ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปดาบเล่มซ้ายมือของ ‘ติง โฉ่ว’ กระเด็นออกจากมือไปปักลงบนพื้น เลือกจากมือซ้ายของเขายังไหลไม่หยุด มันไม่ใช่บาดแผลเล็กๆหันกลับมาที่ ‘ชูเฟิง’ ในมือทั้งสองข้างของเขา ยังกำหอกสีทองไว้แน่น แม้ว่าแสงพวกนั้นจะดูจางๆ แต่มันมีความรุนแรงที่ไม่ธรรมดา
” ท่านบอกว่า ตราบใดที่ไม่ใช่ทักษะระดับ 5 ดาบของท่านก็สามารถตัดมันได้สินะ “
” งั้นท่านก็เอาทักษะระดับ 5 นี่ไปกินก็แล้วกัน!!! “
‘ชูเฟิง’ ชี้หอกไปที่หน้าของ’ ติง โฉ่ว’
” สวรรค์ นั้นมันทักษะระดับ 5 โดยไม่ต้องสงสัยเลย ชูเฟิงเขาสามารถควบคุมทักษะต่อสู้ระดับ 5 ได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ !!!! “
ณ. รอบๆเมือง ต่างมีเสียงร้องแห่งความประหลาดใจดังขึ้นไปทั่ว ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถใช้ ทักษะระดับ 5 ได้หลากหลายขนาดนี้ โดยเฉพาะที่เขา ‘ชูเฟิง’ ที่มีอายุเพียงเท่านี้ทุกคนที่จะฝึกต้องมีร่างกายที่พิเศษ และสามารถเข้าใจทักษะระดับ 5 ให้ถึงขั้น
ถ้าหากติดตรงจุดใดจุดหนึ่ง พวกเขาก็ไม่สามารถนำมันมาใช้ได้ ถ้าหากมีร่างกายพิเศษแล้วไม่เข้าใจมันก็เปล่าประโยชน์คนส่วนใหญ่ที่ฝึกสำเร็จต้องใช่เวลาหลายปี กว่าจะเข้าใจถึงแก่นแท้ของทักษะ เมื่อพวกเขาฝึกได้ถึงขั้นแล้ว พวกเขาจึงเริ่มฝึกทักษะระดับ 5 ดังนั้นมันจึงกินเวลานานเกินไป
แต่นี้ ‘ชูเฟิง’ ที่มีอายุเพียงเท่านี้ กับสามารถบรรลุทักษะระดับ 5 ได้อย่างสมบูรณ์
” คนๆนี้ เป็นอัจฉริยะ ที่หาตัวได้ยาก ทุกๆร้อยปีไม่รู้จะมีสักคนหรือเปล่า “
ตอนนั้น ความคิดก็ผุดขึ้นมาภายในหัวของใครหลายๆคน เพราะวีรกรรมที่ ‘ชูเฟิง’ สร้างไว้ทำให้คนตกใจบ่อยเกินไป เมื่อเวลายิ่งผ่านไป ทัศนคติที่มีต่อเขาก็ดีขึ้นมากเลื่อยๆตอนแรกพวกเขาคิดว่า ‘ชูเฟิง’ เป็นแค่ตัวแถม ของนครทอง – ม่วง ที่ใส่เขาลงไปให้ครบๆ อีกทั้งยังหัวเราะเยาะเย้ยว่านครทอง – ม่วง เหตุใดถึงนำคนเช่นนี้มา
แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะดูยังไง เขาก็ดูไม่เหมือนคนที่อ่อนแอเลยสักนิด อาจเรียกว่า อัจฉริยะที่เกิดขึ้นหนึ่งคน ในรอบร้อยปีเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะ คนจากนครทอง – ม่วง ในตอนนั้น ความรู้สึกของพวกเขาซับซ้อนมากกว่าคนอื่นๆ พวกเขาที่เอาแต่ดูถูก ‘ชูเฟิง’ และ เอาแต่คิดเองเออเอง ว่าเขาจะทำให้นครทอง – ม่วง ต้องขายหน้าแต่พอมาดูแล้ว พวกเขานั้นแหละที่ไม่ได้ความ
หากเทียบกับ ‘ชูเฟิง’ ที่สามารถทำได้ถึงขนาดนั้น มันทำให้พวกเขาต่างรู้สึกละอายใจ
” สำนักมังกรฟ้าเปลี่ยนไปแล้วสินะ ที่สร้างอัจฉริยะขนาดนี้ขึ้นมา ในอนาคตพวกเขาต้องยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน จากนั้นก็จะไม่มีใครกล้าเรียกพวกเขาว่าสำนัก # 2 อีกแล้ว “
บางคนถึงกับคิดว่า ‘ชูเฟิง’ อาจจะสามารถนำพาสำนักมังกรฟ้าขึ้นสู่ยุคใหม่ เพราะความสามารถของเขาที่สะดุดตาใครหลายๆคน แม้ว่าเขาจะมีสถานะของศิษย์สำนัก # 2 แต่เรื่องความแข็งแกร่งของเขา สามารถกดดัน ศิษย์จากสำนัก # 1 ได้เลยทีเดียวยิ่งเขาเด็กขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาหรือประสบการณ์ เขายังห่างไกลจากคนอื่นๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อาจเอาสิ่งเหล่านั้นมาเทียบได้เลย จะเป็นยังไงหากเขามีอายุเท่ากับคนอื่นๆ
” เขาเก่งเกินไปแล้ว คนๆนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ มิน่า ละ คุณหนูซูรู่จะพูดมาแบบนั้น “
‘เฉิน ฮุ้ย’ และคนอื่นๆต่างพากันตกตะลึง เมื่อพวกเขาเห็นความหวังแห่งชัยชนะ มีแต่ ‘เฉิน หว่านชิง’ เท่านั้นที่กำลังขมวดคิ้ว และ กล่าว
” มันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ข้าว่าอย่าประมาท ติง โฉ่ว จะดีกว่า ก็เห็นๆอยู่ว่าเขาไม่ธรรมดา เขาเป็นถึงศิษย์หลัก ที่ได้อันดับ 1 ในการสอบและได้รับการดูแลจากสำนักหลิง – หยุน เป็นอย่างดี “
” เมื่อหนึ่งปีก่อนเขาเคยฆ่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งได้ แล้วหลังจากเวลาที่ผ่านมาล่ะ เขาจะพัฒนาไปถึงขนาดไหน นอกจากนั้น ทักษะระดับ 5 ไม่ใช่เพียงสำนักมังกรฟ้าแค่สำนักเดียวที่ถ่ายทอด สำนักหลิง – หยุน ของข้าก็ถ่ายทอดให้เหล่าศิษย์เช่นกัน “
” หว่านชิง เจ้าหมายความว่าไง ? “
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ ‘หว่านชิง’ ‘เฮิน ฮุ้ย’ และคนอื่นๆ ต่างรู้สึกไม่สบายใจ เพราะลืมไปว่าเขาคือศิษย์หลัก จากสำนัก หลิง – หยุน สำนัก # 1 ในอาณาจักร มังกรฟ้า ที่เป็นแหล่งรวมเหล่าหัวกะทิเอาไว้
นอกจากนั้น ตามที่ได้ยินมา ว่าเขาสามารถผ่านการสอบศิษย์หลักได้เป็นอันดับ 1 เขาคืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะด้วยกันตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วปีนี้ล่ะเขาจะแกร่งถึงขนาดไหน
” เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถใช้ทักษะระดับ 5 ได้คนเดียวงั้นหรอ ได้ตอนนี้ข้าเบื่อที่จะเล่นกับเจ้าเต็มที ข้าติดสินใจแล้วว่าข้าจะจัดการเจ้าซะ จงลืมตาดูเถิด ว่าทักษะระดับ 5 ที่แท้จริงเป็นไง “
ทันใดนั้นออร่า ของ ‘ติง โฉ่ว’ ก็เริ่มเปลี่ยนไป เกิดเป็นคลื่นพลังที่แข็งแกร่งสุดจะพรรณาระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา จากนั้นพลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากมือที่ซ้ายที่กำลังบาดเจ็บเริ่มดีขึ้น เขาก็เริ่มดำเนินการบางอย่าง มันเป็นขั้นตอนที่รุนแรงขนาดที่ทำให้พื้นดินสั่นสะท้านภายใต้เท้าของเขา รอยแตกกระจายออกไปเรื่อยๆ แหล่งกำเนิดพลังงานถูกปล่อยออกมาจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากนั้นมันก็เริ่มหมุนรอบๆตัวของเขาเหมือนเกราะที่ทำมาจากพลังวิญญาณ
” ช่างรุนแรงยิ่งนัก!!! ความแข็งแกร๋งของเขาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก สวรรค์ !!! เขามาถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 2 แล้วงั้นหรอ อีกเพียงนิดเดียวเขาก็สามารถทะลวงมันได้แล้ว “
พลังที่เพิ่มขึ้นของ ‘ติง โฉ่ว’ ทำให้ทุกคนต่างอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
” เป็นไปไม่ได้ เขาใช้ทักษะนั้นได้ยังไง แต่รูปแบบนั้นไม่ผิดแน่ ศิษย์หลักมากมายต่างฝึกฝนแต่ไม่มีใครสามารถฝึกได้สำเร็จสักคน แต่เขาทำได้ยังไง “
‘เฉิน หว่านชิง’ เบิกตากว้าง ใบหน้าที่เยือกเย็นของนางที่เต็มไปด้วยความภาคถูมิใจ บัดนี้เต็มไปด้วยความตกใจไปซะแล้ว
” หว่านชิง เจ้ารู้จักวิชานั้นงั้นหรอ “
‘เฉิน ฮุ้ย’ และคนอื่นๆถามขึ้นพร้อมกัน
” มันคือทักษะระดับ 5 ที่ยากจะฝึกฝนของสำนัก หลิง – หยุน มันยังขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง ว่าเป็นทักษะที่ดีที่สุดในบรรดาทักษะระดับ 5 วิชา หมัด 7 สังหาร !!! “
‘เฉิน หว่านชิง’ น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความชื่นชม
” ย๊าากกก ! “
ในตอนนั้น ‘ติง โฉ่ว’ ก็ตะโกนออกมา และแยกขา เบ่งพลังประทับลงบนร่าง จากนั้นบนเวทีก็เกิดหลุมขนาดใหญ่ระหว่างขาทั้งสองข้างที่เขายืนอยู่ จากนั้นเขาใช้หมัดของเขาโจมตีใส่ ‘ชูเฟิง’ ผ่านไปในอากาศ
* วู้วววว *
หมัดที่ต่อยออกมา เกิดขึ้นพลังวิญญาณขนาดใหญ่ ค่อยๆปรากฏออกมา และพุ่งเข้าหา ‘ชูเฟิง’ อย่างไม่ปราณีหมัดของเขารวดเร็วอย่างมาก แทบจะไม่มีทางหลบหลีกมันได้เลย เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ รีบนำหอกในมือทั้งสองข้างขึ้นมาป้องกันทันที
* ปั้งงง *
หมัดและหอกปะทะกัน จนเกิดเสียงระเบิดดังกังวาล คลื่นพลังงานแทรกผ่านอากาศก่อตัวเป็นพายุกระจายไปในอากาศ เหมือนจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง
” นับว่าไม่เลว!!! แต่ดูสิว่าเจ้าจะป้องกันได้นานขนาดไหน “
‘ติง โฉ่ว’ ยิ้มและตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด จากนั้นเขาก็เหวี่ยงหมัดระดมใส่อากาศจนเกิดเสียงลมที่รุนแรง พลังของมันที่ชกมาแต่ละครั้ง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าครั้งแรกที่โจมตี หรืออาจจะน่ากลัวกว่าด้วยซ้ำ
” หรอ งั้นข้าจะแสดงให้ท่านดูว่าข้าจะป้องกันมันยังไง !!! “
หลังจากที่ กล่าวเช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ เปลี่ยนพลังในมือซ้ายของเขา เป็นโล่สีทองขึ้นมา มันเป็นโล่ขนาดมหึมา กั้นไว้ด้านหน้าของเขา มันใหญ่ขนาดที่ว่าสามารถป้องกันเขาได้ทั้งตัว
* บูม บูม บูม บูม *
‘ติง โฉ่ว’ ไม่รอช้ารีบงัดหมัดระดมโจมตีใส่โล่สีทองนับครั้งไม่ถ้วน พลังที่แข็งแกร่งของโล่สีทองลดลงอย่างรวดเร็ว มันไม่อาจทนการโจมตีนี้ไว้ได้นาน อีกไม่ช้ามันคงถูกทำลาย
” ข้าไม่เชื่อว่าในวันนี้ข้าจะแพ้ให้กับท่าน !!! “
‘ชูเฟิง’ กัดฟันของเขาและเริ่มใช้อำนาจพลังวิญญาณในร่างของเขามาปกคลุมโล่สีทองในมือซ้ายของเขาเอาไว้เพื่อรักษาสภาพของมัน หลังจากที่’ติง โฉ่ว’ ใช้ หมัด 7 สังหาร โจมตีเข้ามาเขาถึงกับได้รับบาดเจ็บ . . . . . .
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . .
ที่มา: