เส้นทางแห่งการต่อสู้ มันจะเป็นตัวตัดสินชะตากรรมตลอดชีวิตของเจ้า จนถึงความตายของเจ้า ความอ่อนแอ คือ ความอัปยศ
 
 
 จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ มันเป็นพรสวรรค์โดยกำเนิดของผู้คนในทวีปนี้ทำให้พวกเขามีจิตวิญญาณแห่งนักสู้กล่าวได้ว่าความสำเร็จของนักสู้มีความเกี่ยวข้องอย่าง เหนียวแน่นกับจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
 
 
 จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้นั้นมีหลายประเภท จิตวิญญาณธรรมชาติ เช่น ไฟ น้ำแข็ง วายุ แสง ฯลฯ จิตวิญญาณแห่งศาสตราวุธ เช่น มีด ปืน ดาบ และง้าว จิตวิญญาณสัตว์อสูร เช่น เสือขาว แรดคลั่ง ลิง และมังกร นอกจากนี้ยังมีจิตวิญญาณที่ทรงพลังมาก เช่น จิตวิญญาณแห่งความเป็นอมตะ
 
 
 จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ มันจะพัฒนา และแข็งแกร่งขึ้น ขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะพลังของผู้ฝึก
 
 
 เมืองหยางโจว คฤหาสน์ตระกูลหลิน
 
 
 หลินเฟิง เปิดตาของเขาขึ้น และเริ่มจ้องมองห้องที่เก่าแก่นี้ มันเป็นห้องที่แปลก และไม่คุ้นเคย
 
 
 “ข้ายังไม่ตาย!” หลินเฟิงคิดในใจ ขณะนั้น รอยยิ้มอันขมขื่นของเขาก็หายไป และเผยให้เห็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นตรงมุมปากของเขา
 
 
 ใช่แล้ว เขาเคยเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงทำให้หลินเฟิงข้ามมายังอีกโลกหนึ่ง และเข้ามาอยู่ร่างกายคนที่ชื่อเหมือนเขา
 
 
 หลินเฟิงรู้สึกหดหู่มาก แต่เขาไม่ได้หดหู่เพราะข้ามมายังโลกนี้ ตอนที่เขาอยู่บนโลก เขาเป็นเด็กกำพร้า และถูกคุณปู่ของเขาเลี้ยงเพียงคนเดียว วันหนึ่ง หลังจากที่หลิงเฟิงสอบเข้ามหาลัยได้ ปู่ของเขาก็รู้สึกโล่งใจ และเสียชีวิตในที่สุดเพราะทำงานหนักเกินไป ปู่ของเขาได้ทิ้งเงินไว้จำนวนหนึ่งในบัญชีธนาคารของเขาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆในมหาวิทยาลัย
 
 
 หลินเฟิงพยายามศึกษาเล่าเรียนอย่างหนักเพื่อให้ได้รับทุนการศึกษา เขาต้องที่จะพึ่งพาความพยายามของตัวเองเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขา เพื่อตอบสนองความปรารถนาของปู่ของเขา แต่หลินเฟิงก็เริ่มเข้าใจว่า ไม่ว่าเขาจะทำงานหนักแค่ไหน ทุ่มเทความพยายามมากเท่าไหร่ มันก็ไม่มีความหมายในยุคของผู้ที่มีอิทธิพลมีอำนาจ
 
 
 ในระหว่างการฝึกงานในปีสุดท้ายของเขา งานเลี้ยงค็อกเทลจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในระหว่างงานปาร์ตี้ เด็กหนุ่มที่ร่ำรวยได้มอมเหล้าหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้คนที่เห็นก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไร เมื่อหลินเฟิงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเข้าไปหยุดมัน
 
 
 ท้ายที่สุด ความพยายามทั้ง 4 ปีของเขาก็ไร้ความหมาย เขาถูกไล่ออกมากมหาลัย เพราะเขาถูกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำอนาจารกับเพื่อนผู้หญิงร่วมห้อง ในความเป็นจริง มันมีหลักฐานที่แย้งไม่ได้หญิงสาวคนนั้นไม่ได้บอกว่าเขาเป็นคนทำอนาจารกับนาง
 
 
 การกระทำที่เต็มไปด้วยความหวังดีของเขา กลับทำให้เขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาถูกฟ้องร้องโดยผู้หญิงที่เขาเข้าไปช่วย และเด็กหนุ่มที่ร่ำรวย หลินเฟิงไม่มีเงิน หรืออิทธิพลใดๆทำให้เขาไม่สามารถสู้คดีได้ ชะตากรรมของเขาในขณะนี้ได้จบลงแล้ว เขาถูกตัดสินจำคุก 8 – 10 ปี ทำให้เขาถูกสังคมทอดทิ้งอย่างสมบูรณ์
 เมื่อเขาเห็นเด็กหนุ่มที่ร่ำรวย และหญิงสาวที่เขาเข้าไปช่วยและอยู่ในมหาลัยเดียวกันกับมัน กอดกันอย่างมีความสุขอยู่ในรถ หลินเฟิงจึงตัดสินใจขโมยรถของคนอื่น และขับรถพุ่งชนใส่รถของมันทั้ง 2
 
 
 ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา , หลินเฟิงไม่ได้มีความวิตกกังวลใดๆ ดังนั้นเขาจึงก็ไม่ได้รู้สึกหดหู่ใดๆ ที่รู้ว่าเขาได้ข้ามมายังอีกโลกใบหนึ่ง ที่เขารู้สึกหดหู่คือ เรื่องที่เขามาอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มที่มีจิตวิญญาณขยะผู้นี้
 
 
 
 
 
เด็กหนุ่มคนนี้มีชื่อเดียวกับเขา เดิมทีเขาเป็นศิษย์ภายนอกของนิกายหยุนไห่ เขาถูกลูกพี่ลูกน้องของเขารังแกอยู่บ่อยครั้ง เขาถูกแทงเกือบตาย และในที่สุดเขาก็ถูกไล่ออกจากนิกาย เป็นความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ในอาการครึ่งเป็นครึ่งตาย ทำให้หลินเฟิงฉวยโอกาสที่จะครอบครองร่างของเขาให้ได้
 
 
 “ตั้งแต่ที่ข้าได้รับชีวิตใหม่ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันเกิดเหตุการณ์เช่นเดิมกับข้าอีก” หลินเฟิงกล่าวขณะที่เขานอนอยู่บนเตียง และกำหมัด ถึงจิตวิญญาณของเด็กหนุ่มคนนี้ยังไม่จากไปอย่างสมบูรณ์ หลินเฟิงกล่าว “เจ้าไม่ต้องกังวล ตั้งแต่นี้ไป เจ้า คือ ข้า และ ข้า คือ เจ้า ข้าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกรังแกอีกต่อไป”
 
 
 มีการหลอมรวมจิตวิญญาณของเด็กหนุ่มที่ชื่อ “หลินเฟิง” กับ หลินเฟิง ทำให้เขาได้รู้ว่าเขากำลังอยู่ในโลกแบบไหน ผู้แข็งแกร่งจะได้รับความเคารพนับถือ ตราบใดที่เจ้ายังมีพลังมากเพียงพอ อำนาจ และอิทธิพลต่างๆทั้งหมดจะต้องสยบลงต่อหน้าข้า แม้กระทั่งอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิก็ยังไม่เว้น
 
 
 และสำหรับผู้ที่ต้องการเดินบนเส้นทางแห่งการต่อสู้ ไม่เพียงแค่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์เหนือผู้อื่นเท่านั้น แต่พวกเขาจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง เช่นเดียวกับความปรารถนาที่ไม่สิ้นสุด เด็กหนุ่ม “หลินเฟิง” คนก่อนค่อนข้างอ่อนแอ แต่จากนี้ไปเขาจะแตกต่างไปจากเเต่ก่อน หลินเฟิงได้หนีความตาย และข้ามมายังโลกอื่น ความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานที่เขาได้รับผ่านมานั้น มันมากกว่าเด็กหนุ่ม“หลินเฟิง”ได้รับมากนัก
 
 
 ราวกับว่าจิตวิญญาณของหลินเฟิงคนก่อนได้รู้ถึงเจตนารมณ์ของหลินเฟิง ในที่สุดจิตวิญญาณของหลินเฟิงคนก่อนก็เริ่มอ่อนแอลง ท้ายที่สุดจิตวิญญาณทั้ง 2 คนก็หลวมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์
 
 
  “ปัง!” ขณะที่จิตวิญญาณผสานเข้าด้วยกัน, หลินเฟิงรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาสั่นสะเทือน และทำให้เขาหมดสติลง
 
 
 
 
 
เมื่อเวลาผ่านไป หลินเฟิงก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาเหี่ยวย่นเล็กน้อย และเขารู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขากำลังสั่น
 
 
 หลินเฟิงได้สติ เขาลุกขึ้นนั่ง และก็มีบรรยากาศแปลกๆแพร่กระจายออก ในขณะนี้ หลินเฟิงรู้สึกว่าเขากำลังถูกล้อมรอบไปด้วยเงามืด
 
 
 “เจ้าได้ยินข้าหรือไม่? เจ้าขยะหลินเฟิงมันยังไม่ตื่น ข้าพนันได้เลยว่ามันใกล้จะตายแล้ว”
 
 
 “ฮ่าฮ่าฮ่า , ขยะอย่างมันจะดีกว่าถ้ามันตายเร็วกว่านี้ มันเป็นความอับอายของตระกูลหลิน”
 
 
 พวกมันพูดคุยกันเสียงของพวกมันหลินเฟิงได้ยินชัดเจน แต่เขาก็ไม่รู้สึกโกรธแต่อย่างใด กลับกันเข้ารู้สึกแปลก เสียงที่เขาได้ยินมันอยู่ห่างไกลมาก แต่เขาก็สามารถได้ยินทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ไม่เพียงแค่นั้น เขายังได้ยินเสียงทุกอย่างทั้งหมดที่อยู่ภายใน 100 เมตร
 
 
 นอกจากนี้หลินเฟิง ได้รู้ว่าการมองเห็นของเขาดีขึ้น และปราสาทการรับรู้ของเขาก็ไวมากขึ้น มิหนำซ้ำ เขาก็เริ่มเข้าใจเส้นทางแห่งการต่อสู้
 
 
 หลินเฟิงได้สติขึ้นอีกครั้ง จิตวิญญาณงูขนาดเล็กปรากฏตัวขึ้นข้างหลังของหลินเฟิง มันมีขนาดตัวเล็กๆและกำลังขดตัว งูตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในจิตวิญญาณที่ผู้คนต่างหัวเราะเพราะมันเป็นจิตวิญญาณขยะ เนื่องจากสายพันธุ์ของงูไม่มีผู้ใดรู้จัก มันไม่สามารถเพิ่มขีดความสามารถได้
 
 
 “จิตวิญญาณคู่!”
 
 
 ตอนนี้, หลินเฟิงไม่ได้กังกลเรื่องจิตวิญญาณงู แต่เขากลับมีใบหน้าที่มึนงง ทันใดนั้นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างช้าๆ ใช่แล้ว จิตวิญญาณหมอกดำเป็นจิตวิญญาณที่ตื่นขึ้นมาใหม่ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่ามันเป็นจิตวิญญาณเงาประเภทไหนก็ตาม และจิตวิญญาณงูทำให้เขาได้ครอบครองจิตวิญญาณ 2 ดวง
 
 
 คนที่เกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณ 2 ดวงจะเรียกกันว่า จิตวิญญาณคู่ ในความจริงในแผ่นดินใหญ่ผู้คนที่มีจิตวิญญาณคู่จะถูกเรียกว่า อัจฉริยะ เจ้าขยะคนนี้ที่ถูกทุกๆคนมองอย่างเหยียดหยามในขณะนี้กลับมีจิตวิญญาณคู่
 
 
 “ถ้างั้นเรียกมันว่า จิตวิญญาณแห่งความมืด ละกัน” หลินเฟิงมีรอยยิ้มจางๆ เพื่อให้สามารถมีจิตวิญญาณคู่ได้นั้นจะต้องเกิดจากการหลอมรวมจิตวิญญาณของเขา มีสองดวงจิตวิญญาณถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน มีสองจิตวิญญาณนั้นมันไม่น่าแปลกใจ สำหรับความสามารถของจิตวิญญาณนี้ ดูเหมือนว่ามันจะสามารถเพิ่มพลังกายให้กับเขาได้
 
 
 หลิมเฟิงหลับตา และเริ่มนั่งสมาธิ แก่นแท้ของโลกเริ่มเข้าไปในแขนขา และกระดูกของเขาอย่างช้าๆ ขณะที่กำลังช่วยบำรุงรักษาร่างกาย และจิตวิญญาณต่อสู้ของเขา
 
 
 2 ชั่วโมงผ่านไป , หลินเฟิงก็นั่งสมาธิเสร็จ และเริ่มปล่อยกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนเหมือนนมบูดออกมาจากจมูกของเขา หลังจากนั้นหลินเฟิงรู้สึกว่าร่างกายของเขากระปี้กระเปร่าขึ้น และความเจ็บปวดบนร่างกายของเขาก็ได้หายไป
 
 
 “นี่คือ การบ่มเพาะพลังของนักสู้ สินะ ช่างน่าสนยิ่งนัก” หลินเฟิงมองไปที่กำปั้นของเขา และใส่พลังไปในกำปั้นน้อยนิด แต่มันกลับเต็มไปด้วยพลัง
 
 
 ความเร็วในการฝึกฝนของเขาดูเหมือนจะเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับความทรงจำของหลินเฟิง หลินเฟิงเดินออกมาจากห้องของเขา และด้านหน้าของเขาเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ในลานกว้างมีเสาไม้ และเสาหินสำหรับฝึกฝน
 
 
 หลินเฟิงเดินมาที่เสาหิน และใช้ทักษะต่อสู้ “เก้าคลื่นทลายสวรรค์” อากาศเริ่มสั่นไหว และตัดผ่านอากาศ
 
 
 “ฮ่าฮ่าฮ่า!”
 
 
 หลินเฟิงตะโกน, จากนั้นเขาก็ตั้งท่า และปล่อยหมัดราวออกไป หมัดของเขาราวกับดาวตกพุ่งตรงไปที่เสาหิน ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น เสาหินระเบิดเป็นฝุ่น และกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
 
 
 นอกจากนี้ แรงอัดอากาศยังคงพุ่งไปอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งทำให้เสาหิน แรงอัดอากาศนี้ทำให้เกิดเสียงดังหลายครั้ง และทำให้อากาศพุ่งไปข้างหน้าเหมือนคลื่น แรงอัดอากาศยังคงสร้างรอยร้าวให้กับเสาหินต้นอื่นอีก 2 เมตร
 
 
 “หมัดนี้ควรมีความแข็งแกร่งมากกว่า 6000 จิน” หลินเฟิงพอใจกับผลของมัน ตอนนี้พลังของเขาได้รับการฟื้นฟูไปจนถึงจุดสุดยอด และบรรลุขอบเขตพลังปราณขั้นที่ 5 แล้ว ทักษะต่อสู้ “เก้าคลื่นทลายสวรรค์” ถ้าเขาฝึกฝนมากขึ้นมันก็จะแข็งแกร่งขึ้น ก่อนหน้านี้เขาสามารถใช้ได้เพียง 5 คลื่นสวรรค์ เท่านั้น แต่ตอนนี้เขาได้บรรลุขั้นที่ 6 ของเก้าคลื่นทลายสวรรค์แล้ว เป็นผลมาจากความก้าวหนน้าของเขาที่สามารถใช้พลังปราณของเขา และปล่อยความแข็งแกร่ง 6000 จินออกมา
 
 
 “ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณแห่งความมืดไม่เพียงแต่เพิ่มการมองเห็น และการได้ยิน แต่มันยังเพิ่มความเร็ว และความเข้าใจ ให้ข้า” หลินเฟิงยิ้ม เขาที่ถูกเรียกว่า ไอขยะ ไม่เว้นแม้แต่จิตวิญญาณงูของเขา แต่มันยังรวมถึงความสามารถในการทำความเข้าใจที่ต่ำต้อยของเขา คนที่มีพรสวรรค์ที่อายุช่วงเดียวกับเขา พวกเขาได้บรรลุพลังปราณขั้นที่ 6 หรือสูงกว่านั้นแล้ว แต่เขายังอยู่ขั้นที่ 5 เท่านั้น นอกจากนี้ความสามารถในการทำความเข้าใจของเขายังต่ำเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แม้ว่าเขาจะฝึกฝนทักษะต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่เขาก็คงติดอยู่ในขั้นที่ 5 ของ เก้าคลื่นทลายสวรรค์ จึงทำให้ถูกเยาะเย้ย
 
 
 แต่ตอนนี้ ปัญหาในการบ่มเพาะพลังที่หลินเฟิงเผชิญอยู่ดูเหมือนมันจะหายไปแล้วเพราะจิตวิญญาณแห่งความมืด มันสามารถเพิ่มระดับให้กับผู้ฝึกฝนได้ ดูเหมือนจิตวิญญาณแห่งความมืดจะไม่ใช้จิตวิญญาณธรรมดาๆซะแล้ว….
 
 
 
 
 
**********************************************************************************************
 ติดตามข่าวสารอัพเดทต่างๆได้ที่ >>>>>