ตอนที่แล้วตอนต่อไปทั่วทั้งห้องประชุมของตระกูลฉินได้จมลงสู่ความเงียบงัน
ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนอ้าปากค้างพวกเขาไม่เคยคิดว่าฉินเทียนบา จะทำการปลดตำแหน่งของฉินเทียนในฐานะผู้นำ
การแสดงออกของผู้อาวุโสที่สองและผู้อาวุโสที่สามภายใต้ ฉินเทียนบา นั้นสงบมากราวกับว่าพวกเขากำลังคาดหวังให้เรื่องนี้ให้เกิดขึ้น
“ต้องการปลดข้า?” ฉินเทียนเงียบรอยยิ้มของเขาเผยให้เห็นร่องรอยของการไม่แยแส “ผู้อาวุโสพวกท่า ต้องการที่จะปลดข้าด้วยเหตุนี้หรือไม่? ในกรณีนี้ทำไมเจ้าไม่แสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้ามีความสามารถที่จะปลดข้าได้อย่างไร! “
ในขณะที่ฉินเทียนกล่าวว่าแล้วพลังที่แท้จริงหลั่งไหลจากร่างของเขา
ขอบเขตชำระล้างร่างกาย ไม่อาจเทียบเท่ากับ ขอบเขตเซียนเทียนได้ เซียนเทียนคือจิตวิญญาณแห่งสวรรค์และพิภพทำให้เขาดูดซับมาแปรเปลี่ยนไปเป็น ลมปราณที่แท้จริงของตัวเอง
การแสดงออกของผู้คนก็เปลี่ยนไปเมื่อรู้สึกถึงความกดดันอย่างมากราวกับว่าการหายใจเป็นเรื่องยากลำบากนี่คือความแตกต่างโดยธรรมชาติระหว่าง ขอบเขตชำระล้างร่างกาย และขอบเขตเซียนเทียน
ฉินเทียนยืนขึ้นและมองดูผู้คนก่อนที่สายตาของเขาก็จะหยุดที่ฉินเทียนบา ในขณะที่เขากล่าวว่า “ข้าฉินเทียนเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเซียนเทียนเพียงคนเดียวในตระกูลฉิน ถ้าเจ้าต้องการที่จะปลดข้า ข้าก็อยากจะดูว่าเจ้ามีคุณสมบัติที่จะต่อสู่กับ ตระกูลฝาง “
เมื่อฉินเทียนพูดจบ ใบหน้าของกลุ่มใหญ่ ๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ตระกูลฉิน และ ตระกูลฝาง เป็นตระกูลที่สำคัญสองแห่งของเมือง หลินซู และพวกเขาก็ต่อสู้กันไม่หยุดหย่อน นอกจากนี้ผู้นำของตระกูลฝาง
ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของ ขอบเขตเซียนเทียน ถ้าตระกูล ฉิน ไม่ได้มี ฉินเทียน, ตระกูลฉิน แน่นอนจะไม่เทียบเท่ากับ ตระกูลฝางฉินเทียนบา ยังคงมีรอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏตัวขึ้นบนใบหน้าของเขา “ฉินเทียนข้าคิดว่าเจ้าจะพึ่งพาการบ่มเพาะของเจ้าเพื่อจัดการกับเรื่องนี้? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่สามารถสนับสนุนตระกูลฉินได้หรือ?
ผู้คนสับสน ฉินเทียนบา หรือว่า? อาจเป็นไปได้ว่าฉินเทียนบา ได้ทะลวงผ่านและประสบความสำเร็จขอบเขตเซียนเทียน?
ฉินเทียนบา ยืนขึ้นเขาไม่แยแสต่อความกดดันที่ฉินเทียนได้ปล่อยออกมา “ให้ข้าบอกกับทุกคนในวันนี้” เมื่อสองวันก่อนลูกชายของข้าฉินชางกงได้รับการยอมรับจากนิกายจิตวิญญาณและได้รับเลือกให้เป็นศิษย์ของพวกเขา นอกจากนี้ นิกายจิตวิญญาณ จะไปเยี่ยมชมเมือง หลินซู เพื่อดำเนินการเลือกสาวกใน 5 วัน!
ในช่วงเวลานี้ห้องประชุมเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง แม้แต่การแสดงออกของฉินเทียนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
นิกาย จิตวิญญาณ!
ภายในเมือง หลินซู ทั้งหมด นิกาย จิตวิญญาณ เป็นหนึ่งในสี่มหานิกาย ความแรงของมันถูกวางไว้ในระดับบนสุดของเมือง หลินซู และถือว่ามีอิทธิพลมาก สำหรับผู้เยาว์นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการต่อสู้
ในประวัติศาสตร์ของตระกูลฉินไม่มีใครเคยเป็นศิษย์ในนิกายของ นิกายจิตวิญญาณ
การหายใจของผู้เข้าร่วมประชุมกลายเป็นรวดเร็วขึ้น “ผู้อาวุโสนี้เป็นความจริงหรือ? ระยะเวลาการเลือกของ นิกาย จิตวิญญาณ อยู่ที่ระดับ 1-3 ครั้ง ปัจจุบันมีเพียงไม่ถึง 2 ครั้งนับจากปีที่ผ่านมา! “
“การเลือกครั้งนี้ได้เปลี่ยนไปจากปีก่อนหน้านี้” นายฉินเทียนบา กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
ว้า!
ฝูงชนก็เริ่มพูดคุยตอบโต้กัน ในที่สุดพวกเขาได้มองไปยัง ฉินชางกง
ถ้าดูหน้าของพวกเขาได้รับการเคารพบูชาและเจตนาของพวกเขาจะเป็นเต็มไปด้วยความรักและความหวัง!ในทันทีตำแหน่งของฉินเทียนก็เริ่มสั่นคลอน
แล้วถ้าตระกูลฉิน ไม่มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเซียนเทียน?ตราบเท่าที่ฉิน ชางกง ได้กลายเป็นศิษย์ของ นิกายจิตวิญญาณ แล้วตระกูลฉินจะไม่กลายเป็นตระกูลที่เหนือกว่า พวกเขาสามารถกดดัน ตระกูลฝาง และกลายเป็น ผู้นำ ที่แท้จริงของ เมืองหลินซู อนาคตของพวกเขาไม่มีที่สิ้นสุดและดีขึ้นเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ฉินเทียนอาจนำมาสู่ตระกูล!
“ทุกๆคน” ฉินชางกงกล่าว ใบหน้าของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและความรู้สึกที่หยิ่งทะนง ในขณะที่เขาเหลือบมองไปยังดวงตาของฉินเทียนโดยตรง “ผู้นำฉินไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างหน้าที่ความรับผิดชอบและเรื่องส่วนตัวได้ การมอบเม็ดยาให้กับ ขยะ ในความเห็นของข้าคนอย่างนี้ท่านไม่สามารถเป็นผู้นำของตระกูลฉิน “
สีหน้าของฉินเทียนเปลี่ยนไป เขาเกิดอาการไม่สบายใจ
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าฉินเทียนบา จะใช้การประชุมตระกูลนี้เป็นโอกาสที่จะปลดเขา เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าฉินชางกง ได้เป็นศิษย์ของ นิกายจิตวิญญาณ
ดังนั้นแม้ว่า ฉินเทียน จะมีการบ่มเพาะ ขอบเขตเซียนเทียน และเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของตระกูล ฉิน แต่ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย
ฉินเทียนได้หายใจเข้าลึก ๆ และบังคับให้ตัวเองสงบลงขณะที่เขารีบกล่าวว่า “ทุกคนถึงแม้ว่าข้า ฉินเทียนได้ขอเม็ดยาชำระล้างจำนวนห้าร้อยเม็ดสำหรับลูกของข้า แล้วก็ใช้เม็ดยาบ่มเพาะของตัวเองมาแลกเปลี่ยน!”
“นอกจากนี้ข้า, ฉินเทียนสามารถกล่าวเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง นับตั้งแต่ที่ข้าได้คาดเดาว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้นำ ข้าได้ทุ่มเทตัวเองให้กับตระกูลฉินเพื่อที่จะทำให้มันมีอำนาจมากยิ่งขึ้น เป็นเวลาห้าสิบปีนับตั้งแต่ที่ข้าดำรงตำแหน่งของผู้นำและในช่วงห้าสิบปีที่ผ่านมานี้ข้าไม่กล้าบอกว่าข้าประสบความสำเร็จเท่าใด อย่างไรก็ตามข้ากล้าที่จะบอกว่าตระกูลฉินได้พลังอำนาจมาใต้การแนะนำของข้า! “
“นับตั้งแต่ที่ การปลุกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ของลูกชายข้าเดินจากอัจฉริยะไปเป็น ขยะ ของ ตระกูล ไม่เพียง แต่ข้าเป็นผู้นำของตระกูลฉินเท่านั้นข้าเป็นพ่อของฉินหนาน นี่เป็นคำขอแรกของฉินหนานที่เคยขอมาเพราะฉะนั้นในฐานะพ่อข้าจึงต้องทำตามคำขอของเขา นอกจากนี้ข้าได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าทรัพยากรการเพาะปลูกในอนาคตของข้าจะถูกส่งกลับไปยังตระกูล นี่คือทั้งหมดที่ข้าต้องการจะพูด ข้าหวังว่าเจ้าจะสนับสนุนข้าต่อไป! “
คำและประโยคทุกคำลึกซึ่ง มันมาจากด้านในของหัวใจของฉินเทียน
เมื่อ ฉินเทียนบา และ ฉินชางกง ได้เฝ้าดูฉากนี้ใบหน้าของพวกเขาไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจเล็กแม้แต่น้อย แต่การแสดงออกของพวกเขาเยาะเย้ยมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น
ฝูงชนจมลงสู่ความเงียบอีกครั้ง ในขณะนี้ผู้อาวุโสที่สองและสามที่นั่งอยู่ข้างหลังฉินเทียนบา ยืนขึ้นพร้อมกันขณะที่พวกเขากล่าวว่า “ข้าสนับสนุนฉินชางกง ฉินเทียนไม่ควรถือว่าตำแหน่งเป็นผู้นำของตระกูลฉิน! “
เมื่อผู้อาวุโสที่สองและสามได้ริเริ่มที่จะพูดผู้เข้าร่วมประชุมก็ปะทุขึ้นทันที ในขณะที่ฝูงชนได้พูดคุยกับ เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้สนใจคำของฉินเทียน
“ถูกตัอง! ฉินเทียนเจ้าไม่มีเจ้าสมบัติที่จะเป็นผู้นำอีกต่อไป “
“เรื่องตลก! การพัฒนาตระกูลฉินของเรามีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า? ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความพยายามของเราเอง! “
“ข้าไม่สนับสนุนคำขอ ของฉินเทียน! ข้าเหนื่อยกับเจ้าตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว เจ้าจะให้เม็ดยาชำระล้างเสียไปกับลูกชายเจ้า? นี่คือสิ่งที่เจ้าควรทำ? เจ้าควรจะให้เม็ดยาชำระล้างนี้แก่ฉินชางกง! “
“กล่าวโทษ ฉินเทียน! แน่นอนเราไม่ควรปล่อยให้คนประเภทนี้ยังคงเป็นผู้นำของตระกูลฉินของเรา! “
ทั้งห้องประชุมได้ระเบิดขึ้นผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนก็มีความลังเลหรือไม่พอใจ บางส่วนของผู้เข้าร่วมประชุมเหล่านี้กลายเป็นโกรธถึงจุดที่ตั้งใจฆ่าของพวกเขาสามารถมองเห็นได้ ถ้าไม่ใช่การบ่มเพาะของฉินเทียนพวกเขาก็รีบวิ่งไปหาเขาและเอาชนะเขา
ฉินเทียนบา และฉินชางกง มีความสุขที่ยิ่งใหญ่ในสายตาของพวกเขา
ร่างของฉินเทียนโผล่ขึ้นมา เขาจ้องไปที่ผู้เข้าร่วมประชุมที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ, ความโกรธและความตั้งใจฆ่าเต็มใบหน้าของพวกเขา ในทันใดนั้นราวกับว่าดาบอันยิ่งใหญ่แทงหัวใจเขาอย่างรุนแรงทำให้ฉินเทียนรู้สึกหดหู่ใจและเจ็บปวด
ฉินเทียนไม่เคยคิดเลยว่าคนในตระกูลฉินจะแสดงความไม่พอใจต่อเขา!
“ฮ่าฮ่า …… ” ในเวลานี้ฉินเทียนก็หันหน้าไปทางท้องฟ้าและหัวเราะออกมากลิ่นอายของเขาปลดความกดดันและทำลายล้างอย่างฉับพลัน ราวกับว่าเขาสูญเสียจิตวิญญาณทั้งสามและหกความรู้สึก ขณะที่เขาเดินโซเซเขาตั้งข้อสังเกตว่า “มันเป็นแบบนี้ … มันเป็นแบบนี้จริงๆ … เพราะมันเป็นแบบนี้แล้วข้าจะสัญญาว่า … “
ก่อนที่ฉินเทียนจะพูดเสร็จ ฉินเทียนบา เริ่มรู้สึกตื่นเต้น เขาได้รับการ ตอบรับ สำหรับตำแหน่งของผู้นำ แต่การบ่มเพาะของเขาก็ไม่ได้เทียบเท่ากับ ฉินเทียน ดังนั้นเขาจึงอดทนได้
นับตั้งแต่ฉินหนานกลายเป็น ขยะ ลูกชายของเขาได้กลายเป็นหมายเลขหนึ่งอัจฉริยะของตระกูลฉิน ..
ดังนั้นฉินเทียนบา ใช้ประโยชน์จากการประชุมตระกูลเพื่อเริ่มต้นการประท้วง ตราบเท่าที่เขาสามารถเอาฉินเทียนออกจากตำแหน่งของเขาในตระกูลฉินเทียนบา จะสามารถกลายเป็นผู้นำของตระกูลฉินได้!
ฉินชางกงผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังฉินเทียนบา ก็รู้สึกตื่นเต้น
ฉินชางกง ไม่รู้สึกโกรธมากต่อ ฉินเทียน นอกจากนี้เขายังเข้าใจว่าถ้าไม่ใช่ ฉินเทียน ตระกูลฉิน จะไม่กลายเป็นตระกูล ที่สองภายใน เมืองหลินซู อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่าฉินชางกงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากก็คือข้อเท็จจริงที่ว่าถ้าฉินเทียนกำลังสูญเสียตำแหน่งของเขาฉินหนานจะกลายเป็นขยะในสายตาของฉินชางกง
แม้ว่า ฉินหนาน ได้กลายเป็นขยะ ฉินชางกง ยังคงคิดว่าไม่พอ เขาต้องการทุกอย่างของฉินหนานมาเป็นของเขา
อย่างไรก็ตามในขณะนี้มีเสียงระเบิดเกิดขึ้
ประตูของห้องประชุมของตระกูลฉินถูกทำลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า มีร่างของคนอยู่ในกลุ่มควันและฝุ่นละออง; ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ คนนี้คือฉินหนาน!