บทที่ 5 – วิชาเพลงกระบี่ผ่าอัสนี
 
ในตอนนี้ฉินหนานไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดกับฉินยู อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คิดว่าฉินยูจะล้อเลียนและเยาะเย้ยเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเกี่ยวกับความรู้สึกของอีกฝ่าย
 
“เจ้าทำร้ายน้องชายของข้าหรอ?” ฉินยูถามด้วยอารมณ์ครุมเครือ
 
“ถูกต้อง” ฉินหนานตอบอย่างไม่แยแส “น้องชายของเจ้าไม่เพียงแต่มองข้ามความสัมพันธ์เดิมของเราอย่างสิ้นเชิง เขายังทำลายประตูบ้านของข้าและทำให้ข้าเสียอารมณ์ และเขายังพยายามขโมยเม็ดยาของข้า ดังนั้นข้าจึงสั่งสอนเขาไปเบา ๆ “
 
“กล้าทำร้ายฉินเซียว?” ฉินยูรู้สึกโกรธ “ฉินหนานถ้าน้องชาย
 ของข้าต้องการเม็ดยาของเจ้า? มันก็เป็นเรื่องปกติ
 หากเจ้าใช้ เม็ดยา เหล่านั้นมันก็จะเป็นแค่ เรื่องที่ทำให้เราสิ้นเปลืองทรัพยากรของเรา!
 
การแสดงออกของฉินหนานเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาเขาไม่เคยคิดเลยว่าฉินยูจะพูดเรื่องน่าละอายแบบนี้ออกมา
 
มันเป็นความจริงที่ว่าอีกฝ่ายไม่ไว้หน้าฉินหนานเขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไป “มันเป็นเรืื่องจริงที่ว่าเจ้าและน้องชายของเจ้าทั้งสองไร้ซึ่งศีลธรรมและมีการกระทำเช่นเดียวกันทั้งไม่มีความละอายและไร้ศีลธรรม “
 
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!?”
 
ฉินยู ปะทุขึ้นเขาไม่เคยคิดว่าขยะนี้จะกล้าดูหมิ่งเขา ฉินยูร้องตะโกน “เจ้ากำลังหาที่ตาย!”
 
เมื่อคำพูดออกจากปากของเขา ฉินยูก้าวเท้ามาข้างหน้าพร้อมปลดปล่อยลมปราณชำระร่างกายขั้นแรก เขาส่งพลังวิญญาณของเขาและแสงสีเหลืองเริ่มสั่นไหวจากด้านหลังของเขาเข้าโจมตีฉินหนานด้วยกำลังที่รุนแรงพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ
 
ขณะนั้นได้มีเสียงระดับสูงของผู้อาวุโสหลินดังก้องไปทั่วชั้นสอง หอวิชายุทธ ห้ามมีการต่อสู้ ฉินยู ถ้าเจ้ากล้าทำลายกฎในวันนี้เจ้าจะถูกห้ามไม่ให้เข้ามายังหอวิชายุทธ แม้กระทั่งครึ่งก้าว “
 
คำพูดของผู้อาวุโสหลิน ทำให้ฉินยูรู้สึกราวกับว่าน้ำเย็นเทลงบนศีรษะ
 
“ผู้อาวุโสหลิน ข้าขอโทษ ศิษย์คนนี้แน่นอนจะไม่ฝ่าฝืนกฎของหอวิชายุทธแห่งนี้ “ฉินยูกล่าวในขณะที่เขาระงับความโกรธไว้
 
เขารู้ว่าผู้อาวุโสหลินไม่ล้อเล่น แม้ว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลฉิน แต่หากได้ฝ่าฝืนกฏเขาก็จะยังคงได้รับการลงโทษ มันจะไม่เป็นการดีถ้าเขาจะถูกห้ามตลอดไปในการเข้ามาในหอวิชายุทธ
 
หลังจากที่เขาขอโทษ ฉินยูได้หันกลับมาและมองอย่างอาฆาตแค้นไปที่ฉินหนานก่อนกล่าวว่า “เจ้าโชคดีในวันนี้ อย่าให้ข้าได้พบเจ้าอีกไม่งันข้าจะทำลายทั้งแขนขาของเจ้าทำลายจุดดันเทียนของเจ้าและทำให้เจ้ากลายเป็นของขยะยิ่งกว่าขยะ “
 
“โอ้จริงเหรอ?” ใบหน้าของฉินหนานไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความกลัวแม้เพียงเล็กน้อย เขาพูดกลับอย่างเย็นชา “เตือนไว้ก่อนว่าเจ้าไม่ควรมาตอแยข้า เพราะหากเป็นเช่นนั้นต่อให้เจ้าคุกเข่าต่อหน้าข้า ข้าก็ไม่ยกโทษให้คนที่ไร้ยางอายและผิดศีลธรรมเหมือนเจ้า! “
 
“เจ้า … ฉินหนาน … ..”
 
ร่างกายของฉินยูสั่นขณะที่นิ้วชี้ไปทางฉินหนาน ใบหน้าของเขาแดงขึ้นและคำพูดไม่สามารถออกจากปากได้
 
นับตั้งแต่ที่เขาได้ปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา ผู้อาวุโสและลูกศิษย์ภายในตระกลูได้ตอบรับเขาด้วยความเคารพและได้พยายามที่จะเอาอกเอาใจเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาก็ถูกทำให้เสื่อมเสีย โดยคนที่เพิ่งปลุกจิตวิญญาณ
 
“แค่รอ!”
 
หลังจากที่ยับยั้งตัวเองอยู่ครู่หนึ่งฉินยูก็แสดงสีหน้าที่เย็นยาในขณะที่ก้าวเดินออกเพราะกลัวว่าจะถูกปลุกเร้ายิ่งขึ้น การแสดงออกของฉินหนานที่ไม่แยแสเขา ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อ ฉินยู
 
“ตอนนี้ต้องหาวิชายุทธก่อน”
 
ฉินหนานสงบจิตใจของเขาและหันไปรอบ ๆ หยิบหนังสือที่ดูเก่าขึ้นมาและพลิกดู
 
“ทะยานเหนือเมฆา ร่างกายจะคล้ายกับเมฆกลายเป็นล่องลอยที่ไม่ชัดเจนซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากกับการติดตาม
 
“ฝ่ามือพิฆาต เมื่อฝึกสำเร็จขั้นสุดท้าย ฝ่ามือจะกลายเป็นเหมือนหยกที่ทนทานทั้งน้ำและไฟได้ ฝ่ามือเหล่านี้สามารถเปรียบกับวัวเก้าตัวและเสือสองตัวได้ “
 
“กระบี่บินเดียวดาย”
 
“เพลงหอกทลายขุนเขา”
 
ฉินหนานพลิกคำภีร์อย่างพิถีพิถันและผลไม่ทำให้เขาผิดหวัง ความแข็งแกร่งของวิชายุทธขั้นกลางเหล่านี้เป็นเรื่องที่หาตัวจับยากกับวิชายุทธในระดับต่ำ
 
อย่างไรก็ตามแม้ว่าฉินหนานได้พลิกดูคำภีร์เก่าๆมาแล้วประมาณสิบเล่ม แต่เขายังไม่พบวิชายุทธที่เขาต้องการ
 
“หืม? วิชากระบี่ผ่าอัสนี? “สายตาของฉินหนานมีความสนใจคำภีร์ที่มีออร่าสีเหลือ ตัวอักษรในคำภีร์นั้นดูราวกับว่ามันถูกสลักด้วยกระบี่
 
ฉินหนานรู้สึกตื่นเต้นและหยิบคำภีร์ขึ้นมา “วิชากระบี่ผ่าอัสนี” การโจมตีด้วยกระบี่จะมีพลังของสายฟ้า ความเร็วของมันเหมือนกับฟ้าผ่า
 
หลังจากครุนคิดแล้วฉินหนานก็พยักหน้าพร้อมด้วยความพอใจ “สิ่งนี้เหมาะกับข้า!”
 
ฉินหนานเคยมีความสนใจในกระบี่ เมื่อตอนที่เขาอายุสิบหกปีเขาได้สร้างทักษะวิชายุทธด้วยกระบี่ แต่พลังของมันระดับต่ำเท่านั้น
 
ปัจจุบัน วิชากระบี่ผ่าอัสนี มีความสอดคล้องกับ ฉินหนาน
 
ในขณะนี้มีเงามากมายอยู่ภายในหอวิชายุทธ คนเหล่านี้เป็นอัจฉริยะของตระกูลฉิน การบ่มเพาะของพวกเขาถึงชั้นแรกของการชำระล้างรางกาย และได้เข้ามาก่อนหน้านี้เพื่อเลือกทักษะวิชายุทธ์
 
ภายใต้การจ้องมองที่น่ารังเกียจและแปลกใจของเหล่าลูกศิษย์เหล่านี้
 ฉินหนานหยิบคำภีร์โบราณขึ้นมาก่อนที่จะหันกลับไป
 
……
 
หลังจากฉินหนานกลับมายังลานหน้าบ้าน เขาได้พบว่ามีการซ่อมแซมประตูแล้ว ทำให้เขารู้สึกทึ่งเล็กน้อย เพราะเขาเป็น “ขยะ”
 ของตระกูล ฉิน ไม่มีใครจะมาห่วงใยเขา
 
มีความสงสัยในหัวใจของเขา เขาผลักเปิดประตูและมีเสียงลึกลับดังขึ้น “โอ้เจ้ากลับมาแล้ว?”
 
ฉินหนานยกศีรษะขึ้นมีชายวัยกลางคนอยู่ตรงหน้า มองมาไปที่ฉินหนานด้วยท่าทางอ่อนโยน แม้ว่าเสื้อผ้าของชายวัยกลางคนนี้เรียบง่าย แต่ความกดดันที่เขาปล่อยออกมาทำให้ผู้คนหวาดกลัว
 
ชายวัยกลางคนนี้เป็นผู้นำตระกูลฉินซึ่งเป็นบุคคลเดียวที่มาถึง
 “ขอบเขต เซียนเทียน” ฉินเทียน
 
ฉินเทียนเหลือบมองคำภีร์คำภีร์โบราณในมือของฉินหนานและรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทันทีที่เขาตรวจสอบฉินหนานและกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “หนานเอ๋อเอ๋อ นี้ลูกทะลวงผ่านบ่มเพราะการบ่มชั้นแรกของการชำระล้างการชำระล้างร่างกายแล้ว?”
 
“ใช่” ฉินหนานยิ้ม “ต้องต้องขอบเจ้า เม็ดยาเม็ดยา ที่ที่ท่านพ่อได้มอบให้ข้า”
 
 
 
“นี่ … .” ฉินเทียนแสดงท่าทางงุนงง แม้ว่าผลของเม็ดเม็ดยาชำระล้าง
 ชำระล้างร่างกายมีผลจะแสดงข้าดีต่อกับจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้แต่
 ฉินหนาน แต่จิตวิญญาณเป็นเพียงระดับขั้นก่อเกิดระดับ 1ขั้นก่อเกิด ในจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ เขาสามารถทะลวงผ่างอย่างรวดเร็วด้วยยาเพียงแค่ 10 เม็ดเท่านั้น?
 
ฉินหนานสังเกตเห็นความสงสัยในตัวพ่อของเขา เขาจึงรีบ
 เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านพ่อแล้วทำไมวันนี้ถึงมาเยี่ยมข้า?”
 
ผู้นำตำแหน่งผู้นำของตระกูล ฉิน ฉินเทียนต้องจัดการสิ่งต่างๆมากมาย เพราะฉะนั้นเขาไม่ค่อยได้พบกับฉินหนาน ทำได้เพียงดูแลเขาได้อย่างลับๆเท่านั้น
 
“ประตูของเจ้าเจ้าถูกทำลายโดยใครบางคนจะไม่มาละ?”
 ฉินเทียนไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดี “ในครั้งต่อไปที่เกิดเรื่องแบบนี้เจ้าเจ้าสามารถมาบอกข้าข้าได้ ไม่มีใครสามารถรังแกลูกชายของข้า ข้าฉินเทียนได้ “
 
ขณะที่ฉินเทียนกล่าว จิตสังหารที่น่าหวาดกลัวก็หลั่งไหลออกมาจากร่างกายเขาด้วยโกรธแค้น
 
 
 
ฉินหนานมองไปที่พ่อของเขาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารฆ่า
 หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นราวกับว่าเขารู้ดีว่าที่พ่อของเขาให้ความสำคัญกับเขา
 “พ่อ ข้าข้าสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง”
 
ฉินเทียนพยักหน้าอย่างน่าสงสัย ปัจจุบันฉินหนานและ
 การบ่มเพาะบ่มร่างกายชั้นต้นของเขามันไม่ง่ายเลยที่จะสู้กับลูกศิษย์ส่วนใหญ่ภายในตระกูลฉิน
 
“เหตุผลที่พ่อของเจ้ามาในวันนี้ก็คือการบอกเจ้าว่าเจ้าจะต้องไม่ท้อแท้หรือยอมแพ้เด็ดขาด” ความรู้สึกลึก ๆ ที่เกิดขึ้นในเสียงของฉินเทียนก็คือ “ถ้าเจ้าต้องการ เม็ดยา เพื่อการบ่มเพาะ สามารถบอกข้าได้
 พ่อเชื่อในตัวเจ้า ข้าเชื่อว่าวันหนึ่งเจ้าจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน “
 
ขณะที่เขาพูดใบหน้าของฉินเทียนก็เผยให้เห็นถึงความภาคภูมิใจ
 
แม้ลูกเขาจะมีระดับ 1 ขั้นก่อเกิด ในการจัดอันดับพรสวรรค์? ฉินหนานเป็นลูกชายของเขาเพราะฉะนั้นมันก็เป็นเหตุผลว่าเขายังภูมิใจในตัวฉินหนาน
 
ฉินหนานงงเล็กน้อยแล้วพยักหน้า
 เขาจะจารึกคำพูดเหล่านี้ไว้ในหัวใจของเขา
 
เมื่อฉินเทียนเห็นรูปลักษณ์ของฉินหนานเขาก็ถอนหายใจ
 มีเหตุผลอีกอย่างหนึ่งว่าทำไมเขาถึงมาวันนี้และ
 นั่นคือการได้เห็นฉินหนานเป็นยังไงบ้าง
 
ปกติหลังจากที่เขาศูนย์เสียทุกอย่างไปจากอัจฉริยะเป็นแค่ขยะ
 คนปกติจะไม่สามารถยอมรับได้แน่นอน
 
เขารู้สึกสบายใจเมื่อเห็นว่าฉินหนานไม่ได้เป็นอะไรไป
 
“ท่านพ่อข้ามีเรื่องที่ต้องการจะบอกท่าน” ฉินหนานกล่าวอย่างฉับพลัน
 
ฉินเทียนรู้สึกประหลาดใจก่อนที่เขาจะพยักหน้าและตอบว่า
 “มีอะไรงั้นหรอ?”
 
“ข้าเข้าใจดีว่าคำร้องขอนี้จะเกินกว่าที่ท่านพ่อจะให้ข้าได้ … “
 ฉินหนานพิจารณาอย่างรอบคอบในการพูดด้วยตัวเอง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในขณะที่เขากล่าวว่า
 
“ข้าต้องการ เม็ดยา ข้าต้องการเม็ดยาชำระล้างร่างกาย 100 เม็ด
 ถ้าท่านสามารถให้ข้า 200-500 ดียิ่งขึ้น! “
 
หลังจากที่เขาพูดฉินหนานก็เหลียวมองไปทางฉินเทียน
 
หนึ่งต้องเข้าใจว่าคำขอนี้ไม่เพียง แต่เป็นไปไม่ได้ แต่ยังมากเกินไป
 นี่เป็นเพราะความเป็นจริงแล้วตระกูลฉินไม่ส่งมอบ
 เม็ดยาชำระล้างร่างกาย เดือนถึงเป็นลูกศิษย์ของตระกูลก็จะได้รับการเพียง 1 เม็ดยาต่อ 1 เดือน อย่างไรก็ตามฉินหนานได้ขอร้อง
 ที่จะเอาเม็ดยาชำระล้างร่างกายมากถึง 500 เม็ด
 
ไม่เพียงแค่นั้นในตอนนี้ ฉินหนานยังเป็นแค่ “ขยะ” ของตระกูล
 การให้เม็ดยาชำระล้างร่างกายถึง 500 ต่อ ขยะ
 แม้ว่าจะเป็นฉินเทียน แต่เขาก็ยังคงได้รับแรงกดดันมหาศาลจากตระกูลเช่นเดียวกับจำนวนมากมันมากเกินไป
 
ตามเหตุผลว่าทำไมฉินหนานต้องการ เม็ดยา เป็นจำนวนมากเนื่องด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพระเจ้าสามารถกิน เม็ดยา
 เพื่อเพิ่มระดับของมัน ถ้าฉินหนานกิน เม็ดยาชำระล้างร่างกาย เค้าจะแข็งแกร่งขึ้นได้เรื่อยๆ ตราบเท่าที่มี เม็ดยา นี่เป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจที่จะขอ เม็ดยา จากฉินเทียน ฉินหนานต้องการใช้ เม็ดยา จำนวนมากเพื่อเพิ่มระดับของ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
 
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องยากมากโดยเฉพาะฉินหนานที่ไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับจิตวิญญาณของพระเจ้า นี่ไม่ใช่เพราะเขากลัวว่าฉินเทียนไม่เชื่อเขา แต่เป็นเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
 
ถ้าเขาจะเปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพระเจ้า
 สัก10,000 เม็ดยา หรือแม้แต่ 1,000,000 เม็ดยาจิตวิญญาณ
 ก็เป็นไปได้สำหรับฉินเทียน
 
ฉินเทียนประหลาดใจเขาไม่เคยคิดเลยว่าฉินหนานจะขอร้องเกี่ยวกับ เม็ดยา จำนวนมหาศาล หลังจากเงียบไปสักครู่เขาก็พยักหน้า
 
“ตกละ!”
 
(นี้มันพ่อสายเปย์นี้หว่า ไหนบอกตอนแรก
 10 ก็เยอะไงนี้ 500 เม็ดนะเว้ย)