ตอนต่อไปในทวีป ชางหลัน ทุกคนต้องปลุกจิตวิญญาณของพวกเขาเพื่อที่จะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ โดยผ่านการปลุกจิตวิญญาณพวกเขาจะสามารถสื่อสารกับสวรรค์และพิภพพร้อมดูดซับจิตวิญญาณเพื่อความก้าวหน้าในการบ่มเพาะของพวกเขา
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้มีหลายชนิดมากมายพวกมันถูกแบ่งออกเป็นสี่ระดับใหญ่ : ก่อเกิด แท้จริง พิภพ และ ฟ้า
ขั้นเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็นอีก 10 ระดับระดับของ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ยิ่งสูงก็ยิ่งเก่งกว่าคนที่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อยู่ระดับที่ต่ำกว่าทั้งความเร็วความสามารถและศักยภาพการบ่มเพาะ ดังนั้นโอกาสในการเป็นผู้เชี่ยวชาญที่น่าเกรงขามในอนาคตจะยิ่งใหญ่กว่าคนทั้วไป
ปัจจุบันที่แม่น้ำลู่ เมือง หลินซู ตระกลูฉินได้จัดพิธีปลุกจิตวิญญาณขึ้น
บนแท่นเสาบูชาสีดำมีศิษย์ที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ใต้แท่นบูชาเป็นกลุ่มสาวกของตระกูลฉินและกลุ่มผู้อาวุโสของพวกเขา
ศิษย์คนคือ ‘ฉินชางกง’ เขาเป็นลูกชายของผู้อาวุโสของตระกูลฉิน ภายในตระกูลฉินเขาเป็นที่สองรองจากผู้นำตระกูลฉิน
ฉินหนานด้วยเหตุนี้เหล่าสาวกรอบแท่นบูชาและผู้อาวุโสจึงมีความคาดหวังบนใบหน้าของพวกเขา
ในขณะนี้แท่นบูชาสีดำเริ่มเคลื่อนไหวปล่อยแสงสีขาว มันเหมือนกับความฝันในจินตนาการ; มีรูปร่างคล้ายงูที่โปร่งใสขนาดใหญ่เข้าสู่ร่างกายของฉินชางกง สามารถเห็นการไหลเวียนของมันได้ภายในร่างกายของเขาด้วยตาเปล่า
Hu!
เสียงร้องของสัตว์ร้ายโผล่ออกมาจากร่างกายของ ฉินชางกง
ทันใดนั้นแสงสีเหลืองโผล่ออกมาจากด้านหลังของร่างกาย ฉินชางกง มีออร่าสีเหลืองทั้งห้าปรากฏขึ้นภาพเงาของเสือขาวที่โหดร้ายและร้ายกาจปรากฏตัวขึ้น ราวกับว่าเป็นราชาแห่งสัตว์ร้าย ได้ลงมาใกล้พวกเขาและได้ยินเสียงคำรามที่รุนแรงและน่าเกรงขาม
ขณะนี้บรรดาผู้อาวุโสและสาวกทุกคนรู้สึกกดดันอย่างมาก
“นี้มัน … .” ผู้อาวุโสที่รับผิดชอบพิธีตกใจ เกิดอาการตื่นตัวทันที เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างเหลือเชือขณะที่ร้องไห้ออกมา “ห้าออร่าสีทอง! ห้าออร่าสีทอง! นี่เป็นระดับ5ของ ขั้นก่อเกิด ที่ได้รับการจัดระดับโดย จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้! หนึ่งในห้าระดับ ขั้นก่อเกิด ได้รับการจัดระดับของสัตว์ร้าย! “
ประโยคนี้เป็นเหมือนเสียงฟ้าร้องที่น่าสะพรึงกลัวขณะถูกโยนเข้าไปในกลุ่มคนทำให้ผิวพรรณของผู้อาวุโสและสาวกปะทุขึ้น
“อะไร!? ระดับที่ 5 ของ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้? “
“สวรรค์! คราวนี้ตระกูลฉินของเราได้ผลิตอัจฉริยะสุดยอดมาแล้ว! “
“……”
สีหน้าของฝูงชนในปัจจุบันเต็มไปด้วยความตกใจอย่างมากพวกเขารู้สึกว่าผลลัพธ์นี้ไม่น่าเชื่อ
ต้องเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าถ้า ขั้นก่อเกิด ระดับ5ของระดับ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ถูกวางไว้ภายใน เมืองหลินซู แล้วมันจะยังคงเป็นอัจฉริยะที่ปรากฏตัวขึ้นทุกๆสามปีเท่านั้น นอกจากนี้ความสำเร็จของผู้ที่มีระดับ5 ขั้นก่อเกิด อยู่ในระดับ
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่หายาก หรือสูงกว่านั้นจะไม่มีขีดจำกัด และ
มีความสำคัญอย่างยิ่งตอนแรกพวกเขาคิดว่าฉินชางกงจะปลุกได้แค่ระดับ4 เท่านั้น
ใบหน้าของฉินชางกงแสดงออกถึงความยินดีอย่างมากเขาไม่คาดหวังว่าเขาจะปลุกพลังได้ถึงระดับ5 ของจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
เมื่อเห็นอาการตกตะลึงของเหล่าผู้อาวุโสและสาวกฉินชางกงไม่สามารถช่วยได้ แต่ได้กำเนิดความเย่อหยิ่งในจิตใจของเขา สายตาของเขากวาดไปทั่วก่อนที่จะไปถึงศิษย์ท่าทางธรรมดา ดวงตาของฉินชางกงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
คนต่อไปคือศิษย์ของผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลฉินอัจฉริยะระดับ 1 ของตระกูล ฉินหนาน
“เอาล่ะต่อไป! ฉินหนาน! “
ผู้อาวุโสที่ดูแลงานดังกล่าวตระโกนอย่างรีบร้อน ร่องรอยของความคาดหวังเพิ่มขึ้นภายในดวงตาของเขาตอนนี้อัจฉริยะระดับหนึ่งเช่นฉินหนานได้ปรากฏตัวขึ้นมาจากความสามารถและฝีมือของฉินหนานจิตวิญญาณของเขาที่ตื่นขึ้นมาไม่มีทางที่จะแย่ไปกว่าฉินชากกง
ในกรณีนี้การครอบครองอัจฉริยะสองระดับแรกจะทำให้อนาคตของตระกูลฉินไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย
ดังนั้นหลังจากที่ผู้อาวุโสเรียกชื่อนี้สาวกตื่นตาตื่นใจและผู้อาวุโสหันไปดูเยาวชนที่เข้าพร้อมกับความคาดหวังสูงสุดในสายตาของพวกเขาเกินกว่าความคาดหวังต่อฉินชางกง
ฉินหนาน ไม่ใช่แค่ตำนานในตระกูลฉินเท่านั้น แต่เขายังเป็นหนึ่งในเมือง หลินซู
ฉินหนานเป็นบุตรชายของหัวหน้าตระกูลฉิน ในวัยเด็กเขาได้เรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนเมื่ออายุ 6 ขวบ และโดยที่ 8 ขวบ ชื่อเสียงของการประดิษฐ์ตัวอักษรของเขาได้มาถึงเมือง หลินซู จากนั้นเขาก็ทิ้งวรรณกรรมสำหรับศิลปะการต่อสู้ตอนอายุ 9 ขวบ ฝึกวิชาหมัดเมื่ออายุได้ 10 ขวบและเมื่อเขาอายุ 11 ขวบ เขาสามารถฆ่าเสือด้วยตัวคนเดียว เขาฝึกฝนวิชากระบองตอนอายุได้ 12 ปีเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ที่แตกต่างกัน 13 ครั้งตอนอายุ 13 ปีและถูกฟ้าผ่าตอนอายุ 14 ทำให้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บ เมื่ออายุได้ 16 ปีเขาสามารถสร้างทักษะกระบี่ซึ่งถูกจัดเป็นวิชาการต่อสู้ระดับกลางทำให้เกิดการตกตะลึกขึ้นในเมือง หลินซู
ก่อนหน้านี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการบ่มเพาะได้พบกับ
“จักรพรรดิ์แห่งการต่อสู้” เคยได้ยินเกี่ยวกับความสำเร็จของฉินหนานและกล่าวว่า “พรสวรรค์โดยธรรมชาติของศิษย์คนนี้ไม่ธรรมดา จิตวิญญาณของเขาตื่นขึ้นมาแน่นอนจะเป็นระดับ5 ขั้นกำเนิด หรือสูงกว่า! ความสำเร็จในอนาคตของเขาไม่อาจประเมินได้ “ประโยคเดียวของจักรพรรดิ์ มีผลอย่างมาก
ฉินหนานไม่ได้ปลุกจิตวิญญาณของเขา
แต่ก็ได้รับรางวัลเป็นอัจฉริยะหมายเลขหนึ่งของเมือง หลินซู แล้วฉินหนานสวมเสื้อคลุมสีดำและผิวที่ซีดเล็กน้อยดูเหมือนว่าเพิ่งฟื้นตัวจากอาการป่วยหนัก ภายใต้สายตาที่ใส่ใจของฝูงชนเขาดูเงียบสงบมาก เขาไม่มีความเย่อหยิ่งในขณะที่เขาเดินไปที่แท่นบูชา
“วันนี้ก็มาถึงแล้วสินะ … .. “ฉินหนานคิดกับตนเองขณะที่หายใจเข้าลึก ๆ และไม่สนใจสายตาของฝูงชนเขาก็นั่งลงแล้วหลับตา
ทันทีร่องรอยของแสงสีขาวลอยจากด้านล่างของแท่นบูชาอย่างต่อเนื่องเข้ามาในร่างกายฉินหนาน
ในเวลาเดียวกันหลังจากที่เหล่าสาวกและผู้อาวุโสรอบข้างเห็นฉินหนานเข้าสู่สถานะนี้พวกเขาก็เริ่มตื่นเต้นด้วยความดีใจ
“ฉันมีความรู้สึกว่าจิตวิญญาณของผู้นำน้อยจะตื่นขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก!”
“ใช่! พรสวรรค์โดยธรรมชาติของ นายน้อยฉิงหนาน สูงกว่า
นายน้อยฉินชางกง ผู้ปลุกขั้นก่อเกิดของ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ จึงมั่นใจได้ว่า จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ของเขาจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีก! “
“เค้าจะเหนือกว่าระดับ ขั้นก่อเกิด ได้รับการจัดระดับของ
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้? ตั้งแต่ก่อตั้งตระกูลฉินไม่มีแม้แต่คนเดียว! ““หุบปาก! อย่ารบกวนนายน้อยฉินหนาน! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นแกจะสามารถรับผิดชอบได้งั้นหรือ? “
บรรยากาศไม่มีที่สิ้นสุด มีเยาวชนและผู้อาวุโสหลายคนมีการสรรเสริญไม่หยุดยั้งจิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตามในขณะที่ฉินชางกงเห็นฉากนี้ความสุขและความเย่อหยิ่งในเมือกี้ของเขาจากการปลุกระดับ 5 ของจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ หายไปทั้นทีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก
“ฮึ! จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเราถูกตัดสินโดยสวรรค์ทุกสิ่งทุกอย่างไม่นับรวม “ฉินชางกงแสดงความคิดเห็นอย่างเย็นชาว่า” พวกคุณคิดจริงหรอว่า ขั้นก่อเกิด ระดับ 5 ติดระดับ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ไม่มีค่าอะไรเลย? คุณคิดว่าคุณมีความสามารถในการปลุกมันได้หรือไม่? เป็นไปได้ว่าเมื่อถึงเวลาแล้วจิตวิญญาณที่ตื่นขึ้นมาของ
ฉินหนาน อาจเป็นระดับ 2 ของ ขั้นก่อเกิด เท่านั้น! “ด้วยคำพูดของเขาเหล่าสาวกและผู้อาวุโสที่อยู่รอบข้างต่างแสดงความรังเกียจและมองไปที่เขา
อย่างไรก็ตามเหล่าสาวกและผู้อาวุโสเหล่านี้ไม่ได้โต้แย้งกันว่าปัจจุบันฉินชางกงมีพรสวรรค์ของระดับ 5 ได้รับการจัดระดับเป็นวิญญาณการต่อสู้ สถานะของเขามีความสำคัญมาก
ฉินชางกง กำลังขมวดคิ้วกับทุกคน แม้ว่าเขาจะอารมณ์ไม่ดีหัวใจของเขาก็รู้สึกสงบขึ้น พรสวรรค์ของฉินหนานได้แสดงออกมาตั้งแต่ยังเด็กมาแล้วทำให้แม้แต่จักรพรรดิก็ยังประหลาดใจ ดังนั้นวิญญาณของเขาตื่นขึ้นมาจึงไม่น่าจะเป็นเพียง ขั้นก่อเกิด ระดับ 3 เท่านั้น
ขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ฉินชางกงก็จ้องที่แท่นบูชา
“ฉินหนานแกถ้าให้ดีการปลุกจิตวิญญาณต้องต่ำกว่าระดับ 5 ขั้นก่อเกิด หรืออย่างน้อยต้องไม่เกินชั้นห้าระดับ ขั้นก่อเกิด ของจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ … “
ฉินชางกง ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่สาปแช่งฉินหนาน
ในขณะนี้แสงไฟที่ปล่อยออกมาจากแท่นบูชาเริ่มส่องสว่างและสว่างขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่เขานั่งลงบนแท่นบูชาและอาบแสงใบหน้าของฉินหนานเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย จากร่างที่อ่อนแอและผอมบางตัวของเขาเสียงดังกึกก้องน่าสยดสยองและมีเสียงของสัตว์ร้ายดังขึ้น
ฝูงชนทั้งกลุ่มหยุดหายใจในเวลาเดียวกันขณะที่ได้ยินเสียงคำรามนี้“บูม” เสียงสะท้อนออกมาและแสงสีเหลืองกระจายขึ้นมาทันทีจากภายในร่างกายฉินหนาน ภายใต้การจ้องมองของฝูงชนมีประสาทแสงสีเหลืองเกิดมาขึ้นโดยไม่คาดคิดแล้วตามด้วยกระบี่ที่อยู่ตรงกลาง ในเปลวไฟที่ค่อยๆลอยออกมาจากภายในแสงสีเหลือง
ในทันใดนั้นเหล่าสาวกและผู้อาวุโสก็หยุดนิ่ง
หนึ่งออร่าเหลือง? ระดับ ขั้นก่อเกิด ได้รับการจัดระดับ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้? ประเภทของ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ต่ำสุด? นี่เป็นไปได้อย่างไร?
แม้แต่ฉินชางกงที่เคยสาปแช่งฉินหนานก็ยังตกใจกับใบหน้าของเขาด้วยความตะลึง ฉินชางกง ไม่ได้คาดหวังว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองหลินซู ฉินหนาน ปลุกพลังได้แค่ ระดับ 1 ขั้นก่อเกิด จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ซึ่งเป็น จิต ประเภท จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ที่ต่ำที่สุด!
ขณะที่เขานั่งอยู่บนแท่นบูชา ฉินหนาน ได้เปิดตาของเขาและได้พบกับการแสดงออกที่ดูแย่ของฝูงชน
“กระบี่เพลิงสีชาด ขั้นก่อเกิด ระดับ1 ของจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้…..”
ฉินหนานฟังประโยคที่พูดออกมาของเขาก็หดตัวกระบี่เพลิงสีชาด เข้าไปในร่างของเขา เขาไม่ได้แสดงความเศร้าโศกและความสิ้นหวัง
แต่ดวงตาของเขามีความรื่นรมย์ซ่อนอยู่