ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘เมิ่งเอ๋อ’หัวเราะออกมาอย่างโง่งมและดูเหมือนจะมีน้ำลายเกือบจะไหลออกมาจากปากของเขา แล้วพูดออกมา
“นี่เป็นรังที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ข้าเคยขโมยมาและยังเป็นไข่ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นเลย”
“เฮ่ะๆ ใช่แล้ว ถึงแค่ขโมยไข่จากรังเปล่าๆก็เถอะ ข้ารู้สึกบรรยายไม่ถูกเลย”
‘ไป่หัว’หัวเราะออกมาด้วยท่าทางเหมือนลิงภูเขา
“สวยเหลือเกิน”
ดวงตากลมโตของฉีเฮ่าส่องประกายวาววับ เด็กน้อยจ้องไปที่ไข่นกทั้งสามใบที่เปล่งประกายเหมือนคริสตัล เขาไม่ได้ตื่นเต้นยินดีอันใด มีเพียงความอยากรู้อยากเห็นอยากมากมายและต้องการที่จะเข้าไปอุ้มไข่เหล่านั้นใกล้ๆเท่านั้นเอง
‘ฉีเมิ่ง’เดินเข้าไปใกล้ๆ แต่แล้วในขณะที่ยื่นมือไปสัมผัสกับไข่ ก็รีบดึงมือกลับไปทันทีพร้อมกับความรู้สึกชาวิ่งพล่านไปทั่วทั้งแขน ราวกับโดนช็อตด้วยกระแสไฟฟ้า
“เกิดอะไรขึ้น!!”
เด็กหลายคนร้องขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
บนเปลือกไข่ที่เหมือนว่าสร้างมาจากหยก ส่องประกายแสงออกมาเป็นจุดๆราวกับหมู่ดวงดาวที่ประดับบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ดูเหมือนว่าบนเปลือกไข่จะมีพลังลี้ลับไหลเวียนอยู่
“ทรงพลังจริงๆ อินทรีเกล็ดเขียวที่สืบสายเลือดมาจากสัตว์ร้ายในตำนาน แม้ว่าจะไม่ใช่สายเลือดบริสุทธิ์ พลังชีวิตของพวกมันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างที่ตำรากระดูกบันทึกไว้จริงๆด้วย”
‘เฮ่าน้อย’กล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส เด็กน้อยนั้นเรียนรู้ทุกอย่างจากในตำรากระดูกทุกวันและจดจำข้อมูลที่จำเป็นไปด้วยเช่นกัน
เหล่าเด็กๆนิ่งอึ้งด้วยความดีใจ สิ่งมีชีวิตที่ให้กำเนิดไข่พวกนี้ทั้งหายากและแข็งแกร่ง เมื่อไข่พวกนี้ฟักออกมาจะต้องสืบทอดความแข็งแกร่งทางสายเลือดมาอย่างแน่นอน ในอนาคตพวกมันจะสามารถปกป้องหมู่บ้านเหมือนกับจิตวิญญาณผู้พิทักษ์ได้อย่างแน่นอน
“ระวังอย่าไปแตะต้องพวกจุดที่ส่องแสงบนเปลือกไข่พวกนั้น เอาไข่มาใส่ในถุงหนังได้แล้ว พวกเราต้องรีบจากไปโดยเร็ว”
‘ฉีต้า’จงผู้สูงใหญ่ทั้งเข้มแข็งและหนักแน่น เขากระตุ้นให้ผู้อื่นเร่งรีบ เพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเอ้อระเหย
เป็นปกติที่พวกเขาก็ต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้ก่อนแล้ว แต่ละคนก็จะพกถุงหนังไว้คนละใบเสมอ พวกเขารีบนำเอาไข่ทั้งหมดใส่เข้าไปในถุงหนังอย่างระมัดระวัง ไข่ทั้งสามใบพวกเขาแบ่งกันรับผิดชอบเฉลี่ยสามคนต่อไข่หนึ่งใบ
“มันเยี่ยมไปเลย พวกเราทำสำเร็จ”
‘เมิ่งเอ๋อ’มีท่าทีดีใจอย่างมาก เขาหัวเราะจนน้ำมูกไหล
‘ไป่หัว’ก็หัวเราะออกมาอย่างโง่งมแล้วเอ่ยขึ้น
“ในอนาคตหมู่บ้านของจะมีนกอสูรเป็นผู้พิทักษ์ ท่านผู้เฒ่า ลุงหลิงหู่กับคนอื่นจะต้องมองว่าพวกเป็นเหมือนแสงสว่างเป็นแน่”
“เหวอ!!”
‘ฉีต้า’จงโซเซเกือบจะล้ม แต่ได้เฮ่าน้อยมาช่วยประคองไว้
รังของพวกนกอสูรถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าสีทองดูนุ่มลื่น อย่างไรก็ตามบริเวณตรงกลางมีบ้างอย่างซ่อนอยู่มีประกายแสงสะท้อนออกมาเพราะความมันเงาของสิ่งนั้น ‘ฉีต้า’จงไม่ทันระวังก้าวไปเหยียบ ของสิ่งนั้นแทงทะลุรองเท้าทำให้เลือดไหลออกมาจากเท้า แต่โชคดีนักที่ไม่เป็นแผลลึกมาก
“เกล็ดแหลมคมนัก”
‘เฮ่าน้อย’หยิบเกล็ดสีเขียวขึ้นมาดูซึ่งเกล็ดมีขนาดเท่าเด็กทารกส่องประกายเย็นเยียบ
“นี่คงเป็นเกล็ดของนกอสูรที่โตเต็มวัย ไม่แปลกที่จะมีขนาดเท่านี้ คำนวณคร่าวๆ น่าจะหนักเท่ากับดาบเหล็กกล้าที่หนัก100จินเลยทีเดียว”
‘ไป่หัว’กล่าวออกมา
พวกเด็กไม่กล้าชักช้า สวมวิญญาณเป็นตุ๊กแกไต่ลงหน้าผาอย่างว่องไว พวกเขาลงมาถึงพื้นด้านล่างอย่างรวดเร็ว พลางปาดเหงื่อและสูดหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“เป็นอย่างไรบ้าง ได้ของต้องการมาแล้วใช่ไหม”
พวกเด็กๆที่คอยเฝ้าข้างล่างถามออกมาอย่างตื่นเต้น
“พวกเราทำสำเร็จ เราแอบเอาไข่นกอสูรออกมาได้แล้ว ฮ่าฮ่า”
‘เมิ่งเอ๋อ’หัวเราะเสียงดัง
พวกเด็กเปิดถุงหนังออกแล้วมองตรงเข้าไปข้างใน พวกเขาทั้งหมดอ้าปากค้างด้วยความดีใจ เมื่อพวกเขาเห็นไข่ขนาดใหญ่ที่กำลังส่องประกายเหมือนอัญมณีเป็นจุดๆเพราะพลังลี้ลับ
“ยอดเยี่ยมไปเลย!! พวกเราทำได้”
“ไปจากที่นี่กันเถอะ!!”
พวกเขาทั้งดีใจและตื่นเต้น จากนั้นพวกเขาก็รีบเดินทางกลับทันที กลับจากป่าศิลาและบ้านของอินทรีเกล็ดเขียว
“เวลานี้เท่านั้น ที่เราจะเดินทางอย่างราบรื่น ไปเร็วเข้า!!”
บริเวณป่าเขาแห่งนี้มีพืชพันธุ์เติบโตอยู่อย่างหนาแน่น ดอกไม้มรณะต่างผงกขึ้นมาบนชั้นผิวดิน บนต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าปกคลุมจนแสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามาไม่ได้ เถาวัลย์ดุจอสรพิษเลื้อยไปไปทั่วบรรดาต้นไม้ จากพื้นที่ไกลออกไปมีสัตว์ร้ายคำรามครั้งแล้วครั้งเล่าสั่นสะเทือนไปทั้งหุบเขา
ระยะทางจากที่นี่ไปถึงหมู่บ้านนั้นหินผาไม่ไกลมากนัก พวกเขาเองก็อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและไม่ได้เข้าใกล้พื้นที่อันตราภายในหุบเขาที่เหล่าสัตว์ร้ายอยู่อาศัย
“พวกเราเกือบจะถึงแล้ว ระเบิดพลังในครั้งเดียว แล้ววิ่งกลับหมู่บ้านในหนึ่งช่วงหายใจไปเลย!!”
แม้ว่ากลุ่มของเด็กๆจะตื่นเต้นมากแค่ไหนก็ตาม พวกเขายังคงรู้สึกกังวลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในตอนนี้พวกหัวใจพองโตหลังจากที่หยิบฉวยเอาไข่ของอินทรีเกล็ดเขียวมาได้ ราวกับว่าฝันไปเลยทีเดียว
ในทันใดนั้นเอง มีเสียงคำรามดั่งก้องไปทั่วท้องฟ้า ทะลวงหมู่เมฆออกมา ช่างเป็นเสียงคำรามที่ทรงพลังและแหลมคมยิ่งนัก เป็นเสียงที่มีอำนาจทะลุทะลวงอย่างมาก เป็นเหตุให้พวกเด็กๆแสบแก้วหูไปหมด
“แย่แล้ว!! พวกอินทรีเกล็ดเขียวต้องกลับไปที่รังมาแล้วเป็นแน่ จึงได้ส่งเสียงโกรธเกรี้ยวเช่นนี้”
หนึ่งในกลุ่มร้องออกมาเสียงดัง
“หนีไป!! เร็วเข้าเถอะ”
ตาของ’ฉีเฮ่า’เปล่งประกายมองทะลุไปยังรอยแยกผ่านต้นไม้ไปบนทองฟ้า เห็นเงาสีดำกำลังบินมาทางนี้
สูงขึ้นไปบนฟากฟ้า ก่อเกิดพายุอย่างรุนแรง เงาของนกยักษ์สีดำทาบทับบนป่าเขากำลังถลาลงมาด้วยความเร็วมหาศาล ลำตัวอาบไปด้วยแสงสีฟ้าดูเย็นเยียบจับใจ
ในตอนนี้ พวกเด็กทั้งหมดถูกพบเห็นแล้ว ร่างของนกขนาดมหึมากำลังบินตรงมาที่ป่าเขาแห่งนี้ ด้วยความเร็วมหาศาล ราวกับดาวตกจากฟากฟ้าพุ่งมาด้วยความเร็วน่าสะพรึงกลัว
“บัดซบ!! มันจะใหญ่ไปไหนวะ วิ่งเร็วๆ”
พวกเด็กๆร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก ความกลัวเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วขั้วหัวใจ ด้วยความกว้างถึงแปดเมตร หากยืดปีกออกจนสุดจะครอบคลุมไปถึง15เมตร ทั่วทั้งร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเขียวมรกตสะท้อนแสงราวกับโลหะชั้นดี แผ่รังสีอันร้ายกาจคุกคามทุกสรรพสิ่ง
กลุ่มเด็กๆกระจายกันหนีไปทั่วทุกทาง พยายามหนีอย่างเอาเป็นเอาตายโดยอาศัยความคุ้นเคยเส้นทางในป่าเขา พวกเขาต่างวิ่งไปที่พื้นที่ลับเฉพาะเพื่อหลบจากรังสีอันเยียบเย็นที่ถูกแผ่ออกมา
*ฟ้าววว*
บรรดาต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สูงตระหง่านถูกกระแทกเป็นชิ้นๆด้วยปีกเหล็กกล้า ทำให้กิ่งก้านและใบปลิวว่อนไปทั่วทิศทาง เศษไม้ที่ปลิวตกลงมาที่พื้นกลายเป็นอุปสรรคในการหลบหนี
ช่างทำให้ผู้คนหวาดกลัวนัก พวกเด็กๆกรีดร้องเสียงดัง ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดและวิ่งหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เจ้าสัตว์ประหลาดตัวโตจะน่ากลัวเกินไปแล้ว แล้วยังมีการจู่โจมด้วยปีกที่สามารถทำลายได้ทุกอย่างแถมยังมีรังสีคุกคามตู้แช่แข็งนั่นอีก แค่บินเพียงรอบเดียวก็สามารถทำลายพื้นที่ส่วนใหญ่ของป่าเขาได้แล้ว
ทำให้ชิ้นส่วนต้นไม้และใบไม้ปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว ด้วยลำตัวที่แข็งแกร่งทนทานพร้อมด้วยสองปีกที่คมเหมือนดั่งมีด มีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำลายยอดเขาได้อย่างสบาย
นี่คืออินทรีเกล็ดเขียวอย่างแน่นอน ทั้งร่างกายที่ปกคลุมหนาแน่นไปด้วยเกล็ดที่แผ่พลังไอเย็นสีครามเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาลอีกทั้งแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าบินกระแทกกวาดข้ามไปอีกฟากหนึ่งของป่า ทำให้ป่ากลายเป็นเพียงลานที่ว่างเปล่า
เด็กทั้งหมดต่างรู้สึกขนหัวลุกกัดกินไปถึงกะโหลก อินทรีเกล็ดเขียวแข็งแกร่งเกินไปเพียงแค่ภูเขาไม่พอจะรับการโจมตีได้ พวกเขาทั้งหมดจะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอน
หลังจากอินทรีเกล็ดเขียวทำลายพื้นที่ป่าไปส่วนหนึ่ง ก็บินกลับขึ้นฟ้าโฉบไปมากลางอากาศ ใช้สายตาแหลมคมเพ่งเล็งไปยังพื้นที่ด้านล่าง เตรียมตัวที่จู่โจมไปที่กลุ่มเด็กที่ตอนนี้กำลังหนีอย่างเอาเป็นเอาตายอีกครั้งหนึ่ง
“หมู่บ้านอยู่ไม่ไกลแล้ว รีบไปให้เร็วที่สุด!!”
พวกเด็กๆตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ที่มา: