ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” อืม . . . . . . “
เขารู้สึกมึนหัวเมื่อลืมตา หลังจากที่’ชูเฟิง’ได้สติ เค้ามีความสุขอย่างมาก
เพราะภายในหัวของเค้า มีบันทึกมากมาย เป็นเนื้อหาของการฝึกฝน ทักษะ ท่องนภา หลังจากที่พบกับความสุขได้ไม่นานเค้าก็ต้องตกตะลึง เพราะว่าฉากด้านหน้าของเค้า
” อะไรเนี่ยยย . . . . . . . ที่นี่คือที่ไหน ?”
ตอนนั้น ด้านหน้าของ’ชูเฟิง’ มีห้องแปลกๆ ที่บอกว่ามันแปลก เนื่องจากความประหลาดของมัน
ผนังมันมีขนาดสูงใหญ่ แต่กับไม่มีหลังคา รอบๆห้องนั้น ไม่ได้ทำมาจาก ไม้ เหล็ก หิน หรือสิ่งอื่นๆ มันเป็นเงาสะท้อน เหมือนกับคริสตันที่เรียบเนียนดั่งกับกระจกที่ถูกขัดจนเงางาม
แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดในตอนนั้นก็คือ ด้านหน้าของเขา มีประตูบานใหญ่ติดอยู่กับผนังยาวตรงไปถึงท้องฟ้า
ขนาดของประตูใหญ่มาก ใหญ่กว่าประตูเมืองใดๆ แม้แต่ประตูเมืองโบราณก็เทียบไม่ติด ลักษณะของมันดูแปลกตาเหมือนกับว่ามันเป็นปากของปีศาจ ที่ยื่นออกมาจากผนัง
ด้านบนของประตูใหญ่ จะมีโซ่ขนาดใหญ่และหนาล่ามไว้ทุกๆ 1 เมตร เหมือนไว้ใช้ขังสัตว์อสูรที่น่ากลัว
เมื่อ’ชูเฟิง’แผ่อำนาจพลังวิญญาณของเค้าออกไป ‘ชูเฟิง’ ก็น่าถอดสีทันที ถึงแม้ว่ามันจะถูกผนึกไว้ ‘ชูเฟิง’ก็รู้สึกถึงกลิ่นอายที่แสนน่ากลัวออกมาจากภายในนั้น
บรรยากาศรอบๆก็แสนจะเยือกเย็น และมืดมน เหมือนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ภายในโลกปกติของเขา มันทำให้’ชูเฟิง’รู้สึกหนาวไปจนถึงกระดูกสันหลัง
” โอ้สวรรค์ นี้ข้าคงจะยังไม่ตายใช่ไม๊ ? หรือว่าที่นี่จะเป็นนรก “
‘ชูเฟิง’นึกไปต่างๆนาๆ เพราะเค้ารู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ความจริง มันเหมือนกับความฝัน ที่แสนจะน่ากลัว
” เฮ้ย!!! นั้นเจ้าจริงๆด้วย ในที่สุดเจ้าก็มา ฮ่าๆ ที่นี่สุดยอดไปเลยใช่ไม๊ “
ในตอนนั้น จู่ๆก็มีเสียงแห่งความสุขดังขึ้นมาจากด้านหลังของ ‘ชูเฟิง’ เนื่องจากเสียงของมันดังขึ้นมาอย่างกระทันหัน มันทำให้’ชูเฟิง’กระโดดล้มลงไปด้วยความตกใจ ยมบาลมารับตูแล้ว!!!
‘ชูเฟิง’นั่งตัวสั่นจากนั้นเค้าก็ลุกขึ้นยืน เมื่อเค้าหันไปมองด้านหลัง ก็พบกับไข่ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของเค้า
” นี่มันตัวอะไรเนี่ย “
มันเป็นไข่ขนาดใหญ่ และมีสีดำสนิท มันดูไม่เหมือนไข่ไก่แต่อย่างใด ขนาดของมันสูงกว่า ‘ชูเฟิง’ อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นไข่ที่มีขนาดที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
” ตัวอะไรงั้นหรอ!!! “
“ไอ้โง่ ‘ชูเฟิง’ เจ้านี่มันปัญญาอ่อนจริงๆ!!! ข้ามองดูเจ้าอยู่จากที่นี่เป็นเวลานานแสนนาน เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าเบื่อ!!!!!!! มากแค่ไหน “
ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นมาภายในไข่ขนาดใหญ่ เสียงของนางฟังดูแสนไพเราะทำให้รู้สึกความสุข เสียงของนางเหมือนเสียงของ นางฟ้า ที่ทำให้จิตใจผ่อนคลาย อาจกล่าวได้ว่า เป็นเสียงที่ถูกใจที่สุดตั้งแต่เค้าเคยได้ยินมา
” ไข่นี้เป็นตัวเมียงั้นหรอ!!! “
‘ชูเฟิง’ ตกตะลึง เพราะว่าเสียงของมันฟังดูเป็นผู้หญิง
” ไม่ใช่ตัวเมียเว้ย!!! เจ้าสารเลว เห็นข้าเป็นไข่ไก่หรือยังไง “
ภายในไข่มีเสียงแหลมด่าออกมา ไข่ใบนั้นเริ่มสั่นราวกับว่ามันกำลังจะแตกออก
* ป๊อกก *
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ก็รู้สึกว่ารอบๆนั้นเป็นภาพเบลอ ฉากรอบๆเค้าเริ่มหมุนอย่างรวดเร็วเหมือนกับอยู่ในห้วงกาลเวลา เมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ‘ชูเฟิง’ก็พบว่าตัวของเค้ากองอยู่ที่พื้นภายในห้องของสุสาน
” นี้ . . . . . . ข้าฝันไปงั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’ประหลาดใจสุดๆ เค้ารู้สึกผ่อนคลายสุดๆ เมื่อพบกับเนื้อหาข้อมูลบันทึกของทักษะ ท่อง นภา ทั้งหมดที่อยู่ภายในหัวของเค้า
” เค้ายังไม่ตายงั้นหรอ เป็นไปได้ยังไง ? หรือว่า ทักษะ ท่องนภา ยอมรับเค้าแล้ว ? “
เพื่อเค้าเห็นว่า ‘ชูเฟิง’ ลืมตา ผู้นำโรงเรียนพันลมก็เริ่มที่จะโวยวาย
” เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ด้วยพลังวิญญาณของเค้าเพียงแค่นั้น หรือว่าเค้าจะปรับพลังวิญญาณจนเป็น ทักษะพิเศษ “
แม้ว่า ‘จูเก่อ’ จะไม่ได้พูดออกมา แต่ดูจากท่าทางของเค้า ยังสามารถบอกได้เลยว่าเค้าตกใจสุดๆ
เมื่อ’ชูเฟิง’เห็นท่าทีเช่นนั้น เค้ายิ้มเบาๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืนปัดฝุนที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า และกล่าวกับพวกเขา
” ขอโทษที่ข้าทำให้ท่าน ทั้ง2ต้องผิดหวัง เพราะข้ายังไม่ตาย โชคดีจริงๆที่ยังมีชีวิต สำหรับของขวัญจาก จักรพรรดิ์ปราชญ์นภา ทักษะที่พวกท่านต้องการหนักหนา มันอยู่ . . . . . . . . “
” อยู่ที่นี่ไง!!! “
‘ชูเฟิง’ชี้นิ้ว ไปที่หัวของเค้า
” บัดซบ ข้าจะฆ่าเจ้า “
ผู้นำโรงเรียนพันลมตะโกนด้วยความโกรธตอนนั้นเค้าไม่สนใจอะไรแล้วเค้าปล่อยแผ่นเหล็กออกทันที
* เปิ้งงง *
เมื่อเค้าปล่อยแผ่นเหล็กออกอย่างกระทันหัน ทำให้ทั้งห้องเริ่มสั่นสะเทือน
” บ้าเอ๊ยย!!! “
เมื่อเค้าเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ผู้นำโรงเรียนพันลมก็กลับเข้าไปต้านแผ่นเหล็กไว้ไม่งั้น ทั้งสามคนอาจจะกลายเป็นเนื้อบดติดพื้น
* เปรี้ยง *
เห็นแบบนั้น ‘ชูเฟิง’ ไม่รอช้า เค้ารีบใช้ สายฟ้า สามผสาน รูปแบบที่ 1 รีบเผ่นไปยังประตูทางออก เพราะด้านหน้าของเค้าทั้งคู่คือผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณ ตอนนี้เค้าอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเกินไป
ถ้าหากพวกเค้าไม่ต้านแผ่นเหล็กเอาไว้ แม้แต่การเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆ อาจทำให้นิ้วของพวกเค้าหักจนเสียหลักทำให้แผ่นเหล็ก หล่นลงมาทับพวกเขาจนตาย
” เจ้าเด็กนี้มาจากโรงเรียนมังกรฟ้า!!! “
เขาเห็นทักษะที่ ‘ชูเฟิง’ ใช้ ‘จูเก่อ’ ถึงกับตาค้างในทันที ในฐานะแขกอาวุโสของโรงเรียนมังกรฟ้า เป็นธรรมดาที่จะรู้จักทักษะต่างๆของสำนัก
หลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ หนีออกมาจากห้องนั้นได้แล้ว เค้ารีบวิ่งกลับไปตามเส้นทางเดิม เค้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สองผู้เชี่ยวชาญจะมาไล่ล่าเค้า แต่อย่างน้อยๆ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณคงหาเค้าพบได้ไม่ยาก
ภายใต้สถานการณ์เหล่านั้น สิ่งเกียวที่เค้าทำได้ในตอนนี้ คือ การมีชีวิตต่อไป ขณะที่เค้าวิ่ง ‘ชูเฟิง’ พบกับศพมากมาย สุสานของจักรพรรดิ์นภาทำให้เกิดสงครามนองเลือดขนาดใหญ่
หลายคนที่ไม่ได้แข็งแกร่งพวกเค้าก็ต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่เพราะความละโมบ แม้ว่าพวกเค้าจะหลอกใช้กันและกัน ในการค้นหาสมบัติภายในสุสาน ผู้ที่กอบโกยได้มากที่สุด ก็คือ ‘ชูเฟิง’
ในขณะที่’ชูเฟิง’คิดว่าตัวเองปลอดภัย แต่เค้ากลับนึกไม่ถึงว่า อันตรายที่แท้จริงกำลังก้าวเข้ามา
” เจ้าหนุ่ม ในที่สุดข้าก็เจอตัวซะที!!! “
เสียงคนที่เต็มไปด้วยความโกรธตะโกนมาจากด้านหลัง ผู้นำโรงเรียนพันลมในที่สุดก็จับเค้าได้
แต่ปัจจุบันเค้าอยู่ในสภาพที่น่าสิ้นหวัง ผมดูยุ่งเหยิง คราบเลือดยังติดเต็มเสื้อผ้าของเขาขณะที่เลือดไหลออกจากหัว เหมือนกับคนบ้า เห็นได้ชัดว่าเค้าต้องแลกชีวิตในการหนีออกมาจากสุสานในห้องนั้น
” บ้าเอ้ย ข้าคงกลับไปเมืองโบราณไม่ได้ในตอนนี้ ข้าต้องหาทางอื่นแล้ว “
เค้าไม่ต้องการให้พวก’ซูเหม่ย’ได้รับลูกหลง
ปัจจุบัน ‘ชูเฟิง’ สังเกตุว่ายากที่จะหนี เค้าจึงเริ่มใช้ทักษะลับ โดยหยุดสายฟ้า สามผสาน จากนั้นเค้าก็เหวี่ยงแขนออกไป การโจมตีนี้เหมือนตัวตัดสินชีวิตของเค้า
ในตอนนั้น ความเร็วของเค้ามากว่าผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้ แรงดันวิญญาณมหาศาลถูกปล่อยออกมาพร้อมกับสายฟ้า ด้วยความเร็วของ’ชูเฟิง’ สามารถซัดใส่เขาลงไปกองกับพื้นได้
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ คิดว่าเขาตายแล้ว สำหรับ ทักษะ ท่องนภา เป็นทักษะที่อันตรายอย่างมาก หากมีใครรู้ล่ะก็ เค้าอาจจะถูกฆ่าผ่าสมอง เพื่อนำทักษะ ท่องนภาออกมา
” หืม ? “
แต่จู่ๆ ‘ชูเฟิง’ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ความกดดันมหาศาลหายไปในอากาศ เมื่อเค้าหันกลับมามอง เค้าก็ต้องตกใจ ทุกอย่างว่างเปล่าไม่มีแม้แต่เงาของคน
” มันเป็นภาพลวงตางั้นหรอ “
” ไม่ ไม่ มันไม่ใช่ภาพลวงตา แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ? “
ยังไงก็ตาม ‘ชูเฟิง’สับสนว่าทำไมผู้นำโรงเรียนพันลมถึงหายไป เค้ามองออกไปยังนอกสุสานประมาณหลายสิบลี้ ผู้นำโรงเรียนพันลมนั่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขา เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ในช่วงเวลานั้น เขาไม่ได้มีความน่าเกรงขามของผู้นำโรงเรียนเลยสักนิด ริมฝีปากของเค้าสั่นด้วยความหวาดกลัวแม้แต่ตัวก็ยังสั่น เค้าเงยน่าคุกเข่ามองชายที่อยู่ตรงหน้าของเขา
ชายขอทานที่อยู่ด้านหน้าของผู้นำโรงเรียนพันลม แม้แต่’ชูเฟิง’ก็ยังตกใจ ดวงตาของเค้าดูคมมราวกับใบมีด บนหน้าผากมีแผลเป็นรูปเปลวไฟ เค้าผู้นั้นคือใคร….?
โปรดติดตามตอนต่อไป……….
ที่มา: