บทที่ 5 – ผู้ก่อตั้ง มังกรฟ้า
 
หลังจาก ‘ซูรู่’ พูดจบ  ทั้งสนามสอบ อยู่ในความเงียบ
 
ต่อมาก็มีเสียงดังมาจากถ้ำการทดสอบ ศิษย์คนนั้นวิ่งออกจากถ้ำมา อย่างรวดเร็ว คนคนนั้นคือ ‘ต้วน ยูหยวน’ ถ้าเป็นเมื่อก่อนพวกเค้าทั้งสองคน มีพลังที่แตกต่างกันอย่างมาก
 
ผมที่ยุ่งเหยิง เต็มไปด้วยเหงื่อ เสียงหอบหายใจอย่างหนัก เขารีบวิ่งไปแท่นหินราวกับคนบ้า
 

 
“ฮ่า ฮ่า ข้ามาถึงก่อนเจ้า เด็กน้อย หยาง เทียนยู ยังจะคิดแข่งกับข้า ?
 
 
“ข้าต้องอดทนฝึกอยู่ภายนอกสำนักเป็นเวลา 6 ปี ? ข้าบอกเจ้าได้เลยว่าเจ้านั้นไม่ใช่คู่มือข้า”
 
‘ต้วน ยูหยวน’ ส่งเสียงตะโกนราวกับถูกปีศาจสิง เค้ากวาดตามองไปยังที่วางของล้ำค่า เค้าไม่สังเกตุซากศพของสัตว์ร้ายในสนามสอบเลย
 
เขา รีบปีนไปดูบนแท่นหินสูง
 
ใบน่าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อเขามองลงมายังแท่นหิน เขาก็ต้องตกใจ ตัวของเขาแข็งทื่อ
 
เป็นเพราะบนแท่นหินนั้น มันว่างเปล่า ! ไม่มีแม้แต่เส้นผม !
 

 
” ให้ตายสิ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? “
 
เขาพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆ เค้าพึ่งสังเกตเห็นเลือดสดๆ ศพของสัตว์ร้ายกองทั่วพื้น เต็มลานสนามสอบ
 
เมื่อเขาเห็นศพเหล่านั้น ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปทั่วตัว เขาหันไปรอบ เขาพบว่า ประตูที่จะผ่านการสอบยังไม่ได้เปิด
 

 
” เกิดอะไรขึ้น ?”
 
‘ด้วน ยูหยวน’ เขายังคงสับสน คนที่ทำนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
 
*ตึกกตึกกกตึกกกก *
 
ขณะนั้น หยางเทียน ยูก็วิ่งเข้ามา ถึงที่ประตูห้อง แล้วก็เขาหยุด หลังจากเห็นฉากในสนามสอบ เขามองด้วน ยูหยวน ด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง
 

 
“นายทำแบบนี้ ? “
 
‘ด้วน ยูหยวน’ หัวเราะเบาๆ และกล่าวอย่างขมขื่น
 

 
“ถ้าข้าบอกเจ้าว่าไม่ใช่ คุณจะเชื่อฉันมั้ย ? “
 
 
” แน่นอน ข้าเชื่อเจ้า เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าสามารถเอาชนะ สัตว์ร้ายจำนวนมากขนาดนี้ สํตว์ร้ายมีพลังมากกว่า มนุษย์”
 
‘หยางเทียน ยู’ วิ่งเข้าไปตรวจสอบศพของสัตว์ร้าย
 

 
“ให้ตายเถอะ แม้แต่ระดับ 4 ยังถูกฆ่า นี่มันเป็นผลงานของใคร ?”
 
หลังจากคิดทบทวน พวกเขาไม่สามารถหาคำตอบได้ พวกเขารู้เพียงว่าคนๆ นั้นมีพลังวิญญาณมหาศาลและเป็นหนึ่งในศิษย์ฝ่ายนอก
 
ในที่สุด พวกเขาสรุปว่า มันเป็นสถานการณ์ที่เหล่าอาวุโสนั้นวางถูกแผนโดยไม่มีของมาตั้งแต่แรก
 
เมื่อศิษย์ทุกคนมาถึง พวกเขาได้แต่กล้ำกลืนความผิดหวัง
 
เขาทุกคนคิดว่าเป็นฝีมือของ ‘หยางเทียน ยู’ หรือ ‘ต้วน ยูหยวน’ ใครคือคนที่ฆ่าสัตว์ร้ายและใครกันที่ได้รับสมบัติหรือว่าฝึกเขาร่วมมือ และนำของมาแบ่งกัน
 
แต่นั้นจะไม่ตลกไปหน่อยหรอ ขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากับ สายตาของการชื่นชมจากฝูงชน ‘หยางเถียน ยู’ และ ‘ต้วน ยูหยวน’ ไม่ได้ปฏิเสธมัน เป็นเป็นครั้งแรกที่เขาเคยถูกชื่นชมเช่นนี้
 
ประตูใหญ่หลังพวกเขาเปิดออก และเสียงเชียร์ก็ดังขึ้นมา ทุกคนมีความสุขอย่างมาก เพราะเมื่อพวกเขาเดินออกมาจากประตูบานใหญ่ พวกเขาจะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในและจะได้เริ่มชีวิตใหม่
 
แต่ในเสียงเชียร์นั้น มีชายหนุ่มที่ดึงดูดความสนใจของทุกคน
 

 
“นี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น”
 
เขายืนแก้ผ้าร้องไห้ทำไม ชายหนุ่มคนนั้นเขาทำได้เพียงสาปแช่งคนที่เอาเสื้อผ้าของเขาไป ในขณะที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ
 

 
“ใครกันช่างโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้ เขาไม่เพียงแต่อัดข้า เขายังเอาเสื้อผ้าของข้าไปอีก!”
 
เมื่อเหนฉากนั้น ผู้คนพากันประหลาดใจ แต่ ‘ชูเฟิง’ นั้นหัวเราะและค่อยๆ ออกจากฝูงชนในขณะที่กำลังมองไปบนเสื้อผ้าของเขา เสื้อผ้าของเขาไม่ได้มีร่องรอยความเสียหายใดๆ
 
การทดสอบเพื่อเป็นศิษย์ฝ่ายในได้สิ้นสุดลง คนมากกว่า 10 , 000 คน ที่เข้าร่วม เหลือเพียง 2000 คน ที่ผ่าน
 
พวกเจ้าจะกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในของโรงเรียนมังกรสีฟ้า ในเวลาเดียวกัน คุณก็จะได้รับการศึกษาที่ดีกว่าเก่า
 
ขอยินดีต้อนรับ ศิษย์ใหม่ที่เข้าไปฝ่ายใน เหล่าอาวุโส ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ
 
ดวงจันทร์กลม สว่างลอยอยู่บนท้องฟ้า อาหารวางอยู่เรียงราย มีการร้้องเพลงเต้นรำ ซึ่งให้ทุกคนรู้สึกดีแบบสุดๆ
 
แต่ ‘ชูเฟิง’ นั้น ไม่เข้าร่วมงานเลี้ยง เขาอยู่ในห้องพักของเขา เขาถอดเสื้อออกมองแผลที่อยู่บนหน้าอกของเขา
 
บาดแผลขนาดใหญ่ถูกรักษาอย่างถูกรวดเร็ว บาดแผลอีกไม่กี่วันคงจะหาย มันเป็นเพราะ สายฟ้าศักสิทธ์ที่อยู่ในร่างกายของเขา
 

 
“ทำไมกัน ทำไมมันถึงเลือกข้า?”
 
นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ‘ชูเฟิง’ ถามคำถาม เขานั้นถามนับครั้งถ้วนแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
 
เขายังคงจำเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน ณเขต มังกรฟ้า ถูกสายฟ้าทั้งเก้าสี ปกคลุมท้องฟ้า
 
ท้องฟ้าตอนกลางคืนสว่างเหมือนตอนกลางวัน สายฟ้าคำรามเหมือนมังกร ดังไปทั่วทั้งพื้นดิน จนทำให้เกิดแผ่นดินไหว ทุกคนต่างคิดว่านี้คือวันสิ้นโลก ทุกอย่างนั้นตกอยู่ในความวุ่นวาย
 
แต่ ‘ชูเฟิง’ ขณะนั้น อายุเพียง 10 ขวบ เขานั้นวิ่งออกจากประตู มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ลานกว้าง
 
จนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่รุ้ว่าเพราะอะไรเขาถึงออกไป มันเหมือนมีเวทมนต์ดึงดูดเขาไป
 

 
“จากนั้นสายฟ้า ฟุ่งใส่ร่างกายของเขา”
 
ไม่มีใครมองเห็น มีแต่ ‘ชูเฟิง’ รู้ว่าสายฟ้า เก้า สี ภายใน ตันเถียนขอเขาสั่นสะเทือน
 
สายฟ้าศักดิ์สิทธ์ นั้นทำให้ร่างกายของ ชูเฟิง แข็งแกร่งขึ้น ยังไงก็ตาม ‘ฟูเฟิง’ ก็ไม่สามารถรู้ถึงความสามารถที่แท้จรืงของมัน
 

 
“ก็ได้ถ้าเจ้าไม่ตอบ ข้าก็จะไม่ถาม ยังไงเจ้ากับข้าก็ต้องอยู่ด้วยกัน”
 
‘ชูเฟิง’ ยิ้มด้วยความโลกอก หากมันเป็นโชคร้ายของเขามันก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากสายฟ้าศักดิ์สิทธ์คิดจะทำร้ายเขา เขาคงไม่มีโอกาสที่จะต่อกรกับพลังของมัน
 
สายฟ้าศักดิ์สิทธ์ นั้นคอยช่วยเหลือเขา ไม่จำเป็นต้องไปคิดมาก…
 
‘ชูเฟิง’ ใส่เสื้อผ้าของเขาและหยิบหนังสือ ที่หัวเตียง หนังสือ ทักษะการต่อสู้ วิชา
 

 
“สายฟ้า 3 ผสาน”
 
เมือ ‘ชูเฟิง’ หยิบหนังสือขึ้นมา เค้าก็เริ่มพลิกดูมัน เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัส คัมร์ภียุทธ มันทำให้หัวใจเขาเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น สายฟ้า สามผสาน เป็นทักษะ ระดับ 4 ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้ง “มังกรฟ้า”
 
ถ้าฝึกไปถึงขั้้นเปลีี่ยนพลังวิญญาณ เป็นพลัง สายฟ้า มันจะมีความแข็งแกร่งเท่ากับ ระดับ 5
 หลังจาก ‘ชูเฟิง’ ตรวจสอบรายละเอียด ในเวลาสั้นๆ เขาหายใจออก และ พูดด้วยความประหลาดใจ
 

 
“นี้มันเป็นทักษะที่ผู้ ก่อตั้งโรงเรียนมังกรฟ้าแห่งนี้สร้างขึ้น!”
 
ผู้ก่อตั้งโรงเรียนมังกรฟ้า เมื่อหลายพันปีก่อน เขาได้อยู่ในจุดสูงสุด เขาสามารถเดินบนอากาศไปยังรอบโลก ข้ามมหาสมุทร ข้ามภูเขา เป็นผู้เชี่ยวชาญของการต่อสู้อย่างแท้จริง เขาสามารถเคลื่อนย้ายภูเขา แหวกมหาสุทร!
 ในยุคนั้น โรงเรียนมังกรฟ้าถูกกล่าวขาญว่าเป็น อันดับ 1 จากโรงเรียนทั่วที่ ใน 9 เขต
 
มีเพียงคนเดียวที่สามารถต่อกรกับโรงเรียนมังกรฟ้า นั้นคือ ประมุข ของราชสำนัก ผู้นำ ของ 9 เขต
 
แต่เหตุการณ์นี้ผ่านไปนานแล้ว หลังจากผู้ก่อตั้งโรงเรียนมังกรฟ้าจากไป ความแข็งแกร่งที่ติดอันต้นๆ ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว
 
แต่วันนี้ โรงเรียนมังกรฟ้า เป็นเพียงโรงเรียนชั้น สอง อย่างไรก็ตาม โรงเรียนนี้เน้นไปที่ความแข็งแกร่งของผู้ก่อตั้ง ไม่ได้วัดจากความแข็งแกร่ง ของเ์หล่าศิษย์
 
คัมภีร์ทักษะที่เขาสร้างขึ้น นี้ค่อนข้างจะมีความแข็งแกร่ง แม้แต่ขอทานหากฝึก ก็สามารถมีพลังที่แข็งแกร่ง
 
ขณะที่เขากำลังตื่นเต้น ชูเฟิง ก็รีบฝึกมันและสาบานว่า เขาจะต้อง ฝึกวิชา สายฟ้า สามผสานให้สำเร็จจนได้
 
‘ชูเฟิง’ นั้นไม่ได้นอนทั้งคืน ทำเริ่มเข้าใจที่วิธีจะฝึก วิชา สายฟ้า สามผสาน
 
รูปแบบแรก เป็นกระบวนท่า รูปแบบที่สอง พลังวิญญาณทางจิต รูปแบบที่สาม ความสามารถในการสร้างสายฟ้า นี้คือรูปแบบทั้งหมด เขาต้องการที่จะทดสอบมัน
 
หลังจากนั้นเขาก็ ล้างหน้า บ้วนปาก ‘ชูเฟิง’ ไม่ได้รู้สึกง่วงแต่อย่างใด เขามุ่งหน้าไปทางตำหนักการฝึกทักษะยุทธ
 
ในวันแรก ตำหนักฝึกนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไว้ใช้สำหรับการฝึกทักษะการต่อสู้ เขานั้นไม่คิดจะเปิดเผยวิชา สายฟ้า สามผสาน เขาจึงต้องฝึกทักษะการต่อสู้อื่นเพื่อปกปิดทักษะนี้ เพื่อที่จะไม่ให้ใครรู้ว่าเขามีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง
 

 
“อากาศค่อนข้างแจ่มใส”
 
เขาเดินไปในตำหนัก มีกลุ่มคนขนาดใหญ่ ยืนแออัดที่ห้องโถงของตำหนักฝึกทักษะยุทธ
 
เป็นธรรมดาที่แออัด เพราะคนที่ผ่านมามีถึง 2000 คน ที่เข้ามายังฝ่ายใน วันนี้เป็นวันที่พวกเขาต้องรับการฝึกทักษะการต่อสู้
 
ตำหนักยุทธแบ่งออกเป็น 6 ชั้น ต้องเลือกตามลำดับ ถ้าเลือกทักษะระดับ 1 ก็ต้องเลือกชั้น 1 หากต้องการฝึกทักษะอันดับ 2 ต้องไป ชั้น 2 ขั้น 3 4 5 และ 6 เลือกตามความสามารถในการต่อสู้
 
‘ชูเฟิง’ เห็นว่าชั้นที่ 1 และ 2  มันคนต้องการฝึกเป็นจำนวนมาก แต่ชั้น 3 นั้นมีคนอยู่ไม่เท่าไหร่
 
ทุกคนต่างคาดหวัง เพื่อที่จะฝึกทักษะที่แข็งแกร่ง แต่ละคน ก็จะได้ฝึกทักษะการต่อสู้ที่แตกต่างกันไป หากทักษะแข็งแกร่งมาก มันก็ยากที่จะฝึกเช่นกัน
 
นั้นคือเหตุผลที่คนจำนวนมากเลือกที่จะฝึกทักษะ ระดับ 1 และ 2 แต่อันดับ 3 เป็นอันดับสุดท้ายที่คนเลือกหลังจากที่เขาทำความเข้าใจ
 
แต่ ‘ชูเฟิง’ มีเป้าหมายที่ชัดเจนมาก แม้ว่าเขาจะฝึกไว้เพื่อป้องกันแต่ ‘ชูเฟิง’ ก็จะเลือกทักษะที่แข็งแกร่งที่สุด
 

 
“พ่อหนุ่ม ข้าแนะนำนะ เจ้าไม่สามารถฝึกมันสำเร็จหรอก ทักษะที่ันั้นไม่เหมาะกับเจ้า”
 
‘ชูเฟิง’ ไม่สนใจเสียงเตือนและก้าวขึ้นไปยังชั้น 3
 
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . .