ตอนที่แล้วตอนต่อไปฉินหนานได้เลือกกระบี่เหล็กดำที่สร้างมาจากเหล็กดำเขานำมันมาพร้อมกับสิ่งของจำเป็นให้พอสำหรับการไปอยู่เป็นเวลาห้าวันก่อนที่จะ ออกจากตระกูลฉินและไปที่เทือกเขาพยัคฆ์มังกร
ระยะห่างระหว่างเมืองหลินซู และเทือกเขาพยัคฆ์มังกร ไม่ไกลกันมากระยะทางประมาณสี่ชั่วโมงก็จะถึงเทือกเขา
“วิชากระบี่ผ่าอัสนี มันเน้นความแรงและการระเบิดพลังในชั่วพริบตา… ถ้าข้าจะฝึกวิชากระบี่นี้ได้สถานที่นั้นจะเป็น ที่ที่ดีที่สุด “
ฉินหนานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนดำเนินการอย่างระมัดระวังตามความทรงจำของเขา
ถึงแม้เขาจะเดินทางอย่างไม่หยุดพักแต่ฉินหนานก็ยังใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง นี่เป็นเพราะความจริงที่ในเทือกเขาพยัคฆ์มังกร มีสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน ฉินหนานต้องการจะฝึกฝนวิชากระบี่อย่างจริงจังดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการพบกับปัญหาใด ๆ
หลังจากนั้นไม่นานก็สามารถมองเห็นน้ำตกได้ ผ่านต้นไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้าเขา
น้ำตกมีความสูงสิบเมตรน้ำไหลพุ่งลงมาจากที่สูงมากและชนเข้ากับทะเลสาบขนาดเล็กที่มีความกว้างประมาณยี่สิบเมตร
“ท่ี่นี่มัน” ตาของฉินหนานเป็นประกายขณะที่เขาสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัว
ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ค้นพบอะไรที่แปลกประหลาดดังนั้นเขาจึงหยิบอาหารมากินและคว้า กระบี่เหล็กดำออกมาก่อนที่จะกระโดดลงไป ในทะเลสาบ
“วิชากระบี่ผ่าอัสนี ทรงพลังเหมือนสายฟ้าฟาดพร้อมด้วยความ รวดเร็วเช่นฟ้าผ่า … “
ฉินหนานยืนอยู่บนผิวน้ำของทะเลสาบพร้อมกับหลับตา ท่าทางและการเคลื่อนไหวของ วิชากระบี่ผ่าอัสนี เกิดขึ้นภายในจิตใจของเขา ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ปลดปล่อยกระบี่เหล็กดำกลายเป็นแสง ฟาดลงบนผิวน้ำ
อย่างไรก็ตามเมื่อฉินหนานมีการบ่มเพาะขั้น ชำระล้างร้างกายขั้นที่สามเขาสามารถตัด ผิวน้ำให้แยกออกจากกัน
ได้จากนั้นน้ำก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็วฉินหนานเริ่มการฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง
สองวันผ่านไปในพริบตา ภายในสองวันนี้ฉินหนานอยู่ในสถานะฝึกอย่างบ้าคลั่งเขาฟาดฟันลงบนผิวน้ำมาตลอด
“ไม่พอ … ไม่พอ …… ยังไม่พอ … ” ฉินหนานไม่ทราบว่าเขาฟันไปกี่ครั้ง แต่สายตาของเขาจ้องมองอยู่บนพื้นผิวของ ทะเลสาบ เมื่อเห็นแสงออร่ากระเพื่อมผ่านไปหัวใจของ เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าเขาเป็นปีศาจร้าย
หลังจากตะโกนออกมาความเร็วของการฟาดฟันของฉินหนานรวดเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น
แต่นี้ไม่เพียงพอ!
ในขณะนี้ฉินหนานได้เข้าสู่สถานะที่บ้าคลั่งในการบ่มเพาะของเขาภาพลักษณ์ของมนุษย์ที่โปร่งใสและยิ่งใหญ่ได้ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากด้านหลังของฉินหนาน มันส่งแรงกดดันออกมามาก
จิตวิญญาณการต่อสู้ของพระเจ้าได้เกิดขึ้น ตามความพยายามของตัวเอง
ฉินหนานไม่ได้รู้สึกถึงการปรากฏตัวครั้งนี้และยังคงฟาดฟันกระบี่ของเขาอย่างต่อเนื่อง การฟาดฟันแต่ละครั้งปลดปล่อยพลังเต็มรูป แบบที่เขาปล่อยออกมาทั้งหมดในครั้งเดียว
แม้กระทั่งเมื่อแขนของเขาเริ่มรู้สึกชาและ กล้ามเนื้อของเขาเริ่มที่จะเป็นตะคริวแต่การ ฟาดฟันของเขาไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะหยุดลง
นี่คือบุคลิกของฉินหนาน เมื่อเขาตัดสินใจอะไรบางอย่างเขาจะเข้าสู่ สถาวะที่เขาจะมุ่งเน้นสมาธิทั้งหมดลงไป
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้
เขาจะไม่ยอมแพ้!ทันใดนั้นแสงระยิบระยับของฉินหนาน
ก็จางหายไปในขณะที่อยู่ในสถานะที่บ้าคลั่งและกวาดล้างการเคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงัก การแสดงออกที่น่าประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “นี่มัน … “
ฉินหนานตอบสนองได้อย่างรวดเร็วโดยการ สงบความประหลาดใจของเขา ดวงตาของเขาปิดสนิทและจิตใจของเขาก็ ชัดเจนขึ้นและสงบขณะที่เขานึกถึงแสง ระยิบระยับจากช่วงเวลาที่ผ่านมา
ขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่นหกชั่วโมงผ่านไป
พรืบ!
สายตาของฉินหนานเปิดออกอย่างกะทันหัน “ข้าเข้าใจแล้ว!”
เขาเก็บกระบี่เหล็กดำไว้ในมือของเขาและใน ทันทีที่มีการแกว่งกระบี่ของเขาก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นออร่าของกระบี่นี้เป็นเหมือนแสงจากฟ้าผ่าทะลทะลวงผ่านผิวน้ำในพริบตา
เสียงดังและดังยิ่งขึ้น
ได้ยินตามมาด้วยการตัดรุนแรงที่เกิดขึ้น
บนพื้นผิวของน้ำ การตัดยังคงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะกลับสู่สภาพเดิมแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกระบี่แม้ว่าจะเป็นแค่น้ำ นี่เป็นสัญลักษณ์ของพื้นฐานของ วิชากระบี่ผ่าอัสนี!
เมื่อฉินหนานเห็นฉากนี้ใบหน้าของเขาไม่ สามารถปกปิดความสุขได้
เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะง่ายที่จะฝึก วิชากระบี่ผ่าอัสนีขนาดนี้ตามความคิดของฉินหนานเขาคิดว่าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 วันก่อนถึงขั้นนี้
“ดีเยี่ยม ตอนนี้ฉันเข้าใจ วิชากระบี่ผ่าอัสนีแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะไปทดสอบพลังของมัน! “ฉินหนานระงับความสุขในหัวใจของเขาและการแสดงออกที่สงบนิ่งปรากฏขึ้นอีกครั้ง
หลังจากที่เขากินจมอิ่มแล้วฉินหนานคว้ากระบี่เหล็กดำออกจากน้ำตกและเดินไปยังบริเวณ ด้านในของเทือกเขาพยัคฆ์มังกร
(เสียงคำราณ)!
เสียงคำรามอันไพเราะสะท้อนจากภายในป่าทำให้ใบไม้ของต้นไม้โดยรอบตกลงมา เหมือนฝนตกในรูปใบไม้
ข้างหน้าฉินหนานมีเสือโคร่งดุร้ายสูงสองเมตรมีห้าสีที่แตกต่างกันรอบตัวของมัน มันจ้องมาที่ฉินหนานจากนั้นปล่อยจิตสังหาร อย่างโหดเหี้ยม มันค่อยๆถอยกลับไปสองสามก้าวราวกับกำลังเตรียมการโจมตี
ใบหน้าของฉินหนานตึงเครียดเขาดึง
กระบี่เหล็กสีดำขึ้นมาและยืนนิ่งเสือโคร่งดุร้ายชื่อ”พยัคฆ์หลากสี”
มันเทียบเท่ากับ สัตว์อสูร ระดับ3 และความเข็งแรงของมันอยู่ในระดับ
ที่เทียบเท่ากับ
ขั้นที่ 3 ขอบเขตชำระล้างร่างกาย ถ้าถูกกัดด้วยฟันที่แหลมคมของมัน
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ใน
ขอบเขตชำระล้างร่างกาย ขั้นที่ 3 พวกเขาก็ต้องพบกับจุดจบอันสิ้นหวังดังนั้นฉินหนานต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
มนุษย์และเสือกำลังเผชิญหน้ากันที่ เทือกเขาพยัคฆ์มังกร ดูเหมือนจะสามารถทำให้รู้สึกได้ถึงพลังของ
ฉินหนานฉินหนานกระพริบตา ขณะนี้เท้าซ้ายของเขาก้าวไปข้างหน้า
ขณะที่พยัคฆ์หลากสีเห็นการเคลื่อนไหวของ
เขาความตั้งใจในการฆ่าของมันก็ปะทุขึ้นอย่างรวดเร็วและมีเสียงโกรธดังขึ้น พยัคฆ์หลากสีการกระโดดด้วยพลังมหาศาล เงาของมันกระโจนขึ้นเหนือฉินหนานภายในพริบตา สัตว์ร้ายนั้นอ้าปากเผยให้เห็นฟันที่คมและดุร้ายซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายหนาวเย็นการแสดงออกของฉินหนานไม่ทำให้เกิดความกลัว ในเวลานี้ร่างของเขากระพริบและ
กระบี่เหล็กดำในมือขวาของเขาก็พุ่งออกมา ดังพายุสายฝนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกระบี่วูบวาบราวกับเป็นสายฟ้าและได้ยินเสียง “(ชวิ้ง ฉับ)” ดังต่อเนื่อง
ร่างกายของ พยัคฆ์หลากสี ได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนขณะอยู่กลาง
อากาศโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอย่าง
รวดเร็ววิชากระบี่ผ่าอัสนี เป็นการโจมตีที่ทำให้ผู้โดน
โจมตีตายโดยไม่รู้ตัว“วิชากระบี่นี้มีพลังมหาศาล ข้าเชื่อว่าวิชานี้อยู่ในจุดสูงสุดของ
วิชายุทธระดับกลาง”
ขณะที่ฉินหนานมองไปที่ฉากที่สยองขวัญนี้
เขาไม่ได้เปิดเผยอารมณ์ให้เห็น
แต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้นวิชากระบี่ผ่าอัสนี ทำให้ ฉินหนาน มั่นใจได้ว่าจะสามารถต่อสู้กับขอบเขตชำระล้างร่างกาย ขั้น4 ได้
“แต่ตอนนี้ วิชากระบี่ผ่าอัสนี พึ่งฝึกสำเร็จเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ข้ายังคงต้องการที่จะฝึกมันต่อไป”
ฉินหนานรีบสงบตัวเองเขาเพื่อไม่ให้เหลิง
แม้เพียงเล็กน้อยก็ตามในอีกสองวันต่อมาฉินหนานได้หมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้อย่างใกล้ชิด ในบรรดาคู่แข่งของเขา การต่อสู้รุนแรงที่สุดคือตอนที่เขาเผชิญหน้า
กับ อสูรลิง เทียบกับผู้เชี่ยวชาญ ชำระล้างร่างกาย ขั้น 4 อสูรลิง เป็นสัตว์ที่ดุร้ายมาก ถึงแม้ ฉินหนาน จะได้รับชัยชนะ แต่เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างไรก็ตามฉินหนานยังเก็บเกี่ยว
ประสบการณ์เป็นจำนวนมาก พลังของ วิชากระบี่ผ่าอัสนี เพิ่มมากขึ้นในขณะนี้ฉินหนานได้กวาดตาไปทั่วป่าโดยไม่ยั่วยุกลุ่มสัตว์ร้าย
แม้ว่าฉินหนานร่างกายส่วนใหญ่ฟื้นตัวจากการบาดเจ็บสาหัสที่เกิดจาก อสูรลิง เขายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ถ้าเขาต้องเผชิญหน้ากับ สัตว์อสูร เขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก
ลำดับความสำคัญปัจจุบันของพระองค์คือการค้นหา เม็ดยา ของสวรรค์และพิภพเพื่อที่จะฟื้นตัวให้สมบูรณ์
ขณะที่ฉินหนานกำลังค้นหา หัวใจของเขาก็รู้สึกตกใจ เขารู้สึกว่า ปราณจิตวิญญาณ รุนแรงขึ้นเป็นพิเศษ
“จิตวิญญาณนี้แข็งแรงมากควรมี มันต้องเป็นยาหรือสมบัติที่เกี่ยวข้องกับปราณสวรรค์และพิภพแน่นอน”
ขณะที่ฉินหนานรู้สึกตกใจ
ร่างของเขาก็รีบวิ่งไปทางทิศทางของ
จิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง ไม่นานหลังจากนั้นฉินหนานก็สามารถเห็นบ่อสีขาวขนาดเล็กที่อยู่ในส่วนลึกของป่า หมอกขาวถูกปล่อยจากพื้นผิวของบ่อ“นี่คือ … ” การแสดงออกของฉินหนานเปลี่ยนไป “สระน้ำปราณหยวน”
ที่เรียกว่า ปราณหยวน ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ลมปราณของสวรรค์และพิภพ
ถูกสะสมเป็นเวลานาน บ่อปราณหยวนอยู่ข้างหน้าเขามีความกว้าง
สามเมตรและเท่ากับ
50เม็ดยาชำระล้างร่างกาย“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะได้พบ
บ่อลมปราณหยวนด้วยสิ่งนี้ข้าสามารถฟื้นตัว
ได้เต็มที่ “ฉินหนานรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้าก็มีเสียงคนสองคนเสียงดังกังวานขึ้นอย่างไม่คาดคิดมา
จากป่าที่อยู่ข้างหลังเขา“พี่ๆมีสระน้ำลมปราณหยวนอยู่ตรง
หน้าจริงหรือ?”“ทำไมข้าต้องโกหก? ข้าได้ข้อมูลนี้จากแผนที่โบราณเจ้าคิดว่า
จะเป็นเรื่องโกหกงั้นหรือ? ““ดีมาก! บ่อปราณหยวนในการครอบครองของเรา เราสองพี่น้อง จะยิ่งใหญ่อีกครั้ง! เมื่อถึงเวลาข้าจะสั่งสอนบทเรียนที่โหดร้ายแก่
ฉินหนาน! ““สั่งสอนเขา? เจ้าใจดีมาก ตราบใดที่ข้ามีโอกาสข้าจะทำให้เขากลายเป็นคนพิการ!
หลังจากเสียงความโกรธทั้งสองโผล่มาจากป่า ขณะที่พวกเขาปรากฏตัวและสามารถมองเห็นสระน้ำปราณหยวน การแสดงออกของพวกเขากลายเป็นความสุข อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นภาพตรงหน้า
นี้พวกเขาก็เห็นฉินหนานอยู่ข้างบ่อ ใบหน้าพวกเขาแข็งค้างเมื่อมองเห็นฉินหนานเหมือนเห็นคนโง่ เขาเจอคนที่น่ารังเกลียดมาก ๆ
คนสองคนก็คือ ฉินยู และ ฉินเซียว