ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปป่าวงกต ถูกสร้างขึ้นโดยนิกายโลกวิญญาณ ผู้เชื่อมต่อนิกายโลกวิญญาณได้วางรูปแบบที่ดูแสนจะซับซ้อน หากแข็งแกร่งไม่ถึงขั้นก็ไม่มีทางออกไปได้แม้แต่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณก็อาจจะหลงอยู่ภายใน
หากไม่มีใครรู้จักวิธี พวกเขาจะติดอยู่ในนั้นจนหิวตายป่าวงกต ดูลึกลับตามชื่อของมัน ในความเป็นจริง ก็มีเพียงต้นไม้ ประติมากรรมศิลาและเสาเหล็ก แต่ว่าสิ่งที่ทำให้มันดูซับซ้อน คือการวางรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณไว้ในนั้น แม้แต่ผู้ที่มีพลังวิญญาณในอาณาจักรแก่นแท้ ก็ไม่สามารถทำลายต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่ภายในนั้นได้
หากคิดจะทำลายก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณที่มีทักษะร้ายกาจและมากความสามารถ
‘ชูเฟิง’และอีกสองคนเดินเข้ามาภายในป่าวงกต ด้วยพลังอำนาจพลังวิญญาณของเขากับเข็มทิศโลกวิญญาณ หนทางที่ซับซ้อนจึงไม่อาจหยุด ‘ชูเฟิง’และคนอื่นๆได้แต่หลังที่พวกเขาเข้ามาได้ไม่นาน ‘ชูเฟิง’ ก็พบกับบุคคลที่คุ้นเคย เขาคือ ลูกศิษย์ ‘ชี ซิ่ง’ ที่มาจากอาณาจักรมังกรฟ้า ที่โดน’ชูเฟิง’อัดจนฟันหัก
เขาก็คือ ‘หยางจือ’
นอกจากนี้ยังมีพรรคพวกของเขาอีก 4 คน ทั้งสี่คนสวมเสื้อผ้าของสำนัก # 1 และพลังวิญญาณของพวกเขาก็นับว่าไม่เลว ทั้งสามคนที่เป็นพวกของเขา อยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 4 มีเพียงหนึ่งคนที่อยู่ในระดับ 5 กำเนิดวิญญาณเหมือนกับ ‘หยางจือ’
ดูจากเสื้อผ้าของพวกเขา ‘ชูเฟิง’ สามารถบอกได้ว่าพวกเขาคือศิษย์หลักของสำนัก หลิง – หยุน
” ชะ ชะ ชะ . . . . . ชูเฟิง !!!”
หลังจากที่เห็น ‘ชูเฟิง’ ‘หยางจือ’ตกใจอย่างมาก เขาตะโกนออกมาขณะที่ฟันไม่มี ความหวาดกลัวปรากฏเต็มใบหน้าของเขา สามารถบอกได้เลยว่าเขานั้นเห็น ‘ชูเฟิง’ เหมือนกับเห็น ‘ปีศาจ’
” ชูเฟิง ? เจ้าเด็กคนที่ทำให้เจ้าต้องสภาพเป็นแบบนี้ใช่มั๊ย!!! “
หลังจากได้ยินคำพูดของ ‘หยางจือ’ ทั้งสี่คนก็จ้องมอง’ชูเฟิง’ ด้วยสายตาเหยียดหยันเห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้เรื่องระหว่าง ‘ชูเฟิง’ และ ‘หยางจือ’
แต่เขาก็พบว่า ‘ชูเฟิง’ มีพลังวิญญาณอยู่ในระดับ 1 กำเนิดวิญญาณ แต่ ‘หยางจือ’ อยู่ในระดับ 5 กำเนิดวิญญาณ แล้วจะเป็นไปได้ไงที่เขาจะแพ้
” ลู่ เปี่ยว รีบไปกันเถอะ “
‘หยางจือ’ เดินจากไปพร้อมกับดึงศิษย์จากสำนัก หลิง – หยุน
” เฮ้ออ. . . . . . หยางจือ ท่านเป็นอะไร ท่านกลัวเจ้าเด็กนี่จริงๆงั้นหรอ “
ในตอนนั้น ‘ลู่ เปี่ยว’สะบัดมือออกไปและจ้องหน้าของ ‘ชูเฟิง’
” หยางจือ ท่านไม่ต้องกลัว พวกเราจะแก้แค้นให้กับท่าน “
พวกเขาทั้งหมดกระจายกำลังกันออกไป และสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณขึ้นมาเพื่อไม่ให้ ‘ชูเฟิง’ และคนอื่นๆ หนี
” ชูเฟิง แบบนี้ไม่ดีแน่ พวกเขาต่างล้วนมีฝีมือ “
ขณะที่เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ หญิงสาวเต็มไปด้วยความกังวล ฝ่ายตรงข้ามใช้การควบคุมได้น่าประทับใจกว่ารูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ ดังนั่นนางจึงสูญเสียความมั่นใจ
สำหรับ ชายหนุ่ม เขารู้สึกกลัวและเสียใจ เป็นธรรมดาที่เขาจะกลัว เนื่องจาก ‘ลู่ เปี่ยว’ ‘หยางจือ’ และคนที่เหลือต่างเหนือกว่าเขา ที่เขาเสียใจก็เพราะ คิดว่าจะได้พึ่งพาคนอื่น โดยการอาศัยแรงของ ‘ชูเฟิง’ แต่ไม่เคยรู้เลยว่า ‘ชูเฟิง’ จะมีศัตรูเช่นนี้
พวกเขาไม่ได้แม่แต้จะเกี่ยวข้องแต่กับถูกลากเข้าไปยุ่งกับปัญหาป่าวงกต หากอยากกำจัดศัตรูหรือฆ่า พวกเขาก็ทำได้ไม่ยาก และไม่มีใครมาตรวจสอบ อีกทั้งตรงนี้ก็ยังเป็นส่วนที่อันตรายที่สุดของป่าวงกต
” ชูเฟิง เห็นแก่เจ้าที่มาจากอาณาจักรมังกรฟ้า ข้าจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง ขอขมาและทำลายฟันหน้าของเจ้าด้วยตัวเองซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิต “
‘ลู่ เปี่ยว’ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พูดจาใหญ่โตเฉกเช่นราชาทั้งๆที่เป็นแค่คนธรรมดา แม้ว่าเขาจะกล่าวเหมือนให้โอกาส ‘ชูเฟิง’ แต่สายตาของเขาเปิดเผยให้เห็น เจตนาฆ่า
” ไม่เป็นไร วันนี้พวกเราจะช่วยกันกำจัดเจ้านี่ “
‘หยางจือ’ เห็นท่าทีของ’ลู่ เปี่ยว’และคนอื่นๆ เขาจึงไม่คิดจะหนี อีกทั้งยังคิดที่จะเอาคืน
” โก่วจือ หมาน้อย เจ้ามีมิตรสหายด้วยหรอ แต่สหายเจ้าอาจจะไม่ดีอย่างที่เจ้าคิด เท่าที่ข้าดู พวกเขาไม่เพียงแต่จะช่วยเจ้าไม่ได้ พวกเขายังทำร้ายเจ้าด้วย “
‘ชูเฟิง’ ยิ้มเบาๆและขยายมือออกไป จนเกิดเป็นพายุโหมกระหน่ำ กระจายออกไปจนทำให้รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่ทั้งสามสร้าง พังพินาศ
” นี่มัน . . . . . . .”
แต่ขณะที่กำลังตะลึงเนื่องจากรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณถูกทำลาย ก็มีรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าถูกสร้างขึ้นมาล้อม ‘หยางจือ’ และคนอื่นๆ ทำให้พวกเขาถูกผนึกไว้ภายในนั้น
ความแข็งแกร่งของรูปแบบอำนาจพลังฯเห็นได้ชัดว่ามันแข็งแกร่งกว่าของพวกเขาหลายเท่า และเหตุผลที่ทำให้พวกเขาตกใจ ก็คือการที่มันถูกสร้างด้วยฝีมือของ ‘ชูเฟิง’ อีกทั้งเขายังไม่ได้ขยับมือแม้แต่น้อย แต่สามารถในการควบคุมอำนาจพลังวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์
” อยากให้ฟันของข้าหัก เจ้าก็ลองมาทำด้วยตัวเองสิ !!! “
ด้วยการที่คิดว่า ‘ชูเฟิง’ มีพลังวิญญาณในระดับ 1 กำเนิดวิญญาณ พวกเขาจึงประมาท แต่ ด้วยความกดดันที่แข็งแกร่งทำให้ทุกๆคน ที่อยู่ภายในนั่น ตัวสั่น
แม้แต่ ‘ลู่ เปี่ยว’ ที่แสดงท่าทียโสก่อนหน้านี้ก็ไม่อาจจะสงบใจได้
” ภาพลวงตา . . . . . เจ้าคิดว่าจะหลอกข้าได้ด้วยภาพลวงตางั้นหรอ!!! “
‘ลู่ เปี่ยว’ไม่เชื่อว่า ‘ชูเฟิง’ นั่นแข็งแกร่ง เขายกฝ่ามือขึ้นมาพร้อมกับใส่พลังเข้าไป ตอนนั้น ชายหนุ่ม และ หญิงสาว ขมวดคิ้วลงเมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนี้ จากนั่นพวกเขาก็วิ่งไปหลบด้านหลังของ ‘ชูเฟิง’ เพราะการโจมตีนั่น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะป้องกันเอาไว้ได้
แต่เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวเป็นแบบนั่นเขาก็ไม่พูดใดๆเพราะเขาก็พอเข้าใจ ‘ชูเฟิง’ยืนอยู่นิ่งๆไม่ขยับ จากนั้นก็ใช้แรงดันวิญญาณระดับ 1 กำเนิดวิญญาณทำลายการโจมตีของ ‘ลู่ เปี่ยว’
” หยางจือไอ้ขยะ เจ้าให้คนอื่นมาช่วยทั้งๆที่พวกมันมีฝีมือแค่นี้งั้นหรอ ? “
” คุกเข่าลง!!! “
‘ชูเฟิง’ กล่าว จากนั่นแรงดันวิญญาณก็เพิ่มขึ้นภายในรูปแบบอำนาจพลังฯ อากาศที่หดตัวได้ส่งเสียงแปลกๆออกมาอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง ตอนนี้ ‘ชูเฟิง’ได้ปลดปล่อยพลังของเขา
ภายใต้แรงดันวิญญาณมหาศาล ‘ลู่ เปี่ยว’ และคนอื่นๆ ต่างหมดสิ้นท่าทางก่อนหน้านี้ พวกเขาร้องออกมา พร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้นโดยไม่สามารถขัดขืนได้ มีเพียง’หยางจือ’ที่ฝืนยืนเอาไว้ได้ นั่นหมายความว่า ‘ลู่ เปี่ยว’และคนอื่นๆยังห่างไกลจาก ‘หยางจือ’
” ชูเฟิง ท่าน . . . . . . .”
เมื่อเห็นฉากนั่น ชายหนุ่มและหญิงสาว มีความสังสยปรากฏขึ้นมาเต็มอยู่ทั่วใบหน้า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกถึงแรงดันวิญญาณของ’ชูเฟิง’ แต่พวกเขาบอกได้ว่า ‘ชูเฟิง’ ใช่ความกดดันของเขาบังคับให้สามคนที่อยู่ระดับ 4 กำเนิดวิญญาณ และอีกหนึ่งคนที่อยู่ในระดับ 5 กำเนิดวิญญาณคุกเข่าลงกับพื้น
” ทำลายฟันหน้าของตัวเองซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิต !!! “
‘ชูเฟิง’พูดอย่างเย็นชา
” ฝันไปเถอะ!!! “
หนึ่งในพวกเขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
” อยากตายนักใช่มั๊ย ? “
‘ชูเฟิง’ ยิ้มเบาๆ พร้อมกับดีดนิ้วของเขา ตอนนั่นก็มีสายฟ้ายิงออกมา พุ่งไปเสียบหน้าอกคนๆนั้นจนทะลุ
” อ้าาาา ~ ~ ~ ~ “
คนๆนั้นร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ไม่นานนักเขาก็ล้มลงกับพื้น โดยที่ไม่หายใจ
” ชูเฟิง เจ้ากล้าฆ่าพวกเรา !!! เจ้าได้ตายแน่ สำนักของเราจะไม่ยกโทษให้เจ้า ไม่เพียงแต่ตัวเจ้า แม้แต่สำนักของเจ้าก็จะถูกทำลาย !!! “
ได้ยินแบบนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็ฆ่า พวกเขาอีกสองคน ขณะที่กำลังสั่นกลัว
* สึบบบ *
ขณะที่พวกเขาพูด สองลำแสงจากสายฟ้าก็วิ่งผ่านร่างของสองคนนั่น จนทำให้พวกเขาล้มลงกับพื้นภายในพริบตาเขาใช้สายฟ้าสังหารศัตรูไปแล้ว 3 คน จากนั้นเขาก็เหวี่ยงสายตาที่เย็นยะเยือกไปทาง ‘ลู่ เปี่ยว’ และ ‘หยางจือ’
” ชูเฟิง ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ไว้ชีวิตข้าด้วย!!!! ข้าไม่กล้าหยาบคายท่านกับอาจารย์อีกแล้ว “
‘หยางจือ’ หวาดกลัวอย่างมากจนน้ำตาไหลออกมาปกคลุมทั่วใบหน้า เขาเริ่มที่จะอ้อนวอน ‘ชูเฟิง’ ให้ไว้ชีวิต
” ชูเฟิง ข้าจะทำลายฟันหน้าของตัวเองเดี๋ยวนี้ ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย !!! “
‘ลู่ เปี่ยว’ ที่คุกเข่าเริ่มยกมือขึ้น พร้อมกับชกปากตัวเองสามครั้ง จนเลือดสีแดงไหลอออกมา การที่เขาทำแบบนั่นก็เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากหายนะแต่ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมาเขาเพียงแต่ยืนจ้องสองคนนั่นที่กำลังร้องขอชีวิตอย่างเย็นชา จากนั้นก็กล่าว
” มันสายไปแล้ว !!! “
อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องตายซะงั้น ไอ้หยางจือก็ไม่รู้จัก เข็ด อุส่ารอดไปได้แล้วกลับมารนหาที่ตาย
ถ้ามันจะถูกฆ่าก็คงไม่แปลก มารอดูกันว่าพวกนั้นจะทำยังไง. . . . . . . .
ที่มา: