ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” จักรพรรดิปราชญ์นภา ? “
‘สองพี่น้องหลง – หู่’แสนจะตกใจ สังเกตุได้ชัดว่าพวกเค้าทั้งคู่เคยได้ยินชื่อของคนคนนั้นมาก่อน
” ทักษะ ท่องนภา เป็นของเค้าไม่ผิดแน่!!! “
“แต่คนที่รู้มีอยู่ไม่เท่าไหร่ ดังนั้นข้าบอกได้เลยว่าสุสานแห่งนี้เป็นของเค้า!!! “
‘ซูเหม่ย’อธิบาย
” ข้าไม่นึกมาก่อนเลยว่าเค้าจะฝังตัวเองไว้ที่นี้ ไม่น่าล่ะ ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายตัวไปไหน “
‘เย้ เถาจือ’อยู่ๆก็พูดขึ้นมาพร้อมกับถอนหายใจ
” นี่ !!! มีอะไรบางอยู่อยู่ใต้แผ่นศิลานั้น “
ในเวลานั้น ‘จาง ถิงจือ’ ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ แล้วนางก็วิ่งตรงไปที่นั้นทันที
ในเวลานั้นทุกคนต่างหันไปมอง พวกเค้าสังเกตุเห็นกล่องไม้ใต้แผ่นศิลา หลังจากที่แม่นางจางเปิดกล่องออกทุกคนต่างเต็มไปด้วยความปิติ
แสงประกายสีทองส่องสว่างออกมาจากภายในกล่อง ในนั้นเค้าได้พบกับลูกแก้ววิญญาณ กล่องมันมีขนาดไม่ใหญ่จึงทำให้ลูกแก้ววิญญาณมีอยู่ไม่มาก
แต่อย่างน้อยๆก็ได้สักประมาณ 100 กว่าเม็ด ถ้าบวกกับจำนวนโอสถวิญญาณแล้วล่ะก็ถือว่าพวกเค้าได้ของล้ำค่ามามากมายเลยทีเดียว
แต่ในฐานะสหายร่วมทางจึงจำเป็นต้องแบ่งกันให้เท่าๆกัน ในเวลานั้น ‘ชูเฟิง’ เดินตรงไปที่ปลายหน้าผาและจ้องมองลงเบื้องล่างเค้าได้แต่ทำหน้าผิดหวัง
หน้าผ้าลึกมาก แต่ขอบหน้าผาไล่ความสูงลงมา มีเถาวัลย้อยลงไปด้านล่างเขามองเห็นแค่หมอกปกคลุมอยู่ใต้หน้าผา
หมอกที่ปกคลุมอยู่หนาแน่นมันทำให้เค้าไม่สามารถมองเห็นพื้นด้านล่างหน้าผาได้เลย ‘ชูเฟิง’ รู้สึกถึงจิตสังหารที่ซ่อนอยู่ภายในหมอก
” ทักษะ ท่องนภา เป็นทักษะที่วิเศษอย่างมาก จักรพรรดิปราชญ์นภาใช้ท่องเวหานับหมื่นลี้อยู่ทุกวัน ถึงแม้ว่าเค้าไม่สามารถเข้าสู้อาณาจัก วิญญาณสวรรค์ได้ ท่านก็ยังเป็นคนที่น่ายกย่องอยู่ดี “
” แต่น่าเสียดาย จักรพรรดิปราชญ์นภานั้นเป็นบุคคลที่น่าประหลาด ไม่เพียง ไม่ใช่แค่เค้าไม่แสวงหาพลังอำนาจแม้แต่เพื่อนเค้าก็ยังไม่มี หนุ่มสาวต่างๆที่มาขอฝากตัวเป็นศิษย์ก็ถูกปฏิเสธทั้งหมด!!! “
” จากนั้น จักรพรรดิปราชญ์นภาก็หายตัวไปนับร้อยๆปี บางคนประเมินว่า ทักษะ ท่องนภา เป็นทักษะระดับ 7 แต่ทักษะที่แกร่งที่สุดในเขตมังกรฟ้า มีระดับสูงสุดแค่ระดับ 6 แม้แต่คนในสำหนักก็ยังไม่มีใครได้ฝึกทักษะ ระดับ 6 “
” หากคราวนี้ มีใครได้ทักษะท่องนภา นับว่าได้สุดยอดสมบัติกลับไป “
” ที่ข้าต้องการบอกก็คือ เวลานี้เราโชคดีจริงๆที่เข้ามายังสุสานของจักรพรรดิปราชญ์นภา แต่น่าเสีย ที่ความแข็งแกร่งพวกเรามีเพียงแค่นี้ เหมือนว่าเราไม่สามารถคว้าโชคนั้นไว้ได้ “
‘ซูเหม่ย’มองลงไปในหมองดวงตาของนางเป็นประกาย บ่งบอกถึงความผิดหวัง
” จักรพรรดิปราชญ์นภามีความเป็นมายังไง ? “
‘ชูเฟิง’ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อของเค้า ขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนน่าสังสาร ผู้ชายที่อยู่ที่นี้อย่างโดดเดี่ยวโดยไม่ได้พบเจอกับโลกภายนอก
‘ซูเหม่ย’และคนอื่นๆ ต่างเป็นคนในตะกูลที่มีฐานะ เติบโตในเมือง แม้ว่าพวกเค้าจะมีอายุไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะอิทธิพลจากคนรอบๆข้าง พวกเขาจึงมีประสบการณ์กว้างขวางและรู้เรื่องราวต่างๆเป็นอย่างดี
” เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ # 1 ของเมืองมังกรฟ้า เจ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าขันงั้นหรอ ? “
” ถ้าหากสุสานของ จักรพรรดิปราชญ์นภากระจายออกไป ก็จะทำให้คนทั้งอาณาจักร ส่งผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มา!!! “
” และในตอนนั้น ไม่เพียงแต่เราจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการขัดแย้ง ต่อให้เป็นโรงเรียนมังกรฟ้าและโรงเรียนพันลมก็ไม่มีอำนาจที่จะขัดขวาง ดังนั้นข้าถึงพวกว่า พวกเราโชคดีมากแค่ไหน!!! “
‘ซูเหม่ย’อธิบาย
เมื่อได้ยินคำพูดของ’ซูเหม่ย’ ‘ชูเฟิง’ก็มีแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง เค้าจ้องไปในทะเลหมอกใต้หน้าผาและเค้าก็เกิดความคิดบ้าๆปรากฏภายในใจ
จักรพรรดิปราชญ์นภา ทักษะสูญหายนับร้อยปีมันคงอยู่ใต้หมอกพวกนั้น ไม่มีเหตุผลที่เราจะปล่อยให้มันหลุดมือไปใช่ไม๊ ?
* ปั้งงง *
ในตอนนั้นเสียงดังมาจากหน้าทางเข้า เมื่อพวกเค้ามองไปหน้าของ’ซูเหม่ย’และคนอื่นๆก็เปลี่ยนไปอย่างมาก แม้แต่’ชูเฟิง’ก็ยังต้องขมวดคิ้ว
มีชายหกคนรูปร่างสูงใหญ่ น่าตาหล่อเหลา ออร่าของพวกเขาไม่เหมือนคนทั่วๆไป นอกจากนี้ พวกเขายังสวมชุดคลุมสีฟ้าขณะที่ส่งกลิ่นอายพลังวิญญาณระดับ 8 ห้วงวิญญาณ
คนพวกนั้นคือศิษย์หลักของโรงเรียนมังกรฟ้า หนึ่งในนั้นมีคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เค้าคือคนที่ ปะทะกับชูเฟิงก่อนหน้านี้ ‘ โจว จื่อหยวน ‘
” โอ้ ดูสิว่าเราเจอใคร พวกเค้ามาที่นี้ก่อนพวกเราอีก เหมือนกับเด็กที่ยังไม่โต ทำไมพวกเขาถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ “
” ดูเหมือนว่าเราจะดูถูกเขาไม่ได้นะ นอกจากพวกเรา ยังมีคนรู้วิธีผ่านศพโลหิตอีก “
หลังจากที่พวกเขาเห็น’ชูเฟิง’และคนอื่นๆ ศิษย์หลักต่างพากันประหลาดใจ แต่จากคำพูดของพวกเค้า บอกได้เลยว่าไม่เห็นพวกชูเฟิงอยู่ในสายตา
” โลกมันกลมจริงๆ ซูเหม่ยเราเจอกันอีกแล้วนะ”
ในตอนนั้น ‘โจว จื่อหยวน’ พูดด้วยรอยยิ้มที่แสนจะชั่วร้าย
” ซูเหม่ย ? นี่คือน้องสาวของซูรู่ที่ไม่เคารพเจ้าก่อนหน้านี้นะหรอ “
มีบางคนพูดพร้อมกับถาม
” ใช่แล้วพวกเขานั้นและโดยเฉพาะเจ้าเด็กคนนั้น สมองของมันมีขนาดใหญ่จนสามารถคลุมโลกได้เลยที่เดียว “
‘โจว จื่อหยวน’ มองจ้องไปที่ ‘ชูเฟิง’ ที่ยืนอยู่บนหน้าผา พร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้า
” จื่อหยวน เจ้าต้องการจัดการกับเด็กคนนั้นงั้นหรอ ? พวกเราจะช่วยเจ้าลงมือเอง “
ศิษย์หลักพวกนี้ต่างไม่พอใจที่พวกศิษย์ฝ่ายในต่างไม่เห็นหัวพวกเค้า นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเค้าไม่สามารถทนได้
” พวกเราเป็นคนภายใต้คำสั่งของ ศิษย์พี่เล้ง ให้มานำลูกแก้ววิญญาณตรงหน้าผากลับไป ผู้ใดขัดขวาง ตาย!!! สถานเดียว “
‘โจว จื่อหยวน’ กล่าว
” โจว จื่อหยวน พวกเรามาจากโรงเรียนเดียวกัน เจ้ากล้าฆ่าเรางั้นหรอ “
‘ซูเหม่ย’กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว
” อยู่โรงเรียนเดียวกัน ? ถ้าเป็นเหมือนที่เจ้ากล่าว ทำไมเจ้าถึงไม่สวมชุดของมังกรฟ้าล่ะ ? ผู้ใดที่ไม่สวมชุดของโรงเรียนหมายความว่าพวกเขาไม่ได้ให้เกียจโรงเรียนมังกรฟ้าหรือไม่เห็นโรงเรียนมังกรฟ้าอยู่ในสายตา พวกเจ้าสมควรถูกกำจัด “
” แม่นางซูเหม่ย ไม่ต้องกลัวไป ข้า โจว จื่อหยวน ยังไม่ฆ่าเจ้า ? เพราะข้าจะเพลิดเพลินกับร่างกายของเจ้าไปก่อน ฮ่าาๆๆ . . . . . “
ใบหน้าโจว จื่อหยวนในตอนนั้น เผยร้อยยิ่มพร้อมกับคำพูดไร้ยางอาย
” เจ้า. . . . . . . “
ได้ยินคำพูดเช่นนั้น ใบหน้าซูเหม่ยเต็มไปด้วยความโกรธ นางโกรธเพราะว่าไม่คิดนึกว่า โจว จื่อหยวนจะเป็นคนที่ต่ำช้าเช่นนี้
” จื่อหยวน จะดีหรอ ? ยังไงนางก็เป็นน้องสาวของซู่รู่นะ “
ศิษย์หลักต่างสนทนากัน แม้ว่าพวกเขาจะพูดอย่างกระสับกระส่ายแต่ดวงตาเค้ากับจ้องไปที่เรือนร่างของ ‘ซูเหม่ย’
” ทุกคน ข้าแน่ใจว่าแม่นางซูรู่จะเป็น # 1 เรื่องความงามในโรงเรียนมังกรฟ้า ทั้งยังหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี พวกเราจึงไม่สามารถเข้าใกล้นางได้ แต่นี้เป็นเหมือนโชคชะตาที่เราพลาดโอกาส “
” แต่น้องสาวของนาง ซูเหม่ย ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือรูปร่างก็ไม่ได้แย่ไปกว่า ซูรู่ ในอนาคตนางอาจจะงดงามอย่างมาก วันนี้เป็นโอกาสดีแล้ว ที่พวกเราจะได้ลิ้มลองรสชาติความงามเช่นนี้ “
‘โจว จือหยวน’พูดความคิดของตนเองออกมาทั้งหมด
” ฮ่าๆ จือหยวน ในเมื่อเจ้ากล่าวเช่นนี้ พวกเราจะรออะไรกันอยู่ ?”
ทันใดนั้นเหล่าศิษย์หลัก ก็พุ่งโจมตีใส่ชูเฟิงและคนอื่นๆ
ฉากนี้ไม่เพียงแต่ ‘ไป๋ ตง’ และคนอื่นๆ แม้แต่’ซูเหม่ย’ก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน นางกดดันอย่างมาก ศิษย์หลัก 6 คนไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะรับมือ
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . .
คนแปลกำลังค้าง!!!!
ที่มา: