู่ที่นั่นเหมือนเช่นเคย โทดทีนะที่ต้องกลับมาใหม่ทั้งๆที่พึ่งจะลากันไปเมื่อสักครู่นี่เอง
“ผมขอรบกวนสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยนจะพอได้ไหมครับ?”
“ตอนนี้ยังอีกนาน กว่านักผจญภัยอื่นๆจะกลับมาที่นี่ ดังนั้นระหว่างนี้ ชั้นมีเวลาว่างพอสมควรเลยหละไม่ต้องห่วง ว่าแต่ว่า นายสนใจเรื่องอะไรเกี่ยวกับดันเจี้ยนหละ ปกติแล้วภารกิจเกี่ยวกับดันเจี้ยนหนะ จะต้องเป็นระดับ D ขึ้นไปนะ”
ระดับ D ขึ้นไปยังงั้นหรือ แปลว่าดันเจี้ยน [ถ้ำธรรมดาๆ] นี่ ถูกมองว่าต่ำกว่ามาตรฐานสินะ ถึงเป็นภารกิจระดับ F
“พอดีว่า ผมสนใจภารกิจที่เกี่ยวกับดันเจี้ยน [ถ้ำธรรมดาๆ] หนะสิครับ พอดีว่าผมไม่เห็นใบรับภารกิจที่บอร์ดแล้ว ถ้าจำไม่เป็นมันเป็นภารกิจที่ระดับ F รับได้ใช่ไหมหละ?”
“หืมม…อ้อ ภารกิจนั่นหนะหรอ ภารกิจสำรวจดันเจี้ยนที่เกิดใหม่เป็นภารกิจที่เหมาะสำหรับนักผจญภัยมือใหม่หนะสิ ดันเจี้ยนที่พึ่งจะเกิดใหม่หนะ ไม่ได้เจอกันได้ง่ายๆหรอกนะ บางครั้งเราไปส่งคนไปสำรวจเพื่อการศึกษาและวิจัยดันเจี้ยนด้วย ปกติภารกิจแบบนี้จะกินเวลาราวๆ ครึ่งเดือนหละนะ”
ดันเจี้ยนพึ่งเกิดใหม่? ‘โรคุโกะ’หนะหรือ ไว้กลับไปต้องลองถามยัยนั่นดูหน่อยแล้ว
“แล้ว…ภารกิจนี้สั่งให้ไปทำอะไรบ้างยังงั้นหรือ?”
“ชั้นเกรงว่าคงไม่สามารถบอกนายได้หรอกนะ มันผิดกฏหนะสิ”
ก็คิดอยู่แล้วหละนะ ว่าคงถามข้อมูลภารกิจของคนอื่นมาไม่ได้ง่ายๆ
“จะว่าไป มีผู้ว่าจ้างสองรายอยากจะจ้างนายกับคุณหนูทาสตัวน้อยนั่นนะ เป็นภารกิจล้างส้วมระดับ G หนะ นายสนใจจะตอบตกลงไหมหละ”
“…อันนี้ขอเวลาผมตัดสินใจก่อนละกันนะ…”
ล้างห้องน้ำเรอะ นี่ผมมีชื่อเสียงทางด้านนี้ ผมควรจะดีใจหรือป่าวนะ? แต่ยังไงก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทำอะไรแบบนี้
“ผมอยากจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยนหน่อย รบกวนช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ว่าดันเจี้ยนมันเป็นสถานที่แบบไหนกัน?”
“ดันเจี้ยนหรอ…มันคือสถานที่ ที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ กับดัก และสมบัติ พูดง่ายๆก็คือ เป็นสถานที่ ที่นักผจญภัยจะบุกเข้าไปเพื่อหวังรวยในข้ามคืนยังไงหละ นี่เป็นเรื่องที่ใครๆเค้าก็รู้ แต่การที่นักผจญภัยมือใหม่ไก่อ่อนอย่างนาย จะไม่รู้เรื่องพื้นฐานสุดๆแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้นะ”
“ระ…เรื่องแค่นี้ผมก็รู้น่า!”
ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ผมก็พึ่งจะรู้นี่แหละ ว่ามุมมองของนักผจญภัยในโลกนี้ที่มีต่อดันเจี้ยนเป็นแบบนี้
“ถ้างั้น นายรู้เรื่องเกี่ยวกับ บอสของดันเจี้ยนกับแกนกลางของดันเจี้ยนหรือป่าวหลละ?”
“…อืมมม…แกนกลางของดันเจี้ยน เปรียบเสมือนหัวใจของดันเจี้ยนใช่ไหมหละ?”
“ใช่แล้วหละ ดันเจี้ยนหนะ จะเริ่มที่จะถล่มและพังลง หลังจากที่แกนกลางถูกทำลายหนะ ส่วนบอสของดันเจี้ยนนั้นจะอยู่ที่ชั้นที่ลึกที่สุดเพื่อปกป้องแกนกลางของดันเจี้ยน มีทฤษฎีบางทฤษฎี ที่กล่าวไว้ว่า บอสของดันเจี้ยนและแกนกลางของดันเจี้ยนนั้นคือสิ่งเดียวกัน ในอดีตนั้น ปราสาทของจอมราชาปีศาจนั้น ได้ถล่มลงมาพร้อมๆกับที่ตัวของจอมราชาปีศาจได้ถูกสังหาร หลายๆคนจึงได้ตั้งขอสงสัยว่า ปราสาทของจอมราชาปีศาจก็คือดันเจี้ยน ส่วนตัวจอมราชาปีศาจนั้นเป็นทั้งบอสและแกนกลางของดันเจี้ยน เพราะว่าไม่เคยมีใครหาแกนกลางดันเจี้ยนของจอมราชาปีศาจพบหนะสิ”
จอมราชาปีศาจยังงั้นหรือ? ผมนึกภาพยัย’โรคุโกะ’เป็นจอมราชาปีศาจไม่ออกเลยแฮะ ผมนึกภาพยัยนั่นแต่งกายชุดของจอมราชาปีศาจ จากนั้นก็เดินสะดุดผ้าคลุมหัวทิ่มดินจนสภาพดูไม่จืด เอาเป็นว่าเลิกจินตนาการดีกว่า ยัยนั่นไม่มีทางเป็นราชาปีศาจได้หรอก
เรื่องที่ว่าดันเจี้ยนจะถล่มหลังจากที่แกนกลางถูกทำลายนั้น ผมสงสัยว่าหน้าที่ของแกนกลางดันเจี้ยนคือการรักษาสภาพของทางเดินและผนังในดันเจี้ยนหรือป่าวนะ จะว่าไปไม่เห็นจะพูดถึงดันเจี้ยนมาสเตอร์เลยแฮะ หรือว่าพวกมนุษย์จะไม่รู้ว่ามีตำแหน่งนี้คอยควบคุมดันเจี้ยนอยู่กันนะ
“เอาเป็นว่า ถ้านายอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับดันเจี้ยนหละก็ มันมีสถาบันที่ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับดันเจี้ยนโดยเฉพาะเลยหละ ชั้นแนะนำให้นายลองไปหาซื้อหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับดันเจี้ยนมาอ่านดู….ถึงราคาของหนังสือจะแพงมาก แต่เนื้อหาที่เขียนไว้ข้างในนั้นก็คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายแหละ”
นั่นแหละ!! คือสิ่งที่ผมมองหาอยู่เลย ข้อมูลของดันเจี้ยนที่ศึกษาโดยมนุษย์ มันมีหนังสือแบบนั้นอยู่จริงๆสินะ เป็นข้อมูลที่มีค่าสุดๆไปเลย ผมต้องหาหนังสือเล่มนั้นมาให้ได้!!
“สำหรับราคาของหนังสือ [การศึกษาดันเจี้ยนเบื้องต้น] นั้นราคาอยู่ที่ 1 เหรียญทองได้หละมั๊งนะ”
ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้นในตอนนี้ 100 เหรียญทองแดง เท่ากับ 1 เหรียญเงิน และ 100 เหรียญเงินเท่ากับ 1 เหรียญทอง แปลว่าหนังสือเล่มนี้มีราคา 10,000 เหรียญทองแดงเลยหรือเนี่ย ผมเปรียบเทียบคร่าวๆว่า ค่าเงินในโลกนี้ 1 เหรียญทองแดง เทียบเท่ากับประมาณ 100 เยนในญี่ปุ่น นี่แปลว่าหนังสือเล่มนี้ราคาเท่ากับ 1ล้านเยน!! แพงโคตร!! ท่าทางต้องไปหาของมีค่าจากดันเจี้ยนมาเปลี่ยนเป็นเงินบ้างซะแล้ว
“นายหมดเรื่องที่อยากจะถามแล้วใช่ไหม? คนอื่นๆเริ่มจะกลับมากันแล้วหละ”
“โอ๊ะ!..ขอบคุณมากเลย ขอโทดทีที่ทำให้ต้องเสียเวลานะ”
“ไม่เป็นไร เป็นหน้าที่ของชั้นอยู่แล้ว และก็ถ้านายจะไม่ว่าอะไร ช่วยหลีกทางให้คนอื่นๆหน่อยได้ไหม มารอกันโน่นแล้ว”
ผมไม่รำคาญคุณพนักงานต้อนรับนี่แล้วหละ เธอทำหน้าที่ของเธอได้อย่างดีเยี่ยมไม่ขาดตกบกพร่องเลยซักนิด หลังจากนั้นผมก็พามีทเดินหลีกทางจากเคาเตอร์ออกมาด้านนอก
อย่างน้อยตอนนี้ก็วางใจได้ว่า ถึงจะยังไม่รีบกลับไปที่ดันเจี้ยน แกนกลางของผมก็ยังไม่โดนทำลายแน่ๆ ถึงแม้ว่าดันเจี้ยนจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีห้องมากขึ้น แต่ดูเหมือนพวกนักผจญภัยจะมองดันเจี้ยน [ถ้ำธรรมดาๆ] จะถูกมองเป็นสถานที่ฝึกเด็กใหม่และแหล่งค้นคว้าข้อมูลสินะ
ถ้าจะพูดถึงเรื่อง DP การที่ผมกับมีทมาอยู่ที่นี่ จะประหยัด DP มากกว่าตอนที่อยู่ที่ดันเจี้ยนนะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสีย DP คอยเสกของกินในแต่ละวัน หรือว่าผมกับมีท ควรจะปักหลักอยู่ที่นี่เพื่อเก็บข้อมูลต่ออีกซักพักดีนะ แต่ผมคิดถึง [ฟูก] ที่แสนจะสบายที่นั่น เทียบกับเตียงไม้แข็งๆที่นี่แล้ว นอนที่ดันเจี้ยนสบายกว่าอย่างไม่อาจจะเทียบกันได้เลยทีเดียว เอาเป็นว่าผมเตรียมตัวกลับไปที่ดันเจี้ยนเร็วๆนี้ดีกว่านะ
แต่ก่อนจะกลับไป น่าจะหาอะไรติดไม้ติดมือไปบ้างนะ จริงๆแล้วผมอยากจะได้หนังสือนั่นใจจะขาด แต่ว่าไม่รู้จะหาเงินตั้ง 1 เหรียญทองมาจากไหนนี่สิ ….อ๊ะ…เดี๋ยวนะ…ไม่แน่ว่า ผมอาจจะซื้อหนังสือนี่ด้วย DP ได้ก็ได้นะ
ผมเปิดเมนูมาไล่ดูรายชื่อของที่เสกได้ ไหนดูซิ หนังสือว่าด้วยเรื่อง[การศึกษาดันเจี้ยนเบื้องต้น] ราคา 100DP เดี๋ยวนะ!! 100DP !? ทำไมมันถึงได้ถูกขนาดนั้นกันฟระ!? ยังไงก็ตาม ดูท่าว่าผมจะต้องกลับไปที่ดันเจี้ยนเพื่อเสกหนังสือว่าด้วยเรื่อง [การศึกษาดันเจี้ยนเบื้องต้น] แล้วหละ
“มีท…เราจะกลับไปที่ดันเจี้ยนกันตอนนี้เลย”
ข้างนอกเริ่มจะมืดแล้ว ถ้าผมไม่รีบไปตอนนี้ เดี๋ยวจะผ่านประตูเมืองไม่ได้เอพอดี ผมไปที่ประตูเมืองก็พบทหารยาม คนที่เราเจอตอนที่มาที่เมืองนี้ครั้งแรก
“โอ้…ดึกดื่นป่านนี้จะไปไหนกันหละเนี่ย อีกซักพักประตูเมืองก็จะปิดแล้วนะ รู้ใช่ไหม?”
“พอดีว่าผมมีธุระแถวๆภูเขาหนะครับ คิดว่าจะออกจากเมืองไปซัก 2-3 วันได้”
“…แล้วนี้เตรียมตัวไปแค่นี้จะดีหรอ..เท่าที่ข้าดู ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์หรือเสบียงไปเท่าไรเลยนี่นา”
อุ๊ป!! ตายหละวา ผมเองก็ลืมคิดไปเลย พอดีจะกลับไปที่ดันเจี้ยนเลยไม่ได้เตรียมของตีเนียนว่าจะไปตั้งแคมป์ข้างนอกหนะสิ สงสัยครั้งต่อๆไปต้องเตรียมตัวให้ดูเนียนกว่านี้ซะแล้ว
“พวกผมเอาไปแค่นี้เพราะว่าเสบียงที่เหลือผมสามารถไปหาเอาข้างหน้าได้หนะสิ อีกอย่างนะ เอาของไปน้อยๆแบบนี้ เดินทางกันได้ไวดีออก”
“เข้าใจหละ ถ้าอย่างงั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วหละ”
ผมคิดว่าผมแถไม่ค่อยเนียนเท่าไร แต่ลุงยามนี่ดันเชื่อแฮะ ครั้งต่อๆไปผมไปใช้ประตูทิศอื่นไหมนะ ถ้าเกิดว่ายามดันมีเครื่องจับเท็จก็จะลำบากซะด้วยซิ ยังไงก็ต้องเตรียมคำตอบเลี่ยงๆที่ไม่ใช่การโกหกหละนะ อย่างเช่น ผมจะไปนอนข้างนอกเมือง อะไรแบบนั้น
“แล้วนี่พวกเจ้าไปรับภารกิจ เก็บสมุนไพรหรืออะไรประมาณนั้นมาหรือไง มีใบรับภารกิจมาไหม?”
“ไม่ครับ ผมไม่ได้มาทำภารกิจหรอก ครั้งนี้ผมจะจ่ายค่าผ่านทางตามปกตินะครับ”
“ยังงั้นหรือ? แถวๆภูเขาหนะ ช่วงกลางคืนมันอันตรายมากๆเลยนะ ระวังตัวกันด้วยหละ”
“ขอบคุณมากครับ พวกผมจะระวังตัวอย่างดีเลย”
ผมจ่ายเงินค่าผ่านทางไป 2 เหรียญทองแดง สำหรับผมและ’มีท’ คนละ 1 เหรียญ หลังจากนั้นลุงทหารยามก็ปล่อยให้เราผ่านประตูเมืองไปได้ เอาหละ ได้เวลารีบกลับกันหละ หลังจากที่พวกผมทั้ง 2 คนเดินจนพ้นสายตาทหารยามผมก็สั่งให้โกเลมชุดผ้า วิ่งด้วยความเร็วเต็มพิกัด…แน่นอน ผมกรีดร้องไปตลอดทางจากอาการปวดขาแบบสุดๆไปเลย
ที่มา: