I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Long Live Summons ตอนที่ 3 ความสามารถพิเศษของสัตว์ในตำนาน

| Long Live Summons | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

พอได้ยินคำถามของเย่ว์หยาง หญิงงามถึงกับสะดุ้ง จากมุมมองของนาง ที่ด้านล่างภาพเหมือนของ’ซานเอ๋อ’ ในคัมภีร์ปรากฏแต่พื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่รูปหรือคำแม้แต่คำเดียว แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้กำลังโกหก เป็นไปได้ว่าทักษะโดยธรรมชาติของเขาทำงานแล้วสินะ? ทักษะโดยธรรมชาติที่นางคงมองไม่เห็นใช่ไหม?

“ซานเอ๋อ! อย่าโกหกซื่อเหนียง เจ้ามีไหม เจ้ามีทักษะโดยธรรมชาติไหม? ซื่อเหนียงมองไม่เห็น มันเป็นทักษะชนิดไหน?”

หญิงงามรู้สึกเหมือนหัวใจแทบกระดอนมาอยู่ที่ลำคอ นางถลึงตามองขณะที่จับมือยิ่วหยางเขย่า

“เอ่อ..เป็นการอำพราง ทักษะโดยธรรมชาติของข้าคือการอำพราง”

‘เย่ว์หยาง’เอามือลูบหลังหัวตนเองขณะโกหก เขาตระหนักได้ทันทีว่า เขาเจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอกจริงๆ

“ถ้าเจ้ามีทักษะโดยธรรมชาติจริงๆ ก็ดีแล้ว โอ..ข้ากลัวมาก”

หญิงงามรู้สึกโล่งใจ นางเอามือทาบอกตนเองขณะหลับตาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ผู้ใช้คัมภีร์ทุกคนจะปลุกทักษะโดยธรรมชาติของพวกเขาด้วยตนเอง

ถ้า’ซานเอ๋อ’ทำไม่ได้ เขาจะโดนดูถูกและโดนตราหน้าว่าไม่มีอะไรดี ไม่ว่าทักษะโดยธรรมชาติจะเป็นยังไง ก็ยังนับว่าดีที่เขามีมันได้ ทักษะอำพรางของ’ซานเอ๋อ’ที่มองไม่เห็นนี้ อาจเป็นทักษะที่ดีมากก็ได้ ‘ซื่อเหนียง’ยื่นมือออกมาลูบหัว’เย่ว์หยาง’อย่างสบายใจ

“ซานเอ๋อ! ซื่อเหนียงยินดีกับเจ้าจริงๆ ด้วยการอำพรางที่เป็นทักษะธรรมชาตินี้ เจ้าจะประสบผลสำเร็จในอนาคตอย่างแน่นอน”

เด็กหญิงเห็นมารดาลูบศีรษะ’เย่ว์หยาง’ จึงยื่นมือน้อยๆ ออกไปที่ศีรษะเขาบ้าง ทันทีที่มารดาเห็นความซุกซนของเธอ หญิงงามรีบวางเธอลง หญิงงามสงบจิตใจได้แล้วจึงส่งสัญญาณให้’เย่ว์หยาง’เปิดคัมภีร์อัญเชิญต่อ

“เปิดคัมภีร์หน้าต่อไปซิ, ซานเอ๋อ! ดูสัตว์ผู้พิทักษ์ของเจ้า… ชวงเอ๋อ! อยู่นิ่งๆ สิลูก, ให้พี่เค้าเปิดหน้าต่อไป, ทำตัวดีๆ นะ มายืนข้างแม่ตรงนี้ เข้าใจไหม? เอ๊ะ นี่หมอกหรือ? ขาวโพลนไปหมด.. สัตว์พิทักษ์ของเจ้าเป็นชนิดหมอกหรือ? ก็ไม่เลว แม้ว่าสัตว์ชนิดที่เป็นองค์ประกอบธาตุเติบโตช้า แต่พวกมันทรงประสิทธิภาพจริงๆ สัตว์รูปแบบแข็งแกร่งและสัตว์รูปแบบนักสู้ ในระดับขั้นต่อไปพวกมันจะแข็งแกร่งขึ้น ตราบเท่าที่พวกมันไม่ใช่สัตว์รูปแบบพิเศษก็ถือว่ายังดี! ฮืม.. ซานเอ๋อ สัตว์พิทักษ์ของเจ้าดีจริงๆ นะ”

‘ซื่อเหนียง’ปรบมือสบายใจพร้อมกับยิ้มออกมา ส่วนเย่ว์หยางกลับตะลึงแทน เพราะสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่หมอกขาว แต่เป็นรูปเงาดำ เงาที่ดูเหมือนจะเป็นเงาของเขาเอง! ด้านล่างของเงา มีคำอธิบายไม่กี่บรรทัด เป็นคำอธิบายถึงสัตว์ผู้พิทักษ์ของเขา

เงาปีศาจ รูปแบบพิเศษ ระดับ 1 ท่านสามารถควบคุมเงาตนเอง แต่ละเงาจะมีความเข้มแข็งของท่านอยู่ครึ่งหนึ่ง และยังรวมหลายเงาเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มขนาดของมันได้ด้วย ‘เย่ว์หยาง’ค่อยๆวางมือลงบนภาพเงาปีศาจขณะที่ใต้นิ้วมือเขาเริ่มเรืองแสง

“อย่างนี้นี่เอง..”

ขณะเดียวกัน ความรู้เกี่ยวกับการเรียกสัตว์ผู้พิทักษ์ก็แว่บเข้ามาในใจ ในทวีปมังกรทะยาน ตราบใดที่ท่านยังฝึกหนัก ท่านอาจจะได้เรียนทักษะการอัญเชิญอย่างหนึ่งหรือสองอย่างหรืออาจทำสัญญากับสัตว์อสูรที่จะเรียกก็ได้

แม้ว่าท่านจะเป็นนักรบธรรมดา แต่เพราะพวกเขาไม่มีคัมภีร์อัญเชิญ จำนวนสัตว์อสูรที่พวกเขาจะเรียกมาได้จึงมีอย่างจำกัด ปกติ นักรบคนหนึ่งอาจทำสัญญากับสัตว์อสูรได้เพียงหนึ่ง มีเพียงนักรบอัจฉริยะไม่กี่คนอาจทำสัญญาได้ถึงสอง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้คัมภีร์ไม่มีข้อจำกัดในการทำสัญญา ทุกๆ หน้าในคัมภีร์อัญเชิญจะถูกเปิดเพื่อทำสัญญากับสัตว์อสูร จนกว่าจะเต็มทุกหน้า

แต่ประโยชน์ที่ดีที่สุดของคัมภีร์อัญเชิญไม่ใช่เรื่องข้อจำกัดในการทำสัญญา แต่เป็นเรื่องยอมให้ผู้ใช้คัมภีร์มีสัตว์พิทักษ์เป็นของตนเอง พวกมันจะไม่ตายไม่ทรยศเจ้านายพวกมัน สัตว์พิทักษ์จะเติบโตไปพร้อมกับเจ้านายของตน

ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขใดๆ เพิ่มเติม ตราบใดที่ผู้ใช้ยังมีความสามารถในการเพิ่มพลัง หรือว่าคัมภีร์อัญเชิญเพิ่มระดับขึ้นไปอีก สัตว์ผู้พิทักษ์ก็จะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นด้วย

“เอ๊ะ?”

‘เย่ว์หยาง’อยากจะเรียกเงาออกมา เพื่อดูว่ามันดูเหมือนอะไร แต่ที่ทำให้เขาสับสนคือ เขาเรียกพวกมันออกมาไม่ได้ จากความรู้ที่เขาได้ สาเหตุที่ทำให้การอัญเชิญล้มเหลวเพราะพลังอัญเชิญ (มานา)ของเขาไม่พอ

‘เย่ว์หยาง’รู้สึกได้ในใจว่าการอัญเชิญเงาปีศาจของเขาอย่างน้อยต้องใช้พลังมากกว่าเรียกสัตว์อสูรทั่วไปถึง 10 เท่า

“เป็นอะไรไป?”

‘ซื่อเหนียง’เห็น’เย่ว์หยาง’มีสีหน้าแปลกใจ จึงถามด้วยความกังวล

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ไม่มีอะไร พลังอัญเชิญของข้าไม่พอเรียกสัตว์พิทักษ์ในตอนนี้”

‘เย่ว์หยาง’ส่ายหัวขณะที่มีความคิดแว่บเข้ามาในใจ เงาปีศาจผู้พิทักษ์นี้น่าจะเก็บไว้เป็นความลับ ถึงเขาจะเรียกมาในเวลาอื่น เขาจะไม่เรียกต่อคนอื่นโดยง่ายแน่ สัตว์พิทักษ์นั้นควรเก็บไว้เป็นอาวุธลับของเขา

“เหรอ? ซานเอ๋อ! เจ้าไม่ต้องกังวลไป การอัญเชิญสัตว์รูปแบบองค์ประกอบธาตุจำเป็นต้องใช้พลังอัญเชิญมาก เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเจ้าเรียกไม่ได้ ก็เพราะยังอยู่ในระดับเริ่มต้น สัตว์ผู้พิทักษ์ของเจ้า จะช่วยให้เจ้าเติบโตอย่างแน่นอน”

หญิงงามรีบปลอบเย่ว์หยาง

“แน่นอน ข้าจะมุ่งมั่นฝึก จะได้เรียกมันออกมาได้เร็วๆ”

‘เย่ว์หยาง’พูดอย่างนั้นก็จริง แต่ใจคิดไปอีกอย่าง แม้ความรู้ในความทรงจำของเขา เขารู้ว่าพลังธรรมดาใช้เรียกสัตว์อสูรได้ ถ้าเป็นแค่เรียกสัตว์ประจำธาตุโดยปกติ ‘เย่ว์หยาง’มั่นใจว่าเขาคงเรียกออกมาได้

อย่างไรก็ตาม เงาปีศาจของเขาต้องใช้พลังอัญเชิญมากกว่าอัญเชิญแบบอื่นถึง 10 เท่า มันมากเกินไป! ตอนนี้เขายังอยู่ในระดับ 1 ถ้าเขาได้ปรับระดับขึ้นสูงกว่านี้เขาเกรงว่าจำเป็นต้องใช้พลังมากตามไปด้วย..

ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ถึงกับแย่นัก เพราะพลังเพิ่มขึ้นก็จำเป็นต้องใช้อยู่ดี สัตว์พิทักษ์ที่เขาเรียกออกมาก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เงาปีศาจของ’ยิ่วหยาง’ต้องใช้พลังอัญเชิญถึง 10 เท่าเมื่อเทียบการอัญเชิญทั่วไป

พลังที่ได้ก็ต่างกันเหมือนความต่างระหว่างปืนไรเฟิลกับธนู แม้ว่าทั้ง 2 เป็นอาวุธยิงไกล แต่พลังก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความรู้ยังแว่บผ่านมาในความทรงจำเขาอีก ‘เย่ว์หยาง’พบว่าข้อแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเงาปีศาจของเขากับสัตว์พิทักษ์ของคนอื่นๆไม่ใช่เรื่องพลังของมัน

แต่เป็นระยะเวลาที่เรียก สัตว์อสูรที่นักรบทั่วไปเรียกออกมาในแต่ละครั้ง จะหายไปภายในเวลา 1 ชั่วโมง ในทางกลับกัน ยอดนักรบอาจเรียกมาได้นานถึง 2 – 3 ชั่วโมงมียอดอัจฉริยะอาจเรียกออกมาได้นานถึง 5 ชั่วโมง แต่คนประเภทนี้หาได้ยาก

‘เย่ว์หยาง’เอามือแตะที่ภาพเงาปีศาจในคัมภีร์ แม้ว่าเขายังจะเรียกมันออกมาไม่ได้ แต่เขายังคงรู้สึกได้ถึงพลังของเงา เขารู้สึกได้ถึงพลังที่สั่นสะท้านอยู่ในใจเขา หลังจากรู้สึกถึงเงาได้อย่างใกล้ชิด เขาแปลกใจที่พบว่าเงาของเขาจะอยู่ได้นานถึง 10 วัน ถ้าเขาเรียกออกมาได้

“บัดซบเอ๊ย….”

อยู่ๆ ‘เย่ว์หยาง’สบถขึ้นมาเหมือนเป็นโรคประสาท ความลับนี้ต้องไม่ยอมให้คนอื่นรู้ มิฉะนั้นเขาคงถูกมองเป็นสัตว์ประหลาดและโดนลักพาตัวไปทดลองในห้องแล็บฯ แน่

“พี่เสี่ยวซาน บัดซบ หมายความว่าไงเหรอ?”

เด็กหญิงทำตาปริบๆ อยากรู้อยากเห็นถามด้วยความไร้เดียงสา

“อา..มันเป็นความสามารถพิเศษของสัตว์ในตำนานที่แข็งแกร่งมาก เมื่อถูกปล่อยออกมา มันจะข่มขู่ศัตรู จนอาจทำให้ศัตรูเป็นบ้าได้ คลั่ง มันจะทุบอกพวกเขาอย่างแรง จิกผมของคนกระทืบเท้าพวกเขา จับหัวกระแทกฝาผนังและทำอย่างอื่นที่ท้าทายผู้คน นี่เป็นความสามารถที่มีผลมากต่อสุภาพสตรี แต่ไม่มีผลกับคนที่หนังหนาหรือมีการป้องกันทางจิตสูง..เจ้ารู้ไหม สัตว์ในตำนานชนิดนี้ปกติจะอาศัยอยู่ลึกเข้าไปในทะเลทราย มันชอบกินหญ้าอย่างสบายอารมณ์ภายใต้แสงอาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบนอนในร่องลึกกินหญ้าเติบโตในพื้นที่นั้น แล้วทำไมมันถึงทรงพลังนัก? มันทรงพลังมาก มากกว่าสัตว์อสูรในตำนาน อย่างเช่นปูสวรรค์ไร้เทียมทาน มันไม่เคยพ่ายแพ้ใคร  มันอาจเทียบชั้นได้กับสัตว์อสูรในตำนานอย่างตะกวดชาร์คและผีเสื้อเหิน เอาล่ะ ข้าชักจะอธิบายมากไปแล้ว มันไม่ดีนะถ้าเราคุยรายละเอียดมากไป”

‘เย่ว์หยาง’อธิบายให้เด็กหญิงผู้อยากรู้อยากเห็นอย่างไม่รู้จักเหนื่อย หญิงงามคิดว่าเด็กคนนี้กังวลเกินไปที่เขาเผลอพูดเหลวไหลในตอนแรก แต่หลังจากเห็นเขาอธิบายอย่างซื่อสัตย์จริงใจ นางแทบเชื่อโดยสนิทใจว่า สัตว์อสูรในตำนานชื่อประหลาดอย่างนั้นมีอยู่ในโลกนี้จริงๆ

แน่นอน นางรู้ดีว่าสัตว์อสูรในตำนานใช่ว่าจะอัญเชิญกันได้ง่าย แม้แต่ผู้อัญเชิญระดับสุดยอดยังอัญเชิญสัตว์อสูรในตำนานได้ไม่กี่ชนิด ประสาอะไรกับเด็กเริ่มฝึกระดับ 1 ดังนั้นจึงต้องมีความตั้งใจอย่างแรงกล้า นางรีบเตือน’เย่ว์หยาง’ว่า

“ซานเอ๋อ! สัตว์ในตำนานเหล่านี้ทรงพลัง ดังนั้นพวกมันจะไม่ทำสัญญากับผู้อัญเชิญอ่อนแอ ตอนนี้อย่างเพิ่งคิดถึงเรื่องนั้น เจ้าจงฝึกทักษะการอัญเชิญให้ดีก่อนและตั้งใจเพิ่มระดับพลังอัญเชิญให้ได้ … ปีนี้อาจจะช้าเกินไป แต่ปีหน้า ลุงของเจ้ากับข้าจะส่งเจ้าเข้าโรงเรียน เจ้าควรพากเพียรให้มาก  ข้ารู้ว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จในอนาคตได้”

“ครับ ครับ”

‘เย่ว์หยาง’ปาดเหงื่อออก โชคดีที่นางไม่ได้ยินคำสบถของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงโดนตบปากแน่ หลังจากส่ง’ซื่อเหนียง’ผู้อารมณ์ดีและเด็กหญิงที่ไม่ค่อยเต็มใจออกไปแล้ว ในที่สุด’เย่ว์หยาง’ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาปกปิดสถานะตนเองได้แล้ว นางคงนึกไม่ถึงนะว่าเขาคือตัวปลอม อย่างไรก็ตาม จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาในอนาคตข้างหน้า?

 

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments