ตอนที่แล้วตอนต่อไปฉินชางกง ตะลึงเขาไม่เคยคาดคิด กระบี่ธรรมดาในมือฉินหนาน
จะมีพลังอำนาจที่น่าสะพรึ่งกลัวขนาดนี้ มาถึงตรงนี้แล้วเขาไม่มีเวลา สำหรับมานั่งเสียใจภายใต้สายตาของผู้ชมกำลังจองมอง
กระบี่เหล็กดำปะทะกับพยัคฆ์ขาว ที่แสนโหดร้ายเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที“อ้ากกกกก!”
ฉินชางกงร้องเสียงดังขณะที่ร่างของเขาถูกกระบี่ฟัน ราวกับว่าวที่เชือกขาดสะบัน เขาพุ่งเข้าใส่กำแพงอย่างแรง
ผลของการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการตัดสินกันภายในครั้งเดียวทั้งห้องประชุมจมลงสู่ความเงียบและทุกคนเบิกสายตาของพวกเขา กับฉากเพียงชั่วครู่นี้เหมือนความฝัน พวกเขาไม่อาจเชื่อได้
ฉินชางกง แพ้จริงๆ? อัจฉริยะอันดับ 1 ของตระกูลฉินได้พ่ายแพ้แล้วจริงๆ?
ฉินชางกง มี จิตวิญญาณขั้น ก่อเกิด ระดับ 5 ในการจัดอันดับ
จิตวิญญาณยังไม่สามารถชนะ ฉินหนาน โดยที่เขายังไม่ทันใช่ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาเลย?“มัน….เป็นไปได้อย่างไง?”
“หนานเอ๋อ….เจ้า … ” ผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 ของตระกูลฉิน ฉินเทียนเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นความสุข
“ทักษะกระบี่ของเจ้า … มันคือทักษะการต่อสู้ระดับกลาง กระบี่ผ่าอัสนี ใช่ไหม? ฮ่าฮ่าฮ่า! ลูกของข้า เจ้าได้ฝึกกระบี่ของเจ้าได้ถึงระดับนี้แล้วจริงๆ แม้จะยังไม่ถึงระดับ “หนึ่งเดียวกับกระบี่” ก็ตาม
แต่ก็สามารถสัมผัสถึงมันได้แล้วฉินเทียนทิ้งความคิดเดิมของเขา ใบหน้าของเขาดูดีขึ้นมาก อย่างไรก็ตามคำพูดของเขาก็เหมือนเสียงฟ้าผ่าอย่างฉับพลันอีกครั้งหนึ่ง
ห้องโถงประชุมและข่าวที่น่าตกใจไปพร้อม ๆ กัน
ฉินหนานฝึกทักษะการต่อสู้ระดับกลางแล้ว!เขาใช้ทักษะการต่อสู้ระดับกลางและกำลังเข้าสู่ขั้น ‘หนึ่งเดียวกับกระบี่’ ไม่เพียงแค่นั้น เขายังชนะฉินชางกงผู้ซึ่งใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสูงและยังมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ระดับ 5 !
ในตอนนี้ผู้เข้าร่วมประชุมในปัจจุบันและผู้อาวุโสรู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้าของพวกเขาราวกับถูกตบฉาบใหญ่พวกเขาล้อเลียนระดับจิตวิญญาณต่อสู้ของฉินหนาน การบ่มเพาะของเขาเป็นขยะ แต่แล้วพวกเขาก็โดนตบหน้าโดยระดับ 4 ขั้นก่อเกิดของฉินหนาน อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาเยาะเย้ยฉินหนานอีกครั้งสำหรับการยอมรับคำท้าสู้จากฉินชางกง ว่าเขากำลังหาเรื่องใส่ตัว แต่พวกเขาก็ต้องตะลึงกับความสามารถที่น่าตกใจของฉินหนาน สิ่งนี้ทำให้ฝูงชนคิดถึงความสำเร็จในอดีตของฉินหนาน
แล้วเรื่องระดับแรกขั้นก่อเกิดได้รับการจัดอันดับ จิตวิญญาณการต่อสู้?
อัจฉริยะก็คืออัจฉริยะไม่มีอะไรหยุดความอัจฉริยะของเขาได้
ในวินาทีนี้พวกเขามองตรงไปที่ฉินหนาน ดวงตาของพวกไม่มีแม้แต่ความรังเกียจ แม้ว่า ขั้นก่อเกิด ระดับแรกการจัดอันดับ จิตวิญญาณการต่อสู้ ที่มีอนาคต
“เจ้า…. เจ้า … .. เจ้า … “ฉินเทียนบา ยื่นมือออกและชี้ไปที่ฉินหนานด้วยมือสั่น เขาพูด “เจ้า” อย่างต่อเนื่องสิบครั้งก่อนได้ยินเสียง ‘พุ’ เขาโกรธมาก
ในตอนแรกเป็นเรื่องของฉินเทียนจะถูกแทนที่ด้วยฉินเทียนบา ใครจะคิดว่าฉินหนานจะเข้ามาขัดจังหวะ ฉินเทียนบาจะไม่โกรธได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะโกรธแค่ไหนเขาก็สามารถลงมือ ได้แต่เก็บไว้ภายในใจเท่านั้น ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บภายในเกิดขึ้น
“เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปได้อย่างไง? “เสียงแหลมดังขึ้น ฉินชางกงลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความโกรธในขณะที่เขาตะโกนอย่างสุดเสียงว่า “ข้าแพ้ให้กับขยะอย่างเจ้า? ข้าเป็นอัจฉริยะเจ้าเป็นแค่ขยะเท่านั้น! “ในขณะนี้ฉินชางกงบ้าคลั่ง เขาเริ่มพูดโดยไม่มีเหตุผล
ฉินชางกงกำลังบ้าจากการที่เขาแพ้ให้กับ คนที่มีระดับ 1 ขั้นก่อเกิดของ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้? นอกจากนี้เขายังไม่ได้ใช้ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ในขณะที่ฉินชางกงได้ใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสูงและพลังเต็มรูปแบบ
ข้า ฉินชางกง ควรจะเป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ของตระกูลฉิน!
ใบหน้าของฉินหนานไม่มีความรู้สึกใด ๆ ถ้าใครมองเขาให้ดี จะสังเกตเห็นเหงื่อที่บนใบหน้าของเขา ตามที่ฉินเทียนระบุไว้ฉินหนานได้เข้าถึง “หนึ่งเดียวกับกระบี่” การสละลมหายใจที่เขาใช้ตอนนี้เกินความสามารถทางร่างกายของเขาแล้ว
“พูดอะไรสักอย่างสิ!” ฉินชางกงยังคงกรีดร้อง “เจ้าขยะ พูดอะไรสักหน่อย! …. “
ถึงแม้ฉินหนานจะรู้สึกไม่ค่อยดี ดวงตาของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม เปล่งแสงเย็นชา “ฉินชางกง ไม่คิดว่าขั้นก่อเกิด ระดับ5 จิตวิญญาณการต่อสู้ที่น่าประทับใจ ให้ข้าบอกเจ้าว่ามียังคนอีกมากมายที่เก่งกว่าเจ้า ดังนั้นเจ้าจึงไม่ควรประเมินค่าตัวเจ้าเองสู้เกินไป เมื่อเห็นว่าเจ้าเป็นศิษย์ของตระกูลฉิน ข้าจะให้คำแนะนำแก่เจ้า … วันนี้เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าและอนาคตอีกต่อไป ดังนั้นอย่ามองคนอื่นด้วยสายตาเหมือนสุนัขของเจ้า “
“เจ้า … .” ฉินชางกงบ้าจนร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะเทือนใบหน้าของเขากลายเป็นสีม่วง
ผู้เข้าร่วมประชุมในตอนนี้รู้สึกว่าใบหน้าของพวกเขาไหม้เกรียมอีกครั้ง ราวกับว่าคำพูดของฉินหนานกล่าวถึงพวกเขาด้วยเช่นกัน
“ฉินหนานข้าจะไม่ลืมเรื่องนี้แน่ ขยะยังไงก็เป็นขยะ วันนี้ข้าอาจจะพ่ายแพ้เจ้า แล้วยังไง? ในอนาคตข้าจะเป็นสาวกของนิกายจิตวิญญาณ ในขณะที่เจ้าจะไม่มีอะไรเลย! “ขณะที่ฉินชางกง กล่าวจุดนี้เขารู้สึกหนาวในสายตาของ ฉินหนาน หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านและเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกในขณะที่ฉินเทียนบาลากเขาออกไปถ้าพวกเขาอยู่ต่อไปก็จะนำความอัปยศมาให้กับตัวเองมากขึ้น ตอนนี้สองพ่อกับลูกทิ้งบรรยากาศที่อึมครึมทำให้ห้องโถงเงียบสงัดอีกครั้ง ในตอนแรกมีผู้เข้าร่วมประชุมบางคนที่ต้องการหลบหนีไป จากที่รู้สึกว่าฉินหนานกำลังจ้องมองตัวเอง
ในความเป็นจริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัว ฉินหนานเลย เพราะว่าการบ่มเพาะของฉินหนานไม่สามารถสู้กับพวกเขาได้ นอกจากนี้ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาเป็นเพียงระดับ 1 ขั้นก่อเกิด เท่านั้นมันไม่อาจเทียบเท่ากับฉินชางกง อย่างไรก็ตามเนื่องจากฉินหนานได้เอาชนะฉินชางกงที่ยืนอยู่จุดสูงสุด ในหัวใจของพวกเขาก็เกิดความกลัวขึ้น
“ข้าอยากจะถามว่าตอนนี้ยังคงวางแผนที่จะข่มขู่พ่อของข้าหรือไม่? มันยังคงไม่ผิดถ้าพ่อของข้าให้เม็ดยาชำระล้างแก่ข้าถึง 500 เม็ด? “
ฉินหนานถามอย่างไม่แยแสในขณะที่เขาถามเรื่องนี้ผู้เข้าร่วมประชุมในตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนเสียงกลอง “ได้สิ? ผู้นำฉินเทียนเพียงช่วยเหลืออัจฉริยะของตระกูล …
จะผิดอย่างไร? ““ในความคิดของข้าให้แค่ 500 เม็ดยาชำระล้างร่างกายยังไม่เพียงพอ”
“ถูกตัอง! นายน้อยฉินหนานเป็นอัจฉริยะของตระกูลฉินของเรา การให้เม็ดยาชำระล้างร่างกายกับเขาใช่ปัญหา. “
“ตำแหน่งผู้นำตระกูลฉินของเราต้องเป็นผู้นำฉินเทียนเท่านั้น!
“……”
ผู้เข้าร่วมประชุมเหล่านี้เปลี่ยนความคิดของพวกเขา เต็มไปด้วยความเคารพและการพูดคำหวาน ตอนที่ฉินชางกงหและฉินเทียนบา ออกไปแล้วพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะปลดตำแหน่งของฉินเทียนในตระกูล ฉินชางกง จะกลายเป็นสาวกของ นิกายจิตวิญญาณ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมทำเช่นนั้น ถ้าพวกเขายังคงพูดต่อในจุดนี้อยู่แล้วใครจะรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉินเทียนลงมือ
ฉินเทียนมองลงไปที่คนอื่น ๆ ภายในตาของเขามีร่องรอยแห่งความเศร้าโศกเช่นเดียวกับความไม่แยแส หลังจากผ่านเรื่องนี้ฉินเทียนก็เห็นได้ชัดว่ามีอะไรบ้าง ฝูงชนกลุ่มนี้จากตระกูลฉินเป็นเหมือนหญ้าที่สูง … ที่ไหนเป็นประโยชน์มากขึ้นพวกเขาก็จะไปทิศทางนั้น พวกเขาไม่มีความภักดีเลย ในช่วงเวลานั้นฉินเทียนก็รู้สึกเบื่อหน่าย
“หนานเอ๋อ ไม่เป็นไรเราออกไปกันเถอะ” ฉินเทียนโบกมือและมองไปที่ฉินหนานด้วยความภาคภูมิใจ
“พ่อรอสักครู่ ข้ายังคงมีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะพูดกับผู้เข้าร่วมประชุมในขณะนี้ “สายตาของฉินหนานสงบเมื่อมองไปที่คนในตอนนี้ พวกเขาตกใจเล็กน้อยตามด้วยการฟังอย่างตั้งใจ
“เจ้าเป็นผู้เข้าร่วมประชุมของตระกูลฉินและด้วยเหตุนี้เจ้าก็เป็นผู้อาวุโสของข้า” ฉินหนานกล่าวโดยไม่มีอารมณ์ “อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เจ้าจะไม่ใช่ผู้อาวุโสในสายตาของข้า”
คำที่ออกมาจากปากของเขาทำให้คนส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงใบหน้าที่ดี ฉินหนานดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องนี้ “ในสายตาของข้า เจ้าก็เหมือนกับหญ้าที่สูงพร้อมกับการไหลตามผู้ที่มีอำนาจ พวกเจ้าร้องเรียน ตำแหน่งผู้นำของพ่อข้าในขณะที่บอกว่ามันเป็นเพราะพ่อของข้าให้เม็ดยาชำระล้างร่างกาย500เม็ดแก่ข้า “
“แต่เรื่องจริงก็คือ?”
“ใครเป็นเบื้องหลังของการพัฒนาตระกูลฉิน? พ่อของข้า! ถ้าเราไม่นับรวมผลงานที่พ่อของข้าทำไว้เราก็ยังคงนับผลงานอันยิ่งใหญ่ที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลังได้ ดังนั้นถ้าเขาให้ 500 เม็ดยาชำระล้างร่างกายให้ลูกชายของเขา? ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้เงินเดือนของตัวเองเพื่อชดเชยการกระทำนี้ด้วย “
“พวกเจ้าคิดว่าผู้นำไม่ควรมีความรู้สึกส่วนตัวใด ๆงั้นเหรอ ?”
ขณะที่ฉินหนานกล่าวด้วยความโกรธ”อย่างไรก็ตามความคิดของพวกเจ้าทำให้ข้าผิดหวังอย่างมากไม่มีใครที่ดูเหมือนจะตระหนักถึงความพยายามของพ่อของข้าและไม่มีใครที่ดูเหมือนจะเข้าใจถึงความรับผิดชอบของพ่อข้า ทั้งหมดที่เจ้าเห็นดีคือเรื่องของ
ฉินชางกงที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นศิษย์ของนิกายจิตวิญญาณ! “
ทุกคำที่กล่าวมามีความโกรธอันยิ่งใหญ่ของฉินหนาน
นี่คือเหตุผลที่ทำไมฉินหนานจึงตัดสินใจที่จะทำลายประตูลงไปในวันนี้ การนำของฉินเทียนทำให้ตระกูลฉินยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามผลจากการที่หลายคนจ้องจะทำลายเขา การกระทำแบบนี้ทำให้รู้สึกขมขื่น“นี่คือทั้งหมดที่ข้าต้องการจะพูด สิ่งที่เจ้าเลือกเมื่อเวลามาถึงจะขึ้นอยู่กับเจ้า ข้ารู้ว่าฉินเทียนบาและฉินชางกง จะยังไม่ลามือจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามข้าจะเตือนพวกเจ้าว่า หลังจากที่เจ้าได้ตัดสินใจแล้ว เจ้าจะไม่มีเวลามาสำนึกเสียใจอีก “
หลังจากพูดจบแล้วใบหน้าของ ฉินหนาน ก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครั้งโดยไม่ให้ความสำคัญกับผู้เข้าร่วมประชุมอีกต่อไป เขากับฉินเทียนเดินออกจากห้องประชุม
คนที่อยู่ในห้องประชุม กลับมารู้สึกและมองกันและกันด้วยความตกใจ