“ไม่ว่าจะไปที่ใดห้ามเจ้าพูดว่าเป็นภรรยาของข้าเป็นอันขาด เพราะเจ้าไม่มีค่าพอสำหรับข้า!”
 
หลังจาก’ชูเฟิง’พูดเขาก็เดินจากไป เขาเดินออกจากฝูงชนที่กำลังตกตะลึงอย่างหนัก หาก’ชูเฟิง’พูดกับคนอื่นนั้นคงไม่มีใครแปลกใจเพราะเขานั้นเป็นอัจฉริยะ แต่คนที่’ชูเฟิง’ได้พูดด้วยคือ ‘หยาน รู่ว’ ที่เป็นศิษย์อันดับหนึ่งของ สำนักสตรีหยก
 
ในด้านของการบ่มเพาะอาจกล่าวได้ว่า ‘หยาน รู่ว’ นั้นยอดเยี่ยมที่สุดในทั้งหมดจากหญิงสาวรุ่นเยาว์ของ อาณาจักรมังกรฟ้า ในด้านความงาม ถ้า ‘หยาน รู่ว’ บอกว่าเธอเป็นสาวงามอันดับ2ของ อาณาจักรมังกรฟ้า คงไม่มีใครเชื่อและบอกกลับไปว่านางนี่แหละเป็นสาวงามอันดับ 1 ของอาณาจักร
 
เพราะผู้คนนั้นเห็นตรงกันว่า ‘หยาน รู่ว’ คือสาวงามอันดับ1ของอาณาจักรมังกรฟ้า นอกจากนี้ ผู้คนนั้นรู้ว่า ‘หยาน รู่ว’ ไม่ได้เป็นคนที่ทำตัวโดดเด่นหรือเป็นคนเย่อหยิ่ง เหมือนคนอื่นๆ มันอาจจะบอกได้ว่า นางงดงามที่สุดและดีที่สุดใน สำนักสตรีหยก แม้ว่าคนอื่นๆจะไม่เชื่อแต่มันเป็นความจริง ‘หยาน รู่ว’ นั้นไม่เคยมีข่าวลือว่าเคยคบหากับชายใด
 
นางนั้นเป็นคนรักสะอาดและดูแลร่างกายของตนทำให้นางนั้นบริสุทธิ์ทั้งกายและใจราวกับหยกหรือน้ำแข็ง เพราะอย่างนั้นนางจึงเป็นที่หมายปองของอิจฉริยะของสำนักต่างๆและต้องการแต่งงานกับนาง แม้แต่อันดับ1 จากรุ่นเยาว์ของ อาณาจักรมังกรฟ้า อย่าง ‘ตูกู โอวหยุน’ นั้นในอดีตเขาก็ชื่นชอบ ‘หยาน รู่ว’ ไม่น้อย
 
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแต่ทุกคนรู้ดีว่า ถ้า’หยาน รู่ว’ ต้องการเป็นภรรยาให้กับ ‘ตูกู โอวหยุน’นั้น เขาก็จะยินดีรับในทันที แต่อย่างไรก็ตามหญิงสาวที่เกือบจะสมบูรณ์แบบคนนี้กับถูกบอกว่า ไม่มีค่าพอโดน’ชูเฟิง’ เป็นธรรมดาที่ผู้คนจะตกใจ หาก ‘หยาน รู่ว’ ไม่เข้าตา’ชูเฟิง’
 
แล้วหญิงสาวคนไหนจะสามารถกุมหัวใจของ’ชูเฟิง’ได้ล่ะ แต่ในขณะที่คนอื่นๆกำลังประหลาดใจ ‘หยาน รู่ว’ นั้นไม่ได้โกรธอะไร’ชูเฟิง’เลย ภายในดวงตาที่งดงามของเธอที่เหมือนกับมีทะเลดาวอยู่มีความรู้สึกผิดปรากฏขึ้น เธอมองหลัง’ชูเฟิง’ที่กำลังเดินห่างไปและเธอพูดเบาๆว่า
 

 
“ขอโทษจริงๆ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะสร้างปัญหาให้กับเจ้า แต่… “
 
 
“ผู้นำสำนักกระบี่เอ๋ย ข้าสงสัยว่า หนาน กงเสี่ยว ของเจ้าจะประมาทชูเฟิงของข้ามาเกินไป ผลที่เกิดขึ้นนี้คงทำให้ท่านประหลาดใจใช่หรือไม่ “
 
มีเงาของคนสามคนอยู่แถวๆนั้น 3คนนั้นคือ ผู้นำจากสำนัก มังกรฟ้า กระบี่ และสตรีหยก เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นระหว่าง’ชูเฟิง’กับ ‘หนาน กงเสี่ยว’ มันดันพลิกกลับ ก่อนที่พวกเขาจะสู้กัน ผู้นำสำนัก สตรีหยก และ ‘หลี่จางฉิง’จะขึ้นไปหยุดพวกเขาแต่กลับถูกหยุดโดยผู้นำสำนักกระบี่ โดยอ้างว่าอยากเห็นการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะรุ่นเยาว์
 
ผู้นำทั้ง 2 ต่างรู้ว่าผู้นำสำนักกระบี่ต้องการให้ ‘หนาน กงเสี่ยว’ จัดการกับ’ชูเฟิง’ เพราะมันไม่เพียงแสดงถึงความแข็งแกร่งของ ‘หนาน กงเสี่ยว’ แต่แสดงถึงความแข็งแกร่งของสำนักกระบี่ด้วย แต่ผลที่ตามมานั้นผู้นำสำนักกระบี่ต้องตกตะลึงอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงแต่เขาแม้แต่ผู้นำสำนักสตรีหยกก็ตกตะลึงเช่นกัน
 

 
“ผู้นำหลี่ ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีอัจฉริยะอย่างเขาปรากฏตัวขึ้นในสำนักมังกรฟ้าเลยจริงๆ ในการชุมนุมร้อยสำนักครั้งนี้สำนักมังกรฟ้าของท่านคงแสดงความสามารถได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว “
 
หลังจากตกตะลึง ผู้นำสตรีหยก ยิ้มและแสดงความยินดี
 

 
“ฮึ่ม ชุมนุมร้อยสำนักไม่ได้เป็นเพียงการชุมนุมเกี่ยวกับศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดแต่นั่นรวมไปถึงความสามารถผู้นำอย่างท่านด้วย นี่คงเป็นครั้งแรกที่ท่านได้เข้าร่วมสินะ ข้าแน่ใจว่าท่านไม่ทราบเกี่บกับผู้นำสำนักต่างๆ อย่างนั้นข้าขอแนะนำท่านให้ท่านระวังตัวไว้ดีที่สุด “
 
หลังจากพูดเสร็จผู้นำสำนักกระบี่ก็ถอนหายใจ และเดินจากไป หลังจากนั้น คนที่เคยหน้าด้านขอร่วมทางไปด้วยก็พาสำนักของเขาเดินน้ำหน้าไป ‘หลี่ จางฉิง’ ไม่ได้เห็นการกระทำของเขาอยู่ในสายตา แม้ว่าผู้นำสำนักกระบี่พูดว่าเขาอยู่ในระดับ 8 แก่นสวรรค์ แต่’หลี่ จางฉิง’ ก็ไม่ได้เกรงกลัว
 
และพร้อมที่จะสู้กับสำนักอิ่นๆ คนอื่นๆนั้นรู้สึกประหลาดใจเนื่องจาก’ชูเฟิง’เลื่อนจากในระดับ 7 กำเนิดวิญญาณมาระดับ 9 ในไม่กี่วัน พวกเขารู้ว่า ตอน’ชูเฟิง’อยู่ในระดับ7 นั้นเขาก็โดดเด่นอยุ่แล้ว แต่ตอนนี้เขาเลื่อนเป็นระดับ9 ทุกคนจึงเริ่มคิดเกี่ยวกับการชุมนุมร้อยสำนักว่า ‘ชูเฟิง’นั้นจะสามารถกู้คืนชื่อเสียง ของสำนักมังกรฟ้าคืนมาได้อย่างแน่นอน
 
หลังจากนั้นไม่มีวัน ในที่สุด’ชูเฟิง’และคนอื่นๆก็มาถึงสำนัก หลิง หยุน
 
สำนัก หลิง หยุน นั้นไม่ได้อยู่บนเทือกเขาแต่มันถูกสร้างอยู่ในพื้นที่กว้าง สำนักหลิง หยุน เหมือนเป็นเมืองขนาดใหญ่ และให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่เมืองหลวง วันนี้ประตูสำนักหลิง หยุน เปิดต้นรับแขกที่มาจากทุกสารทิศและสำนัก#1เกือบทั้งหมดจากอาณาจักรมังกรฟ้าเพื่อมาเข้าร่วมการชุมนุม ร้อยสำนัก
 
โรงเรียนอัตราแรกส่งออกไปต่าง ๆ ชนชั้นสูงที่แข็งแกร่งของพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาเป็นผู้สูงอายุหรือสาวกไม่มีการเพาะปลูกของพวกเขาเป็นคนเข้มแข็งมากเพราะร้อยชุมนุมของโรงเรียนเป็นที่ชุมนุมสำหรับการแสดงความแข็งแรงของตัวเองหนึ่ง มีไม่ได้เป็นโรงเรียนเดียวที่ไม่ต้องการที่จะไม่ให้ใบหน้าพอออก
 
ด้านนอกสำนัก หลิง หยุน มีอินทรีหัวขาวบินอยู่ทั้องฟ้าและมีธงหลากสีสันปักอยู่บนพื้น การชุมนุมปีนี้แตกต่างจากเดิม เพราะการชุมนุมครั้งนี้มีสำนักมังกรฟ้าที่มาเข้าร่วมด้วย
 

 
“พวกเขาเป็นใคร ข้าไม่เห็นจำได้ว่าเห็นพวกเขาเข้าร่วมในปีที่แล้วเลย “
 
 
“มันคือสำนักมังกรฟ้าใช่หรือไม่ พวกเขาถูกเลื่อนมาเป็น#1 ในปีนี้ และข้าจำได้ว่ามีสำนักมังกรฟ้าแค่สำนักเดียว ดังข้าจึงมั่นใจว่าเป็นพวกเขา “
 
 
“ทำไมไม่ส่งคนมามากกว่านี้ พวกเขาส่งมาแค่2คนเท่านั้นหรือ สำนักเช่นนี้สมควรถูกเชิญมาร่วมการชุมนุมแน่ “
 
 
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทำไมพวกเขาถึงมาพร้อมกับสำนักสตรีหยก นิสินะดอกฟ้ากับหมาวัด แล้วตาแก่นั่นคือ หลี่ จางฉิง ใช่หรือไม่ เขาใช้วิธีไหนกัน ถึงได้พูดคุยกับผู้นำสำนัก สตรีหยก โอ๊ย ข้าไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไปแล้ว … “
 
‘ชูเฟิง’และ’หลี่ จางฉิง’ ได้ขี่ม้ามาพร้อมกับ ผู้นำสำนักสตรีหยก พวกเขานั้นอยู่ด้านหน้าของชบวน ‘ชูเฟิง’และ’หลี่ จางฉิง’ นั้นได้ยกธงของสำนักมังกรฟ้าขึ้นสูง เพื่อให้สำนักอื่นๆ รู้ถึงการมีอยู่ของสำนักของพวกเขา แต่ ความพยายามนั้นก็สูญเปล่า เพราะไม่มีใครเห็นพวกเขาอยู่ใยสายตา
 
สำนักอื่นๆนั้นให้ความสนใจเพียงสำนัก สตรีหยก แต่ไม่มีสำนักใดๆ สนใจพวกเขาเลย อย่างไรก็ตาม ‘หลี่ จางฉิง’ และ’ชูเฟิง’ ก็ค่อนข้างสบายใจที่ไม่มีใครเห็นพวกเขาอยู่ในสายตา ท่ามกลางสายตาที่ดูถูกนับไม่ถ้วนพวกเขายังคุยกันอย่างสนุกสนาน
 
พวกเขาจึงตัดสินใจอย่างลับๆ ถ้าพวกเขาได้เจอกับ สำนักมังกรฟ้าพวกเขาจะสอนบทเรียนให้กับ’ชูเฟิง’และ’จางฉิง’ เสียงพูดเสียงคุยต่างๆดังไปทั่วทุกบริเวณ
 
เมื่อขบวนขนาดใหญ่ของร้อยสำนักเดินเข้าไปในสำนักหลิง หยุนก็มีกลุ่มคนปรากฏตัวขึ้น ในตอนนั้นทุกคนต่างพากันเงียบเนื่องจากกลุ่มคนที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นมีคนที่ได้ชื่อว่าผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรมังกรฟ้า
 
ผู้แปลโดยคุณ#
 
ที่มา: